บทที่ 6
แรงดึงดูด
NAMWHAN'S PART :
ครืด...ครืด...
“ว่าไงมิริน” ฉันกดรับสายมิรินพร้อมกับเอ่ยทักทาย
(วันนี้หวานว่างรึเปล่า ฉันเหงาอ่า)
“ว่าแล้วเชียว...เหงาเก่งจังนะ” ฉันอดขำกับน้ำเสียงออดอ้อนของมิรินแทบไม่ได้ เธอเหงาเก่งชอบชวนไปเที่ยวบ่อย
(ออกไปข้างนอกกันน้า ฉันไม่อยากอยู่บ้าน)
อันที่จริงเธอก็เคยเล่าเรื่องภายในครอบครัวของเธอให้ฉันฟังมาบ้างแล้วล่ะ สาเหตุที่เธอไม่ชอบอยู่บ้านก็เพราะว่าเธออยู่กับพ่อแล้วก็แม่เลี้ยง มิรินเล่าว่าเธอชอบมีปัญหากับแม่เลี้ยงด้วยเรื่องที่มีปากเสียงทั่วๆ ไปตามประสา เลยทำให้เธอเลี่ยงที่จะเจอกับเธออยู่ตลอด
“ก็ดีเหมือนกัน ฉันเหงาอยู่พอดีเลย”
(งั้นอีกครึ่งชั่วโมงฉันไปรับที่คอนโดนะ)
“โอเคจ้า เจอกันนะ”
ฉันวางสายไปก่อนจะลุกขึ้นไปเปลี่ยนชุดทันที ดีเหมือนกันเพราะฉันอยู่คนเดียวก็เบื่อๆ ออกไปข้างนอกบ้างก็ดีอุดอู้อยู่แต่ในห้องมาหลายวันแล้ว
อ้อ...ส่วนเรื่องคุณต้นเขาก็มาหาฉันบ้างแต่ฉันก็ได้ข่าวมาว่าเขายุ่งๆ เรื่องที่คลับแล้วก็เรื่องผู้หญิงบ้างตามประสาผู้ชาย
เพราะเวลาเขาพาฉันไปที่คลับฉันก็เห็นว่าเขาพาพวกสาวๆ มาไม่ซ้ำหน้าสักครั้ง แต่มันก็ดีแล้วล่ะเพราะฉันรู้สึกว่าเขาเริ่มทำตัวแปลกไป แล้วอีกอย่างเขาก็เป็นผู้ชายที่เจ้าชู้เขาชอบมองฉันด้วยสายตาที่ไม่น่าไว้ใจ
คือฉันไม่ได้จะบอกว่าเขาชอบฉันหรอกนะ
เวลาที่ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ใกล้กันบ่อยๆ มันจะเกิดแรงดึงดูดบางอย่างซึ่งไม่ใช่แต่ฉันแต่ฉันเชื่อว่าถ้าเขาอยู่ใกล้กับผู้หญิงคนอื่นๆ ก็เป็นเหมือนกัน
นี่ก็เป็นเวลาสองเดือนแล้วที่ฉันมาอยู่ในการดูแลของเขาฉันก็ยังทำหน้าที่เป็นเด็กในการปกครองของเขาอยู่เช่นเดิมถึงฉันกับเขาจะไม่ค่อยได้คุยอะไรกับมากแต่เขาก็ยังคอยโอนเงินและฝากของมากับลูกน้องเขาเสมอ
ติ๊ง!
Mirinn : ฉันรออยู่ที่ล็อบบี้นะ
NWH : จ้า ฉันกำลังลงไป
ฉันพิมพ์ตอบมิรินกลับไปก่อนจะรีบลงลิฟต์ไปยังล็อบบี้ทันที
@K-Store
ฉันกับมิรินเรามาเดินห้างและมาหาอะไรทานด้วยกันที่ห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโดมากนัก
“เราไปไหนกันต่อดี” มิรินถามขึ้นหลังจากเดินออกจากร้านเสื้อผ้าซึ่งเธอซื้อมาเยอะจนเต็มทั้งสองมือแล้ว
“มิรินเธอจะซื้อหมดทั้งห้างไม่ได้นะ” ฉันรีบเอ่ยห้ามทันที เพราะตอนนี้ข้าวของมากมายอยู่ในมือของเพื่อจนกลัวว่าแขนจะหักเข้าสักวัน
ฐานะทางบ้านมิรินงดีมากเลยล่ะ พ่อของเธอเป็นเจ้าของบริษัทส่งออกเครื่องดื่มรายใหญ่ของประเทศ ไม่แปลกที่เธอจะช้อปเก่งขนาดนี้
“ก็ฉันอยากได้นี่ เห็นแล้วอยากได้ไปหมดเลย”
“ฉันล่ะอิจฉาเธอจริงๆ เลยมิริน” ฉันพูดไปตามตรง นึกสะท้อนใจนิด ๆ กับโชคชะตาของตัวเอง
“อย่าคิดแบบนั้นสิหวาน ชีวิตฉันเป็นยังไงเธอก็รู้นี่มันก็แค่ความสุขภายนอกเท่านั้นแหละ”
“เลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่า เห็นบอกว่าอยากได้รองเท้าไม่ใช่เหรอ ไปดูร้านนั้นกัน” ฉันรีบเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา ก่อนจะจับจูงมือของเพื่อนไปยังร้านรองเท้าที่มิรินเคยพูดให้ฟังอยู่บ่อย ๆ
“จริงด้วย ลดอยู่พอดีเลย”
เมื่อมาถึงที่ร้านรองเท้าเจ้าตัวก็เดินไปดูรองเท้าที่ตั้งโชว์อยู่ที่ชั้นด้วยความสนใจ ฉันที่มองการกระทำนั้นก็อดที่จะยิ้มตามออกมาไม่ได้ความสุข
“สวยจัง...แต่...แพงมาก” ฉันหยิบรองเท้าคู่หนึ่งขึ้นมาดูซึ่งเป็นรองเท้าแตะรัดส้นตกแต่งด้วยวัสดุรูปเพชร แต่ไม่นานก็ต้องรีบวางกลับที่เดิมเพราะราคาป้ายที่ติดอยู่นั้นห้าหลักปลาย ๆ เลยทีเดียว
“ไม่ยอมรับโทรศัพท์ที่แท้ก็แอบหนีเที่ยวนี่เอง”
ทว่าเสียงเข้มอันคุ้นเคยเอ่ยขึ้นทำให้เงยหน้าขึ้นไปมองกระทั่งเกิดความตกใจเมื่อพบว่าคนคนนั้นคือคุณต้นที่กำลังหยุดยืนอยู่ตรงหน้า พร้อมกันนั้นก็มีผู้หญิงหน้าตาสะสวยที่กำลังยืนกอดแขนเขาอย่างสนิทสนม
“คะ...คุณต้น!”
“ตกใจมากเหรอ” เขายังทำหน้ากวนฉันไม่เลิก
“เอ่อ สวัสดีค่ะ...คุณต้นมาซื้อของเหรอคะ”
“อืม แล้วทำไมไม่รับสายฉัน”
“หนูปิดเสียงไว้เลยไม่ได้ยินค่ะ ขอโทษนะคะ” ฉันตอบเสียงแผ่วอย่างรู้สึกผิด
“พี่ต้นขา คู่นี้สวยจังเลยค่ะ” คนข้างกายของคุณต้นชี้ไปที่รองเท้าคู่ที่ฉันหยิบมาดูเมื่อกี้ด้วยความสนใจ ซึ่งมันเป็นคู่ที่ฉันเพิ่งจังวางไปเมื่อครู่
“ไม่เห็นสวยเลย ไปดูคู่อื่นเถอะ” คุณต้นบอกแบบนั้นก่อนที่เธอจะเดินไปเลือกรองเท้าคู่อื่น พลันทำให้ฉันรีบวกสายตากลับมาเพราะเพิ่งรู้ตัวว่าให้ความสนใจกับพวกเขามากเกินไปแล้ว
“หวานคู่นี้สวยมั้ย” เสียงมิรินถามพร้อมกับวิ่งมาหาฉัน
“สวยดีนะ”
“อ้าว...สวัสดีค่ะอาต้น มาซื้อของเหรอคะ”
“อ่า...ใช่ครับ” คุณต้นชะงักไปชั่วขณะ แต่แล้วเขาก็ตอบรับกลับมาแต่ไม่วายส่งสายตาคาดโดทษมาให้ฉัน
“งั้นตามสบายนะคะ หวานฉันเลือกไม่ถูกเลยอะว่าจะเอาคู่ไหนดี”
“ฉันชอบคู่นี้นะ ฉันว่ามันใส่ได้กับทุกชุด”
“จริงด้วย งั้นฉันเอาคู่นี้แหละ ฉันไปจ่ายเงินก่อนนะ” มินรินเดินจากไปพร้อมกับรองเท้าคู่ที่เลือก
“หนูขอตัวก่อนนะคะ” ฉันหันกลับมายังคุณต้นที่ยังยืนอยู่ นึกแปลกใจอยู่เหมือนกันที่เขายังไม่ไปกับคนควงของเขาสักที แถมสีหน้าและท่าทางก็ดูเหมือนว่าเขากำลังมีเรื่องจะถามกันอีกด้วย
“เดี๋ยว”
“คะ...”
“ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย งั้นคืนนี้ฉันไปหานะ”
“ได้ค่ะ” ฉันตอบรับทันที ใบหน้าก็พยักรับหงึก ๆ
“เอ๊ย! ไม่ดีกว่า...”
“ทำไมคะ?”
“ฉันโทรไปดีกว่า มันน่าจะดีกว่า”
“...” ฉันนิ่งมองหน้าเขาด้วยความแปลกใจ
“ฉันว่ามันคงไม่ดีเท่าไหร่ที่ฉันไปหาเธอบ่อยๆ เธอเป็นผู้หญิง”
“อะไรนะคะ?”
“หูตึงหรือไง”
“ไม่เห็นต้องสนใจเลยนี่คะ นั่นมันเป็นห้องของคุณ”
“เอาเถอะ ฉันไม่อยากให้คนอื่นมองเธอไม่ดี”
“ขอบคุณนะคะ คุณเองก็มีมุมแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย น่ารักดี อ๊ะ...” ฉันรีบยกมือปิดปาก รู้ตัวว่าเมื่อครู่นี้เผลอพลั้งพูดคำที่ไม่ควรออกไป
บ้าจริง...เมื่อกี้ฉันบอกว่าเขาน่ารักงั้นเหรอ?
แล้วคุณต้นเขาจะคิดยังไงล่ะเนี่ย!?
“หวาน ฉันซื้อเสร็จเรียบร้อย”
แต่ก็เหมือนว่าดชคจะเข้าข้าง มิรินเดินเข้ามาหาพร้อมกับคล้องแขนทำให้ฉันละสายตาไปมอง เช่นเดียวกับคุณต้นที่ปรับเปลี่ยนสีหน้าให้เป็นปกติ ก่อนที่จะฉันเอ่ยลาและเดินจากไป
“เอ่อ หนูขอตัวก่อนนะคะคุณต้นสวัสดีค่ะ”
“มิขอตัวนะคะสวัสดีค่ะอาต้น”
ให้ตาย...ฉันพูดอะไรออกไป ดูท่าแล้วคุณเองก็น่าจะตกใจกับคำพูดของฉันมากด้วย
- NAMWHAN’S PART ; END -
TON'S PART :
@ZXCLUB
หลังจากที่ผมไปซื้อของที่ห้างเสร็จผมก็กลับมาที่คลับทันที ผมไม่คิดว่าจะเจอยัยเด็กน้ำหวานที่นั่นมันเป็นเรื่องบังเอิญมากๆ แล้วก่อนหน้านั้นผมก็โทรหาเธอ เธอก็ไม่รับสายเพราะออกมาเที่ยวโดยที่ไม่บอกผมนั่นแหละ
ช่วงนี้ผมค่อนข้างห่างกับเธอไม่ค่อยได้ไปหาเธอเหมือนช่วงแรก อาจจะมีโทรหาบ้างแต่ก็นานๆ ที คือจริงๆ มันก็ควรเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วล่ะเพราะเธอก็ไม่ได้เป็นอะไร ผมไปหาเธอบ่อยๆ คนอื่นจะคิดไม่ดีเข้าน่ะสิ
แล้วก็อีกอย่างคือผมไม่อยากอยู่ใกล้เธอมากเท่าไหร่ เพราะทฤษฎีแรงดึงดูดระหว่างชายหญิงซึ่งผมไม่เคยเชื่อเลยแต่เมื่อมาอยู่กับเธอทำให้ผมรู้แปลกๆ
ซึ่งเป็นธรรมดาที่เวลาผมอยู่ใกล้ผู้หญิงมันก็เกิดพลังงานบางอย่างที่ทำให้ผมอยากเข้าไปค้นหา
ผมก็เลยกลัวว่าเกิดอยู่ใกล้ชิดกับเธอนานๆ เข้ามันจะไม่เป็นแค่แรงดึงดูดน่ะสิ…
ผมหยิบโทรศัพท์กดโทรหาปลายสายซึ่งก็คือยัยเด็กน้ำหวานนั่นแหละเพราะผมมีเรื่องที่จะให้เธอช่วยนิดหน่อย
(สวัสดีค่ะคุณต้น)
เธอรับสายก่อนจะเอ่ยเสียงใสตอบรับ
“ทำอะไรอยู่ จะนอนรึยัง” ผมถามกลับ เพราะนี่มันก็ตีหนึ่งกว่าแล้วกลัวจะรบกวนเวลานอนของเธอ
(ยังค่ะ หนูรอคุณต้นอยู่นี่แหละมีธุระอะไรรึเปล่าคะ)
“ฉันมีเรื่องให้เธอช่วย”
(เรื่องอะไรคะ บอกมาได้เลยค่ะหนูยินดีช่วยคุณต้นอยู่แล้ว)
“ที่คลับฉันขาดคนดูแลเพราะคนที่ทำหน้าที่นี้เขาลาออกไป ฉันเลยยังหาคนแทนไม่ได้”
(อย่างนี้ก็แย่เลยนะคะ)
“ฉันอยากให้เธอมาทำหน้าที่นี้แทนสักระยะหนึ่ง”
(แล้วหนูต้องทำอะไรบ้างคะ)
“เธอก็แค่ทำตามคำสั่งฉัน หน้าที่หลักๆ ก็คือคอยเช็กสต๊อกของว่าขาดเหลืออะไรบ้างในแต่ละวัน”
(...)
“เธอต้องคอยเช็กว่าเครื่องดื่มชนิดไหนที่หมดหรือชนิดไหนที่เหลือเยอะแล้วสรุปยอดมาให้ฉัน”
(...)
“แล้วก็พวกอุปกรณ์ต่างๆ ว่ามีอะไรที่ชำรุดหรือพังก็เช็กจำนวนและสรุปยอดทำการสั่งซื้อใหม่”
(ได้ค่ะ สบายมาก)
“ฉันอยากให้เธอมาเริ่มงานพรุ่งนี้เลย เธอสะดวกมั้ย”
(ได้ค่ะสะดวกค่ะ หนูเลิกเรียนแล้วจะรีบไปนะคะ)
“เธอมาเองได้ใช่มั้ยพอดีฉันไม่ว่างไปรับ”
(ได้ค่ะ แค่นี้เองหนูไปได้อยู่แล้ว)
“อืมฉันจะรออยู่ที่คลับนะ ฉันไม่รบกวนเวลานอนเธอแล้ว นอนเถอะ”
(ค่ะ ฝันดีนะคะคุณต้น)
“อืม...ฝันดีเช่นกันนะ” ผมกดวางสายพร้อมกับความรู้สึกที่นิ่งเงียบ
คือที่เงียบไม่ใช่เพราะอะไรนะ ผมกำลังสับสนว่าผมกำลังเป็นอะไรอยู่กันแน่
ก่อนจะวางสายผมเผลออมยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
นี่แรงดึงดูดมันติดต่อกันทางโทรศัพท์ได้ด้วยเหรอวะเนี่ย...
- TON’S PART ; END -