งานแต่งงานถูกจัดขึ้นมาอย่างรวดเร็วภายในบ้านหลังใหญ่ของตระกูลฮาร์คินสัน มีเพียงญาติพี่น้องไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้มาร่วมงาน
น้ำปั่นเป็นคนร้องขอเองว่าอยากจัดงานแต่งงานเล็กๆ แต่น่าเสียดายเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอ ต้องกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่ประเทศเกาหลีใต้จึงมาร่วมงานไม่ได้
ช่วงเช้าเป็นการตักบาตรทำบุญ ส่วนช่วงเย็นเป็นงานปาร์ตี้ ดูเหมือนคนที่สนุกสุดจะเป็นเด็กน้อยทั้งสามคนที่วิ่งไปมาทั่วงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
เติมรัก กับ เต็มรัก คอยเล่นกับน้องใบข้าวไม่ห่างทำให้บิดามารดาวางใจ ต่อไปถ้ามีน้องมาให้พี่แฝดสำเร็จก็ไม่ต้องห่วงเรื่องอิจฉา เพราะดูท่าทางแล้วสองแฝดอยากมีน้องมากจริงๆ ยิ่งถ้าได้น้องสาวเหมือนตุ๊กตาอย่างน้องใบข้าว คงไม่ต้องบอกว่าจะหลงน้องมากขนาดไหน
“พี่ลูกครับ เลิกวิ่งได้แล้ว มากินข้าวก่อน น้องจั๊มมากินข้าวครับ” น้ำปั่นในชุดแต่งงานสีขาวเรียกลูกชายให้กลับมานั่งกินข้าวดีๆ ถึงเธอจะเป็นเจ้าสาวแต่เรื่องลูกต้องมาที่หนึ่ง
“คับ น้องใบข้าวขาไปกินข้าวกันไหม” คนพี่ตอบรับมารดาก่อนจะหันไปถามน้องน้อยที่อยู่ในชุดนางฟ้าแสนสวยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พลางเอามือขึ้นมาลูบหัวน้องด้วยความเอ็นดู
“กิงขา น้องหิว”
เด็กตากลมลูบท้องน้อยป้อยๆ บ่งบอกถึงความหิวทำให้ผู้ใหญ่ที่มองอยู่พากันหัวเราะ ขนาดหิวยังวิ่งไปมาไม่หยุด ถ้าอิ่มท้องไม่อยากจะจินตนาการ
“น้องจั๊มก็หิว ไปกินข้าวกัน”
ไม่ใช่แค่คนพี่ที่หิว คนน้องก็เหมือนกัน ไม่หิวได้อย่างไรในเมื่อติดเล่น ข้าวเที่ยงก็กินน้อยจนโดนแม่ดุไปหนึ่งรอบแล้ว
เด็กๆ วิ่งกลับไปที่โต๊ะจากนั้นก็ขึ้นไปนั่งประจำที่เพื่อกินข้าวมื้อเย็น ใบข้าวตาโตหลังจากเห็นเค้กวางอยู่ตรงหน้า อาการหิวข้าวหายไปแทนที่ด้วยอาการหิวเค้ก เด็กอยู่เป็นจึงเอียงคออ้อนแม่อยากกินเค้กตรงหน้า
“น้องจากิงหนม มามี้ขาน้องจากิงเค้ก”
“กินข้าวก่อนนะคะ แล้วค่อยกินเค้ก ดูพี่แฝดสิ กินข้าวคำโตเลย อร่อยไหมคะพี่ลูกชิ้น พี่จัมโบ้ บอกน้องใบข้าวหน่อย”
“อร่อยมากเลยคับ”
“อร่อยสุดๆ คับอาใบชา”
น้องน้อยเห็นพี่ชายทั้งสองตักข้าวในจานขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อยจึงยอมกินข้าวด้วยคน คินน์กับน้ำปั่นยิ้มกว้างด้วยความภูมิใจ หลังจากเห็นลูกชายเป็นตัวอย่างที่ดีให้น้องใบข้าว
“วันนี้พี่ลูกกับน้องจั๊มต้องไปนอนห้องคุณปู่คุณย่านะคะ”
“ทำไมคับแม่จ๋า พี่ลูกจะนอนกับพ่อจ๋าเนอะน้องจั๊ม”
“ไม่ได้คับพี่ลูก คุณลุงคิงส์บอกว่าถ้าอยากได้น้องสาวต้องไปนอนกับคุณปู่คุณย่า”
“เก่งมากเลยหลานชายลุง พี่ลูกอยากได้น้องไหมเอ่ย”
“อยากได้มากคับลุงคิงส์”
“งั้นก็ต้องไปนอนกับคุณปู่คุณย่า ตกลงไหม”
“ตกลงคับลุงคิงส์”
“คืนนี้พี่เคลียร์ทางให้แล้วนะเจ้าบ่าวเจ้าสาว”
คิงส์ ฮาร์คินสัน ลูกพี่ลูกน้องของคินน์ยิ้มมุมปากให้น้องชาย บอกตามตรงตอนที่รู้ว่าน้องซุกลูกเมียเอาไว้เขาก็ตกใจเหมือนกัน ไม่คิดว่าคินน์จะปกปิดความจริงมานานหลายปี ถ้าเป็นเขามีลูกน่ารักขนาดนี้จะรีบกลับมาบอกบิดามารดาทันที ทว่าน่าเสียดายที่เขาไม่ได้ชอบผู้หญิง
ในขณะที่เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวกำลังมีความสุขแต่ใครบางคนกำลังเป็นทุกข์ เพราะถูกผู้ชายที่ตนเองหมายปองตัดเยื่อใย
มิลินดาริณนั่งดื่มเหล้าอยู่ในสถานบันเทิงด้วยความแค้นใจ เกลียดชังสามแม่ลูกเข้ากระดูกดำ
ทำไมเธอต้องพ่ายแพ้ให้ผู้หญิงไร้หัวนอนปลายเท้าอย่างน้ำปั่นด้วย ทำไมคินน์ถึงเลือกนังผู้หญิงชั้นต่ำ ทำไมต้องแต่งงาน ทำไมต้องจดทะเบียนสมรส ทำไมต้องมีลูกกับมัน คำถามมากมายวนเวียนอยู่ในหัวของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“สวัสดีครับคนสวย”
“ฉันอยากนั่งคนเดียว”
“โทษทีครับแต่ผมเห็นคุณกำลังนั่งมองรูปน้ำปั่นอยู่”
ลูกเลี้ยงของจิตรายิ้มอย่างชั่วร้าย เขานั่งมองมิลินดาริณมาสักพัก เห็นเธอเอาแต่จ้องรูปในโทรศัพท์ รูปผู้หญิงที่ตนเองรู้จักจึงลองเข้ามาถามดูเผื่อจะมีประโยชน์
“คุณรู้จักกับผู้หญิงคนนี้ คุณเป็นใคร”
“ผมเป็นพี่ชายของน้ำปั่น แต่คนละพ่อคนละแม่”
“คุณต้องการอะไรกันแน่”
“ผมก็แค่อยากรู้ว่า ตอนนี้น้องสาวตัวเองสบายดีไหม”
“แค่นั้นเหรอ แต่ฉันว่าไม่น่าจะใช่”
“ถ้าคุณอยากรู้คำตอบ ไปต่อด้วยกันไหมล่ะ”
“…” มิลินดาริณมองอย่างไม่ไว้ใจแต่ก็สนใจไม่น้อย
“รับรองผมจะบอกคุณทุกอย่าง”
ตอนนี้ภูผาต้องการเงินอย่างหนัก ไปขอพ่อกับแม่เลี้ยงก็ไม่ได้เพราะทางนั้นกำลังเดือดร้อน เหลือเพียงคนเดียวที่จะช่วยเขาได้ก็คือน้ำปั่น ยัยน้องนอกไส้ที่หนีออกจากบ้านเพราะเกือบจะโดนพ่อของเขาข่มขืน
ถ้าตอนนั้นเขาไม่เข้าไปช่วยห้าม ป่านนี้เธอจะมีชีวิตยังไง มันถึงเวลาที่น้ำปั่นต้องตอบแทนบุญคุณเขาบ้างแล้ว
“คุณรู้จักนังน้ำปั่นจริงเหรอ”
“เอางี้รูปนี้พอจะเป็นหลักฐานได้ไหม”
ชายหนุ่มค้นหารูปที่เคยถ่ายสมัยเมื่อหลายปีก่อนจากเฟซบุ๊ก แล้วเอามาให้มิลินดาริณดูเพื่อยืนยันความจริง เป็นรูปครอบครัวที่ถ่ายด้วยกันสมัยพ่อแม่ของพวกเขาอยู่กินกันใหม่ๆ
มิลินดาริณยิ้มอย่างชอบใจก่อนจะกระซิบตอบตกลง เธอทำได้ทุกอย่างเพื่อแย่งชิงคินน์คืนมา ต่อให้ต้องร้ายหรือทำลายใครเธอก็ยอม