แมรี่คือใครวะ!?

1401 Words
รถเก๋งสีแดงขับเคลื่อนอยู่บนถนน ดิสมองท้องฟ้าในยามเที่ยงระหว่างจับพวงมาลัย นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วที่เขารับข้อเสนอของแทน พรุ่งนี้เขาก็ต้องถูกไต่สวน หลังจากนั้นจะกลายเป็นพรานทมิฬเต็มตัว ดิสมาขี่รถเล่นแบบนี้ทุกวัน มันทำให้ได้รู้สึกปลอดโปร่งเพลิดเพลินไปโลกภายนอก เขาจอดรถแวะข้างทางเมื่อเห็นร้านน้ำปั่น เปิดประตูลงมาก่อนจะควักกระเป๋าเงินและมองไปทางแม่ค้า “แอปเปิ้ลปั่นครับ” แม้ค้าแสดงสีหน้าตกใจที่เห็นเขา “คะ คุณคือคนในทีวีนี่ พรานเถื่อน!” ดิสหน้าแห้ง เหมือนเขาจะค่อนข้างดังเลยทีเดียว แต่มันไม่ใช่ในทางที่ดีเนี่ยสิ ชายหนุ่มปั้นยิ้ม ก่อนจะกล่าวอีกครั้ง “แอปเปิ้ลปั่นครับ” แม่ค้าแสดงท่าทางเงอะงะ แต่ก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรไปมากกว่านั้น เหมือนเธอจะเกร็ง ไม่สิ กลัวดิสไม่น้อย เขาถอนหายใจยืนรอตรงนั้น ไม่นานก็ได้สิ่งที่ต้องการ ดิสรับแก้วน้ำปั่นมาก่อนจะจ่ายเงิน ‘นึกว่าจะไม่ได้กินซะแล้ว…’ ดิสเดินตรงมานั่งที่เบาะรถโดยเปิดประตูค้างไว้ เขานั่งจิบน้ำปั่นชิลๆ ขณะมองรถบนถนนขับแล่น ถึงจะมีฝุ่นเยอะไปหน่อย แต่พอดูไปนานๆ ก็เพลินดี เคิดไปเรื่อยเรื่องกิลด์เทวะ จนในที่สุดไอเดียเจ๋งๆ ก็บังเกิด ชายหนุ่มคิดว่าสัญญา 1 ปีมันช้าไป เขารู้แล้วว่าทำยังไงถึงจะออกจากกิลด์เทวะเร็วขึ้น แต่คงต้องรอมันผ่านช่วงนี้ไปสักพัก เขาถึงจะดำเนินแผนตามที่คิดได้ แต่ในขณะนั้นก็มีก้อนหินเล็กๆ พุ่งมาที่ใบหน้าเขา ด้วยความไวที่มีบวกสัญชาตญาณ ดิสยกมือขึ้นรับได้ทันแล้วหันไปมองคนที่ขว้างมา คนที่เขาเห็นคือสาวสวยผมทองคนหนึ่งในสูทขาว เธอคงเป็นชาวต่างชาติสูงไม่เกิน 185 แต่ที่ทำดิสต้องเลิกคิ้วคือสาวสวยคนนั้นมีปีกขนาดใหญ่กางอยู่ที่ด้านหลัง มันมีสีขาวสง่าราวกับปีกหงส์ ดิสลุกขึ้นยืนพร้อมเดินลงมาจากรถ “ข้างนอกนี่ห้ามใช้พรสวรรค์ไม่ใช่เหรอ?” ดิสไม่เข้าใจหรอกว่าเธอปาหินใส่ตนทำไม แต่ที่เธอใช้พรสวรรค์โผล่มาหาเขาด้วยแบบนี้มันไม่ดีแน่ มันคือศาสตราทมิฬ นอกจากค้อนของมิกส์ เขาพึ่งจะเคยเห็นอันอื่นก็ตอนนี้นี่แหละ วงเวทย์สีขาวปรากฎที่มือหญิงสาว ก่อนจะมีดาบอัศวินยาวงอกออกมาถือไว้ “คุณ ‘แมรี่’ ต้องการพบตัวคุณ” ดิสเลิกคิ้วเมื่อได้ยินหญิงสาวพูดแบบนั้น “แมรี่ไหน?” หญิงสาวสะบัดปีกก่อนจะตั้งท่าโจมตี “ผู้นำของพวกเรา” ดิสจิ๊ปาก ไปกันใหญ่แล้ว ดูเหมือนฝั่งตรงข้ามจะถูกส่งมาโดยใครสักคน แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น สิ่งที่ดิสกังวลที่สุดคือ… มันต้องทำเขาเป็นข่าวอีกแน่ ประชาชนรอบๆ รีบหยิบมือถือมาถ่ายไว้ พร้อมกับมุงดูพวกเขา ‘แม่งเอ้ย พวกไทยมุง’ เขากำลังมีข่าวอยู่ แล้วเหตุการณ์แบบนี้ยังมาเกิดขึ้นให้มีข่าวต่ออีก เขาต้องรีบปรามอีกฝ่าย แต่จะว่าไป ฝรั่งคนนี้พูดไทยชัดดีแฮะ ดิสสลัดความคิด แล้วยกมือขึ้นปราม “ใจเย็นพวก คุณแมรี่ของเธอคือใครฉันไม่รู้จักหรอก แต่ถือดาบโผล่มาแบบนี้ตำรวจไม่ปลื้ม ไม่น่ารักเลยนะ วางลงก่อนเราคุยกันดีๆ ได้” หญิงสาวลดดาบลง ซึ่งนั่นก็ดีแล้ว ถ้าเขาใช้พรสวรรค์ตอนนี้ ปัญหาได้ใหญ่กว่าเดิมแน่ “งั้นยอมไปพบคุณแมรี่กับเรา” ดิสยังเลิกคิ้วต่อ “งั้นก็บอกมาสักทีสิว่าแมรี่เป็นใคร?” หญิงสาวยกดาบขึ้นมาอีกครั้ง “ถามมากน่ารำคาญ จะไปไม่ไป ลีลามากเดี๋ยวแม่ก็เจื๋อนทิ้งซะหรอก” ดิสกระตุกคิ้วเมื่อได้ยินหญิงสาวกล่าวแบบนั้น ‘ปากแซ่บจังวะ…’ เขาส่ายหน้า เหมือนจะเริ่มไม่ใจเย็นด้วยแล้ว “ไม่ไป ถ้าอยากคุยนักก็ไปเรียกคุณแมรี่บ้าบออะไรนั่นของเธอมาเอง” ดิสกล่าวก่อนจะหันหลังให้ 'คนอะไรหยาบคายชะมัด' เขาสงสัยแหละว่านี่มันเรื่องอะไร แต่จะอยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่จะทำเขาโดนคดีใหม่เพิ่มเท่านั้น ดิสเดินกลับแล้วกำลังจะขึ้นรถ แต่ทันใดนั้นก็มีชายในสูทดำคนหนึ่ง เดินแทรกฝูงชนตรงมาหาเขา “ไปหาคุณแมรี่” ดิสไม่ได้สนใจ เขากลับเข้าไปในรถและกำลังจะปิดประตู คดีเก่ายังไม่จบ เขาไม่อยากจะก่อคดีเพิ่มไปมากกว่านี้ ยิ่งคนมุงดูเยอะแบบนี้ เขายิ่งไม่อยากยุ่งไปกันใหญ่ แต่ในขณะที่ประตูรถกำลังจะถูกปิด มันกลับถูกกระชากทิ้งโดยชายคนนั้น ดิสมองรถคันใหม่ของเขาก่อนจะยกมือขึ้นกุมขมับ “เพิ่งได้มาเองนะเฮ้ย!” พอมองดูดีๆ ดิสก็พบว่ามีวงเวทย์สีขาวอยู่ที่หน้าผากชายคนนั้น เขาค่อยๆ กลายร่างเป็นกอริล่าขนาดเท่ารถบรรทุก ก่อนจะคำรามออกมา ฮ้ากกกกกก! ดิสมองตาปริบๆ เดินลงมาจากรถ ก่อนจะเริ่มบินขึ้นสูงเหนือพื้นดิน เขาหันไปมองกล้องมือถือของชายคนหนึ่งที่ถ่ายคลิป แล้วกล่าวเสียงเรียบ “ถ้าคลิปนี้ออกทีวี