ราชาผู้หลับไหล (1)

1293 Words
เสียงเหล็กกระทบกันดังไม่ใกล้ไม่ไกล ซึ่งเหล็กที่ว่านั้นคือโซ่ตรวนถูกลากกับพื้นจนเกิดรอยยาวบนถนนปูน ยามราตรีแบบนี้ควรจะเป็นเวลานอน แต่มันกลับตรงกันข้าม ค่ำคืนนี้มีแต่ความวุ่นวายและความโกลาหล ดิสยืนตั้งใจฟังเสียง ก่อนจะเตะโครงกระดูกขนาดใหญ่จนกระเด็นเพราะขวางทางเดินตน เขาค่อนข้างมั่นใจ ความกดดันที่แผ่ขยายปกคลุมไปทั่วมหาลัยต้องมาจากดันเจี้ยน และคงเป็นฝีมือของบอสตัวจริงเป็นแน่ เขาต้องรีบไปที่นั่นเพื่อปิดดันเจี้ยนลง ทำตามเควส และจบเรื่องบ้าๆ นี่สักที แต่ก่อนจะได้ทำอะไร เขาก็ต้องชะงัก ความกดดันมหาศาลแผ่ขยายอีกครั้ง ดิสเดาะลิ้นอย่างไม่พอใจนัก เขาไม่จำเป็นต้องไปถึงดันเจี้ยนแล้ว บัดนี้บอสได้ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขา มอนเตอร์นั้นคล้ายมนุษย์ผู้ชายวัยฉกรรจ์ร่างกำยำ สวมเสื้อผ้าแบบราชวงศ์ยุคโบราณ บนใบหน้านั้นสวมหน้ากากสีทองแบบเดียวกับที่นางรำใส่ แขนและขาทั้งสองข้างนั้นถูกล่ามโซ่ตรวนไว้ราวกับนักโทษ แต่ที่มันทำเขาตกใจคือ…. บอสนั่นอุ้มนางรำไว้ในอ้อมแขน ‘มันไปเอามาตั้งแต่ตอนไหนวะ? ’ มันหันมองร่างสตรีงามที่อุ้มไว้ ดวงตานั้นแสดงออกถึงความเศร้าอย่างชัดเจน “ราชีนีแห่งข้า…. ระหว่างที่ข้าหลับไหลไยเจ้าถึงกลายเป็นเช่นนี้” มอนเตอร์ที่เป็นบอสตัวจริงกล่าวก่อนจะเกลี่ยผมสตรีที่อยู่ในอ้อมแขน “พอข้าตื่นจากนิทรานับร้อยปี เจ้ากลับจะด่วนจากข้าไปเสียแล้ว…” ดิสมองภาพตรงหน้าก่อนจะเลิกคิ้ว เขารู้สึกแปลก มอนเตอร์มีความรักอย่างงั้นเหรอ? แต่ก็มีอย่างหนึ่งไขข้อสงสัยของเขา สาเหตุที่มอนเตอร์ตัวนี้เพิ่งโผล่มาเป็นเพราะมันเพิ่งตื่นจากการหลับไหลนานนับศตวรรษ แต่มันก็สร้างคำถามใหม่เพิ่มมาอีก ดันเจี้ยนมันเพิ่งมีมาแค่ 5 ปีไม่ใช่เหรอ? อะไรคือความลับของดันเจี้ยนกันแน่? ดิสมองภาพภาพนั่นอยู่ครู่หนึ่งก็ยกมือขึ้นกอดอก บางทีเขาอาจจะเค้นเอาสิ่งที่ตนสงสัยมาจากพวกมันได้ บอสดันเจี้ยงวางนางรำลงบนพื้นก่อนจะย่อตัวลงคุกเข่าตาม “หลับให้สบายเถิดยอดรัก ข้าจะเอาเลือดของผู้ที่สังหารมาเซ่นหลุมศพของเจ้าเอง” พอกล่าวจบมันก็จ้องเขม็งมายังดิสอย่างเคียดแค้น จิตสังหารพุ่งทวีความกดดันจนดิสเริ่มผละถอย ดิสยกมือสองข้างขึ้นตั้งการ์ดพลางเบิกตาโพรงอย่างตื่นตัว ตอนนี้ความคิดที่ว่าจะเค้นความจริงได้ถูกล้มเลิกไปสิ้น สิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นอันตราย เสี่ยงเกินไปที่จะพูดคุยกับมัน โดยบอสตนนั้นไม่แม้แต่ความปราณีต่อเขา มีแค่ความเคียดแค้นแบบหาสุดไม่ได้เท่านั้น รางวัล : 300 แต้ม และหายจากอาการหลอนประสาท บอสดันเจี้ยนแรงค์ A : 0/1 ตัว ลูกสนุน : 2/4 ตัว ดิสมองหน้าต่างระบบตรงหน้า นางรำสิ้นใจแล้ว แถมดูเหมือนนางรำจะไม่ใช่บอสจริงๆ ตามที่คาดการไว้ มันเป็น 1 ในลูกสนุน เขายังสงสัยไม่หายเลย ทำไมมันถึงหลอนประสาทเขาได้ในระยะไกลขนาดนั้น บ้านกับมหาวิทยาลัยมันไม่ใกล้กันเลยสักนิด แต่ช่างเรื่องนั้นก่อน… ตอนนี้เขาต้องรับมือกับศึกตรงหน้า หวังว่ามันคงเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายในคืนนี้แล้ว เพราะเขาเหนื่อยเต็มทีแล้ว บอสดันเจี้ยนค่อยๆ ลุกขึ้นยืน มันมองมายังเขาก่อนจะบีบมือกำหมัดแน่น “นามของข้าคือราชาแห่งภายัน บอกนามของเจ้ามาไอ้อัปรีย์” ดิสกระตุกคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดนั้น “แกสิอัปปรีย์ ฉันชื่อดิส…” มันเริ่มจะขยับคอไปมา ดูเหมือนบอสดันเจี้ยนแห่งนี้จะเป็นราชาของอะไรสักอย่าง “ไอ้ระยำดิส คืนนี้ข้าจะเอาเลือดหัวเจ้ามาเซ่นหลุมศพเมียข้า” ดิสถอยหายใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินแบบนั้น “พวกบอสนี่บ้าน้ำลายทุกตัวเลยรึไงวะ?” ไม่รอช้าดิสเป็นฝ่ายเปิดก่อน เขาพุ่งตรงไปหาราชาด้วยความเร็วทั้งหมด แต่ขณะที่กำลังถลาลามเข้าไป โครงกระดูกยักษ์ก็โผล่มาอีกครั้งเพื่อขวางทางเขา แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับดิส เขาซัดทะลุร่างจนมันขาดเป็นสองท่อน ในขณะนั้นเอง อีกตัวก็โผล่มาทางด้านหลังและใช้หลังมือฟาดจนดิสชะงักแต่ก็ไม่ล้ม ดิสหันมามามองโครงดูกตัวที่สอง ก่อนจะออกแรงถีบจนร่างยักษ์กระเด็นเข้าไปในตึก โคร๊มม! ลูกสนุน : 4/4 ตัว ผ่าน! ดิสมองหน้าต่างระบบแล้วยิ้มอย่างพึงใจ ตอนนี้ก็เหลือแค่กำจัดบอสดันเจี้ยนตัวเดียวเท่านั้น เขามองไปก่อนจะกล่าวกับราชาภายันด้วยน้ำเสียงยียวน “มีลูกกระจ๊อกเหลือจะเรียกมาอีกมั้ย” ราชาไม่ตอบอะไรเพียงแค่ชี้มือมายังดิส ก่อนในขณะนั้นจะปรากฏดาบไทยโบราณ มันควงดาบก่อนจะตั้งท่าเตรียมจู่โจม ดิสไม่ประมาท เขายกการ์ดเตรียมตั้งรับเช่นกัน แต่นี่มันคิดจะสู้กับเขาโดยที่ไม่ปลดโซ่ตรวนที่รั้งมือรั้งเท้าออกเลยงั้นเหรอ? ดิสไม่ปล่อยให้ความสงสัยมาดึงเวลา ถ้ามันจะมีลูกไม้อะไรมา เขาขอเผชิญมันด้วยตัวเองเลยดีกว่ามาตั้งคำถาม ดิสเร่งสปีดพุ่งไปหาอีกฝ่าย แต่ในขณะนั้นเองก็มีโซ่มากมายหลายสิบเส้นพุ่งทะลุออกมาจากแผ่นหลังของราชาภายัน ซึ่งปลายโซ่แต่ละเส้นนั้นมีปลายแหลมคมสุดอันตราย โซ่แหลมหลายสิบเส้นพุ่งตรงไปหาดิสเพื่อสังหาร นั้นทำชายหนุ่มหยุดชะงัก จากเป้าหมายที่คิดจะโจมตี ต้องมาเร่งความเร็วเพื่อหลบหลีกปลายแหลมของโซ่ที่ฟาดและพุ่งแทงมาแบบไม่ยั้ง ดิสเดาะลิ้นอย่างไม่พอใจ ‘เข้าถึงตัวยากจังวะ!? ’ ราชาภายันหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง จังหวะกลองระทึกตีดังไม่หยุดราวกับฟ้าจะถล่ม โซ่ตรวนที่พันธนาการอยู่ไม่มีผลลดศักยภาพของราชาลงเลย เหมือนกับว่าตัวมันเองด้วยซ้ำที่ไม่คิดจะปลดสิ่งที่รั้งตรึงอยู่ หนำซ้ำมันควบคุมได้ราวกับว่าเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเสียมากกว่า ราชามองภาพดิสดิ้นรนอย่างได้ใจ “นี่เหรอคนที่จะมาประหาร เจ้าไม่มีค่าคู่ควรจะทำแบบนั้นหรอกไอ้มนุษย์ไร้ค่า” เหมือนกับนางรำหรืออีกชื่อคือราชินีแห่งภายัน มอนสเตอร์สาวกับราชาชายฉกรรจ์นั้นแปลกแยกจากมอนเตอร์ตัวก่อน พวกมันดิ้นรนเพื่อไม่ถูกประหาร ต่างกับบอสดันเจี้ยนก่อนหน้าที่รอคอยความตาย จากคนที่มีฝีมือเท่านั้น ดิสที่เริ่มเหนื่อยเพราะระยะเวลาการต่อสู้ยาวนานทำเขาเริ่มช้าลง ชายหนุ่มหลบปลายแหลมโซ่ได้อย่างหวุดหวิด ‘ให้ตายสิ… พลังของมันน่ารำคาญชะมัด’ ปลายแหลมของโซ่นั้นอันตรายอย่างยิ่ง ทุกครั้งที่ดิสหลบได้มันจะพุ่งแทงลงไปที่พื้น และแทงทะลุจนถนนแทบจะพรุนไปหมด ‘ไม่ไหวแน่ ถ้าเรายังมัวแต่หลบแบบนี้ต้องพลาดเข้าสักรอบแหงๆ ’ ดิสอัพค่าความทนทานมาแล้วก็จริง แต่เขาก็ยังไม่กล้าเสี่ยงรับการโจมตี อีกฝ่ายเป็นถึงบอสดันเจี้ยน ถ้าพลาดบาดเจ็บเข้าคงไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ ‘ต้องรับมือยังไงเนี่ย? ’ To be continued →
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD