บทที่ 4 จงมาถูหลังให้สามี

1363 Words
            ร่างใหญ่ในชุดเจ้าสาวสีแดงมีลายปักดิ้นทองอยู่ทั่วตัวหงายผลึงลงเตียงใหญ่นางผงกศีรษะขึ้นมามองหน้าสวามีเล็กน้อย ปากอูมอิ่มขยับขึ้นลง             “ดีจริง! เช่นนั้นเตียงนี้เป็นของหม่อมฉัน”             อ๋องเก้ามองดูหมีขาวตัวใหญ่กลิ้งไปมาบนเตียงวิวาห์ แขนขากลมใหญ่นั้นตีไปมากับฟูกอย่างมีความสุข ก็รู้สึกคล้ายตนเองพลาดไปหนึ่งก้าว นางดูอัปลักษณ์ขนาดนี้น่าจะอยากให้สามีอย่างเขาอยู่กับตน ควรที่จะอยากได้รับการยอมรับในฐานะพระชายา แต่ท่าทางของนางในยามนี้คล้ายไม่มีเขาจะดียิ่ง แม้แต่การเป็นพระชายานางก็ไม่ได้แยแส เนื้อตัวอ้วนกลมนั้นกลิ้งไปมา เครื่องหน้าจุ๋มจิ๋มบนใบหน้าอวบอูมนั้น ขาวผ่องดูน่าจิ้มเล่นไม่น้อย วูบหนึ่งท่านอ๋องนึกอยากจะแกล้งนาง             “จะอย่างไร คืนนี้ก็เป็นคืนเข้าหอ ข้าจะต้องนอนบนเตียงกับเจ้า”             “เอ๋! ไม่ดีหรอกเพคะ” นางเอียงหน้ากลมใหญ่มาทางเขา             “หรือเจ้าจะให้ข้า ต้องทำให้ผ้าพรหมจรรย์มีรอยเลือดเล่า?” อ๋องเก้าแสร้งทำหน้ากรุ้มกริ่ม             หมีขาวตัวใหญ่ในชุดแดงถึงกับผวา “โอ๊ะ! อย่าเลย ตัวหม่อมฉันไม่มีส่วนเว้าส่วนโค้งเร้าใจที่ใด ท่านอ๋องไม่น่าจะพิศวาส เอาเป็นว่า เราแบ่งเตียงคนละส่วนก็แล้วกัน” นางถอดสายรัดเอวขึ้นมาทำเขตแดน ส่วนของนางกินพื้นที่สามในสี่ “ท่านตัวไม่ใหญ่ นอนแค่นั้นก็คงพอ”             ดวงตาคมเฉียงหรี่ลงมองนาง ริมฝีปากบางค่อนข้างกว้างของเขาเม้มเข้าเล็กน้อย “เช่นนั้นข้านอนด้านในจะดีหรือไม่? จะได้ไม่โดนเจ้ากลิ้งชนจนตกเตียง” จมูกโด่งรั้นเล็กเชิดขึ้นอย่างลืมตัว “หม่อมฉันไม่ได้นอนกลิ้งสักหน่อย แค่ผายลมบ่อยแค่นั้นเอง”             “หา!” อ๋องเก้าถึงกับอ้าปากค้าง “ผายลมหรือ?”             “ใช่! ร่างกายหม่อมฉันใหญ่ถึงเพียงนี้ จึงควบคุมการผายลมไม่ค่อยได้” องค์หญิงหานซู่ลี่ข่มความอายนำเอาเรื่องน่าขายหน้ามาข่มขู่ หวังให้อ๋องเก้าสละเตียงนอนให้ตน ชายหนุ่มที่รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาเยี่ยงนี้ คงจะถือตัวยิ่งนัก เขาเองก็มีชายาคนงามถึงสองนางอยู่แล้ว ย่อมรู้สึกรังเกียจเจ้าสาวอ้วนใหญ่แถมชอบผายลมเป็นแน่             “เพื่อเป็นการแก้ปัญหานี้ ข้ากับเจ้าต้องนอนหันหน้าเข้าหากัน เจ้าต้องถือพัดไว้ด้วย หากเจ้าผายลมก็จงพัดออกไปจากเปิ่นหวาง” อ๋องเก้าทำหน้านิ่งจนหานซู่ลี่ตกใจที่เขาคิดจะนอนร่วมเตียงกับนาง แถมยังให้นอนหันหน้าเข้าหากันอีก นางรีบหาทางออกจากความอึดอัดนี้   “หม่อมฉันขอไปอาบน้ำก่อนก็แล้วกัน ท่านอ๋องโปรดรออาบทีหลัง” อ๋องเก้าพยักหน้าอนุญาต ‘หมีขาวเจ้านี่มันลีลาเยอะจริงๆ ข้าอยากจะดูนักว่า ถ้าข้าบีบคั้นเจ้าจะทำอย่างไร?’ ท่านอ๋องนึกอยากเอาชนะนางขึ้นมา จึงนั่งรอจนนางกำนัลเข้ามาช่วยอาบน้ำแต่งตัวให้นางหลังฉากจนเสร็จ จากนั้นเหล่าคนรับใช้ชายจึงเข้ามาเตรียมน้ำอุ่นให้  ท่านอ๋อง เขาโบกมือให้ทุกคนออกไปแล้วจึงลงอาบน้ำในถัง “น้องหญิง เจ้ามาถูหลังให้ข้าหน่อย” องค์หญิงได้ยินก็ตะลึง “หา! ท่านว่าอะไรนะ?” “ข้าเรียกเจ้า มาถูหลังให้สามีสักหน่อย” น้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนโยนแต่เจือแววหยอกล้อดังมาอีก หานซู่ลี่จำใจเดินเข้าไปหลังฉากนั้น ในอ่างไม้ใบใหญ่มีไอน้ำร้อนลอยกรุ่น ชายหนุ่มเปลือยอกร่างกำยำ ปล่อยผมยาวสยาย ร่างของเขาอีกครึ่งจมอยู่ในน้ำ แขนสองข้างทาบไปตามแนวขอบถังไม้ “เจ้าเห็นผ้าหรือไม่?” มืออวบอูมจนแทบกลมป้อมของนางกำผ้าผืนเล็กลงชุบน้ำอุ่น ค่อยๆ เช็ดไปตามคอและลาดไหล่ นางไม่กล้าแม้จะเหลือบแล ท่านอ๋องเอื้อมมือมาทาบบนก้อนกลมนุ่มที่กำผ้าแน่น “เจ้าต้องทำเช่นนี้” เขาเห็นท่าทางขัดเขินของนางก็รู้ว่า นางคงไม่เคยเห็นชายเปลือยกายมาก่อน จึงหันหน้าไปหาแล้วจับมือนางมาถูแถวหน้าอกของตน “ที่จริงแล้วควรจะต้องถูด้านล่างด้วย” “ไม่นะ เพคะ” นางลนลานใบหน้าแดงก่ำ “เช่นนั้นก็ถูตรงนี้ด้วย” ท่านอ๋องดึงมือนางยื่นเข้าไปซอกแขนของตนทั้งสองข้าง “ในเมื่อข้าต้องนอนดมกลิ่นเจ้าผายลม เช่นนั้น เจ้าก็ต้องถูรักแร้ให้ข้าด้วย” มือที่ถูกเขากุมอยู่ส่งแรงร้อนผ่าว แปลบปลาบสะเทือนถึงหัวใจ ผิวของนางแดงไปถึงใบหู เบือนหน้าไปอีกทาง อ๋องเก้ายิ้มขำ เจ้าหมีตัวนี้น่ารักน่าหยอกเสียนี่กระไร “ท่านควรแต่งตัวได้แล้ว ประเดี๋ยวจะไม่สบาย” นางสะบัดหางเสียง “ถ้าน้องหญิงว่าเช่นนั้น ข้าก็จะรีบไปเข้านอน” เขาทำเสียงล้อเลียนเหมือนว่านางเร่งเร้าให้ไปเข้าหอ “หม่อมฉันหมายถึง น้ำเย็นแล้วต่างหาก” นางปลดมือออกจากการเกาะกุมช้าๆ แล้วเดินออกไปรอที่เตียง             ชายหนุ่มในชุดนอนถือผ้าเช็ดผมเดินตามมา “น้องหญิง ช่วยเช็ดผมให้ข้าที”             องค์หญิงที่นอนเอกเขนกบนเตียงจำต้องลุกขึ้นนั่ง รับผ้าจากเขาไปเช็ดผมให้ นางแกล้งยีแรงๆ             “เจ้าทำขนาดนี้ เส้นผมของสามีคงจะขาดหมดแล้ว”             หานซู่ลี่กระพริบตาปริบๆ ‘อ๋องเก้าเพี้ยนหรือไร จึงอยากจะหยอกล้อข้า’ นางไม่กล้าโต้ตอบได้แต่เช็ดผมให้เขาเงียบๆ             “เจ้าคงไม่ได้มีขนาดตัวเช่นนี้ตั้งแต่เด็กหรอกนะ ข้าเคยได้ยินข่าวลือว่า เจ้ารูปร่างสวยงาม อรชรอ้อนแอ้นยิ่งนัก” จู่ๆ ชายหนุ่มก็ถามขึ้นมา ทำเอานางตั้งตัวไม่ถูก             “เอ่อ....ร่างกายข้าเพิ่งผิดปกติไม่นานมานี้” นางนึกเรื่องโป้ปดไม่ทัน ในเมื่อแต่งงานหนีฮ่องเต้จอมเจ้าชู้ได้แล้ว ก็น่าจะเล่าให้ท่านอ๋องฟังได้             “เป็นเพราะเหตุใด?”             “หมอหลวงบอกว่า เป็นเพราะหม่อมฉันกินของแสลงกับร่างกายเข้าไป”             “อาการนี้มีหนทางรักษาหรือไม่?” ลึกๆ อ๋องเก้าก็นึกอยากเห็นนางเมื่อก่อนหน้านี้ นางที่ทุกคนลือกันนักว่า งามล่มเมือง             “คงจะไม่ เพราะเรื่องแบบนี้เกิดกับหม่อมฉันคนเดียว” นางรีบดักคอไว้ ไม่ให้เขามีความหวังจะรักษานาง มิฉะนั้นเขาก็ต้องหวังจะกินนางแน่ๆ แล้วนางก็ย่อมจะไม่มีอิสระ             น้ำเสียงที่ปฏิเสธไม่มีความเสียใจอยู่แม้แต่น้อย             “ผมแห้งพอดี น้องหญิงเรานอนกันเถิด” ท่านอ๋องหยิบผ้าเปียกไปตากไปบนฉากที่อาบน้ำ หยิบพัดกลมมาให้นางที่นั่งรอบนเตียง “นี่พัดของเจ้า”             ชายหนุ่มรูปงามหันใบหน้ามานอนประจันกับนาง ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนสบดวงตาน้ำตาลเข้มของเขาแล้วใจเต้นไม่เป็นส่ำ นางกลัวท่านอ๋องจะได้ยินเสียงหัวใจของนางเต้นโครมครามอยู่ข้างใน ใครใช้ให้เขาหล่อเหลาถึงเพียงนี้ แพขนตาหนาหลุบลง คิ้วเข้มเฉียงคมมีรอยย่นเล็กน้อยที่หัวคิ้ว             “เจ้าจะมองข้าอีกนานไหม? หรือไม่อยากนอน แต่อยากทำอย่างอื่น”             นางตกใจ รีบร้องตอบ “นอนเพคะ นอน”             อ๋องเก้ามองหน้าขาวอูมที่ตรงหน้า ผิวของนางขาวกว่าคนแคว้นหมิงมาก ละเอียดลออน่าสัมผัส ปากนิดอูมหน่อยนั้นเป็นสีชมพูระเรื่อ จมูกโด่งรั้น คิ้วนางหนาและโค้งไม่มากนัก เขาอดใจไม่ไหว ยื่นมาข้างหน้า งอนิ้วชี้และนิ้วกลางหนีบรูดจมูกของนางเบาๆ             “หลับตาได้แล้ว”  ************************      
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD