ตื่นจากโคม่าพร้อมระบบพัฒนาร่างกายไม่มีสิ้นสุด

ใครคลั่งกว่า

บนท้องฟ้ากลางเมืองใหญ่

“นิ่งๆ หน่อยสิ!”

ดิสว่าพลางกับเร่งความเร็วในการบินให้มากขึ้นไปอีกในขณะที่จับแขนเจ้าไฮด์เอาไว้แน่น

แน่นอนว่าไฮด์ไม่ยอมอยู่นิ่งๆ หรอก มันสะบัดตัวขัดขืนไปมาพลางกับใช้แขนที่เหลืออีก 3 ข้างกระหน่ำซัดหมัดใส่ดิส

ดิสบินเลี้ยวหลบหมัดลากแขนไฮด์เหวี่ยงไปมา จนในที่สุดเขาก็หมดความอดทน

บู๊มมมม!

ดิสเร่งความเร็วในการบินจนไฮด์ที่โดนจับแขนอยู่แน่นิ่งไปชั่วขณะ แม้แต่เสื้อเขาก็ยังขาดจนเหลือแค่กางเกงขายาวที่ใส่เท่านั้น มันเป็นผลมาจากโซนิคบูม

“ให้มันได้อย่างงี้สิ!”

ดิสกล่าวขึ้นมาพลางถอนหายใจ ก่อนจะลดความเร็วให้ช้าลง เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่น่าจะน็อคเพราะอะไรแค่นี้หรอก ดูจากพละกำลังที่มีแล้ว แต่มันก็มากพอที่จะทำให้ลากมันไปได้สบายขึ้น

ไฮด์นั้นดูจะแกร่งกว่าคู่ต่อสู้ทุกคนที่เขาเคยเจอมา… เพราะเขาต่อยไปเต็มแรงหลายหมัด แต่มันก็ยังลุกขึ้นมาได้เสมอ

เขาต้องพามันไปทิ้งให้ไกลมากๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น แต่ขณะนั้นเองไฮด์ก็ได้เริ่มขยับร่างกายอีกครั้ง

กรรรรร!

มันคำรามดังลั่นก่อนจะดีดดิ้นจนดิสที่ไม่ได้ตั้งตัวปล่อยมันร่วงพื้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ

“ชิบหายแล้ว!”

ดิสทิ้งตัวบินดิ่งตามไฮด์ที่ล่วงลงดิ่งพสุธาไป หวังจะรับร่างมันไว้ก่อนตกถึงพื้น

จากความสูงขนาดนี้ดิสรับรู้ได้เลยว่าการตกของไอ้อสูรกายจะสร้างความเสียหายมหาศาลจากแรงกระแทกแน่ๆ

เขาพุ่งตรงไปหาหวังจะคว้าตัวมันไว้ แต่อสูรกายก็สะบัดหลังมือฟาดเขาจนกระเด็นไปทางอื่น

ตึ้งงงงง!

โคร๊มมมมม!

ร่างกอริลลายักษ์ตกกระแทกเข้าที่ดาดฟ้าของตึกแห่งหนึ่ง จนพุ่งทะลุมาถึงชั้นล่างด้วยความรุนแรงและน้ำหนักตัวที่มากมหาศาล

พนักงานในตึกแห่งนี้พากันแตกตื่นตกใจวิ่งหนีกันชุลมุนวุ่นวาย แม้อสูรกายตัวนี้จะนอนแน่นิ่งจมพื้นไม่ขยับเลยก็ตาม

ตึกทั้งตึกสั่นราวกับจะถล่มลงมา เสียงการสั่นสะเทือนนั้นทำไฮด์ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะยันกายลุกขึ้น ทุบอกและร้องคำราม นั่นทำพนักงานแตกตื่นกันซะยิ่งกว่าเก่า

เสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือดังระงมไปทั่วทุกพื้นที่ในตึก ไม่ว่าจะเป็นคนด้านล่างที่วิ่งไม่คิดชีวิต หรือแม้แต่พวกติดค้างอยู่ด้านบน

