เขาจับนางโยนเข้ารถม้า จนนางเกือบทะลุไปอีกด้านหนึ่งที่เป็นหน้าต่างและฉีเทียนเหล่ยก็รีบขึ้นรถม้าตามขึ้นมา นางรีบทำท่าจะกระโดดจากรถม้าทางหน้าต่างทว่าเขาเห็นท่าไม่ดีรีบจับเอวนางมาอยู่กับตัว พร้อมตะโกนให้คนขับรถม้าออกไป “ร้ายกาจนักนะเจ้า” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว รวบรัดนางมาที่อกของตนเอง “ข้าไม่ไป!” นางร้องโวยวายทั้งดิ้นไปมา รถม้าก็ออกตัวอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจเสียงโวยวายของหลินโคว่เอ๋อหรือเสียงตวาดของฉีเทียนเหล่ย มีหรือที่นางจะยินยอมไปด้วยดี นางดิ้นสุดแรงชีวิตส่วนเขาก็จับนางคว่ำหน้าและพาดลำตัวนางเข้ากับหน้าตักพร้อมลงฝ่ามือฟาดไปที่ก้นของนาง เขาลงน้ำหนักไม่เต็มแรงหวังเพียงทำให้นางสงบได้ มือของฉีเทียนเหล่ยเหมือนห่อหุ้มด้วยเปลวไฟที่ฟาดลงไปหลายต่อหลายที เขารู้ว่านางคงเจ็บและสงบลง แต่เขาก็เริ่มแปลกใจเพราะนางสงบจริงแต่มิมีเสียงร้องไห้สะอื้นเพราะความเจ็บแม้แต่น้อย หากเป็นหญิงอื่นเขาคงจะได้ยิน