“อุ๊ย!” เธอโดนหนามตำเพราะช่วยเขาถอนหญ้า กันภัยรีบเข้ามาดูแผลให้แฟนสาวในทันที
“เป็นยังไงบ้าง” เขาใช้ผ้าขาวม้ากดแผลห้ามเลือดให้เธอ
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“ไปนั่งก่อนครับ” เขาพาเธอไปนั่งใต้ร่มไม้ก่อนจะล้างแผลใส่ยาให้ รันนรินทร์แอบมองคนช่วยทำแผลให้เธออย่างเบามือก็อมยิ้ม กันภัยอ่อนโยนและห่วงใยเธอเสมอ แรกๆ เลยเขาไม่ได้จีบเธอหรอก เธอเองที่ใจกล้าหน้าด้านจีบเขาก่อน มีมะปรางคอยเป็นแม่สื่อแม่ชักให้และเพิ่งรู้หลังจากเป็นแฟนกันว่า... กันภัยก็แอบชอบเธอเหมือนกันแต่ไม่กล้า รู้สึกมีความสุขที่เธอกับเขาใจตรงกัน
“เพี้ยงๆๆ หายนะครับ ขวัญเอ๊ยขวัญมา”
“เจ็บจังเลยค่ะ” เธออ้อน
“ทำยังไงดีครับ ถึงจะหาย” เขาเงยหน้ามองเธออย่างเป็นห่วงเป็นใย
“นอนตักพี่กันได้ไหมคะ เผื่ออาการจะดีขึ้น” เธออ้อนหนักขึ้น เขาก็ตบตักของตัวเองเบาๆ ให้เธอล้มตัวลงนอนด้วยความยินดีอย่างไม่เกี่ยงงอน
กันภัยลูบศีรษะของเธอไปมาอย่างแสนรัก ปัดปอยผมนุ่มสลวยให้ละไปจากใบหน้าสวยใส ลมพัดเย็นสบายทำให้เธอหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข
กันภัยก้มมองคนที่นอนหนุนตักแล้วหุบยิ้มไม่ได้ เธอน่ารักน่ามอง ดูยังไงก็ไม่เบื่อ เธอไม่ได้สวยหยดแต่สดใสน่ารัก อยู่ด้วยแล้วทำให้มีความสุข ทำให้หัวใจของเขาชุ่มชื่นจากที่เคยแห้งแล้งมานาน กลับกลายเป็นคนมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจนขึ้น
“รันทำให้พี่กันเสียเวลาทำงานหรือเปล่าคะ” คนขี้อ้อนลืมตาก่อนจะเอ่ยถาม อยากอ้อนเขาแบบนี้บ่อยๆ นอนหนุนตักเขาแล้วอบอุ่นปลอดภัย มีความสุข หัวใจของเธอเต้นแรง เลือดลมสูบฉีดอย่างไม่เคยเป็นกับผู้ชายคนไหนมาก่อน
“ไม่เลยครับ พี่อยากให้รันอยู่ใกล้ๆ แบบนี้แหละ ถ้ารันเป็นเมียพี่ พี่ก็อยากดูแลรันให้ดีที่สุด อยากให้รันสบาย ไม่ลำบาก คอยพี่อยู่บ้านก็พอแล้ว พี่ออกไปทำงานเอง จะหาเงินให้ได้เยอะๆ รันจะได้สบายไง”
“ไม่เอาหรอกค่ะ แบบนั้นกินแรงพี่กันน่ะสิคะ” ถึงเธอจะถูกเลี้ยงดูมาให้เป็นคุณหนูแต่เด็ก แต่เธอก็อยากใช้ชีวิตให้มีคุณค่าเหมือนคนอื่นเช่นกัน เธอคิดว่าคนเราหากได้ทำงานหรือทำอะไรบ้าง ชีวิตจะไม่น่าเบื่อและมีเป้าหมาย ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ
“พี่ไม่อยากให้เมียลำบากนี่ครับ”
“ใครได้เป็นเมียพี่กันโชคดีมากๆ เลยนะคะ” เธอยิ้มหวานให้เขา มองสบตากันแล้วยิ้ม มันหุบยิ้มไม่ได้เลยจริงๆ
“พี่ต่างหากที่อยากเป็นคนโชคดี ได้ดูแลผู้หญิงตรงหน้า” เขาไล้แก้มนวลของเธอเบาๆ รันนรินทร์จับมือของเขามากุมเอาไว้ เธอหลับตาลงอย่างมีความสุข ไม่มีคำพูดใดๆ อีก มีเพียงความรู้สึกอ่อนหวานที่ถ่ายทอดให้กันและกันเท่านั้น
“แอบหนีมาหาพี่แบบนี้ พ่อกับแม่ของรันไม่ว่าเอาเหรอครับ” เขาไม่ค่อยสบายใจเรื่องนี้นัก
“คุณพ่อกับคุณแม่ไม่รู้หรอกค่ะ”
“พี่ไม่อยากหลบๆ ซ่อนๆ”
“รันก็เหมือนกันค่ะ แต่เราต้องรอเวลา” เธอรู้ดีว่าบิดามารดาเป็นคนเช่นไร พูดเรื่องนี้ครั้งใดก็รู้สึกเครียดอย่างบอกไม่ถูก
“มาอยู่ที่นี่นี่เอง คิดเอาไว้ไม่มีผิด!” เสียงของมารดาทำให้รันนรินทร์สะดุ้งสุดตัว เธอลุกขึ้นจากตักของแฟนหนุ่มอย่างรวดเร็ว
“คุณแม่!”
“ใฝ่ต่ำ” เสียงของบิดาทำให้เธอตกใจเข้าไปอีก
“อย่านึกนะว่าฉันไม่รู้ แกแอบลักลอบมาหามันนานแค่ไหนแล้ว” บิดายังคงเกรี้ยวกราดสีหน้าบ่งบอกว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
“คุณพ่อกับคุณแม่ ฟังรันก่อนนะคะ”
“ฉันกับพ่อของแกส่งแกไปเรียนกรุงเทพฯ ไปอยู่กับยายของแก เพื่อให้แกได้เรียนหนังดีๆ มีรสนิยมดีๆ การศึกษาสูง แต่แกกลับตาต่ำมาพลอดรักกับไอ้กระจอกนี่” คุณรำเพยพูดอย่างผิดหวัง อยากให้บุตรสาวได้แต่งงานกับผู้ชายดีๆ อย่างเช่นลูกผู้ว่าราชการจังหวัด หรือลูกเศรษฐีสักคน แต่อีกฝ่ายกลับมาคบกับผู้ชายจนๆ กระจอกงอกง่อย หาเช้ากินค่ำแบบนี้ ไม่รู้ว่าสติดีอยู่หรือเปล่า
“ผมรักรันจริงๆ นะครับ” กันภัยยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เขาเป็นลูกผู้ชายพอ กล้าทำก็ต้องกล้ารับ
“รักเหรอะ! คิดจะเกาะชายกระโปรงลูกสาวของฉันใช่ไหม แกก็รู้ว่ายัยรันน่ะระดับไหน แล้วแกระดับไหน ริจะมาเด็ดดอกฟ้า ไม่เจียมกะลาหัว ความรักบ้าบออะไร ไปพูดกับเด็กปัญญาอ่อนเถอะ!” คุณรำเพยด่าทอไม่ยั้ง
“คุณแม่คะ พี่กันเป็นคนดีนะคะ”
“คนดีแล้วมันกินได้ไหมล่ะ” คุณรำเพยตวาดลั่น สีหน้าบ่งบอกว่าหงุดหงิดอย่างที่สุด
“แกดูบ้านมันกระจอกแค่ไหน ห้องเก็บของบ้านเรายังดูดีกว่าเลย” คำพูดดูถูกนั้นทำให้กันภัยหน้าชาเป็นแถบๆ
“มานี่เลยยัยรัน!” คุณประจวบเรียกบุตรสาวเสียงเข้ม แต่รันนรินทร์ยังปักหลักอยู่ที่เดิม
“ไปดึงตัวลูกสาวฉันมาเดี๋ยวนี้!” คุณประจวบสั่งคนของท่านเสียงเข้ม
“ปล่อยนะ!”
“อย่าทำแบบนี้เลยครับ” กันภัยเข้าขวาง เขาโดนชายฉกรรจ์ซึ่งมากับคุณประจวบเตะต่อยจนล้มคว่ำ ซึ่งคนเหล่านี้เป็นคนของรชต ลูกชายคนโตที่เลี้ยงเอาไว้ใช้สอยเป็นมือเป็นเท้า ตามทวงหนี้และอื่นๆ แล้วแต่นายจะสั่ง
“คุณพ่ออย่าทำอะไรพี่กันนะคะ” รันนรินทร์ทำท่าจะวิ่งเข้าไปหากันภัย เห็นเขาโดนต่อยเลือดกบปากก็ตกใจไม่น้อย ไม่หนำซ้ำยังโดนรุมซ้อมกระทืบเสียแทบจมดิน “คุณพ่อ อย่าทำอะไรพี่กันเลยนะคะ รันขอร้อง” รันนรินทร์อ้อนวอนขอร้องบิดา กอดแขนกอดขาท่านร้องไห้น้ำตาไหลพราก
“ฉันจะไม่ทำอะไรมันก็ได้ แต่แกห้ามมาเจอมันอีก” คุณประจวบยื่นคำขาด
“แต่รัน” รันนรินทร์มองสภาพของกันภัยแล้วจำต้องรับคำบิดา
“ไม่นะรัน พี่รักรัน โอ๊ย!” แค่พูดออกมาก็โดนกระทืบเสียจมดิน กันภัยยกมือขึ้นไขว่คว้า มองร่างแฟนสาวเดินจากไปอย่างอาลัยอาวรณ์
“ปล่อยสิ บอกให้ปล่อย คุณพ่อ พอเถอะค่ะ” เธอดิ้นรนแต่ไม่หลุดจากเงื้อมือของลูกน้องบิดา
“แกกับลูกสาวของฉันมันคนละชั้นกัน อย่าให้รู้ให้เห็นอีกนะว่าแกแอบมาพบกับลูกสาวของฉัน ไม่อย่างงั้นแกตายแน่!” คุณประจวบมองกันภัยด้วยสายตาดูแคลน
“ผมรักน้องรันจริงๆ นะครับ จะตั้งใจเก็บเงินมาสู่ขอตบแต่งไม่ให้อายใคร”
“กระจอกอย่างแกเหรอะ จะมาสู่ขอลูกสาวฉัน ถุย!” คุณประจวบพูดอย่างดูถูกเหยียดหยาม
“สินสอดลูกสาวฉันสิบล้านแกมีปัญญาไหมล่ะ ถ้าไม่มีก็ไสหัวไปไกลๆ ซะ อย่าหาว่าฉันไม่เตือน” คุณรำเพยเบ้ปากอย่างดูถูกดูแคลน
กันภัยฟังแล้วให้หดหู่ใจยิ่งนัก ถ้าเขารวยถึงขนาดนั้นก็คงดี เงินสิบล้านไม่รู้ต้องหาอีกกี่ปี แค่เงินเก็บไม่กี่หมื่นบาทเขาก็ดีใจมากแล้ว มีความหวังว่าจะรวบรวมเงินไปสู่ขอรันนรินทร์ให้ครบแสน แต่ถ้าสิบล้านเขายังไม่รู้จะไปหามาจากไหน
“เงียบทำไมล่ะ น้ำหน้าอย่างแกแสนนึงก็ไม่มีปัญญา!” คุณรำเพยบิดปากอย่างน่าเกลียด
“เงินทองไม่สำคัญหรอกค่ะ คนดีๆ ไม่ใช่จะหากันได้ง่ายๆ นะคะ พี่กันเป็นคนดีนะคะคุณพ่อคุณแม่ ได้โปรดเห็นใจความรักของเขาด้วยเถิดค่ะ”
“ที่แกเป็นอยู่สุขสบายทุกวันนี้ไม่ใช่เพราะเงินทองหรือไง มันหมดยุคสมัยกัดก้อนเกลือกินแล้ว ความดีของแกมันกินได้ไหมล่ะยัยรัน เดี๋ยวนี้มันต้องเงินต่อเงิน” คุณรำเพยว่าใส่หน้าบุตรสาว รันนรินทร์ไม่อยากเถียงจึงเงียบเสีย แต่เธอตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน
“จำเอาไว้ นี่แค่สั่งสอนอย่ามายุ่งกับลูกสาวของฉันอีก ไอ้กระจอก!” คุณประจวบพยักหน้าให้คนของท่าน ลากบุตรสาวกลับบ้าน ในขณะที่พูดทิ้งท้ายเอาไว้ให้กันภัยเจ็บช้ำน้ำใจกว่าเดิม
กันภัยค่อยๆ ลุกอย่างทุลักทุเล เขาล้มลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง ก่อนที่ใครคนหนึ่งจะมาช่วยฉุดเขาขึ้นจากพื้น