ให้รู้ไว้ด้วยว่าฉันป้องกันตัว ไม่ได้ตั้งใจจะทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด” พอว่าจบดิสก็หันไปมองทั้งสองคนแล้วยักไหล่ “เอายังอ่ะ” พอว่าจบกอริล่าก็คำรามดังอีกครั้ง ก่อนจะวิ่งฟาดงวงฟาดงาตรงมาหาดิส เขามองมันนิ่งๆ ก่อนจะเอียงตัวหลบด้วยความเร็วที่มากกว่า ชายหนุ่มเริ่มบินขึ้นสูงจนหญิงสาวผมทองต้องกระพือปีกบินตาม ‘นี่มันโฉ่งฉ่างชะมัด’ ดิสเดาะลิ้นก่อนจะหยุดค้างกลางอากาศ แล้วปล่อยคนที่บินตามมานั้นบินเลยผ่านไป เป้าหมายของเขาคือไอ้กอริล่า ดิสพุ่งตัวกลับลงมาที่พื้นก่อนจะปล่อยหมัดซัดเข้าที่ศีรษะนั้นอย่างแรงจนมันหมดสติ เขาสู้กับพรานทมิฬคลาส A สี่คนมาแล้วนะ แค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก ร่างกายอันบึกบึนของสัตว์ขนาดใหญ่ล้มตึงลงกับพื้นทับรถเขา ทำดิสต้องยกมือขึ้นกุมขมับอีกครั้ง “ไม่! รถกู!” ประชาชนแตกฮือเพราะการล้มลงของกอริล่าตัวนั้น ดูเหมือนแรงกระแทกจะทำพื้นสั่น จนประชาชนบางส่วนตกใจกลัวพากันวิ่งหนี หญิงสาวบินดิ่งลงมาหาดิสที่ลอยอยู่เหนือพื้น เธอง้างดาบฟันจนเสื้อดิสขาด แต่ชายหนุ่มตรงหน้ากลับไม่มีแม้รอยขีดข่วน ไม่แม้แต่จะขยับเขยื้อนเลยด้วยซ้ำ ดิสคว้าจับปีกเธอไว้ ขณะหญิงสาวตกตะลึง ก่อนจะเหวี่ยงเธอกลิ้งไปกับพื้น เขาเริ่มจะชินกับค่าพลังที่มากมายนี้แล้ว ในตลอดหลายวันที่ผ่านมาเขาฝึกฝนตลอด ไม่ได้อยู่เฉยๆ หญิงสาวผมทองยันกายลุกขึ้นคลาน แต่ในขณะนั้นดิสก็คว้าดาบมาจากมือเธอ แล้วใช้แรงมหาศาลดัดมันจนงอแล้วมัดตัวหญิงสาวไว้ เธอดีดดิ้นอยู่กับพื้น ก่อนดิสจะหยุดบินแล้วเดินไปดูรถของเขา เขาถอนหายใจเมื่อเห็นสภาพยับเยินดูไม่ได้ “ร้านไหนจะซ่อมได้บ้างเนี่ย?” แต่ในขณะนั้นก็มีชายสวมสูทอีกคนเดินตรงมาหาเขา ดิสหันไปมองก็สบเข้ากับดวงตาเย็นชาคู่นั้น วงเวทย์สีม่วงปรากฎอยู่ที่หน้าอกอีกฝ่าย “คุณและกลุ่มแมรี่อาจจะเริ่มต้นกันไม่ค่อยสวย ต้องขออภัย” หมอนั่นเดินมาหยุดตรงหน้าดิสก่อนจะยื่นแขนมาข้างหน้าหวังจะจับมือ “ผมชื่อชินครับ ต้องขอโทษแทนลูกน้องด้วย พวกนั้นค่อนข้างจะเป็นพวกใจร้อน แต่จริงๆ แล้ว พวกเรานั้นมาอย่างมิตร” ดิสหรี่ตามองชายคนนั้นที่อายุดูไม่ต่างจากเขานัก To be continued →
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD