ดิสยิ้มพลางกับมองไปยังพรานทมิฬทั้ง 5 คน ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยโทสะและพร้อมขย้ำเขาทุกเมื่อ
ในสนามของห้องซ้อมตอนนี้แบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือกลุ่มพรานทมิฬคลาส A ส่วนอีกฝั่งคือเด็กใหม่ที่ยังไม่ได้เป็นพรานทมิฬด้วยซ้ำ อย่างดิสและมิกส์
พรานทมิฬคนที่ยืนอยู่ตรงกลางยกมือขึ้นกอดอก “จะอวดดีก็ให้มันน้อยๆ หน่อย พวกเราที่นี่เป็นคลาส A กันหมด จะให้สู้แบบ 2 ต่อ 5 นี่ไม่กลัวตายเลยรึไง?”
ดิสหรี่ตามองอีกฝ่าย “ก็เพราะ 5 ต่อ 2 ไง พวกคุณจะได้ไม่ต้องกลัวแพ้”
พวกพรานทมิฬตอนนี้หัวเสียกันอย่างมาก มิกส์หายใจฟึดฟัดมองภาพนั้น อดีตบอดี้การ์ดหันมามองคนข้างๆ ก่อนจะกล่าวคำพูดเพื่อตอกย้ำจุดประสงค์
“แน่ใจนะว่าจะทำแบบนี้?”
ดิสหันไปมองอีกฝ่ายก่อนจะพยักหน้า
มิกส์หันไปจ้องทางกลุ่มพรานอีกครั้ง “งั้นก็ได้ ด้วยความมันมืออย่างยิ่งเลยล่ะ”
ดูเหมือนมิกส์จะรู้แล้วว่าใครที่เรียกตนว่า ‘ลูกกระจ๊อก’ มันคือคนซ้ายสุดของกลุ่มพราน และสิ่งที่ยืนยันได้ดีที่สุดคือมันก็จ้องเขม็งมาทางเขาเช่นกัน
“ตกลง อย่ามาร้องขอความเมตตาทีหลังแล้วกัน เพราะพวกเราจะไม่มีให้แก”
พรานทมิฬตรงกลางพูดขึ้นพลางกำหมัดแน่น ดูเหมือนเขาจะเป็นเหมือนตัวแทนของกลุ่มพรานในห้องนี้
ดิสหันไปมองทางมิกส์เล็กน้อย “นายไหวมั้ย อีกฝ่ายเป็นคลาส A เลยนะ”
เมื่อมิกส์ได้ยินก็ยักไหล่ “ก็ท้าไปขนาดนั้นแล้ว ไม่ไหวก็ต้องไหวแล้วล่ะมั้ง”
เมื่อเห็นว่าพวกตนไม่ได้ขัดข้อง อีกฝ่ายก็ตอบรับคำท้า ไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องรอแล้วล่ะ
ดิสฉีกยิ้มหวานก่อนจะกล่าวเสียงยียวน
“จะเอายังอ่ะ?”
เมื่อเห็นแบบนั้นกลุ่มพรานทมิฬก็ไม่ตอบอะไร สิ่งที่อีกฝ่ายทำมีแค่การกู่ร้องยกใหญ่ แล้วพากันวิ่งตรงเข้ามาหาคนทั้งสองเท่านั้น
มิกส์รีบเรียกวงเวทย์สีดำออกมากางตรงหน้าแล้วเดินทะลุกลายร่างตัวเองเป็นเหล็กกล้าทันที
พรานทมิฬคนที่อยู่ตรงกลางเป็นฝ่ายเปิดก่อน เขาเรียกวงเวทย์สีขาวมากางแล้ววิ่งทะลุเช่นที่มิกส์ทำ แล้วกลายร่างเป็นสิงโตเผือกขนาดใหญ่
สิงโตขาวตัวนั้นคำรามดังสนั่นลั่นห้อง ก่อนจะง้างกรงเล็บแหลมคมกระโจนเข้ามาหาดิส
โฮ้กกกกกก!
ขนาดของมันใหญ่กว่าดิสสักสองเท่าได้มั้ง แต่เขาไม่ได้แสดงความยำเกรงออกมาแต่อย่างใด นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ต่อสู้สักหน่อย
เขาปล่อยหมัดชกสวนเข้าเต็มใบหน้าสิงโต มันปลิวไปไกลจนกระแทกผนังหลังห้องดังสนั่น หมดสติไปในทันที
มิกส์และพรานทมิฬที่เหลือชะงัก ก่อนจะพากันมองดิสตาค้าง
‘ดูเหมือนพรานทมิฬคลาส A จะไม่คณามือเราซะแล้วล่ะ’
พลัง 200 นั้นทรงอานุภาพมาก มันสามารถล้มพรานทมิฬคลาส A ได้ภายในหมัดเดียวเท่านั้น ทั้งที่ว่ากันตามตรง เขายังไม่ได้ใช้แรงทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ
แต่พรานทมิฬพวกนั้นคงไม่ยอมแพ้กันง่ายๆ แค่นี้หรอก คนหนึ่งในกลุ่มตะโกนขึ้น เขาเป็นฮิลเลอร์ประจำแก๊งนี้
“ลุยเต็มที่เลย ฉันจะซัพพอร์ตพวกนายเอง!”
คำพูดนั้นเหมือนคำพูดปลุกใจ มันทำให้คนที่เหลือกลับมาฮึดสู้และกางวงเวทย์ขึ้นมาพร้อมกันหลากหลายสีแตกต่างกันไปตามคน
ฮิลเลอร์ใช้พลังปลุกสิงโตเผือกตื่นมาอีกครั้ง มันส่ายหน้าเพื่อให้หายเมาหมัด ดูจากสายตาแล้วมันคงจะโกรธแค้นดิสไม่น้อย
ชายหนุ่มไม่ได้ยำเกรงแต่อย่างใด เขาแค่อยากทดสอบพลังที่มีเท่านั้น
มิกส์ใช้โอกาสที่ทุกคนเพ่งสมาธิระวังดิสคนเดียว พุ่งตรงเข้าไปหาคนที่เคยเรียกตนว่าลูกกระจ๊อก แล้วรวบตัวโยนไปข้างห้องด้วยเรี่ยวมหาศาลของเกราะที่เขาเรียกว่าหมูเหล็ก
พรานทมิฬที่เหลือหันไปมองเพื่อนตนเองด้วยความตกใจ แต่ดิสก็กระแอมเบาๆ ดึงความสนใจกลับมาที่เขา
กลุ่มพรานอีก 4 คนไม่สนใจมิกส์ เขาดูถูกว่าเป็นแค่อดีตพรานทมิฬคลาส B จะสู้อะไรกับคลาส A
พวกมันทุ่มพลังทั้งหมดทุกคนไปยังดิส เพราะคิดว่าเพื่อนตนคนเดียวก็คงจัดการกับอดีตบอดี้การ์ดได้
ดิสก็หวังให้เป็นเช่นนั้น คลาส A คนเดียวก็หนักหนาสำหรับมิกส์แล้ว แต่ความเชื่อใจในสหายของตนก็มากเช่นกัน เขาเชื่อว่ามิกส์ต้องชนะ
แต่ตอนนี้เขาต้องโฟกัสกับสิ่งตรงหน้าก่อน
กลุ่มพรานที่เหลือ 4 คนไม่รอช้า คนนึงเรียกวงเวทย์เล็งมายังดิสก่อนจะมีสายฟ้ายิงตรงใส่ร่างเขาอย่างแรง
เปรี้ยงงงง!
