พายุรักเร่าร้อนสงบลงและความเงียบสงบเริ่มแผ่ไปทั่วพื้นที่ ทั้งสองนั่งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ที่มองลงไปเห็น Rio di Palazzo คลองที่เชื่อมระหว่าง พระราชวังดอจ (Doge's Palace) กับ คุกเก่า (Old Prisons) โดยตรง แสงจันทร์ส่องสะท้อนบนผืนน้ำทำให้บรรยากาศโรแมนติกยิ่งขึ้น
จีนซบอยู่บนร่างใหญ่ของริคอย่างเหนื่อยอ่อน รู้สึกถึงความอบอุ่นจากตัวเขา ริคนั่งพิงรถ มือข้างหนึ่งโอบรัดเอวของจีนแน่น ส่วนอีกมือยกซิการ์ขึ้นดูดพลางปล่อยควันออกมาอย่างเยือกเย็น
"อย่าคิดหนีไปจากฉันอีก นายเป็นของฉันแล้ว"
ริคพูดเสียงแหบพร่า ลมหายใจยังร้อนจากแรงปรารถนาที่คุกรุ่นอยู่ข้างใน เขาลูบแขนจีนเบาๆ ขณะจ้องมองใบหน้าของเด็กหนุ่มที่ยังคงหลงเหลือรอยอ่อนล้าจากช่วงเวลาที่ผ่านมา
จีนหายใจหอบเล็กน้อย ขมวดคิ้วแล้วบ่นออกมา
"อย่างกะคุณจะให้ผมหนีได้"
เสียงของเขามีทั้งความขบถและความรู้สึกที่ผสมปนเปกัน ทั้งดื้อรั้นและเง้างอนในเวลาเดียวกัน
ริคหัวเราะหึๆ เสียงทุ้มลึกของเขาก้องไปในความมืด
“ใช่แล้ว ไม่มีทางที่ฉันจะปล่อยนายไป”
เขากระซิบเบาๆ ก่อนจะโน้มตัวลงมาใกล้ สัมผัสริมฝีปากที่แข็งแรงของเขาแนบชิดกับใบหูของจีน ทำให้เด็กหนุ่มต้องหลับตาแน่น ปล่อยให้ความร้อนวิ่งพล่านไปทั่วร่าง
"อย่าคิดหนี เพราะฉันจะตามนายไปทุกที่…จนกว่านายจะเป็นของฉันทั้งหมด"
ริคพูดเสียงต่ำ ลิ้นของเขากระตุกไปตามซอกคอของจีน ความร้อนในตัวพุ่งขึ้นพร้อมกับความดิบเถื่อนที่ไม่อาจปฏิเสธได้
“ฉันอยากอีกแล้ว…” ริคพูดพร้อมกัดเบาๆ ที่ใบหูของจีน
“ริค...”
จีนพึมพำออกมาอย่างอ่อนล้าและยอมจำนน เขาไม่อาจหนีไปจากชายคนนี้ได้ ไม่ใช่เพราะถูกรั้งไว้ด้วยความรุนแรง แต่เพราะใจของเขาเองที่ถูกดึงดูดอย่างแรงกล้า ริคไม่เพียงแต่เป็นความร้อนแรงที่เผาผลาญเขา แต่ยังเป็นที่พึ่งทางใจ เป็นความหวานที่เขาไม่เคยคิดว่าจะสัมผัสได้
ริคมองลงมาที่เด็กหนุ่มในอ้อมแขนของเขา
"นายเป็นของฉันแล้ว...อย่าลืมมันล่ะ"
จีนถอนหายใจยาว รู้ดีว่าในตอนนี้ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่มีทางหนีไปจาก "ไฟรัก" ที่แสนเอาแต่ใจของริค คอนติ ได้อีกแล้ว ริคไม่ใช่แค่มาเฟียผู้หล่อร้าย แต่เขาคือผู้ที่จุดประกายความปรารถนาในตัวจีน ความรู้สึกนั้นรุนแรงเกินจะดับลง
“ผมคงไม่มีทางหนีไปจากคุณได้... ใช่ไหม?”
จีนพึมพำออกมาอย่างยอมจำนน ในขณะที่หัวใจยังคงเต้นแรง ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถควบคุมได้
ริคยิ้มมุมปาก รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจ เขาเอื้อมมือมาลูบไล้แก้มของจีนเบาๆ
“ใช่ นายไม่มีทางหนีจากฉันได้... และนายก็รู้ดีว่าตัวนายเองก็ไม่อยากหนี”
เสียงของเขาทุ้มต่ำ แต่แฝงด้วยความอ่อนโยนที่ลึกซึ้ง
จีนมองตาคนตรงหน้า แล้วปล่อยให้ความจริงนั้นซึมเข้าสู่หัวใจของเขา ตอนนี้...เขาคงไม่สามารถหนีไปจากความรักที่ร้อนแรงและดิบเถื่อนของริคได้อีกแล้ว
…………………………………………….
สำนักงานของริคตั้งอยู่ในตึกสูงระฟ้าใจกลางเมือง อาคารที่เต็มไปด้วยความหรูหราและบ่งบอกถึงอำนาจของเขาในทุกๆ ด้าน ตัวตึกกระจกใสสะท้อนแสงอาทิตย์เป็นประกายระยิบระยับ มองเห็นได้จากระยะไกล ริมฝั่งถนนที่พลุกพล่านด้วยผู้คน แต่ภายในนั้นกลับแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
เมื่อเข้าสู่ชั้นสูงสุดของตึก จะพบกับสำนักงานส่วนตัวของริค ตกแต่งด้วยโทนสีเข้ม มีเฟอร์นิเจอร์หนังหรูหราสั่งทำพิเศษ มุมหนึ่งของห้องมีโต๊ะไม้โอ๊คสีดำขนาดใหญ่ที่ดูสง่างาม ประดับด้วยงานศิลป์ราคาแพงจากทั่วโลก ด้านหลังกระจกบานใหญ่ของห้อง มองเห็นทิวทัศน์ของเมืองในมุมสูง ราวกับบ่งบอกถึงการครอบครองอาณาจักรของเขาในทุกแง่มุม
ที่นี่เป็นเหมือนศูนย์บัญชาการของริค สถานที่ที่เขาควบคุมธุรกิจและความสัมพันธ์อันซับซ้อน ที่นี่เขาคือผู้มีอำนาจสูงสุด ใครก็ตามที่เข้ามาในสำนักงานนี้ ย่อมต้องเผชิญหน้ากับออร่าอันน่ากลัวและเสน่ห์ที่ทรงพลังของริค คอนติ
ถัดจากโต๊ะทำงานของริคในสำนักงาน มีประตูบานใหญ่ที่แทบจะกลมกลืนไปกับผนังด้านหลัง มันเป็นประตูที่ออกแบบมาให้ดูเรียบหรู แต่เมื่อเปิดออก จะนำไปสู่ห้องลับส่วนตัว ซึ่งเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ ที่ริคใช้พักผ่อนในช่วงเวลาที่ต้องทำงานดึกดื่นหรือเมื่อเขาต้องการความเป็นส่วนตัว
ห้องนอนนี้ตกแต่งด้วยโทนสีเข้มและหรูหราเช่นเดียวกับส่วนสำนักงาน เตียงขนาดคิงไซส์ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง หุ้มด้วยผ้าไหมสีดำเงา ตกแต่งด้วยหมอนและผ้าคลุมเตียงที่สั่งทำพิเศษจากต่างประเทศ ด้านหนึ่งของห้องมีหน้าต่างกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน มองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองยามค่ำคืนที่เปล่งประกายด้วยแสงไฟ
มุมหนึ่งของห้องมีบาร์เครื่องดื่มส่วนตัว ตู้เย็นเล็กซ่อนอยู่หลังบานตู้ไม้วอลนัทเงางาม ที่นี่คือสถานที่ที่ริคมักจะพาคนที่เขาไว้ใจมากที่สุดมาพักผ่อน หรือบางครั้งก็นำคนสำคัญของเขามาที่นี่เพื่อใช้เวลาที่เป็นส่วนตัวอย่างลึกซึ้ง ห้องนอนนี้สะท้อนถึงความทรงพลังและการควบคุมทุกอย่างในชีวิตของริค ไม่มีที่ไหนที่เขารู้สึกว่าเป็น "อาณาจักร" ของเขาได้มากเท่าที่นี่อีกแล้ว
จากห้องนอนส่วนตัวของริคในสำนักงานชั้นบนสุด วิวที่เปิดออกไปจากหน้าต่างบานใหญ่สามารถมองเห็นหอระฆังเซนต์มาร์ค (Campanile di San Marco) ได้อย่างชัดเจน สถานที่ที่ตั้งตระหง่านเหนือจัตุรัสเซนต์มาร์ค เป็นสัญลักษณ์ที่งดงามของเวนิส แม้ยามค่ำคืน แสงไฟจากหอระฆังและจัตุรัสด้านล่างยังส่องสว่างอาบไล้เมืองด้วยบรรยากาศลึกลับและโรแมนติก
จากมุมนี้ วิวของเมืองและแม่น้ำที่คดเคี้ยวไกลออกไปทำให้ห้องดูเหมือนถูกลอยอยู่เหนือเวนิส ริคมักยืนอยู่ตรงหน้าต่างนี้ มองออกไปยังทิวทัศน์ที่คุ้นเคย
ในช่วงนี้ ริคแทบจะไม่ปล่อยให้จีนคลาดสายตา เขาพาเด็กหนุ่มมาอยู่ข้างกายแทบตลอดเวลา ทั้งในห้องทำงานและในห้องนอนที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังประตูบานลับ เพราะในขณะนี้ ริคกำลังเผชิญกับความตึงเครียดจากการขัดแย้งระหว่างสองอำนาจใหญ่ที่คุมพื้นที่ของเขา สถานการณ์เสี่ยงต่อการเกิดสงครามระหว่างแก๊ง ทำให้เขาต้องระมัดระวังทุกย่างก้าว
"ขอกลับไปใช้ชีวิตปกติที่ฟลอเรนซ์ได้ไหม... ริค?" จีนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
"ไม่มีทาง, จีน" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
"ริค ครับ..." จีนเอ่ยเสียงสั่นเล็กน้อย ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความหวานซึ้ง รู้ดีว่าคำพูดนี้จะดึงดูดความสนใจจากริคได้
"นะ... นะ... ให้ผมกลับไปได้ไหม"
"ไม่ได้" ริคย้ำเสียงหนักแน่น ทำให้จีนรู้สึกเหมือนโดนกดดันจากแรงกดดันที่เข้ามาอย่างไม่มีทางหนี
“แต่... ฉันแค่ต้องการกลับไปใช้ชีวิตปกติ...” จีนพูดเสียงต่ำ รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าในใจ
จีนทำหน้างอ ขนตายาวของเขาโบกสะบัดตามการเคลื่อนไหวที่ไม่พอใจ ริครู้สึกหัวใจสั่นอย่างไม่คาดคิด เขามองเข้าไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยความคัดค้านและความไม่พอใจ
“ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย?” จีนถามเสียงต่ำ สัญญาณของความไม่พอใจดังก้องอยู่ในอากาศ “ฉันไม่อยากรู้สึกเหมือนเป็นนักโทษในที่ที่ควรจะเป็นบ้าน”
“หนูน้อย...” เขาเอ่ยเรียก จีนไม่หันมามอง เขาจับข้อมือของจีนไว้เบาๆ “นายคิดว่าฉันอยากให้มันเป็นแบบนี้เหรอ? ฉันแค่... ฉันแค่ไม่สามารถเสี่ยงให้เกิดอันตรายกับนายได้”
“แต่ฉันรู้สึกเหมือนถูกขังอยู่ในกรง” จีนยังคงมองออกไปนอกหน้าต่าง รู้สึกถึงความไม่ชอบใจที่กัดกร่อนหัวใจของเขา
ริคต้องการที่จะเข้าใกล้เขามากขึ้น แต่เขากลัวว่าจีนจะไม่เข้าใจ เขาจึงตัดสินใจพูดด้วยเสียงที่นุ่มนวล “ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้นายรู้สึกปลอดภัย แม้ว่ามันจะหมายถึงการทำให้เราต้องอยู่ห่างกันสักพัก”
“นายรู้ว่าฉันเป็นใครและมันเสี่ยง” ริคกล่าว น้ำเสียงของเขาหนักแน่นและเต็มไปด้วยความกังวล “เสี่ยงที่จะให้ใครมาจับตัวนายมาต่อรองกับฉันไม่ได้ เพราะตอนนี้นายเป็นจุดอ่อนของฉันแล้ว”
“ ก็ได้ งั้นผมขอติดต่อแซมได้ไหม”
ริคฟังคำถามนั้น ดวงตาของเขาเริ่มเป็นประกายวาววับ เขาแทบจะระงับความรู้สึกหึงหวงที่พุ่งขึ้นมาในใจไม่ได้ “จีน…” เขาถามเสียงตึงเครียด “ระหว่างนายกับแซม มันเป็นอะไรกัน?”
“แค่เพื่อนกัน” จีนตอบเสียงเบา แต่เขารู้ดีว่ามันอาจจะไม่เพียงพอเพื่อทำให้ริคคลายความกังวล
“เพื่อน? หือ?” ริคเลิกคิ้ว มองจีนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ “เพื่อนที่ไหนกันถึงได้อยากติดต่อกันอีก? ในเมื่อมีฉันอยู่ตรงนี้?”
“ริค... ผมแค่คิดถึงฟลอเรนซ์” จีนพยายามอธิบาย แต่เสียงของเขากลับฟังดูไม่มั่นใจนัก
“ทำไมต้องฟลอเรนซ์?” ริคสวนกลับ “นั่นมันหมายความว่าอะไร? หรือว่าแซมทำให้นายรู้สึกดีมากกว่าฉัน?”
“ไม่ใช่แบบนั้น!” จีนอึกอัก
“ริค...” จีนพยายามยิ้มเพื่อบรรเทาความตึงเครียด แต่รู้สึกว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เมื่อเห็นสีหน้าของริคที่เต็มไปด้วยอารมณ์ “นายไม่ต้องหึงหวง...”
“หึง? นายคิดว่าฉันแค่หึงเหรอ?” ริคขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม “นายรู้ไหมว่าฉันหวงนายแค่ไหน? นายคือของฉัน และฉันจะไม่ยอมให้ใครมามีอิทธิพลเหนือชีวิตของนายได้อีก”
ริคจ้องมองจีนด้วยความหึงหวง เขาไม่สามารถซ่อนความรู้สึกที่ลุกลามอยู่ในใจได้อีกต่อไป
“หรือว่านายกับแซมเคย...”
“เคยอะไร?” จีนทำเสียงงง แต่ในใจเขารู้ว่าริคหมายถึงอะไร
“เคยเป็นมากกว่านั้นไหม?” ริคถาม ตาเขาเต็มไปด้วยความกดดันที่ชัดเจน “ถ้านายเคยมีความสัมพันธ์กับแซม... ถ้านายเคยอยู่ในอ้อมแขนของเขา... ฉันจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีก”
จีนรู้สึกใจสั่น เขาไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่ต้องเผชิญกับคำถามนี้จากริค ร่างบางเริ่มรู้สึกถึงความหนักแน่นที่ดึงเขาเข้าหาริคมากขึ้น “ริค... ผม..”
“นายตอบฉันมา” ริคขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม น้ำเสียงของเขาห้าวหาญและเต็มไปด้วยความต้องการ
“คุณเป็นคนแรกของผม พอใจรึยัง?”
จีนกอดอกเง้างอนหนัก เมื่อต้องเผชิญกับแรงหึงหวงของริคที่ดูเหมือนจะลุกลามเกินไป
“เคยจูบกันไหม?” ริคถาม
“ฉัน... ฉันไม่เคย...” จีนพูดเสียงเบา และสีหน้าเขาเริ่มแดงขึ้น “ไม่เคยกับใครเลย...”
“น่ารักจัง...” ริคยิ้มออกมาอย่างถูกใจ “แล้วฉันเป็นคนแรกกับจูบแรกใช่ไหม?”
“ริค!” จีนร้องเสียงสูง
“ทำไมล่ะ” ริคขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น
“ก็ฉันเป็นคนแรกของนาย... ฉันควรจะได้เป็นคนแรกที่ได้สัมผัสความหวานนี้เช่นกัน”
“ดีมาก...” ริคตอบอย่างมีความสุข พร้อมกับยิ้มที่แสดงถึงความมั่นใจ ในที่สุดเขาก็สามารถทำให้จีนก้าวข้ามไปสู่อีกช่วงของความรู้สึกได้แล้ว
ริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกันอย่างนุ่มนวล ริครู้สึกได้ถึงความหวานซึ้งจากจูบที่เต็มไปด้วยความรักและความต้องการ ทั้งคู่รู้สึกเหมือนโลกภายนอกได้หายไป ราวกับว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความรู้สึกที่พวกเขาแบ่งปันกันในขณะนี้
“นายรู้ไหม...” ริคพูดเสียงแผ่ว ขณะที่เขาเลื่อนมือไปตามแนวกรามของจีน “การที่นายตอบจูบฉันแบบนี้ มันทำให้ฉันรู้ว่าฉันไม่ผิดหวังที่เลือกนาย”
จีนรู้สึกตัวเบาเหมือนล่องลอยในอากาศ หัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก เขารู้สึกเหมือนถูกล้อมรอบด้วยความรักที่อบอุ่นและเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ เมื่อริคโน้มตัวเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น
“ริค...” จีนเอ่ยเสียงสั่น เผลอหลับตาให้กับความรู้สึกที่ท่วมท้นในใจ เขาไม่แน่ใจว่าความรู้สึกนี้คืออะไร แต่ก็รู้ว่ามันทำให้เขาอยากอยู่ใกล้ ๆ ริคตลอดไป
“อย่ากังวล...” ริคกระซิบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ฉันจะทำให้แน่ใจว่านายจะไม่ต้องการอะไรอีกเลย”
ทันใดนั้น ริคโน้มตัวเข้ามาหาจีนอีกครั้ง จูบที่ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การแลกเปลี่ยนสัมผัส แต่เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกที่ลึกซึ้ง จีนรู้สึกเหมือนกำลังถูกไฟรักที่แผดเผาเขาไว้ ทั้งสองถูกดึงดูดให้เข้าใกล้กันมากขึ้น ความร้อนแรงในใจของพวกเขาไม่อาจต้านทานได้
“ริค...” จีนครางออกมาเมื่อรู้สึกถึงแรงดึงดูดที่ไม่อาจต้านทานได้ ริคยิ้มให้กับความอ่อนหวานที่เขารู้สึกจากจีน
“ใช่... นายคือทั้งหมดของฉัน” ริคตอบกลับ และก้าวเข้าสู่โลกแห่งความรักที่เขาไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่จริง
……………………………………..
จีนเดินลงไปที่ Caffè Florian คาเฟ่เก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในจัตุรัสเซนต์มาร์ค สถานที่นี้เปิดมาตั้งแต่ปี 1720 และถือเป็นหนึ่งในคาเฟ่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในยุโรป เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปภายใน กลิ่นหอมของกาแฟสดและขนมหวานอบใหม่ตลบอบอวลอยู่ในอากาศ สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและน่าหลงใหล
ภายในร้านถูกตกแต่งด้วยสไตล์คลาสสิกที่ยังคงความเก่าแก่ ส่องสว่างด้วยโคมไฟคริสตัลที่ระยิบระยับ ประดับด้วยภาพวาดสวยงามบนเพดานและผนัง รายล้อมด้วยโต๊ะไม้ที่มีผ้าปูโต๊ะลายดอกไม้ที่ดูงดงาม การตกแต่งนี้ทำให้รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในอีกยุคสมัย
จีนเลือกนั่งที่โต๊ะด้านนอก มองเห็นจัตุรัสเซนต์มาร์คที่มีนักท่องเที่ยวเดินผ่านไปมาจำนวนมาก เสียงพูดคุยและหัวเราะของผู้คนดังขึ้นเป็นพื้นหลังขณะที่เขายิ้มให้กับบาริสต้า ขณะกาแฟถูกเสิร์ฟด้วยฟองนมที่สวยงามคล้ายลวดลายดอกไม้
“นี่คือกาแฟที่ดีที่สุดในเวนิส” เขาคิดในใจ ขณะที่ยกถ้วยขึ้นจิบ ชิมความหวานหอมที่แผ่กระจายอยู่ในปาก รสชาติกลมกล่อมของกาแฟยิ่งทำให้เขารู้สึกมีความสุขยิ่งขึ้น
เป็นเพราะความแง่งอนของหนุ่มน้อย ริคจึงตัดสินใจตามใจให้จีนออกไปไหนมาไหนคนเดียวได้ แต่แท้ที่จริงแล้ว มีคนเฝ้าตามอยู่ห่างๆ นับสิบคน ที่ถูกส่งมาเพื่อดูแลความปลอดภัยของเขา แม้ว่าจีนจะรู้สึกเป็นอิสระและมีความสุขที่ได้ออกไปใช้ชีวิต แต่ความจริงที่อยู่เบื้องหลังนั้นซับซ้อนกว่าที่เขาคิด
ในฐานะที่ริคเป็นมาเฟียหนุ่มที่มีอำนาจและศัตรูมากมาย การปล่อยให้จีนเดินคนเดียวในเมืองที่สวยงามแต่เต็มไปด้วยอันตรายเช่นนี้ ไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายดาย ริครู้ดีว่าศัตรูของเขาหมายตาไปที่จีน หากพวกเขารู้ว่าร่างบางนี้คือจุดอ่อนของเขา พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะใช้มันเพื่อทำร้ายเขา