รถยุโรปคันหรูขับมาตามถนน คิมหันต์นักธุรกิจเจ้าของโรงแรมห้าดาวและเรือสำราญขนาดใหญ่กำลังกลับจากไปรับลูกค้าที่สนามบิน ถนนเส้นนอกรถติดเกินไปเขาจำต้องใช้ทางลัด เข้าถนนสายรองขณะกำลังขับมาทางตรง อยู่ๆก็มีกระบะขับตัดหน้ามา คิมหันต์หักหลบทันทีไม่เช่นนั้นคงประสานงา
เอี๊ยดโครม!!!!!เสียงล้อรถเบรกกับถนนเป็นทางยาวคิมหันต์กระแทกกับพวงมาลัย โชคดีที่ถุงลมนิรภัยทำงานทันที ด้านนอกเหมือนมีเสียงหวีดร้องของชาวบ้าน เขาสลัดความมึนงงออกไปก่อนจะตั้งสติ
ด้านนอกเด็กสาวคนหนึ่งวิ่งออกมาจากร้านสะดวกซื้อ ก็เห็นรถมอเตอร์ไซคันนึงถูกชน สภาพพังยับเยิน เพียงขวัญมือเท้าอ่อนทันที วิ่งไปหาชายชราที่นอนจมกองเลือดอยู่ เขากระอักเลือดออกมา เพียงขวัญลงไปกอดเขาเอาไว้พร้อมกับน้ำตาที่ไหลยาวเป็นทาง
"ฮือๆๆปู่ขาปู่ ฮือๆใครก็ได้ช่วยปู่หนูทีเรียกรถพยาบาทให้ที ฮือๆ ปู่ขาอย่าทิ้งขวัญนะคะ" เพียงขวัญกอดร่างชายชราแนบอก ชุดนักเรียนของเธอถูกย้อมจนเป็นสีแดงจากเลือดที่ไหลออกมา
คิมหันต์เปิดประตูรถลงมาก็เห็นว่ามีเด็กสาวน่าจะวัยมัธยมกำลังกอดร่างชายชราแน่น เขาขับรถชนคนเหรอให้ตายสิ
"หนู ฉันจะรับผิดชอบเองเดี๋ยวรถพยาบาลก็มาแล้ว"
คิมหันต์เอ่ยกับเด็กสาวแต่เธอไม่รับรู้ในตาพร่าไปด้วยน้ำตา ไม่นานรถพยาบาลก็มา ร่างของปู่ถูกส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง
ไม่นานหมอก็ออกมาจากห้องฉุกเฉิน เพียงขวัญลุกขึ้นมาหาแต่หมอส่ายหน้าให้เธอ เด็กสาวร้องไห้โฮ
"ฮือๆปู่ขา แล้วขวัญจะอยู่กับใคร ปู่ทิ้งขวัญไปแล้วฮือๆๆ"
คิมหันต์เดินมาหาเขาเสียใจ เขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจ
"หนู ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ พอดีฉันเองก็หักหลบรถอีกคัน ฉันจะรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาลกันงานศพทั้งหมด ติดต่อผู้ปกครองหนูได้ไหม ฉันอยากคุยด้วย"
เพียงขวัญหันหน้ามาหาเขาก่อนจะส่ายหน้า
"หนูไม่มีพ่อแม่ ตั้งแต่หนูได้เจ็ดขวบพ่อแม่ก็จากไปเพราะอุบัติเหตุ หนูเหลือปู่แค่คนเดียว คุณอาคืนปู่ให้หนูนะคะ คืนปู่ให้ขวัญเถอะนะ ฮือๆๆๆๆ"
คิมหันต์ทำอะไรไม่ถูก จึงโทรเรียกเลขาของเขามา ไม่นานธนดลก็มาถึงที่โรงพยาบาล จัดการค่าใช้จ่ายทั้งหมด ติดต่อวัดที่ต้องจัดงาน รวมถึงค่าสินไหมชดเชยให้กับเด็กผู้หญิงตรงหน้า
งานศพแขกมีเหรื่อร่วมงานไม่มีเท่าไหร่ ทุกอย่างธนดลเป็นคนจัดการทั้งหมด เขาเป็นเลขาของคิมหันต์ มีเพื่อนนักเรียนมางานรวมถึงคุณครูที่โรงเรียน
"ขวัญ เสร็จงานแล้วมึงจะทำอย่างไร เพิ่งจบม.3เองนะ จะไม่เรียนต่อจริงๆหรือ"
กวินตาหรือแก้ม เพื่อนสนิทถามเพียงขวัญ วันที่เกิดเหตปู่ของเพียงขวัญไปรับเธอที่โรงเรียน และแวะซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อตรงที่เกิดเหตุนั่น
"ขวัญ เงินนั้นพอให้เรียนจนจบเลยนะ ออกไปค้าขายจะดีเหรอ อายุแค่นี้เองจะทำธุรกรรมก็ลำบากนะ"
แพรหรือแพรชมพูซึ่งเป็นเพื่อนรักอีกคนเอ่ยเตือนสติของเพียงขวัญ
วันนั้นเป็นวันปัจฉิม เธอเรียนจบม.3แล้วกำลังหาที่ต่อม.ปลายเพียงขวัญเป็นเด็กเรียนค่อนข้างดี เธอชอบด้านไอที จึงตั้งใจเข้าเรียนสายอาชีพไม่อยากให้ปู่ลำบาก
แต่ปู่มาจากไปเสียก่อน แม้ว่าจะมีเงินจากค่าทำศพและค่าสินไหมของปู่ แต่เธอก็ไม่พออยู่ดีที่จะเรียนอย่างเดียวเธอต้องทำงานด้วย
"ไม่เป็นไร ขอบใจที่เป็นห่วงนะแก้มฉันจะเรียน ก.ศ.น.เอาจะได้หาเงินไปด้วยน่ะ ยังค้างค่าเทอมๆของโรงเรียนอยู่เลยสัญญาว่าจะจ่ายพรุ่งนี้"
"ไม่เป็นไรเพียงขวัญ เดี๋ยวครูจ่ายให้นะ ถ้าเธอไม่มีที่ไปก็นึกถึงครูก็ได้"
ภาสกรหรือครูภาสครูหนุ่มวัย26ปีเขาชอบเด็กผู้หญิงตรงหน้า เธอเป็นเด็กขยันน่าเสียดายอนาคตหากต้องเลิกเรียน
คิมหันต์นั่งฟังมาสักพักก็เรียกเลขามาหา ไม่นานธนดลก็ไปคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียน
โรงเรียนปิดเทอมหลังจากปัจฉิมนิเทศเรียบร้อย เพียงขวัญเดินทางมาโรงเรียนเพื่อจ่ายค่าเทอม แล้วยื่นใบลาออก เธอจะไปเรียนต่อ ก.ศ.น.
เงินที่ได้จากงานศพคุณตานั้นเป็นเงินสินไหมที่คุณอาคนนั้นจ่ายให้ เพียงขวัญต้องการนำเงินไปซื้อของมาเปิดร้านขายเพื่อดูแลตนเอง วันนี้เธอมาจ่ายค่าเทอมที่ค้างอยู่สองเทอม
"อ้อมาแล้วหรือเพียงขวัญ คุณธนดลเลขาคุจคิมหันต์มารอนานแล้วนะ"
ผู้อำนวยการโรงเรียนเอ่ยแก่เพียงขวัญเด็กสาวทำหน้างง เขามาทำไมกัน
"ไปเถอะขวัญเดี๋ยวฉันกับยายแพรไปเป็นเพื่อน"
กวินตราพยักหน้าเธอกับแพรชมพูพากันเดินไปในห้องที่ธนดลนั่งรออยู่
"สวัสดีค่ะคุณอา เอ่อ ผ.อ.บอกว่าคุณอาอยากพบหนูหรือคะ"
เพียงขวัญและเพื่อนอีกสองคนยกมือไหว้ชายหนุ่มตรงหน้า ไม่นานบุรุษอีกคนก็ก้าวเข้ามาในห้อง
คุณอาคนนั้น คนที่ขับรถชนปู่ของเธอ เพียงขวัญไม่มองหน้าเขา เพราะเขาคือคนที่ทำร้ายครอบครัวของเธอ
"เธอเชื่ออะไร อายุเท่าไหร่" คิมหันต์ถามเด็กสาวตรงหน้า เพื่อนอีกสองคนสะกิดเพียงขวัญเธอจึงตอบเสียงเบา
"หนูชื่อเพียงขวัญค่ะ อายุจะ16 แล้วค่ะจบม.3แล้ว"
"อืม บ้านเธออยู่ที่ไหน ไม่มีปู่แล้วอยู่คนเดียวใช่หรือไม่"
"หนูอยู่บ้านเช่าค่ะ ปู่ไม่อยู่แล้วแต่ว่าหนูอาศัยมานานคงไม่เป็นไร"
น้ำตาเริ่มคลอเมื่อพูดถึงคนที่จากไป
"เรื่องเรียนต่อ ฉันคุยกับอาจารย์ของเธอแล้ว เขาจะช่วยให้ฉันเป็นผู้ปกครองของเธอจนกว่าเธอจะจบปริญญาตรี ฉันจะให้เลขาของฉันกับทนายดูข้อกฎหมายต่างๆ เสร็จเรื่องวันนี้พาพวกเขาไปที่บ้าน เก็บเท่าที่จำเป็น อย่างอื่นก็ทิ้งไป ต่อไปมาอยู่บ้านฉัน เช้าไปเรียนหนังสือ เมื่อไหร่เรียนจบเธอสามารถไปใช้ชีวิตตนเองได้ ถือว่าฉันได้ขออภัยปู่เธอเรียบร้อยแล้ว ธามนายจัดการทุกอย่างให้ด้วย ฉันต้องไปแล้ว
คิมหันต์ไปแล้ว ทุกอย่างเรียบร้อยเพียงขวัญย้ายโรงเรียนไปเรียนเอกชนใกล้กับบ้านของผู้ปกครองคนใหม่ นั่งรถเพียงแค่สองป้ายก็ถึง
ตอนเก็บข้าวของเธอบอกกับป้าเจ้าของห้องว่า เธอจะจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าไว้หนึ่งปี เธอจะทยอยขนของออกไปทีละน้อย
สมบัติไม่ได้ล้ำค่ามากนัก แต่เป็นความทรงจำของเธอกับปู่ มีของพ่อกับแม่บ้างแต่ส่วนน้อย พ่อแม่ตายตอนที่เธออายุแปดขวบเท่านั้น
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเพียงขวัญก็ขึ้นรถยุโรปคันหรูไปกับคุณอาธามเลขาของคุณอาคนนั้น เขาจะพาเธอไปยังบ้านหลังใหม่