ตอนที่9 เกือบไปแล้ว
“ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนออกไปจากห้องนี้โดยไม่เสียตัว”
“แต่ผู้หญิงคนเมื่อกี้ก็รอดนี่คะ”
“รอดที่ไหน เอากับน้ำเป็นปี๊ปแล้ว”
“พูดจาน่าเกลียด ถอยออกสิคะมาเบียดทำไมไม่ใช่สเปกหนิ”
“หึ” คำพูดของเธอทำเอาเขาร้องในลำคออย่างนึกขัน นี่สินะนิสัยผู้หญิง เขาลืมมันไปแล้วด้วยซ้ำ
“ที่ผ่านเข้ามาไม่เคยมีใครตรงสเปกสักคน แต่ก็เข้ากันได้ดี”
“แต่ไม่ใช่กับลี่ค่ะ” จู่ ๆ คริสที่ยืนเบียดเธออยู่ก็หันไปมองที่หน้าจอคอมเพราะนึกได้ว่าเพื่อรักกำลังจะมาถึง และความฉิบหายกำลังจะมาเยือนเขาในอีกไม่กี่วินาที
แอดดด
“อื้ออออ” ลลิลทุบอกคนตัวสูงอย่างบ้าคลั่งเมื่อเขาดึงเธอไปป้อนจูบก่อนที่เสียงของคน ๆ หนึ่งจะทำให้เธอตัวแข็งค้างเข้าไปใหญ่
“ไอ้คริส ทำไมมาเอากันในห้องนี้วะ” ลลิลตัวสั่นเทาเป็นลูกนก เธอซบใบหน้ากับอกของเขาเพื่อซ่อนตัวจากพี่ชาย มือเย็นเฉียบแต่ชื้นเหงื่อขยุ้มเสื้อยืดแบรนด์ดังของคนตรงหน้าด้วยความตื่นกลัว
“มีเหี้ยอะไรเข้ามาไม่เคาะประตูก่อน”
“ก็ปกติมึงไม่ใช่ห้องนี้...”
“คืนนี้ไม่ปกติไง” คริสตอบเพื่อนแต่ตาหวานฉ่ำก้มลงมองลลิลที่ก้มหน้างุด
“อื้อออ” คริสก้มลงปล้นจูบหญิงสาวในอ้อมอกอีกครั้ง คราวนี้ลลิลแทบไม่กระดิกตัวเพราะกลัวพี่ชายที่อยู่ด้านหลังเขาจะเห็นหน้าเธอเข้า
“เร็ว ๆ ล่ะกูไปนั่งรอห้องซ้ายนะ”
ปึง
เสียงปิดประตูดังขึ้นแล้วแต่คริสยังไม่ยอมผละออกจากกลีบปากอ่อนนุ่มของลลิล ชายหนุ่มใช้นิ้วมือปัดป่ายที่ใบหูของเธอสร้างความสยิว ก่อนที่หัวใจของลลิลจะชาวาบเมื่อเขาสอดฝ่ามือเข้ามาที่เอวคอด ซึ่งตรงนี้มันไม่ได้มีผ้าปิดเนื้อหนังของเธออยู่ เขาออกแรงบีบขยำจนเธอขนลุกเกรียว ใบหน้าก็ร้อนผ่าวเหมือนจะเป็นไข้
“พี่คริส...”
“อืม” ชายหนุ่มครางรับหญิงสาวในลำคอขณะที่กำลังถูไถริมฝีปากกับลาดไหล่บาง ๆ ของเธอ
“อย่าทำนะคะ”
“ตัวอ่อนขนาดนี้ ถ้าฉันทำเธอไม่รอดหรอก”
“ก็พี่คริส...”
“ฉันทำไม” คนตัวสูงกระซิบใกล้แก้มเนียนส่นเธอก็พยายามเอาหน้าหนี
“ร่างกายมันก็ไปตามธรรมชาติค่ะ แต่ลี่ไม่ได้อยาก...”
“เธออยาก”
พรึ่บ ลลิลดันอกเขาให้ผละออกห่าง ความอายที่เสียจูบแรกทำให้เธอไม่ยอมมองหน้าเขา
“มองน้องชายฉันทำไม”
“เปล่านะคะ!” คำพูดของเขาทำให้หญิงสาวเผลอเงยหน้าขึ้น และมันก็เป็นโอกาสให้เขาล็อกใบหน้าเธอให้รับจูบป่าเถื่อนของเขาอีก
“อื้อออ” เขาเซาะเล็มเรียวปากของเธออย่างอ้อยอิ่ง อดยอมรับไม่ได้เลยว่าเขายังอยากจะจูบเธออีกนาน ๆ ‘แค่อยากแกล้งเด็กหรอกน่า’
“ถึงจะเป็นน้องไอ้นนท์...เธอก็ไม่รอด”
“...”
“อยู่นี้แหละห้ามออกจนกว่าฉันจะกลับเข้ามา” คริสรีบผละออกจากเรือนร่างแสนเย้ายวน หากไม่รีบหนีเห็นทีจะจับน้องสาวของเพื่อนปู้ยี้ปู้ยำแน่
ปึง
“เกือบไปแล้วไอ้ลี่” ลลิลยกมือขึ้นลูบหน้าตาตัวเองเพื่อเรียกสติ สัมผัสเมื่อครู่กับกลิ่นตัวหอม ๆ ของเขาเหมือนยังฝังอยู่บนเนื้อตัวและมันทำให้เธอเผลอคิดอะไรบางอย่างแล้วเกิดหน้าแดงขึ้นมา
.....
“มาทำเหี้ยอะไรกัน” คริสทิ้งตัวลงนั่งอย่างหงุดหงิด คืนนี้เขามีอารมณ์ที่ไม่ได้ปลดปล่อยถึงสองรอบ อยากอาละวาดกับอะไรสักอย่างให้รู้สึกดีขึ้น
“เอ้า ที่นี่ก็ของกูกับไอ้นนท์ด้วยมั้ยล่ะ”
“ขัดจังหวะ”
“เด็ดหรือไงวะ” คริสมองหน้าอิทธิกรอย่างอย่างมีคำถาม ‘ทำไมมันรู้?’
“ไอ้นนท์บอกว่าเจอมึงเอากับเด็กอยู่ในห้องทำงาน” คริสพูดไม่ออกเมื่อทำให้นนท์นภัทรต้องมาพูดถึงน้องสาวตัวเองในทางแบบนั้น ทั้งที่ปกติมันห้ามใครแตะลลิลแม้แต่นิดเดียว
“สรุปมีเรื่องเหี้ยอะไรถึงต้องเข้าไปหากู”
“หงุดหงิดอะไรแค่จะชวนมานั่งแดกเหล้า” เพื่อนทั้งสองพากันมองคริสอย่างจับผิด นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันโดนขัดจังหวะ แต่ไม่เคยเห็นมันอารมณ์เสียขนาดนี้
.....
อีกคนหนึ่งที่ถูกสั่งห้ามออกจากห้องจนกว่าเขาจะกลับมา เริ่มมองหาขวดน้ำในห้องนี้เผื่อจะมีสักขวดแต่ก็ไม่เลย ‘มีแต่เหล้าที่ไม่เย็นวางเหลือไว้ครึ่งขวด’
“หรือจะเสี่ยงออกไปดี”
“แต่ถ้าโดนจับได้แกจบเลยนะลี่” ลลิลพึมพำกับความกังวลของตัวเอง ก่อนจะเปิดขวดเหล้าที่วางอยู่ข้าง ๆ กรอกลงคอ รสชาติของมันที่ขมแต่นุ่มนวลไม่ได้ทำให้อาการกระหายน้ำดีขึ้นเลย
“หิวววน้ามมม เมื่อไหร่พี่จะกลับมาาาา”
04.00 น.
บ่อยครั้งที่คริสออกปากไล่เพื่อนให้แยกวงแต่ก็ไม่เป็นผล จนในที่สุดเขาเลยเลือกเทเหล้าเพียว ๆ ให้เพื่อนเวรทั้งสองกินโดยที่เขาแทบไม่แตะมันเลย
“ไอ้นนท์ไปนอนที่ห้องมั้ย”
“...” นนท์นภัทรยกมือขึ้นโบกยอมแพ้ทั้งที่ฟุบหน้าบนแขนข้างที่ท้าวกับพนักพิงอยู่
“ไอ้อิทธิ์”
“...” คริสลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเมื่อเพื่อนทั้งสองนอนเมาอย่างไม่เคยเป็น และเขาก็ทิ้งพวกมันไว้อย่างนั้นในห้องที่พวกเขามีไว้สำหรับนั่งดื่มหรือบางทีก็เรียกเด็กมานั่งล้วง
.....
“ลิลลี่” เขากลับมาที่ห้องทำงานก็เห็นลลิลนั่งฟุบหน้ากับโต๊ะทำงานพร้อมกับขวดเหล้าเปล่า ๆ วางอยู่ข้างกัน
“กินเข้าไปได้ไงตั้งครึ่งขวดวะ”
“หืมมม”
“เมามั้ย”
“มาวววค่าาาา” ลลิลเงยหน้าขึ้นทั้งที่ตายังปิดอยู่เธอเลยไม่ได้เห็นว่าคนเจ้าเล่ห์กำลังยกยิ้มอย่างชอบใจ
“เอากุญแจรถของเธอมา”
“เอาไปทำไมคะ”
“จะไปส่งขึ้นสวรรค์”
ไม่รอให้คนสติเหลือน้อยให้คำตอบเขาค้นกระเป๋าของเธอเพื่อหากุญแจรถที่ว่า เมื่อได้มันแล้วก็ยัดมันใส่ลงในกระเป๋ากางเกงแล้วเอากระเป๋าทรงสี่เหลี่ยมแบรนดังของเธอมาสะพายไว้เสียเอง ก่อนจะเอาร่างของเธอมาอุ้มในท่าเจ้าสาว ‘ตัวโคตรเบา’
“อื้อออ พาลี่ไปไหนคะ”
“กลับห้องเธอไง อยู่ห้องที่เท่าไหร่”
“ห้องลี่...ชั้น19 ห้องท้ายสุดเลยค่ะ” คนเมาบอกที่อยู่ของตัวเองเสียหมดแต่จะถูกหรือไม่นั้นคงต้องไปลุ้นเอา
“เฮียคริส ทำไมไม่ใช่ห้องที่นี่ล่ะครับ?” การ์ดคนหนึ่งเจอเจ้านายกำลังพาสาวออกนอกร้านจึงถามด้วยความหวังดี
“เจอมึงก็ดีแล้ว เข้าไปลบไฟล์กล้องวงจรปิดของเมื่อคืนให้กูด้วย”
“ห๊ะ!” ชายหนุ่มยืนเกาหัวอย่างไม่เข้าใจหรือเจ้านายเขาไม่ได้นอนหลายคืนเลยสั่งงานผิด
“ไม่ต้องสงสัย มึงทำตามที่กูบอกแล้วเรื่องนี้ห้ามใครรู้โดยเฉพาะไอ้สองตัวนั้น”
“เฮียคริสเมามั้ยเนี่ย” คริสเริ่มจิ๊ปากอย่างหงุดหงิดเมื่อเขาต้องอุ้มลลิลและยังต้องสั่งงานลูกน้องที่เข้าใจอะไรยากอีก
“เข้าไปลบไฟล์ในห้องกูให้หมดห้ามให้เห็นผู้หญิงคนนี้ ถ้ามึงทำพลาดกูจะบอกเมียมึงว่ามึงติดเด็กในร้าน”