ไฮด์หวังจะอาละวาดไล่ทุบผู้คนต่อ แต่ในจังหวะนั้นดิสก็พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วและง้างหมัดต่อยเข้าที่หน้าของอสูรกายทะลุผนังตึกไปหลายชั้นจนไปกลิ้งอยู่กลางถนนใหญ่

ดิสที่เหลือเพียงกางเกงขายาวที่สวมใส่เท่านั้นค่อยๆ เดินผ่านรูของผนังไปเผชิญหน้ากับเจ้าอสูรกายตัวนั้น บนท้องถนนด้านนอก

รถที่สัญจรอยู่ต่างขับหนีกันยกใหญ่ บางคนก็ย้อนจนเกิดอุบัติเหตุ ประชาชนทุกคนที่อยู่โดยรอบพากรีดร้องและวิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัว

มันคือภาพความโกลาหลราวกับเกิดภัยพิบัติ

ดิสจ้องมองไฮด์ที่ค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นยืนแีกครั้ง เขาไม่มีทางเลือกแล้ว ไอ้สัตว์ประหลาดนี่มันแรงเยอะเกินไป เขาพามันออกไปจากเมืองนี้ไม่ได้แน่ เขาต้องจัดการมันให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันความเสียหายที่กำลังจะเกิดขึ้น

เสียงตึกเริ่มใกล้จะถล่มเต็มทีนั้นดังเกินจะบรรยายได้ มันทำให้ดิสตกใจและหันไปมอง

เขาเดาะลิ้นอย่างไม่พอใจนัก ความเสียหายที่กำลังจะเกิดขึ้นทำดิสเริ่มเป็นกังวลเพราะเป็นห่วงผู้คนที่อยู่ข้างในตึกนั้น เขาจะช่วยใครได้ ในตึกนั้นมีคนเยอะเกินไป เขาควรทำยังไงดี?

ระหว่างที่ดิสมองอยู่นั้นเป็นจังหวะที่ไฮด์นั้นพุ่งเข้ามาพอดี อสูรกายยักษ์ซัดดิสอย่างรุนแรง แต่ชายหนุ่มก็ไหวตัวทันและหลบได้

ไฮด์ร้องคำรามดัง นั่นเป็นโอกาสที่ดิมจะชกสวน แต่ก็มีรถคันหนึ่งพุ่งเข้ามาชนเข้าที่หลังด้วยอุบัติเหตุทำชายหนุ่มผงะไปชั่วครู่

มันเปิดโอกาสให้ไฮด์ปล่อยหมัดซัดจนร่างดิสลอยเข้าไปในตึกนั้น

ตึกกกก!

โคร่มมมม!

ตู้มมมมม!

เสียงตึกทั้งตึกถล่มทลายดังไปทั่วบริเวณโดยรอบ พร้อมกับฝุ่นที่ตลบอบอวน ซากปรักพังหล่นมาทับรถ หรือแม้แต่คนที่พากันวิ่งหนี

โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่เกิดขึ้น ในขณะที่ตัวต้นเหตุยกมือทั้ง 4 ขึ้นทุบอกด้วยความสะใจ มันคำรามดังล่นก่อนจะทุบรถคันที่ชนดิสจนพังยับเยินไม่เหลือชินดี

ดิสดันซากปรักหักพังออกจากร่างกายตนพร้อมกับมองรอบๆ สายตาเขาเต็มไปด้วยความเศร้าหมองเหลือจะบรรยาย

“ไม่ๆ ไม่เอาแบบนี้สิ”

ดิสรำพึงรำพันพร้อมกับค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นยืน การสูญเสียที่เกิดทำเขานิ่งชะงักไปชั่วครู่เมื่อเห็นผู้คนบาดเจ็บ

เขาหันไปมองไฮด์พลางกัดฟันนั้น ร่างที่ไร้เสื้อสวมใส่ค่อยๆ ลอยขึ้นเหนือพื้น อสูรกายทุบอกเช่นกันหลังจากเห็นว่าศัตรูตนนั้นยังไม่ตาย

ความบ้าคลั่งปะทุมานาสีทองอร่ามสร้างแรงกดดันมหาศาลจนทำคนที่วิ่งหนีความเสียหายต้องหยุดชะงักจนแทบจะขยับตัวไม่ได้ มีเพียงอสูรกายสี่แขนเท่านั้นที่ร้องคำรามอย่างดุร้ายก่อนจะวิ่งเข้ามา

กรรรร!

อ้ากกกกกก!

ทั้งครู่ร้องเสียงดังก่อนจะพุ่งตรงเข้าปล่อยหมัดใส่กันและกัน จนคลื่นกระแทกมหาศาลผลักทุกอย่างโดยรอบกระเด็นออก

รถและซากปรักหักพังกระเด็นลอยไปพร้อมกับกระจกที่แตก ทั้งคู่มึนงงครู่นึงจากแรงปะทะ แต่เป็นดิสที่ได้สติก่อน

ด้วยความบ้าคลั่งที่ห้ามไม่อยู่แล้ว ดิสพุ่งไปจับหัวกอริลลายักษ์กระแทกกับเข่าตน แล้วเหวี่ยงขาเตะต่อเข้าที่ยอดหน้าจนอสูรกายยักษ์สูงกว่ารถบัถลอยละลิ่วไปไกล

ดิสไม่รอช้ารีบบินพุ่งตามไปด้วยความโกรธพร้อมกับปล่อยหมัดกระแทกใส่อย่างบ้าคลั่ง ด้วยแรงหมัดของคนที่บินตามมาซัดต่อไม่หยุด ทำอสูรกายลอยไปไกลอย่างต่อเนื่อง

มันไม่มีโอกาสแม้จะตอบโต้ ร่างของมันลอยทะลุตึกหนึ่งไปยังอีกตึก แต่ก็ยังทะลุไปยังอีกตึก ก่อนจะโดนคนที่บินตามมาต่อยซ้ำไปอีกที

จนในที่สุดมันล่วงตกลงไปที่ริมแม่น้ำสายหนึ่ง ไฮด์ไถลไปกับพื้นพลางหอบหายใจ ดิสบินลงมายืนเหยียบบนอกมันก่อนจะร้องคำรามออกมาบ้างแล้วกระหน่ำหมัดต่อยไปที่หน้าไม่ยั้งมือ

อ้ากกกกกกก!

ร่างอสูรกายกระตุกตามแรงหมัด แต่กลับค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นจนเกือบจะเทือบเท่ากับรถบัส 3 คันรวมกัน

มันเอื้อมมือขึ้นไปจับลำตัวดิส ด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้นแค่มือเดียวก็รวบทั้งลำตัวดิสได้แล้ว

ดิสชะงักเมื่อเห็นว่าตนโดนจับ ไฮด์ง้างมือยกดิสขึ้นพร้อมกับร้องคำราม พอมันลุกได้ก็ใช้มือข้างที่เหลือทุบอก

ไฮด์นั้นมีพลังในการดูดซับมานาของคนอื่น แถมพลังมานาของมันยังเป็นคลาส S รวม 2 คนทั้งแจ็คเคิล มันไม่มาเสียท่าเพราะคนอ่อนแอแบบนี้หรอก

พลังที่มันดูดซับจากดิสตลอดเวลาที่สู้กันมันมากเกินพอแล้วด้วยซ้ำ มันร้องคำรามก่อนจะเหวี่ยงร่างดิสลงที่พื้น

กรรร!

มันร้องคำรามเสียงดังพร้อมกระหน่ำต่อยดิสไม่ยั้งมือจนจมดิน พลังงานความกดดันสีม่วงกระจายไปทั่วบริเวณโดยรอบ พร้อมกับแรงหมัดกระแทกพื้นที่รุนแรงจนแผ่นดินไหว

และนั่นเป็นครั้งแรกที่อสูรกายพูดออกมา “ไอ้กาก….”

คลาส S ที่อ่อนแอที่สุด จะสู้กับคนที่มีพลังงานมานา 2 เท่าได้อย่างไรกัน

To be continued →