ดิสเซสองสามก้าว ในขณะนั้นอีกคนก็มีวงเวทย์ปรากฎตรงข้อเท้า ทันทีที่สายฟ้าหยุดโจมตี มันก็พุ่งด้วยความเร็วที่มีมาต่อยดิสจากทุกด้าน
ร่างดิสปลิวตามแรงหมัดอีกฝ่าย แต่มันก็พุ่งมาดักทางแล้วโจมตีเขาไม่ยั้งจนกระเด็นไปมาราวกับลูกปิงปอง ด้วยความเร็วที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่ามันเหมือนลอยไปมากลางอากาศ
ดิสทนอยู่นานแล้ว เขายอมให้อีกฝ่ายโจมตีก็เพราะอยากลองวัดว่าตัวเองอึดขึ้นแค่ไหน แต่ผลที่ได้รับก็คือ… เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยสักนิด
ดิสพลิกตัวกลางอากาศขณะกระเด็น ร่างที่ควรจะพุ่งชนกำแพงของเขา ยืนค้างอยู่เหนือพื้นพร้อมกับยกมือขึ้นกอดอกมองอีกฝ่ายอย่างพินิจ
‘พรสวรรค์ของทั้ง 4 คนคือ สิงโตเผือก สายฟ้า ความเร็ว และฮีลเลอร์สินะ’
พวกนั้นจ้องมองดิสด้วยความตกตะลึงอีกครั้ง ดูเหมือนการทุ่มสุดตัวของพวกเขาจะไม่ระคายผิวดิสสักนิด
แรงกดดันมหาศาลปกคลุมไปทั่วกลุ่มพรานทมิฬในทันใด ขนาดที่ดิสนั้นยังไม่ได้แผ่ออร่าออกมาด้วยซ้ำ
‘เราแข็งแกร่งขนาดไหนวะเนี่ย? ’
ความสงสัยเดียวที่ดังก้องในหัวทุกคนคือ ‘อย่าบอกนะว่าไอ้หมอนี่คือคลาส S เหมือนกับหัวหน้ากิลด์’
ในขณะที่ความเงียบกำลังปกคลุมห้องซ้อม ดิสก็ยิ้มออกมา “ได้เวลาผมโชว์บ้างแล้วล่ะ”
ดิสบินพุ่งตรงไปหยุดตรงหน้าฮิลเลอร์ ในขณะที่เจ้าตัวยังไม่ทันได้กระพริบตาเลยด้วยซ้ำ
‘ถ้าจัดการหมอนี่ก่อน คนที่เหลือก็จะฟื้นตัวไม่ได้’
ดิสกระแทกหมัดที่ท้องของฮิลเลอร์คนนั้นเบาๆ แต่มันกลับแรงจนทำอีกฝ่ายจุกจนล้มลงคุกเข่าอ้วกอาหารที่กินมาทั้งหมดลงพื้น
สิงโตเผือกคำรามลั่น มันไม่สนแล้วว่าดิสจะแข็งแกร่งขนาดไหน เขาทำกับเพื่อนของมันแบบนี้ ดิสต้องได้ชดใช้
มันอ้าปากโชว์เขี้ยวอันแหลมคมแล้วพุ่งตัวเข้ามากัด แต่…. กัดไม่เข้า
มันกัดเข้าเต็มลำตัวของดิส ขบกรามแน่นกะจะบดและฉีกเนื้อของอีกฝ่ายให้ไม่เหลือชิ้นดี แต่ร่างกายของอีกฝ่ายนั้นกลับไม่เป็นอะไรเลยสักสิด มันไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนเลยด้วยซ้ำ
ดิสหันไปมองด้วยใบหน้าอันเย็นชาไร้ซึ่งรอยยิ้มใดๆ อีกแล้ว เขายกมือขึ้นสูงก่อนจะออกแรงตบเข้าไปที่ใบหน้าราชสีห์อย่างแรง ร่างมันหมุนควงสว่านกลางอากาศทันที
ดิสไม่หยุดเพียงเท่านั้น เขาต่อยมันซ้ำอีกครั้งจนร่างกระเด็นกลิ้งไถลไปกับพื้นจนหมดสติเป็นครั้งที่ 2
พรานทมิฬอีกสองคนหน้าเสีย ใจตกไปอยู่ตาตุ่ม นี่มันไม่ใช่การต่อสู้ นี่มันการฆาตกรรมหมู่ชัดๆ
คนที่ใช้สายฟ้ากางวงเวทย์ขึ้นมาอีกครั้ง เขาจะไม่ยอมแพ้หรอก เขามีศักดิ์ศรีมากพอ อสนีบาตลูกใหญ่จากวงเวทย์พุ่งตรงไปกระแทกร่างดิสอย่างจัง แต่คราวนี้อีกฝ่ายกลับไม่ขยับแม้แต่ก้าวเดียว
“สะ สัตว์ประหลาด…” คนที่เพิ่งโจมตีอย่างสูญเปล่าไป กล่าวเสียงสั่น
ดิสที่เสื้อขาดหลุดลุ่ยเหลือเพียงกางเกงจ้องมองไปทางอีกฝ่ายอย่างไม่สบอารมณ์นัก “ผืนที่ 2 ของวันแล้วนะรู้มั้ย”
ว่าจบเขาก็พุ่งไปประชิดตัวอีกฝ่ายด้วยความเร็ว หลังจากนั้นก็ตบไปที่ใบหน้าเบาๆ
ร่างพรานทมิฬคนนั้นกระเด็นกลิ้งไปกับพื้นแล้วนิ่งไป ตอนนี้เหลือเพียงชายที่วิ่งเร็วเท่านั้น
พรานทมิฬคนสุดท้ายยกมือขึ้นปรามดิสด้วยอาการสั่นกลัว “ยะ ยอมแล้ว ใจเย็นก่อนนะ เดี๋ยวจะซื้อเสื้อใหม่ให้”
ดิสยักไหล่ “พอดีไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน”
มันรู้ทันทีว่าตนคือรายต่อไปแน่ พรานทมิฬสับเท้าวิ่งสุดความสามารถ ถึงจะสู้ไม่ได้ แต่มันมั่นใจว่าเร็วกว่าแน่นอน
แต่ขณะที่วิ่งอยู่กลับต้องชะงักไป ดิสพุ่งมาดักหน้าอีกฝ่ายด้วยความเร็วที่เหนือกว่า
'มะ มันเร็วกว่าเรา!'
พรานทมิฬเบรคเท้ากะทันหันก่อนจะเสียหลักล้มกลิ้งไปกับพื้น พรานทมิฬคนนั้นเจ็บระบมไปทั่วทั้งตัว เขาลุกขึ้นคลานต่อด้วยความสิ้นหวัง
‘ใช่แน่ ไอ้นี่มันคลาส S แน่ๆ ’
เขาแน่ใจในระดับของดิส เขาหนีไม่พ้นแน่ แรงกระแทกจากการเสียหลักเมื่อกี้มันสร้างความเสียหายอย่างมาก
ดิสถอนหายใจอ่อน แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายเหม็นหน้าตน แต่เขาไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้น ดิสไม่ซ้ำคนที่ล้มแล้วหรอก
ดูเหมือนระดับของเขาตอนนี้จะเหนือกว่าพรานทมิฬคลาส A เป็นอย่างมาก
ดิสเบนสายตาจ้องไปยังมิกส์ เขาอยากรู้ว่าตอนนี้การต่อสู้ทางฝั่งนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง
มิกส์กำลังซัดกับพรานทมิฬคนนั้นอย่างสูสี พรสวรรค์ของอีกฝ่ายคือการเทเลพอร์ต
มันกางวงเวทย์ขึ้นที่ใต้เท้าและหลบการโจมตีของมิกส์ไปมาอย่างรวดเร็ว มิกส์นั้นเหนือกว่าด้านพละกำลังและทักษะ แต่ด้วยความต่างของระดับมานามิกส์จึงด้อยกว่าด้านพรสวรรค์
พรานทมิฬเทเลพอร์ตมาโผล่ด้านหลังของมิกส์พร้อมรถมอเตอร์ มันตกลงทับร่างแต่ด้วยเกราะเหล็กกล้าที่คุมร่าง มิกส์ฉีกระชากมันทิ้งได้อย่างไม่ยากนัก
อดีตบอดี้การ์ดวิ่งตรงไปหาคู่ต่อสู้ แต่ก่อนจะถึงตัวมันก็หายไปอีกครั้ง
มิกส์เดาะลิ้นอย่างไม่พอใจนัก อีกฝ่ายวาร์ปหลบเขาแบบนี้เป็นสิบกว่ารอบได้แล้วมั้ง
พรานทมิฬคลาส A เทเลพอร์ตมาด้านหลังเขาอีกครั้ง แต่คราวนี้มันมาพร้อมกับเครื่องช๊อตไฟฟ้า
มันยิ้มอย่างชะล่าใจ กะจะใช้ไฟฟ้าช๊อตเหล็กที่เป็นตัวนำเพื่อเผามิกส์ที่อยู่ด้านใน
มิกส์กระตุกยิ้มก่อนจะหันไปถีบมันเข้าที่ท้องอย่างรวดเร็วจนมองแทบไม่ทัน
ร่างพรานทมิฬกระเด็นกลิ้งไปกับพื้นแต่ยังไม่สลบ
“แกนี่เดาทางง่ายชะมัด” มิกส์กล่าวยิ้มๆ พร้อมกับเดินตรงไปหาอีกฝ่ายที่นอนจุกเพราะการถีบของตน
“ทีนี้ใครล่ะลูกกระจ๊อก?” เขาว่าก่อนจะถีบเข้าที่หน้าอีกฝ่ายซ้ำอีกครั้งจนมันสลบไป
ดิสยกมือขึ้นกอดอกมองการต่อสู้นั้น มิกส์นั้นไม่ธรรมดาจริงๆ ถึงพรานทมิฬคลาส A จะมีระดับมานาที่เหนือกว่า แต่ทักษะและประสบการณ์นั้นเทียบกันไม่ได้จริงๆ กับอดีตบอดี้การ์ด
ดิสหันมองพรานทมิฬพรสวรรค์ความเร็วที่คลานอยู่บนพื้น เขาเดินตรงไปหาก่อนจะกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายลุกขึ้นมา
พรานทมิฬยกมือขึ้นบังด้วยสัญชาตญาณความกลัว ดิสไม่ได้จะโจมตี
“พวกคุณแพ้แล้ว รักษาสัญญาด้วยล่ะ”
พอดิสว่าจบก็ปล่อยร่างนั้นลงกับพื้นอย่างเก่า
ดิสเดินผ่านร่างหมดสภาพของพรานทมิฬทั้ง 5 ตรงไปยังประตู วันนี้เป็นวันที่ดีจริงๆ
ดิสนั้นพอใจแล้ว เขาได้ทดสอบพลังจนหายสงสัย แถมยังได้ซัดกับคนจริงๆ ไม่ใช่มอนเตอร์ ตอนนี้เขาหมดธุระที่นี่แล้ว ควรจะกลับสักที
มิกส์แปรเปลี่ยนกลับร่างเนื้ออีกครั้งก่อนจะบิดขี้เกียจ “นานๆ ได้ออกแรงแบบนี้ก็ไม่เลว”
เขาค่อยๆ เดินตามดิสออกไปพลางกับกล่าวไล่หลัง “ดุขึ้นเยอะนะเราอ่ะ”
ดิสหันไปมองระหว่างเดิน “แน่นอน”
มิกส์ยิ้มหรี่ตามองอีกฝ่ายเมื่อได้ยินแบบนั้น “นี่กะจะโชว์ซิกแพ็คเดินทั่วตึกเลยใช่มั้ย?”
To be continued →