"จมน้ำจริงอ๋อวะ!?" เหมือนเขาจะเพิ่งรู้ตัวเลยดำน้ำลงมาช่วย พอเห็นหญิงสาวไม่ตอบสนองก็รีบพาเธอขึ้นไปบนฝั่ง คนตัวสูงเขย่าร่างเล็กเพื่อปลุกให้ตื่น จากนั้นก็ปั้มหัวใจด้วยความร้อนรนแต่เธอก็ยังนอนนิ่งเป็นผัก
"มุนินทร์ ฟื้นดิ โธ่เว้ย!"
ฝ่ามือหนาเขย่าคนตัวเล็กให้ได้สติ
แต่เมื่อร่างนั้นยังนอนนิ่งเขาเลยใช้วิธีสุดท้าย นั่นคือการผายปอด เขาไม่มีเวลาทำใจเลยบีบแก้มนุ่มแล้วก้มลงไปผายปอดให้เธอ ริมฝีปากประกบกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนน้ำลายติดริมฝีปากกันละกัน แต่เขาก็ยังผายปอดให้จนกว่าผู้หญิงตรงหน้าจะฟื้น
แค่ก ๆ ๆ !
มุนินทร์สำลักน้ำออกมาจนตัวงอ ร่างเล็กสั่นเป็นลูกนกด้วยความหวาดกลัว
"เกิดอะไรขึ้น"
แทนคุณเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า แต่เธอไม่ได้สนใจที่จะตอบคำถาม ร่างเล็กพยุงตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปจากตรงนี้ทั้งที่เนื้อตัวยังเปียกซก เธอรู้ว่าพวกเขาเกลียดเธอมาก แต่ไม่คิดว่าจะเกลียดถึงขั้นฆ่ากันได้
มุนินทร์ขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าบนห้อง
แล้วยัดเอกสารเดินทางที่จำเป็นต้องใช้ลงกระเป๋าเป้เพื่อไปจากที่นี่ รู้ว่าแม่ต้องโกรธ แต่จะให้ทนอยู่ต่อไปเพื่ออะไร ในเมื่อพวกเขาเกลียดชังเธอถึงขั้นนี้ ไม่ต้องคิดเยอะ เธอไม่ใช่เด็ก แค่ไม่ทำตามคำสั่งแล้วหนีไปให้พ้นซะก็จบเรื่อง
พรึบ!
คนตัวเล็กกระโดดออกจากกำแพงคฤหาสน์ ถึงแม้ว่าจะมียามกล้ามโตเดินตรวจความเรียบร้อยอยู่ แต่ก็สามารถหลบหนีออกมาได้ เห็นอย่างงี้เธอเก่งเรื่องเอาตัวรอดกว่าที่คิด ไม่อย่างนั้นคงอยู่ต่างประเทศคนเดียวไม่ได้หรอก
เมื่อนั่งรถแท็กซี่มาถึงสนามบิน
หญิงสาวก็รีบเข้าไปจองไฟล์บินไปอเมริกา แต่พาสปอร์ตของเธอดันถูกตีกลับเพราะไม่สามารถใช้งานได้ เธอตกใจมาก และขอให้พนักงานช่วยตรวจซ้ำอีกครั้ง แต่ไม่ว่าจะตรวจยังไงก็ไม่สามารถจองไฟล์ได้อยู่ดี ทุกอย่างถูกระงับไว้หมดแล้ว
[ตืดด!] [แม่]
หญิงสาวสองจิตสองใจที่จะกดรับ แต่พอเห็นชายชุดดำสามถึงสี่คนเดินตรงเข้ามา ก็รู้ทันทีว่าเธอถูกจับได้แล้ว
[คิดว่าฉันจะโง่ปล่อยให้แกหนีไปง่าย ๆ เหรอห๊ะ]
"แต่นินอยู่ที่นั้นต่อไม่ได้แล้ว พวกเขาเกลียดนิน พวกเขาจะฆ่านิน"
[ถ้าพวกมันจะฆ่าจริง ๆ แกคงไม่ได้มายืนคุยกับฉันอยู่ตอนนี้หรอก อีกอย่าง แทนที่มันจะฆ่าแกทำไมไม่มาฆ่าฉัน ฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้แม่ของพวกมันต้องตายนะ]
มุนินทร์ชะงักกลางอากาศ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มันน่ากลัวมาก ถ้าเขาไม่ลงมาช่วย ปานนี้เธอลาโลกไปแล้ว
[มันช่วยไม่ให้แกจมน้ำตาย เพราะฉะนั้นอย่าคิดไปเองว่ามันจะฆ่าแก ฉันอยู่ที่นั้นมาห้าปี ไม่เห็นว่าพวกมันจะทำอะไรได้นอกจะเห่าไปวัน ๆ แกไม่ต้องกลัว เดินหน้าแผนของเราต่อไปซะ ฉันเชื่อว่าพวกมันต้องเห็นแกเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง มากกว่าเป็นแค่ลูกเมียน้อย หรือว่าผู้หญิงชั้นต่ำ]
"เดี๋ยวนะ แม่รู้สิ่งที่เกิดขึ้นได้ยังไง?"
[คฤหาสน์มีกล้องวงจรปิดติดอยู่ทั่ว แกไม่เห็นหรือว่าแกตาบอดสีกันแน่ ถามจริง ที่ฉันส่งไปเรียนต่างประเทศ ได้อะไรกลับมาบ้างนอกจากความโง่กับความซื่อบื้อ]
"เออ..." เถียงยังไงดี
[ไม่ต้องมาแก้ตัว แกรีบกลับไปซะ แล้วอย่าคิดที่จะหนีอีก ไม่อย่างนั้นฉันจะยัดข้อหาใส่พาสปอร์ตแล้วทำให้แกเดินทางออกนอกประเทศไม่ได้ตลอดชีวิต]
"ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอแม่"
[ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันต้องการชีวิตที่สุขสบาย ฉันยอมทำทุกอย่างเพื่อได้สิ่งนั้น ถ้าแกอยากสุขสบายเหมือนที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้ แกก็ก้มหน้าก้มตาทำตามที่ฉันสั่งซะ]
"นินไม่อยากสุขสบายบนกองเงินกองทองของคนอื่น นินอยากสุขสบายด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง แม่ให้โอกาสนินกลับไปสร้างตัวที่อเมริกาหน่อยไม่ได้เหรอ"
[แกจะไม่ได้กลับไปที่นั้นจนกว่าแกจะแต่งงานกับลูกชายของท่านแดนทัพ ฉันให้โอกาสแกได้แค่นี้]
แม่ด้วยพูดน้ำเสียงเด็ดขาดก่อนจะตัดสายทิ้ง
ทำเอาร่างเล็กยืนทำหน้าหมดอาลัยตายอยากไปเลย จ
ะหนีก็หนีไม่ได้ แต่จะให้กลับไปยัดเยียดตัวเองก็เป็นเรื่องยากอีก เห้อ!
"กลับเถอะครับคุณหนู"
"ไม่กลับ"
"ไม่กลับผมอุ้มนะครับ"
"กลับก็ได้"
เป็นการขัดขืนที่ใช้เวลานานมาก (ประชด) แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อเธอไม่มีที่ไปแล้ว ไหนจะถูกตามตัวแบบนี้อีก ผู้หญิงคนเดียวจะไปวิ่งหนีผู้ชายร่างบึกบึนพวกนี้ได้ยังไง ถ้ามีให้ตั้งตัวสักนิดเธอจะไม่ลังเลในการหนีเลย
บรืนนน!
รถลิมูซีนสีขาวขับมาจอดสนิทที่หน้าคฤหาสน์หลังโต ใบหน้าสวยทำสายตาละห้อยก่อนจะสะพายกระเป๋าเป้เดินเข้าไปข้างในด้วยอารมณ์บูดบึ้ง เธอรู้สึกหมดหวังกับการใช้ชีวิตตอนนี้มากเลย ตอนเด็กก็ถูกแกล้ง พอโตมายังจะต้องมายัดเยียดตัวเองให้เป็นเมียพวกเขาอีก ใครมันจะไปกลืนกินกันลง ยิ่งนึกถึงอดีตที่เคยเจอ เธอยิ่งหงุดหงิดเพราะไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้เลย
"ฉันต้มมาม่าได้ไหม?" หันไปถามชายชุดสูท
"ให้ผมตามพ่อบ้านดีกว่าไหมครับ?"
"นี่มันดึกแล้ว ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันหากินเองก็ได้"
หญิงสาวบอกปัดแล้วเดินตรงเข้าไปหาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในครัวสุดหรู ในนี้มีแต่เนื้อสัตว์ราคาแพง ซึ่งมันแทบจะไม่มีบะหมี่อย่างที่ต้องการเลย เท่าที่มีตอนนี้ก็คือราเมน เธอเลยเลือกห่อนี้มาต้มกินเป็นอาหารมื้อเย็นก่อนจะขึ้นนอน
ซู๊ดด!
จวกราเมนในชามไม่ยั้ง ดำน้ำจนเหนื่อยล้าไปทั้งตัว ไหนจะต้องหลบหนีไปสนามบินอีก วันนี้เป็นวันที่ปวดหัวที่สุดในรอบห้าปีที่ผ่านมาเลย
"นั่นมันของฉัน"
แทนคุณเดินเข้ามาแย่งชามราเมนไปจากเธอ คิ้วเรียงสวยขมวดติดกันด้วยความไม่พอใจ แต่พอนึกได้ว่าต้องยั่วยวนให้เขาหลงรัก เธอก็รีบฉีกยิ้มหวานทันที
"ของคุณเหรอ อร่อยดีนะ"
"ไม่ต้องมายิ้ม มารยาทไม่มี หรือว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนกันแน่ อ๋อ ฉันลืมไป เธอถูกทิ้งตั้งแต่เด็ก แม่เธอก็เป็นผู้หญิงชั้นต่ำ คงไม่มีใครคอยสั่งสอนจริง ๆ น่าสมเพชชะมัด"
มุนินทร์มองหน้าคนตัวสูงด้วยความเจ็บช้ำ เพราะทุกอย่างที่เขาพูดออกมามันจี้ใจดำทุกดอก นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงวิ่งหนีออกไปร้องไห้โฮแล้ว
"เนอะ ฉันมันน่าสมเพชมากเลย"
"รู้ตัวก็ดี"
"ถ้างั้น... คุณก็อย่ากินราเมนต่อจากคนน่าสมเพชอย่างฉันสิ เดี๋ยวความน่าสมเพชจะติดไปโดนตัวคุณนะ" พูดจบหญิงสาวก็เดินไปแย่งชามราเมนมากินต่ออย่างหน้าชื่นตาบาน ทำให้คนตรงหน้าไม่พอใจ แล้วยกชามราเมนคว่ำใส่หัวเธอจนผมยาวสลวยเปียกชุ่มไปด้วยน้ำซุบกระดูกหมู แกมเส้นราเมนที่ยังคงเหลืออยู่ในชาม
"สมน้ำหน้า" เขาเหยียดยิ้มมุมปากด้วยความสะใจ ก่อนจะเดินหนี แต่มุนินทร์ไม่ยอมให้เขากระทำฝ่ายเดียวอีกต่อไปแล้ว มือเล็กรั้งชายเสื้อเชิ้ตสีดำให้คนตัวสูงหันกลับมาหา ก่อนที่เธอจะเขย่งปลายเท้าขึ้นไปจูบปากเขา
อุ๊บ!
แทนคุณตกใจตาค้างก่อนจะออกแรงผลัก แต่เธอก็ไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ วงแขนเล็กโอบรอบต้นคอแกร่งให้โน้มลงมาแล้วบดขยี้ริมฝีปากต่อด้วยความเร่าร้อน เธอไม่เคยจูบใครมาก่อน และนี้ก็เป็นจูบแรก (หรือเปล่า) แถมยังเป็นจูบที่ดุเดือดมาก!
อื้อ จ๊วบ อื้อ!
เขาพยายามขัดขืน เธอเลยผละริมฝีปากออก ใบหน้าเราทั้งสองแดงก่ำด้วยความเขินอาย แต่เธอมีความกล้ามากกว่า เลยสามารถรุกล้ำผู้ชายแบบนี้ได้
"ธะ เธอนี่มัน! "
"ถ้ายังด่าอีก ฉันจะไม่หยุดแค่จูบนะ"
"นังผู้หญิงเลว! "
เธอหรี่ตามองเขาก่อนจะเดินเข้าไปหาอีกรอบ แต่ทว่าคนตัวสูงกลับรีบวิ่งหนีออกไปทันที ไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน แปลกตาแต่ก็น่ารักดีแหะ ปกติก้าวร้าวทั้งพี่ทั้งน้อง พอจะโดนผู้หญิงจับจูบก็ถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว
เอ๋... หรือว่านี่คือจูบแรกของเขา?
ตอนอายุยี่สิบเจ็ดเนี่ยนะ!?
หลังจากที่มุนินทร์แกล้งแทนคุณเสร็จ
ไม่สิ ต้องเรียกว่าเอาคืน เพราะเขามาคว่ำราเมนใส่หัวเธอก่อน ทำให้เธอต้องขึ้นมาอาบน้ำสระผมอีกครั้ง พออาบน้ำเสร็จก็ไม่ลืมที่จะทาโลชั่นให้ตัวเอง คืนนี้ก่อนนอนเธอต้องไปยั่วแดนไทสักหนึ่งกรุบ เผื่อเขาจะคิดว่าเธอโกรธแล้วไม่ยอมเข้าหา แต่เอ๊ะ เขาจะกลัวเธอโกรธทำไม เพราะปกติเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรในตัวเธออยู่แล้ว
"จะเจ็บตัวอีกไหมเนี่ย"
หญิงสาวถามตัวเองในกระจก พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้าย ถ้าไม่ได้คืนนี้ก็ยังมีโอกาสเป็นพรุ่งนี้อีกหนึ่งวัน เธอมีความมั่นใจว่าตัวเองจะต้องทำได้ ถ้าไม่ถูกฆ่าตายซะก่อน
"ฟู่~"
คนตัวเล็กใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางโชว์จุกสีหวานด้านใน แถมกางเกงในก็ยังไม่ใส่อีก กะว่าต้องยั่วยวนจนกว่าจะได้ เรื่องที่ถูกแม่บังคับจะได้จบเสียที
ก๊อก ๆ !
"แอด..."
แดนไทเปิดประตูออกมา แล้วใช้สายตาคมกริบมองหญิงสาวตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนที่สายตาคู่นั้นจะเลื่อนขึ้นมาจับจ้องที่ริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ
"ฉันปวดหัวอ่ะ"
"แล้วมาบอกทำไม ฉันไม่ใช่หมอ"
"คุณไม่ใช่หมอแต่คุณมีเข็มฉีดยา แถมน่าจะเป็นเข็มใหญ่ซะด้วย"
ดวงตาคู่สวยกดต่ำลงไปมองที่เป้ากางเกง พยายามทำตัวให้ร่านที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่พอจ้องตรงนั้นจริง ๆ ก็รู้สึกเขินจนหน้าแดง ต้องเป็นคนยังไงถึงสามารถยืนมองความเป็นชายแบบโจ่งแจ้งถึงขนาดนี้
"เธอไม่เข็ดบ้างหรือไง"
"ถ้าเป็นเรื่องในสระน้ำ ฉันโอเค"
"โอเคอะไรของเธอ ฉันเกือบฆ่าเธอตายคาสระน้ำเลยนะ" เขาตีหน้ายุ่งด้วยความไม่เข้าใจ นั่นยิ่งทำให้รู้ว่าเขาไม่ได้เกลียดเธอถึงขั้นที่จะฆ่าแกงกัน เขาคงแค่อยากแกล้งเอาความสะใจเหมือนที่เมื่อก่อนเคยทำเป็นประจำ
"เข้าไปคุยข้างในได้ไหม ฉันปวดหัว"
"ปวดหัวก็กลับห้องไปนอน"
"ไม่เอา ฉันอยากนอนกันคุณมากกว่า"
"พูดบ้าอะไรของเธอ?"
"คุณบอกว่าฉันร่านเหมือนแม่ไม่ใช่เหรอ ถ้ารู้อย่างงี้ก็ช่วยสนองความต้องการให้ฉันหน่อยสิ ฉันไม่ไหวแล้ว" หญิงสาวพูดเสียงแผ่ว ก่อนจะเดินเข้าไปโอบคอเขาให้โน้มลงมาใกล้ แต่เหมือนเขาจะเล่นตัวมากกว่าพี่ชาย เลยรีบดันตัวเธอออกทันที
"ฉันเกลียดผู้หญิงหน้าด้าน ไร้ยางอาย เธอมันไม่มีค่าอะไรเลยนอกเสียจากนอนถ่างขาให้ผู้ชายเอาไปวัน ๆ ถ้าอยากจะเดินตามรอยแม่ตัวเอง ก็เชิญไปเอากับคนอื่น เพราะฉันรังเกียจและขยะแขยงผู้หญิงแบบเธอที่สุด"
พูดจบเขาก็ผลักคนตัวเล็กออกจากห้อง
แล้วปิดประตูใส่หน้าเต็มแรง โดนเขาด่าว่าเจ็บแล้ว แต่ออกมาเห็นสายตาของแทนคุณที่ยืนฟังอยู่หน้าประตูก็ยิ่งเจ็บปวดเข้าไปอีก
"รู้แล้วว่าเกลียด ฉันก็เกลียดชีวิตตัวเองเหมือนกัน" หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาก่อนจะเดินกลับห้อง เธอคิดเอาไว้แล้วว่ามันไม่น่าง่าย แต่ที่มั่นใจว่าเขาจะเล่นด้วยเพราะเขาช่วยชีวิตเธอเอาไว้ แต่มันก็คงแค่นั้นจริง ๆ นั่นแหละ