เสียงปริศนา

1119 Words
ดิสนั่งอยู่บนเตียงในห้องตัวเองเตรียมตัวจะนอน แต่เขาอดรู้สึกดีไม่ได้จริงๆ ทุกอย่างมันราบรื่นกว่าที่คิดมาก การฝึกเพื่อเตรียมตัวจะเป็นพรานทมิฬหลังจากนี้ต้องลำบากแน่ๆ แต่เขาจะพยามให้ถึงที่สุด จริงอยู่ที่ตอนแรกมันก็แค่ความรู้สึกอยากผจญภัย แต่ตอนนี้มันมากกว่านั้น เขารู้ว่าพรานทมิฬมันเป็นอาชีพที่เสี่ยง แต่เขาก็อยากจะยืนให้ได้ด้วยลำแข้งตัวเอง ไม่อยากจะรบกวนพ่อแม่ไปตลอด พรสวรรค์ที่เขามีนั้นมันยิ่งใหญ่นัก และก็ไม่อยากจะทำให้มันสูญเปล่า เขาเห็นถึงความอันตรายของดันเจี้ยนแล้ว จึงไม่อยากจะให้มันเกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีก ดิสนึกถึงคำคมจากหนังเรื่องไอ้แมงมุ*ที่เคยดู ‘พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง’ ‘เราจะเตรียมตัวเพื่อเป็นพรานทมิฬในวันที่เราพร้อม’ นี่อาจจะเหมือนกับสิ่งที่ราชาวดีบอก แต่มันก็มีอะไรที่แตกต่างกันอยู่ ถ้าเขาทำตามที่ราชาวดีขอ มันจะไม่จบที่การปกปิดพลังแน่ เรื่องนี้อาจรู้ไปถึงหูรัฐบาล การที่พรสวรรค์เขาพิเศษ จะทำให้เขาขาดอิสระในการตัดสินใจ เพราะพรานทมิฬต้องขึ้นตรงกับเบื้องบน และราชาวดีก็เป็นคลาส S ตอนนี้เบื้องบนอาจรู้กันหมดแล้วก็ได้ เขาขอเป็นคนกำหนดชีวิตตัวเองดีกว่า… ใช่…. เจ้าควรทำเช่นนั้น ขณะที่ดิสกำลังครุ่นคิดอยู่บนเตียง เสียงทุ่มต่ำของใครสักคนก็ดังก้องขึ้นมาในหัวเขา ดิสหันมองรอบๆ ทันที “ใครวะ!?” ไม่นานนักแรงกดดันมหาศาลก็กดทับร่างของเขาจนแทบจะขยับไม่ได้ มันแข็งทื่อไปหมด อึก! ดิสกัดฟันแน่นขมวดคิ้ว ‘มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย….’ ฉับพลันนั้นความคิดของเขาก็ถูกถาโถมด้วยภาพฉายซ้ำ ดิสปวดหัวขั้นรุนแรง มือจิกเกร็งกับผ้าปูที่นอนแน่นอย่างทรมาน อึกก! ‘หัวจะระเบิดอยู่แล้ว!’ ภาพที่เขาเห็นเป็นรถซุปเปอร์คาสีแดงคันหนึ่งกำลังขับไปตามท้องถนน คนขับคือตัวเขาเอง ดิสจิกมือเกร็งมากขึ้น เมื่อความเจ็บทวีคูณ… พื้นถนนค่อยๆ แยกออกพร้อมกับเกิดแผ่นดินไหวขั้นรุนแรง รถคันนั้นพลิกตกลงไปในหลุมขนาดใหญ่ เขาร้องลั่นก่อนที่ถ้ำมหึมาจะพุ่งทะลุขึ้นกระแทกรถคันนั้นลอยคว้างกลางอากาศ อ้ากกก! ดิสกรีดร้องเสียงหลงด้วยความทรมาน เขาใช้แรงทั้งหมดกระชากตัวเองออกมาจากพันธนาการแรงกดดัน ก่อนจะยกมือขึ้นกุมขมับอย่างเจ็บปวด ‘เชี้ยไรวะ!? นี่มันคืออุบัติเหตุที่ทำเราเป็นเจ้าชายนิทราเหรอ? ’ ถ้าไม่ใช่เพราะภาพที่ถูกฉายเข้ามาเมื่อกี้ เขาก็คงจะจำไม่ได้เลยว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เขาหลับไป เขารู้แค่ว่า ‘มันเป็นเพียงอุบัติเหตุเท่านั้น’ ดิสกัดฟันแน่นก่อนจะกวาดสายตามองรอบๆ ด้วยความโมโห ‘ฝีมือใครวะ!? ’ ความเดือดดาลของสัญชาตญาณความอยากสู้พุ่งพล่านขึ้นมาถึงขีดสุด แต่มันกลับต้องชะงักเมื่อดิสเห็นรอบกายมีแต่ความมืดมิด ความอยากสู้แปรเปลี่ยนเป็นความพิศวง เขาขมวดคิ้วก่อนจะลุกขึ้นยืน รอบข้างมีแต่คความมืดจริงๆ สิ่งที่เขาเห็นมีเพียงแค่ร่างกายตัวเองเท่านั้น ‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย…’ เจ้ากำลังจะได้รู้… เสียงนั้นดังก้องขึ้นมาในหัวเขาราวกับอ่านความคิดได้ ดิสกวาดสายตามองรอบๆ ทันทีด้วยความตกใจ “แกเป็นใคร ทำแบบนี้ทำไม!?” เขาตะคอกขึ้นเสียงดัง ใจเขานั้นเต้นแรงราวกับจะหลุดทะลุออกมาจากอก เสียงนั้นคือใคร พรานทมิฬหรือมอนเตอร์? ทำไมมันถึงรู้สาเหตุการเป็นเจ้านิทราของเขา แต่ที่เขารู้คือจากการกระทำเจ้านี้ไม่ได้มีประสงค์ดีแน่ๆ ดิสยกมือสองข้างขึ้นมาตั้งการ์ดระวังตัวไว้ ค่าพลังที่อัพสงสัยคงจะได้ใช้ตอนนี้ ระหว่างที่เขากำลังระวังตัว เสียงนั้นก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง… เจ้าฝึกฝนเพื่อที่จะเป็นนักล่า….. แต่เจ้าคิดว่าแค่นั้นมันมากพอที่จะมาประหารข้าได้อย่างงั้นเหรอ? “พอกันที ประหงประหารบ้าบออะไร… ฉันยังไม่รู้จักแกด้วยซ้ำ!?” ดิสตะคอกตอบเสียงนั้น เขารู้สึกแปลกใจมากที่หมอนี่พูดเรื่องการประหาร แสดงว่าเจ้าเสียงปริศนาต้องเป็นมอนเตอร์แน่ๆ และจากที่ราชาวดีเล่า มอนเตอร์มันออกมาจากดันเจี้ยนเองไม่ได้ไม่ใช่เหรอ? ดิสกลืนน้ำลายลงคอพลางกำหมัดแน่น “แกต้องการอะไรจากฉัน!?” เสียงนั้นไม่รอช้า มันตอบกลับคำถามนั้นทันที ต้องการให้เจ้าแกร่งกว่านี้เพื่อมาประหารข้า… เสียงฝีเท้าย่ำตรงมาหยุดข้างหลังเขา ดิสนิ่งชะงัก ก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนตัวหันไปมองช้าๆ ภาพที่เห็นคือร่างสูงใหญ่กว่าเขาสัก 3 เท่าได้ สวมเกราะโบราณพร้อมทั้งกางปีกสีแดงกว้าง และที่น่าเกรงขรามสุดคือศีรษะที่เป็นพญาเหยี่ยวกำลังก้มมองเขา ดิสนิ่งตะลึงกับสิ่งที่เห็น ก่อนจะกล่าวออกมาเสียงสั่น “พะ พญาครุฑ….” ไม่นานนักแรงกดทับมหาศาลก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ร่างกายของดิส แข็ง เกร็ง สั่น จนแทบจะแตกระเบิดออก ดิสทรุดเข่าลงกับพื้นพร้อมสายตาที่เบลอลาง ‘กำลังจะโดนฆ่าแล้วเหรอ? นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ?!’ ครุฑราคือเจ้าของเสียงนั้น มันก้มต่ำลงมองดิสด้วยสายตาเหยียดหยาม ตอนนี้เจ้ายังไม่พร้อมที่จะประหารข้า…. เด็กน้อย ข้าจะให้เวลาเจ้าในการเตรียมตัวสำหรับพิธีประหาร ถ้าวันนั้นมาถึงแล้วเจ้ายังอ่อนปวกเปียกเช่นนี้ เจ้าและคนที่เจ้ารักจะเป็นฝ่ายถูกล่าซะเอง จำไว้… หาข้าให้พบแล้วประหารข้า ก่อนที่จะถูกฆ่าซะเอง ‘ไอ้บ้าเอ้ย….’ ดิสกัดฟันแน่นกรอดอย่างทรมาน สายตาเบอลลางเริ่มมีเลือดไหล เขาใกล้จะหมดสติเต็มทีแล้ว…. ทุกอย่างค่อยๆ มืดไป [7:15 น.] ติ๊ด! ติ๊ด! ดิสสะดุ้งตื่นขึ้นก่อนจะง้างมือทุบนาฬิกาปลุกจนพังเละไม่เหลือชิ้นดี ‘ฝะ ฝันเหรอ? ’ มันคือฝันร้าย? ในหัวเต็มไปด้วยคำถามที่งุนงงและสงสัย ตอนนี้ใจเขายังสั่นอยู่เลย ตั้งแต่เกิดมา นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขากลัวขนาดนี้ กลัวที่สุดในชีวิต To be continued → 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD