ตอนนี้นางเริ่มได้ยินเสียงรถม้าคันหนึ่งรออยู่ด้านหน้าหอนางโลม พวกเขานิ่งเงียบและหันมาทางหลินโคว่เอ๋อ แต่เพื่อให้นางแน่ใจล่ะก็ นางจำต้องแหงนคอขึ้นมองเมื่อถูกกอดแนบกายของฉีเทียนเหล่ย พวกเขารอดูปฏิกิริยาของนางที่มีต่อสิ่งที่ได้ยินใช่ไหม นางไม่ใช่คนโง่ พวกเขาตั้งใจจะพานางไปตอนนี้เลย แต่บางทีคนใดในพวกเขาจะต้องหาวิธีจะนำนางไปได้อย่างไร ในเมื่อนางไม่ได้ให้ความร่วมมือเสียเลย นางอ่านสถานการณ์ได้ถูกต้องเมื่อชายที่โอบกอดนางอยู่เอ่ยขึ้น “จับนางใส่หีบหรือหาลูกกรงขังนาง” หลินโคว่เอ๋อได้ยินตัวแข็งทื่อและกำลังจะค้านหัวชนฝา แต่น่าแปลกที่เซียวหรูเอ่ยขึ้นมาก่อนเพื่อเป็นการเตือน “นางเป็นคุณหนูใหญ่นะขอรับ” เสียงตื่นของเซียวหรูเอ่ยเตือนฉีเทียนเหล่ยว่าสิ่งที่คิดนั้นไม่สมควร “เมื่อไหร่ที่นางเริ่มทำตัวเป็นคุณหนู นางก็จะได้รับการปฏิบัติเยี่ยงคุณหนู” คำพูดของฉีเทียนเหล่ยเอ่ยออกมาเปรียบได้กับฟางเส้นสุดท้ายที่ตัดสิ