ห้องสมุดคณะแพทย์

1087 Words
เมื่อจบจากกิจกรรมจับฉลากพี่รหัส ก็ถึงเวลาพักเที่ยงพอดี แองจี้ปลีกตัวจากเพื่อนๆปี1 แล้วเดินไปซื้อแซนด์วิชที่ร้านกาแฟเล็กๆใต้อาคารเรียน มากินเป็นมื้อเที่ยงแบบง่ายๆ เพราะอยากรีบไปหาข้อมูลบางอย่าง ในห้องสมุดของคณะแพทย์ ที่อยู่อีกฝั่งของมหาวิทยาลัย จึงไม่อยากเสียเวลาเดินไปต่อคิวซื้ออาหารที่โรงอาหารของคณะ ซึ่งเวลาพักเที่ยงแบบนี้คนจะพลุกพล่านมากเป็นพิเศษ “ทำไมไม่ไปกินข้าวที่โรงอาหารดีๆ” ขณะที่กำลังนั่งกินแซนด์วิช อยู่ตรงโต๊ะนั่งหินอ่อนบริเวณใต้ร่มไม้ของคณะ ก็มีเสียงหนึ่งเอ่ยทักทายเธอขึ้น ทั้งยังหย่อนกายนั่งลงเก้าอี้ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของเธอด้วยความรวดเร็ว “ฉันไม่ค่อยหิวค่ะ เลยหาซื้ออะไรกินง่ายๆ” แองจี้กล่าวตอบไปตามมารยาท และตอนนี้เธอก็กินแซนด์วิชจนหมดแล้ว แค่กำลังรอจังหวะขอปลีกตัวออกไป เพื่อไม่ให้เสียมารยาทเพียงเท่านั้น “จะรีบไปไหน” กองทัพเห็นท่าทีเร่งรีบของน้องรหัสปี1ของเขา จึงสอบถามออกไป “ไปธุระค่ะ วันนี้คลาสเรียนบ่ายโมงอาจารย์ไม่สอน มีเรียนอีกทีบ่าย2โมง จึงจะรีบไปธุระก่อนกลับมาเรียนให้ทัน” เสียงราบเรียบเอ่ยอธิบายออกไป เพราะเธอก็รีบจริงๆ ด้วยความอยากรู้เรื่องอาการป่วยในชีวิตก่อนของตนเองเต็มทีแล้ว ชีวิตใหม่ที่ได้รับโอกาสจากสวรรค์ให้กลับมาอีกครั้ง เธอจะต้องทำทุกวิธีเพื่อป้องกันเหตุร้าย ที่จะพรากชีวิตของเธอไป หรือหากมันเกิดขึ้นมาแล้วก็จะรีบไปรักษาให้ทันท่วงที “ขอตัวก่อนนะคะ” แองจี้ก้มหัวเป็นการบอกลาพี่รหัสปี4 ที่เธอควรเคารพตามมารยาทของน้องรหัสที่ดี ทั้งยังพยายามทำตัวไม่มีอคติใดๆทั้งสิ้น จะได้ไม่เป็นที่สงสัยหรือจับสังเกต “อืม” เสียงเรียบเอ่ยตอบรับน้องรหัส ทั้งยังแปลกใจตนเองที่เดินมาพูดคุยกับผู้หญิง ที่พึ่งรู้จักกันวันนี้ทั้งๆที่ปกติแล้ว ตัวเขาไม่ชอบพูดคุยกับคนที่ไม่สนิทสักเท่าไหร่ แต่กับเธอคนนี้เขากลับรู้สึกคุ้นเคย และใจสั่นทุกครั้งที่ได้มองใบหน้าสวยหวานนี้ แองจี้รีบเดินออกไปหน้าคณะบริหาร มุ่งหน้าสู่คณะแพทย์ที่อยู่อีกฝั่งของมหาวิทยาลัย หากจะให้ไปถึงเร็วก็ต้องขึ้นรถประจำทางของมหาวิทยาลัย แองจี้จึงตัดสินใจยืนรอรถประจำทาง เพราะกลัวจะเสียเวลาเดินมากจนเกินไป ยืนรอเพียงไม่นานรถประจำทางก็มาจอดเทียบ ตรงป้ายรอรถเมล์คณะบริหารธุรกิจ แองจี้รีบก้าวขึ้นรถจนไม่ทันได้มองผู้ชายที่ก้าวขาขึ้นรถตามเธอมาติดๆ เมื่อถึงคณะแพทย์เธอรีบเดินลงจากรถ และไม่ได้สังเกตอีกเช่นเคยว่า มีใครเดินตามลงมาจากรถด้วย ขาเรียวก้าวเดินตรงไปยังห้องสมุดของคณะแพทย์ ห้องสมุดขนาดกลาง ตั้งอยู่ชั้นสองของอาคารเรียนรวม10ชั้น อาคารที่มีรูปแบบเป็นตึกที่สวยงามทันสมัย ผนังอาคารสร้างขึ้นจากกระจกทั้งหมด ภายในอาคารก็ติดเครื่องปรับอากาศจนเย็นฉ่ำไปทุกจุด “เห้อ อยากสอบเข้าคณะแพทย์จังเลย ตึกเรียนช่างน่าเข้ามานั่งเรียนอะไรขนาดนี้” เสียงหวานๆบ่นพึมพำอยู่คนเดียว ขณะที่กำลังเดินหาหนังสือเกี่ยวกับเนื้องอกในสมอง ตามชั้นวางหนังสือที่มีหนังสือหลากหลายวิชาวางเรียงรายกันอยู่ ยังดีที่ในห้องสมุดมีคอมพิวเตอร์ไว้ให้นักศึกษาสืบค้นข้อมูล เพื่อหาพิกัดของหนังสือที่ต้องการ ก่อนที่ไปเดินค้นหาตามหมายเลขของชั้นหนังสือ ด้วยความเงียบของห้องสมุดประจำคณะที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ผู้ชายที่เดินตามเธออยู่ห่างๆ จึงได้ยินทุกคำพูดของเธอ มุมปากอมยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู คนที่อยากสอบเข้าเรียนแพทย์เพราะอาคารเรียนสวย เมื่อหาหนังสือที่มีข้อมูลที่ตนเองต้องการพบแล้ว แองจี้จึงรีบหามุมสงบเพื่อนั่งอ่านข้อมูลที่สนใจด้วยความตั้งใจ ทั้งยังจดบันทึก ในส่วนที่สำคัญๆเอาไว้อ่านในเวลาว่างอีกด้วย ด้วยรูปร่างหน้าตาที่สวยงามโดดเด่น ยามนี้แองจี้จึงเป็นเป้าสายตาของหนุ่มๆในคณะแพทย์ ที่เข้ามาหาอ่านหนังสือหรือหาข้อมูลทำรายงานในห้องสมุดของคณะ “นนท์ แกมองใครวะ” เสียงเพื่อนสนิทเอ่ยเรียกสติของชานนท์ ให้กลับมาอ่านหนังสือในมือของเขา เพราะชานนท์เอาแต่เหม่อลอยและจ้องมองไปข้างหน้า “เปล่า รีบอ่านหนังสือกันเถอะ ช่วงบ่ายมีเรียนห้องอาจารย์ใหญ่จะได้ไม่ถูกอาจารย์บ่น” ชานนท์ไม่ตอบคำถามเพื่อน เพราะไม่อยากให้ใครจ้องมองเธอคนที่เขาสนใจ ครั้งแรกเขาเดินตามเธอขึ้นรถประจำทางก็ยังไม่ได้มองหน้าเธอ แต่พอได้มองเขาก็แทบใจละลาย ยิ่งเห็นว่าเธอเดินลงคณะของตนเองก็ยิ่งดีใจ จึงได้รีบโทรศัพท์ชวนเพื่อนสนิท ให้ขึ้นมาอ่านหนังสือที่ห้องสมุดของคณะ “เห้ย น้องคนนั้นสวยมากเลย แกมองคนนี้หรือเปล่าวะ” อาร์ตเพื่อนสนิทของชานนท์ หันไปเจอสาวงามที่กำลังตั้งใจอ่านหนังสือ เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา ว่ามีคนสวยขนาดนี้อยู่ในคณะแพทย์ ทำไมเขาไม่เคยเห็นมาก่อน “อืม แกก็ไม่ต้องไปมองน้องเขามาก คนนี้แกห้ามยุ่ง” อาร์ตจ้องมองชานนท์เพื่อนสนิทของตนเอง ที่ปกติจะไม่สนใจผู้หญิงที่ไหน ทั้งๆที่มีผู้หญิงเข้าหาแทบทุกวัน เพราะรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาสมบูรณ์แบบ ทั้งยังมีฐานะทางครอบครัวที่ร่ำรวย เนื่องจากเป็นทายาทของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในกรุงเทพฯ “เอาจริงหรือวะคนนี้ ฉันไม่เคยเห็นแกมองใครมาก่อน” “ถ้าเขายังไม่มีแฟน ฉันก็จะลองจีบดู” ชานนท์ตอบเพื่อนด้วยน้ำเสียงมั่นใจ เพราะเขาไม่เคยรู้สึกตกหลุมรักผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน ทั้งๆที่ปีนี้ก็เรียนแพทย์ปี6 ซึ่งเป็นปีสุดท้าย ก่อนจะจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี อายุอานามก็เต็ม24ปีแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD