“เฮือก!!!”
เสียงสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ หัวใจของแองจี้เต้นแรงด้วยความตื่นเต้นผสมกับความตกใจ ดวงตากลมโตกวาดสายตามองไปรอบๆห้องนอน ที่เธอจดจำได้เป็นอย่างดีว่า ที่นี่คือห้องนอนในคอนโดของตนเองที่กรุงเทพฯ
“ฉันป่วยตายไปแล้วนี่ แล้วกลับมาอยู่คอนโดได้ยังไง”
แองจี้กวาดสายมองไปทั่วห้องนอน ก็เห็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อผลไม้ ที่น่าจะตกรุ่นไปแล้ว วางอยู่โต๊ะข้างเตียงนอน จึงหยิบขึ้นมาดูวันเวลาในขณะนี้
“เอ๊ะ!! เวลาตอนนี้คือ มกราคม ปี 2024 แต่ฉันตาย มกราคมปี 2026 หรือว่าฉันได้ย้อนเวลากลับมา แบบในนิยายที่ยัยลอร่าชอบอ่าน”
น้ำเสียงแปลกใจบ่นพึมพำอยู่คนเดียว ทั้งยังนึกยินดีที่ตนเองได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เพราะเธอสงสารพ่อกับแม่มากเหลือเกิน ที่ต้องมาจัดงานศพให้ลูกสาวเพียงคนเดียว
เวลานี้เป็นเวลา6โมงเช้า ซึ่งตามปฏิทินวันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรก หลังจากหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่ แองจี้ไม่ได้กลับบ้านเกิดที่เชียงใหม่ เพราะต้องเตรียมตัวทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัย เนื่องจากเธอได้รับคัดเลือกให้เป็นดาวคณะ ต้องลงประกวดดาวมหาวิทยาลัยในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้
วันนี้เป็นวันที่จะได้พบเจอกับกองทัพ พี่รหัสที่เธอจับฉลากได้ เขาเป็นรุ่นพี่ปี4ในคณะบริหารธุรกิจ ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลาราวกับนายแบบผู้ทรงเสน่ห์ ที่เธอเห็นครั้งแรกก็ตกหลุมรักเขาจนโงหัวไม่ขึ้น กระทั่งได้ทำตัวน่ารังเกียจลงไปหลายอย่าง
“ชีวิตนี้เราสองคนอย่าได้ข้องเกี่ยวกันอีกเลย”
เสียงหวานๆ บ่นพึมพำอยู่คนเดียวอย่างปลดปลงในชีวิต เพราะตอนก่อนตายเธอปล่อยวาง เรื่องของกองทัพจนหมดสิ้นแล้ว ตอนนี้จึงหลงเหลือเพียงความลำบากใจ ที่จะได้พบเจอกันเพียงเท่านั้น
แองจี้เตรียมเอกสารสำคัญส่วนตัวของเธอใส่กระเป๋าถือ เพราะตอนเย็นหลังเลิกเรียน เธอจะไปติดต่อเรื่องตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเอกชน ที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโดที่พัก ชีวิตนี้เธอจะไม่ยอมตายไปง่ายๆ แบบชีวิตที่แล้วอีกเป็นอันขาด
คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยK
“แองจี้ ทางนี้ พี่รหัสของพวกเรามารอพบแล้ว”
เสียงคุ้นเคยเสียงหนึ่งตะโกนเรียกเธอ เป็นเสียงของลอร่าเพื่อนสนิทที่แสนดีของเธอนั่นเอง เมื่อหันไปตามทิศทางของเสียง เธอก็พบเจอกับรุ่นพี่หลายคนที่ยืนรวมกลุ่มกัน ตรงม้านั่งหินอ่อนใต้อาคารเรียนของคณะ
แองจี้รีบเดินเข้าไปรวมกลุ่มเพื่อนๆปี1ด้วยท่าทีสงบ เธอจำได้ว่าชีวิตก่อนเธอเดินทอดสายตาให้กับกองทัพ ชายหนุ่มหล่อเหลาทรงสมาร์ท ที่เธอตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ
แต่เวลานี้เธอไม่อยากข้องเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้อีก ดวงตากลมโตจึงมองตรงไปข้างหน้า ที่มีเพื่อนๆปี1นั่งเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ ไม่ได้สนใจมองผู้ชายร่างสูงใหญ่ ที่ยืนอยู่ข้างๆโต๊ะม้าหินอ่อนเลย
ด้วยรูปร่างที่บอบบาง ทว่ามีหน้าอกที่อวบอิ่มเกินตัว ทั้งยังมีใบหน้าที่สวยหวานมีเสน่ห์ แก้มเนียนแต่งแต้มไปด้วยสีชมพูตามธรรมชาติ แองจี้มีผิวพรรณที่ขาวนวลเนียนละเอียดไปทั้งตัว เพราะพื้นเพเป็นสาวชาวเหนือ ทั้งยังได้แต่ส่วนที่ดีมาจากมารดาทั้งหมด
มารดาของแองจี้มีตำแหน่งเป็นถึงนางงามเชียงใหม่ ที่ได้ตำแหน่งนางงามผิวสวย มาครอบครองอีกหนึ่งตำแหน่ง ความสวยงามที่โดดเด่นเกินใครนี้ ทำให้รุ่นพี่ที่ยืนรวมตัวกันอยู่ จ้องมองเธอด้วยความตกตะลึง ไม่เว้นแม้แต่ชายหนุ่มหน้านิ่ง ที่ยืนอยู่คนเดียวไม่สุงสิงกับใคร
ถึงเวลาที่จะต้องประกาศพี่รหัสปี4ของน้องปี1 เพราะผ่านพ้นพิธีรับน้องไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แองจี้สวดภาวนาในใจ ให้พี่รหัสของเธอเป็นคนอื่น จะได้ไม่ต้องมีเรื่องให้พูดคุยกันกับผู้ชายคนนั้นอีก
แต่การสวดภาวนาในใจของเธอก็ไม่เป็นผล ทุกอย่างยังคงดำเนินไปเช่นเดิมไม่มีผิดเพี้ยน คงเปลี่ยนไปแค่ความรู้สึกของเธอก็เพียงเท่านั้น ที่ไม่ได้นึกพิศวาสผู้ชายที่เป็นพี่รหัสของเธอ
“สวัสดีค่ะพี่กองทัพ” แองจี้กล่าวทักทายสั้นๆตามมารยาท
“อืม สวัสดี”
จากนั้นก็ไม่มีเสียงพุดคุยของคนทั้งสองอีกเลย เพราะกองทัพก็เป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูดคุยกับใคร ส่วนแองจี้ก็ไม่อยากพูดคุยกับเขาเกินความจำเป็นอยู่แล้ว