ตื่นจากโคม่าพร้อมระบบพัฒนาร่างกายไม่มีสิ้นสุด

กิลด์เทวะ

เพื่อความปลอดภัยทุกอย่างต้องเป็นความลับ กิลด์เทวะต้องการจะแน่ใจก่อนเรื่องพญาครุฑ ถ้าทุกอย่างถูกยืนยันแล้วว่ามันคือตัวเดียวกัน 100% ทางกิลด์จึงจะแจ้งเรื่องแก่สำนักงานพรานทมิฬแห่งประเทศไทย

สำนักงานงานของกิลด์เทวะเป็นตึกสูง ไม่แตกต่างจากบริษัทใหญ่ๆ ข้างในมีพนักงานหญิงชายที่ทำงานในส่วนต่างๆ มากมายเดินสวนกันเต็มไปหมด

อย่างที่รู้กัน ตั้งแต่มีดันเจี้ยน พรานทมิฬก็กลายเป็นอาชีพหนึ่งที่ทำเงินได้อย่างมหาศาล ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีกิลด์ต่างๆ ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด เพราะการทำงานเป็นทีมมันสามารถปิดดันเจี้ยนได้เยอะและง่ายกว่าการทำคนเดียวอยู่แล้ว ยิ่งปิดได้เยอะค่าตอบแทนก็จะมากตามไปด้วย

และอีกอย่าง… กิลด์ไหนที่ปิดดันเจี้ยนได้เยอะ ก็จะยิ่งเป็นที่รู้จัก แล้วใครละจะไม่ชอบความโด่งดัง ยิ่งมีชื่อเสียงก็ยิ่งมีอำนาจและเงินทอง

[ 19:08 น. ]

‘พรานทมิฬคือฮีโร่หรือธุรกิจกันแน่….?’

ดิสมองสแตนดี้รูปของชายคนหนึ่งยิ้มแย้มกำลังถือนมกล่อง ตอนนี้เขาและราชาวดีกำลังยืนอยู่หน้าห้องทำงานของใครสักคนและรอประตูเปิด

‘เป็นถึงพรานทมิฬคลาส S แต่เป็นพรีเซนเตอร์ให้นมกล่องเนี่ยนะ เข้ากันซะไม่มี’

ใช่แล้ว… ตอนนี้ดิสและราชาวดีอยู่ที่สำนักงานกิลด์เทวะ และคนที่พวกเขาจะมาพบคือหัวหน้ากิลด์ที่ราชาวดีสังกัดอยู่

ไม่นานประตูห้องก็ค่อยๆ เปิดออกจากทางด้านใน คนที่มาต้อนรับคือเลขาของหัวหน้ากิลด์

ทั้งสองคนเดินเข้าในห้องก็พบเข้ากับชายคนที่นั่งอยู่ประจำโต๊ะ ดิสหรี่ตามองอีกฝ่ายเล็กน้อย

ผมสีฟ้า หน้าตาค่อนข้างจะดูดี การแต่งตัวออกไปทางพวกนายแบบ แต่ดูรวมๆ แล้วไม่แตกต่างจากพวกไอดอลเลย

ชายคนนี้คือคนเดียวกับพรีเซนเตอร์นมกล่องเมื้อกี้

ดิสที่เห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจ

‘นึกว่าเป็นดารานักร้อง…’

ชายผมสีฟ้าผายมือไปทางเก้าอี้สองตัวที่ตั้งอยู่ข้างๆ โต๊ะ ตรงข้ามกับที่เขานั่งอยู่

“เชิญครับ”

“คะ.. ครับ”

ดิสตอบก่อนที่ราชาวดีจะพาเขาไปนั่งที่เก้าอี้

ชายผมฟ้ายิ้มให้เขานิดหน่อย ก่อนจะประสานมือรองใต้คาง

“สวัสดีครับคุณดิส ผมฟังเรื่องคุณจากราชาวดีมาเยอะ ผม ‘แทน’ ครับ”

พอกล่าวจบชายผมฟ้าหรือแทนก็ยื่นมือมาทางเขา

ดิสพยักหน้าให้อีกฝ่ายก่อนจะยื่นมือไปจับ

“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณแทน”

ถึงดิสจะไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา แต่เขาก็กำลังหัวเราะแห้งอยู่ในใจ

‘นี่สินะที่ราชาวดีบอกว่าเป็นความลับ… ความลับที่ขนาดหัวหน้ากิลด์ยังรู้’

เมื่อราชาวดีสังเกตแววตาของดิสก็พอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ หญิงสาวผมสีชมพูจึงยกมือขึ้นมาเกาแก้มตัวเองเบาพร้อมกับยิ้มแห้งออกมาเล็กน้อย

แทนหรือหัวหน้ากิลด์เทวะไม่รอช้า เขายิงคำถามเข้าประเด็นทันที

“คุณแน่ใจเหรอครับว่าครุฑที่โผล่มาในฝันคุณใช่ตัวเดียวกับที่พวกเรากำลังตามหา”

เมื่อดิสได้ยินแบบนั้นก็ส่ายหน้าไปมา

“ไม่แน่ใจครับ แต่จากที่ราชาวดีเล่าให้ฟังก็เป็นไปได้สูงที่จะเป็นตัวเดียวกัน”

เมื่อดิสพูดจบราชาวดีจึงกล่าวเสริม “ฉันแน่ใจค่ะ เพราะมันบังเอิญเกินไปที่จะที่ทุกอย่างจะเชื่อมโยงกันแบบนี้”

แทนที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้า ก่อนนิ่งคิดไปชั่วครู่

“ที่คุณพูดมามันก็มีเหตุผล” แทนกล่าวก่อนจะหันหน้าไปมองราชาวดีเล็กน้อย

“แต่คุณก็รู้ดีใช่มั้ยว่าความฝันมันมีน้ำหนักไม่เพียงพอที่จะให้สำนักงานพรานทมิฬหรือแม้แต่กิลด์ของเราเคลื่อนไหวได้”

ราชาวดีนิ่งไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินแบบนั้น “กิลด์ของเรามีชื่อเสียง การเคลื่อนไหวของเราจะถูกจับตามองจากสื่อต่างๆ ในประเทศ การที่เราเคลื่อนไหวเพราะความฝันของคนนอกที่ยังไม่ใช่พรานทมิฬด้วยซ้ำแบบนี้ อาจจะทำให้ความน่าเชื่อถือของกิลด์เทวะนั้นลดลง”

“สื่ออาจจะเอาเราไปเล่นในประเด็นจนเสียชื่อเสียงได้” พอว่าจบแทนก็หันมองไปทางดิส “เว้นแต่ว่า…”

ในคำพูดสุดท้าย แทนยิ้มอย่างมีเลศนัย แววตาที่มองมาทางดิสแฝงนัยยะอะไรบางอย่าง

ดิสที่เห็นแบบนั้นก็เลิกคิ้วเล็กน้อย “เว้นแต่ว่าอะไรเหรอครับ?”

แทนประสานมือวางบนโต๊ะด้วยแววตาที่จริงจังมากขึ้น

“เว้นแต่ว่าคุณจะเข้าร่วมกับกิลด์เทวะของเรา”

ดิสขมวดคิ้วก่อนจะหันมองทางราชาวดี

ถ้าว่ากันตามตรงเขาค่อนข้างจะไม่พอใจ เรื่องนี้มันเกี่ยวโยงมาถึงชีวิตของดิสโดยตรง การที่อีกฝ่ายเอาเรื่องนี้มาต่อรองกับเขา มันไม่ต่างจากการบังคับเลยแม้แต่น้อย

ราชาวดีที่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบกล่าวขัดบทสนทนา แต่แทนก็ยกมือปรามหญิงสาวโดยที่ไม่หันไปมองหน้าเธอด้วยซ้ำ

“พรสวรรค์ของคุณนั้นพิเศษมาก”

“เรื่องนั้นผมรู้ดี”

เมื่อแทนได้ยินแบบนั้นก็ผายมือออกกว้าง

“ถ้าอย่างงั้นคุณก็น่าจะเข้าใจที่ผมจะสื่อ ถ้าพรสวรรค์ของคุณอยู่ถูกที่มันจะเฉิดฉายด้วยชื่อเสียงที่โด่งดังของกิลด์เทวะ คุณจะยิ่งใหญ่ภายใต้สังกัดของพวกเรา”

เขาว่าก่อนจะฉีกยิ้มหวานขณะมองดิส “แล้วกิลด์ของเราก็จะเคลื่อนไหวได้ เพราะคุณที่เป็นสมาชิก”

ราชาวดีที่ได้ยินแบบนั้นหันไปมองดิสเล็กน้อย เธอคาดไม่ถึงว่าแทนจะแสดงจุดประสงค์ออกมาชัดและสุดโต่งขนาดนี้

‘สุดท้ายก็หนีไม่พ้นเรื่องชื่อเสียง…. นี่สินะธาติแท้ของวงการพรานทมิฬ’

ดิสคิดในใจขณะที่ยังหรี่ตามองอีกฝ่าย เขากลัวพญาครุฑก็จริง แต่ก็ไม่อยากจะผูกสัมพันธ์กับไอ้คนหลงตัวเองแบบนี้หรอก

“ผมขอปฏิเสธครับ”

เมื่อกล่าวจบหัวหน้ากิลด์ก็หุบยิ้มและนิ่งไป

ไม่เคยมีใครปฏิเสธเขามาก่อน การที่ดิสทำแบบนี้ไม่แตกต่างจากการหักหน้าเขาต่อหน้าผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างราชาวดีเลย

ดิสไม่ได้สนใจต่อหัวหน้ากิลด์คลาส S นัก เขาเพียงแค่หันไปมองราชาวดี

“นี่ใช่มั้ยเหตุผลที่วดีอยากให้เรามาพบกับเขานัก”

“ไม่ใช่แบบนั้น” ราชาวดีส่ายหน้าไปมา เธอแสดงความประหม่าออกมาเล็กน้อย “จริงอยู่ที่เราอยากให้ดิสเข้าร่วมกับกิลด์เทวะ แต่เราไม่ได้ต้องการจะบังคับดิส ถ้าดิสเข้าร่วมกับเรา ดิสจะปลอดภัย มันก็ไม่มีอะไรเสียหายสักหน่อย”

ดิสส่ายหน้าอ่อนพร้อมกับถอนหายใจออกมา

“มันเสียหายอยู่อย่างหนึ่ง”

ดิสว่าพร้อมกับจ้องไปในตาของราชาวดี “มันคือความไว้ใจ”

ถึงดิสพอจะรู้อยู่แล้วว่าเรื่องพรสวรรค์ของตนอาจจะมีคนใหญ่คนโตที่รู้จากราชาวดี แต่การที่ตนถูกพามาเจอกับสถานการณ์แบบนี้ก็ทำเขาผิดหวังไม่น้อย

ดิสไม่ชอบเลยกับการที่ความเป็นความตายของเขาถูกใช้เพื่อต่อรอง

เขาอยากจะออกไปจากห้องนี้ แต่ก่อนได้ลุก แรงกดดันมหาศาลก็กดทับร่างของเขาไว้จนขยับตัวไม่ได้

มัน… มากพอๆ กับในฝันที่เขาเจอกับพญาครุฑเลย

อึก…

พันธนาการจากพลังนี้มันแสนทรมาน

ดิสจ้องเขม็งตามองไปทางคนที่เป็นเหตุ ‘แทน’ ยิ้มหวานมองมาทางเขา แต่สายตานั้นจ้องราวจะกินเลือดเนื้อ

ราชาวดีเลิกคิ้วก่อนจะหันไปทางหัวหน้าตน “เดี๋ยวสิ อย่าทำร้ายเขา”

แทนไม่สนใจในคำพูดของหญิงสาว เขาจ้องไปทางดิสเหมือนเดิม ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“ผมให้โอกาสคุณตัดสินใจใหม่”

To be continued →