“ที่พูดเมื่อสักครู่ ไม่รู้จริงๆ หรือ.. แกล้งยั่วเรากันแน่”
อีซาเลิกคิ้วคมเข้มถามด้วยดวงตาเป็นประกายกล้ามีแววล้อเลียนชัดเจน มาเลย์น่าสบตาเขาไม่ยอมหลบ แฝงเอาไว้ด้วยความไม่เข้าใจ แววตาท้าทายหวานล้ำของคนตรงหน้า ทำให้อีซาหัวเราะเบาๆ อย่างถูกใจ
“ฝ่าบาททรงหมายถึงอะไรหรือเพคะ”
หญิงสาวถามเสียงหวาน
เขาไม่ตอบคำถาม แต่ไล้ฝ่ามือไปตามใบหน้าสวยหวานเบาๆ สายตาคมกวาดไล้ไปทั่ว ระเรื่อยไปยังเรือนร่างกลมกลึงสมส่วน มาเลย์น่ารู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ขาสั่นจนแทบทรุดแต่ยังพยุงกายอยู่ได้เพราะอ้อมแขนที่รัดไปรอบร่างอวบอิ่ม
“ไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่รู้”
อีซาถามย้ำอีกครั้ง เขารุ่มร้อนแทบจะทันทีที่ได้สัมผัสร่างนุ่มนิ่มของคนในอ้อมแขน ตอนมองเธอในท้องพระโรง เขาหัวใจหวั่นไหวมากมาย แต่เมื่อได้สัมผัสแนบชิดมากกว่ามอง กลับทำให้สั่นไหวซ่านไปทั่วอกมากกว่าเดิมหลายเท่านัก
มาเลย์น่าเผยอริมฝีปากน้อยๆ เหมือนชวนเชิญ แต่เธอทำด้วยความเผลอไผล ไม่รู้จะตอบคำถามเขาเช่นไรดี อีซาไม่อยากรับฟังอันใดอีกแล้ว ริมฝีปากหยักหนาร้อนรุ่มกดจุมพิตประทับกลีบปากอิ่มหวาน เมื่อสิ้นสุดการรอคอย ร่างระหงผวาสะท้าน ประกายไฟแล่นไปทั่วเรือนร่าง สัมผัสเช่นนี้ช่างคุ้นเคยอบอุ่นหวามในอก เหมือนเป็นสิ่งที่รอคอยมานานแสนนาน
ลำแขนแกร่งโอบกอดรัดรึงแนบแน่น ปลายลิ้นอุ่นตวัดไล้เลียไปทั่วกลีบปากสีสดเพื่อเชยชิมความหอมหวาน มือใหญ่ลากไล้นวดคลึงไปทั่วเรือนร่าง
ร่างงามอ่อนระทวยต่อสัมผัสของบุรุษเพศ ยิ่งมือแกร่งนวดคลึงหนักหน่วงขึ้น ริมฝีปากรุ่มร้อนดูดเม้มรุกเร้ากลีบปากหวานฉ่ำไม่แพ้กัน อารมณ์หวามก่อเกิดไหลวนไปทั่วเรือนร่างโดยไม่สามารถห้ามความต้องการทางธรรมชาติได้
ร่างเพรียวเผยอกลีบปากคราง เมื่อโดนเคล้นคลึงหนักมือขึ้น ลิ้นอุ่นร้อนที่รอจังหวะดูดกลืนความหวานในโพรงปากจึงมีโอกาสสอดแทรกชิวหาเชยชิมมากขึ้น
ริมฝีปากหยักหนาบดคลึงจุมพิตร้อนแรง ร่างระหงสั่นสะท้านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ลิ้นอุ่นหนาเก็บกวาดดูดกลืนความฉ่ำหวานในโพรงปากด้วยความหิวโหย ยิ่งดื่มด่ำความหอมหวานมากขึ้นเพียงไร ยิ่งเพิ่มความต้องการมากขึ้นจนแทบสำลัก ลิ้นเล็กสอดประสานไร้เดียงสา จึงโดนดูดกลืนกระหน่ำไม่หยุดหย่อน ความต้องการแห่งบุรุษเพศพุ่งสูงขึ้นจนเกินหักห้ามกายใจได้
ใบหน้าคมเข้มถอดถอนออกด้วยดวงตาพร่างพราย มาเลย์น่ากะพริบตาด้วยความงุนงงสงสัย ดวงตาคมหวานปรือหยาดเยิ้มมองหน้าหล่อเหลาของเขาด้วยความเสน่หาไม่ต่างกัน อีซาหัวเราะเสียงทุ้มแหบพร่า ลำแขนกำยำตวัดอุ้มกวางน้อยแสนหวานขึ้นในอ้อมแขน เพียงไม่กี่ก้าว ถึงแท่นบรรทมเบื้องหน้า
“รู้ไหมว่ามองแบบนี้ เป็นการเชิญชวนขนาดไหน”
น้ำเสียงทุ้มหวานแหบพร่าระคนเอ็นดู ดวงตาคมเข้มไล้มองร่างระหงที่นอนระทดระทวยเย้ายวนบนเตียงกว้างด้วยความพึงพอใจ
“ฝ่าบาท”
เสียงสั่นน้อยๆ แต่เซ็กซี่เป็นสุดในความคิดคำนึงของเขา เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากใบหน้าหล่อเหลาต่อเนื่อง
“ทำเสียงแบบนี้น่ารักจังฮันนี่ อยากรู้ว่าเธอจะมีวิธีการเช่นไรมัดใจผู้ชายให้หลงใหล ถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น ให้ฉันได้ดูความงดงามของเธอหน่อย”
อีซาพูดเสียงแหบห้าว มือใหญ่รั้งมือเรียวสวยขึ้นจากเตียงกว้างให้เธอลงไปยืนหน้าเตียง เรือนร่างสูงขึ้นไปนั่งบนเตียงแทนเพื่อมองหญิงสาวได้ถนัด
มาเลย์น่าสั่นสะท้านจากสายตาคมที่กำลังมองลามเลียไปทั่วเรือนร่าง
“ฝ่าบาท”
มาเลย์น่าถอนเท้าหนี แต่ถูกรั้งเอาไว้อย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้หนีเขาไปได้
“ยั่วให้ฉันต้องการเธอมากขึ้นเรอะ”
คิ้วเข้มดกหนาเลิกขึ้นเมื่อเห็นเธอคิดหนี คิดว่าเธอยั่วให้เขาต้องการเธอมากเป็นทวีคูณ แต่นั่นทำให้ตื่นเต้นมากกว่าหญิงสาวที่เคยพานพบมา หญิงสาวพวกนั้นคอยจะปรนนิบัติไม่กล้าขัดใจเขา จนน่าเบื่อหน่ายมากกว่าน่าอภิรมย์ในความคิดของเขา
มือใหญ่เอื้อมไปปลดชุดสวยเนื้อผ้าบางเบาแนบกายรัดรึงออกด้วยความใจร้อน ทำให้เสื้อผ้าหลุดจากเรือนร่างในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมกับปลิวไปตกรอบกายโดยที่เขาหาสนใจไม่
มาเลย์น่าอุทาน ยกมือปกปิดเรือนร่างด้วยความตระหนก
“ฝ่าบาทอย่าเพคะ”
หญิงสาวห้ามปรามเสียงสั่น นึกหวั่นใจในความใจร้อนของเขา
ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาแย้มยิ้มด้วยดวงตาเป็นประกายแต่หาได้โกรธกริ้วไม่
ร่างระหงเปลือยเปล่าถูกรั้งให้นอนบนเตียงกว้างอีกครั้ง หญิงสาวหลับตาด้วยความอับอายขัดเขินยิ่งขึ้น ที่ต้องเปลือยกายต่อหน้าบุรุษเพศเช่นนี้ ใบหน้านวลแดงระเรื่อจนลามไปทั่วตัว
ดวงตาคมเข้มสีนิลมองไล้ร่างเปลือยอย่างพึงพอใจ ร่างเพรียวระหงกลมกลึง ทุกสัดส่วนอวบอิ่มน่าสัมผัส ผิวสีน้ำผึ้งเนียนนุ่มดุจแพรไหม ยามมือแกร่งลูบไล้ก็สั่นสะท้านหวามไหวเรียกร้องให้อยากคลุกเคล้ามากยิ่งขึ้น
ริมฝีปากร้อนรุ่มกดจุมพิตกลีบปากแสนหวานที่ทำให้เขาติดใจในรสชาติ มือใหญ่กอบกุมอกอวบอิ่มทั้งสองข้างพร้อมกับขยำเคล้นคลึงหนักๆ
ริมฝีปากอิ่มเผยอออกเพื่อครางเสียงกระเส่า เรือนร่างร้อนรุ่มดุจดั่งไฟกองใหญ่ที่ลามเลียไปทั่วเรือนกาย เขาผละออกเพียงไม่กี่อึดใจเพื่อปลดเปลื้องอาภรณ์ออก แล้วกลับมาคลุกเคล้าเล้าโลมดังเดิม
มาเลย์น่าเบิกตามองร่างเปลือยที่สวยงามแกร่งกล้าของเขา เธอไม่เคยเห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าของบุรุษเพศเช่นนี้มาก่อน
เรือนร่างชายงดงามกำยำอุดมไปด้วยมัดกล้ามชวนคลั่งไคล้ไหลหลง ดวงตาคมหวานไหววูบ เริ่มใจสั่นเกินบรรยาย ยิ่งเห็นความองอาจแกร่งกล้าอยู่เบื้องหน้า ยิ่งอยากหลับตาหนี แต่ทำไม่สำเร็จ กลับจ้องมองเหมือนต้องมนตร์สะกด
อีซาเลิกคิ้วคมเข้มมองใบหน้าสาวน้อยที่กำลังแดงก่ำด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
มาเลย์น่าอายจนหน้าแดง หลบใบหน้าหันหนีไปทางอื่นทันที มือใหญ่รั้งคางเรียวสวยให้หันกลับมาสบในตาสีนิลด้วยอำนาจที่มีอยู่เปี่ยมล้น รวมถึงความเอาแต่ใจอย่างที่ไม่เคยถูกขัดใจมาก่อน
ดวงตาคมหวานสบกับเขาด้วยความตระหนก ริมฝีปากหยักหนากดจุมพิตหนักหน่วง ร่างสูงทาบทับแทรกระหว่างเรือนร่างเย้ายวน มือทั้งสองข้างจับเรียวขาเพรียวให้แยกออกจากกัน มาเลย์น่าอุทานอีกครั้ง ตกใจในท่วงท่าน่าอายเสียเปรียบเช่นนี้ ลิ้นอุ่นหนาคลุกเคล้าเชยชิมความหวานในโพรงปากอุ่น มือแกร่งเลื่อนไปนวดคลึงสะโพกผายไล้วนขึ้นไปตามสีข้างเพื่อเกาะกุมปทุมถันอวบอิ่มแล้วขยำเคล้นคลึงความนุ่มนิ่มนั้น
ลิ้นเรียวเล็กโดนดูดดึงระรัวไม่อาจห้ามปรามได้ ความแข็งแกร่งที่ผงาดกล้ากำลังถูไถกับกลีบดอกไม้งามเบื้องล่างจนคนใต้ร่างแทบขาดใจจากความเสียวซ่านกระสันที่แล่นไปจับทั่วร่าง
กลีบปากฉ่ำหวานสีสดช้ำสุดแสนเมื่อริมฝีปากหยักหนาละออก มือใหญ่เลื่อนไปลูบไล้ริมฝีปากของคนใต้ร่างอย่างทะนุถนอม ริมฝีปากน้อยเผยอหอบหายใจสะท้านเสียงกระเส่า
“รู้ไหมว่าหอบกระเส่าแบบนี้คือการยั่ว”
อีซาพูดด้วยน้ำเสียงเอ็นดูปะปนกับลมหายใจหอบแรงไม่ต่างกับคนใต้ร่าง เขาต้องการเรือนร่างงามบรรเจิดเบื้องหน้าอย่างที่สุด
“ฝ่าบาท” มาเลย์น่าเรียกเขาเสียงหวานสะท้านเครือ
“กอดฉันเดี๋ยวนี้”
เสียงแหบทุ้มหวานสั่งข้างใบหูนุ่มนิ่มหอมกรุ่น อ้อมแขนของหญิงสาวโอบรอบเรือนกายแข็งแกร่งด้วยความมึนเมาในรสเสน่หา
ใบหน้าคมเข้มก้มลงเชยชิมลำคอระหงโดยการดูดเม้มด้วยความกระหายไม่คลาย เสียงหอบหายใจที่รุนแรงกำลังทำให้เธอไม่มีสติที่จะคิดอันใด
“เปิดทางให้ฉันเดี๋ยวนี้” เสียงทุ้มสั่นพร่ายังสั่งคุกคามตามติด
มาเลย์น่าแหงนเงยใบหน้าไปด้านบนให้เขาซุกไซ้ได้เต็มที่ สร้างความพอใจให้เขาเป็นอันมาก มือใหญ่ทั้งสองยังนวดคลึงยอดถันสีสด เพื่อรอคอยให้ริมฝีปากหยักหนาลงไปเชยชิมเป็นสิ่งต่อไป