บทที่ 4 : ทะเลาะวิวาท!

1588 Words
"หึ! ปากเก่งให้ได้มันตลอดแล้วกัน" "บอกตัวเองเถอะย่ะ!” น้ำผึ้งสวนกลับ ทำให้พยัคฆ์ไม่สบอารมณ์อย่างรุนแรง จากที่คิดว่าจะกระชับมิตรกัน ตอนนี้กลายเป็นศัตรูคู่แค้นไปโดยปริยาย แต่จะทำยังไงได้ล่ะ เขาด่าเธอว่าเป็นของสกปรกก่อนนะ! "ใครจะอยู่ก็อยู่ แต่กูไม่อยู่!" พยัคฆ์ทิ้งท้ายด้วยความโกรธ ก่อนจะคว้ารถบิ๊กไบค์ขับออกไปทันที สามคนที่เหลือหันหน้ามองกันเลิ่กลั่ก ถ้าขืนอยู่ที่นี่โดยที่ไม่มีเจ้าของบ้าน มันก็ยังไง ๆ อยู่ "ไม่เป็นไร ไปเถอะ" เธอไม่อยากทำให้คนอื่นลำบากใจ เลยปล่อยให้สามคนนั้นตามเพื่อนสนิทไปจะดีกว่า ส่วนเธอขอไปสงบสติอารมณ์สักพัก จะได้ใจเย็นลงบ้างไม่มากก็น้อย "เห้อ..." หลังจากเข้าไปผ่อนคลายอารมณ์ ร่างเล็กก็เดินออกมายืนมองของสดที่นอนอยู่ในถังขยะหน้าบ้าน ถึงมันจะอยู่ในถุงพลาสติก แต่บางส่วนโดนสิ่งสกปรกแล้ว ที่พอจะกินได้ก็มีแค่ไข่ไก่กับผักกะหล่ำก้นถุงเท่านั้น "ยังดีที่แม่ค้าแถมกะหล่ำมาให้" เธอพูดปลอบใจตัวเอง ก่อนจะเลือกในส่วนที่กินได้ขึ้นมาถือไว้ ดวงตาคู่สวยแอบมองหมูสับตาละห้อย ถ้าน้องยังอยู่ในถุงก็อยากเก็บอยู่หรอก แต่นี่ไอ้คนทิ้งมันดันเท'ออกจากถุงนี่สิ หญิงสาวเดินคอตกกลับเข้าไปในบ้าน ยังดีที่วันนี้ไม่ได้ซื้อของมาตุนทั้งอาทิตย์ ไม่งั้นได้นั่งร้องไห้เพราะเสียดายของแน่ ไอ้คนทิ้งก็เนอะ น่าทุบให้กล้ามยุบกันไปข้าง มีอย่างที่ไหน มาโกรธแม่เลี้ยงแทนพ่อแบบนี้! ตืดดด! ทำกับข้าวเสร็จ (กะหล่ำผัดไข่) ก็มีคนโทรมา พอเห็นว่าเป็นเบอร์แปลก เธอเลยไม่รับสาย จนกระทั่งเบอร์นั้นโทรมาครบสิบสาย เธอถึงยอมกดรับแต่ยังไม่พูด [สวัสดีครับ ผมเจ้าหน้าที่ตำรวจนะครับ] "คะ?" รีบวางช้อนกินข้าว [คุณเป็นผู้ปกครองของนายพยัคฆ์ หรือเปล่าครับ?] "ถ้าหมายถึงพยัคฆ์ ขุนเมฆา ก็ใช่ค่ะ" [ครับ ตอนนี้นายพยัคฆ์ถูกจับข้อหาทะเลาะวิวาทกับเด็กวัยรุ่นแถวสะพานพุทธ เจ้าตัวอยู่ที่สน*** ถ้าคุณแม่อยากจะมาประกันตัวให้นำเอกสารมาได้เลยนะ...] [ไม่ต้องโทรตามใครทั้งนั้น ทนายผมมาแล้ว] เสียงแทรกของพยัคฆ์ ทำให้เธอรู้ว่าเขามีเรื่องบ่อยเสียจนต้องมีทนายความคอยตามเคลียร์ให้ คุณลุงหมอคงเจอเหตุการณ์แบบนี้อยู่บ่อยครั้ง ถึงได้ให้เธอมาช่วยกำราบลูกชาย แต่ดูสิ่งที่เขาทำสิ เธอจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปกำราบคนอย่างงี้ได้ ดื้อด้านชะมัด! "ค่ารถค่ะลุง!" ถึงอย่างงั้นเธอก็ต้องมารับเขาที่สน.อยู่ดี มีสถานะเป็นแม่เลี้ยง จะปล่อยให้ลูกเลี้ยงต่อสู้คนเดียวได้ยังไงล่ะ "แม่ผึ้ง!" สามหนุ่มที่มีตำรวจคอยคุมตะโกนเรียกหญิงสาวที่เพิ่งมาถึง เธอสวมใส่เสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนธรรมดา มัดผมรวบหางม้าเพราะไม่มีเวลาแต่งตัว "ไปทำอีท่าไหนถึงได้มีเรื่องกัน?" "ทำหลายท่าเลยครับแม่ โดยเฉพาะท่าฟรีคิก" ซีเกมพูดพร้อมกับทำท่าทางกระโดดเเตะ เพิ่งโดนตำรวจจับแท้ ๆ ยังจะมีหน้ามาเล่นอีก น่าตีทั้งกลุ่มเลย "แล้วนี่พ่อแม่ไม่มาเหรอ?" "สักพักครับ" บอสตอบ "พักใหญ่ ๆ เลยครับ" อาทเสริม ดูจากสีหน้าและแววตาพวกเขาคงจะไม่ได้คาดหวังให้พ่อแม่มาเคลียร์ให้ เธอเลยเดินเข้าไปข้างใน พอเจอทนายความของพยัคฆ์ก็รีบเข้าไปคุยทันที "เคลียร์ได้ไหมคะ?" "คุณคงเป็นคุณน้ำผึ้ง ภรรยาใหม่ของคุณหมอพลใช่ไหมครับ?" ทนายความวัยกลางคนขยิบตาเล็กน้อย เพื่อส่งซิกให้เธอเออ'ออด้วย ดูเหมือนคุณลุงหมอจะเตี๋ยมเรื่องสถานะเอาไว้ จะได้ไม่โป๊ะตอนที่มีปัญหา "ใช่ค่ะ..." "มาทำไม วุ่นวายไม่เข้าเรื่อง" พยัคฆ์พูดแทรกด้วยสีหน้าไม่ชอบใจนัก "เรื่องอื่นค่อยไปเคลียร์กันที่บ้าน" "ไม่เคลียร์ เพราะผมไม่กลับ" "เรียบร้อยดีไหมคะ คุณทนาย?" "เรื่องคดีความไม่มีปัญหาครับ ผมเคลียร์ให้แล้ว" "แล้วสามคนที่เหลือล่ะคะ?" "บอกว่าไม่ต้องยุ่ง...อุ๊บ!" มือเล็กเอื้อมไปปิดปากคนตัวสูงไม่ให้พูดแทรก "ถ้าคุณน้ำผึ้งอยากให้ผมช่วย ผมก็จะช่วยครับ" ใบหน้าสะสวยคลี่ยิ้ม แล้ววานให้ทนายมงคล (เพิ่งรู้ชื่อ) ช่วยประกันตัวสามคนนั้นอีกแรง ถ้าได้ออกจากที่นี่ ก็ขอให้ออกไปพร้อมกัน โดยที่ไม่มีใครถูกจับขังคุก "ขอบคุณนะครับแม่ ที่ช่วยพวกผม" สามหนุ่มจะยกมือไหว้ แต่เธอรีบห้ามปราม "ไหว้ทนายมงคลเถอะ ไม่ต้องมาไหว้ทางนี้!" "ไม่ต้องไหว้ผมหรอกครับ ยังไงคุณพยัคฆ์ก็ไม่ปล่อยให้เพื่อนติดคุกติดตารางอยู่แล้ว ผมช่วยเท่าที่จะช่วยได้เท่านั้นเอง ที่เหลือแต่ละคนต้องบอกที่บ้านนะครับ" "บอกก็โง่สิครับทนาย~" "ถ้าไม่บอก ครั้งหน้าคุณซีเกมจะติดคุกนะครับ" "ผมจะไม่เกมเหมือนชื่ออีกแล้ว ผมสัญญา" "สัญญากับผีป้ามึงอ่ะดิ ตอนวิ่งหนีเป็นเพราะมึงเลยครับ ถ้ามึงไม่สะดุดล้ม พวกกูคงไม่โดนรวบแบบนี้" "กูสะดุดรักเว้ย อย่าโทษกู!" "ถุ้ย! สะดุดรักห่าอะไร มีแต่ตำรวจวิ่งตาม" "กูสะดุด..." "ไอ้เด็กผู้ดีตีนแดงพวกนี้ใช่ไหม ที่มาตีลูกฉัน!" คุณป้าวัยสี่สิบปลาย ๆ เดินตรงเข้ามาหาสี่หนุ่ม พร้อมกับชายฉกรรจ์แปดคน พยัคฆ์เดินหลังสุดเพราะกำลังสูบบุหรี่อยู่ เธอเลยเดินขึ้นไปบังไม่ให้พวกเขามีเรื่อง "มีอะไรค่อย ๆ คุยกัน อย่าใช้กำลังนะคะ" "แกเป็นเมียหนึ่งในสี่คนนี้หรือไงห่ะ!?" "ฉันเป็นผู้ปกครองของพวกเขาค่ะ" "ผู้ปกครองไร้วุฒิภาวะ ไม่น่าล่ะ ไอ้เด็กกะเลวกะลาดพวกนี้ถึงได้หาเรื่องคนอื่นไปทั่ว ถ้าแกมีสมองก็หัดสั่งสอนพวกมันบ้างนะ ไม่ใช่เห็นคนจนเป็นเครื่องรองมือรองเท้า อยากตีเมื่อไหร่ก็ตี อยากกระทืบเมื่อไหร่ก็ทำได้เลย ไอ้พวกสันดานเลว!" คำว่าไอ้พวกสันดานเลวของมนุษย์ป้าด่ากราดเต็มหน้าเธอ พยัคฆ์ที่ยืนอยู่ท้ายสุดเดินขึ้นมาอย่างเอาเรื่อง แต่เธอรีบห้ามเอาไว้ "ทำไม โดนด่าแค่นี้รับไม่ได้หรือไงห่ะ!?" "ผมว่าคุณควรหยุดด่า ก่อนที่ผมจะเอาเรื่องนะครับ" ทนายมงคลออกโรงใช้กฏหมายปกป้อง "ฉันจะด่า ใครมันจะทำไม ถ้าจะเรียกตำรวจมาจับก็เอาสิ ฉันจะได้ให้ตำรวจจับไอ้เด็กเลวสี่ตัวนี้ด้วย!" "คำก็เลว สองคำก็เลว ลูกป้าดีมากมั้ง!?" "แกว่าไงนะ!?" "ทะเลาะวิวาทหมายถึงมีเรื่องกันทั้งสองฝ่าย ป้าถามตำรวจหรือยังว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน หรือว่าป้าถามแค่ลูกชายป้าฝ่ายเดียว ถ้าให้เดา ลูกป้าคงจะบอกว่าฝ่ายนี้เริ่มก่อนใช่ไหมล่ะ แล้วป้าก็ดันโง่ เข้าข้างลูกตัวเอง!" "นะ นี่แกว่าฉันโง่งั้นเหรอ!?" "ใช่! ชัดเจนเต็มสองหูเลยนะป้า ถ้าป้ามาคนของฉันว่าเป็นพวกเด็กกะเลวกะลาด ฉันก็สามารถด่าป้ากลับได้เหมือนกัน ว่าเลี้ยงลูกแบบไม่ลืมหูลืมตา ฟังความข้างเดียว ป้าแหกตาดูนี้เสียก่อน (จับพยัคฆ์หันหน้า) โดนกระสุนยิ่งเฉียดแก้มขนาดนี้ ยังจะเข้าข้างลูกตัวเองอยู่ไหม ฝั่งนี้ไม่มีอาวุธ แต่ดูฝั่งลูกป้าดิ อาวุธครบมือ!" "ถ้าจะเอาเรื่องจริง ๆ ฝ่ายคุณต้องโดนข้อหาพกอาวุธปืนโดยที่ไม่มีใบอนุญาต อยากจะลองสักตั้งไหมล่ะ?" พอทนายมงคลช่วยเสริม มนุษย์ป้าก็หน้าหดเหลือสองนิ้ว ก่อนจะรีบปลีกตัวเดินขึ้นไปรับลูกชายบนสน. ไอ้เราก็นึกว่าจะเก่งเหมือนปาก ที่ไหนได้ พอรู้ว่าลูกตัวเองทำผิดเต็มประตู ก็รีบชิ่งหนี ไม่ยอมรับผิดชอบ! "ตบมือดิครับรออะไร~" แปะ แปะ แปะ! สามหนุ่มรวมถึงทนายมงคลตบมือให้กับความปากแซ่บของเธอ กล้าด่าลูกเลี้ยงก็ว่าสุดแล้ว นี่ยังด่ามนุษย์ป้าอีก ต่อไปคงไม่ต้องซ่อนความเป็นตัวเองแล้วมั้ง "โทษที ฟิวขาดไปหน่อย" เธอปล่อยมือออกจากใบหน้าหล่อคม แล้วจับมือหนาพาเดินกลับไปที่รถ สามหนุ่มเอ่ยปากชมเธอตลอดทาง ทั้งที่เรายังจับมือกันอยู่ พอพยัคฆ์รู้สึกตัวก็รีบดึงมือออก แล้วถอยห่างเหมือนรังเกียจ ไม่อยากเข้าใกล้ "คืนนี้นอนที่ไหนกัน?" หันไปถามสามหนุ่ม "ผมต้องกลับบ้าน" บอสตอบ "ผมก็เหมือนกัน อีกสักพักตำรวจคงโทรเช็ก" "แปลว่าพ่อแม่ก็คงรับรู้สินะ ยังไงก็ดูแลตัวเองกันด้วยถ้าไม่สบายใจก็มานอนที่บ้านแม่ได้..." หลุดทำตัวเป็นเจ้าของบ้านอีกแล้ว ให้ตายเถอะ เบื่อความชวนผู้ชายเข้าบ้านมากเลย เจอคนหล่อที่ไร หลุดปากชวนทุกที!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD