ตอนที่ 7
ผีกับขนมหวาน
"ให้ตายเถอะ ฉันในร่างตุ๊กตาสามารถออกแดดได้ กรี๊ด"
คนงามในร่างตุ๊กตาร้องออกมาอย่างดีใจเมื่อรู้ว่าตัวเองสามารถออกไปลุยกับแสงแดดศัตรูตัวฉกาจของเธอได้แล้ว สมองโปร่งแสงแสนซุกซนทำหน้าที่กลั่นกรองความรู้สึก อยากออกไปผจญโลกภายนอกราวกับเด็กน้อยอย่างตื่นเต้นฉายชัดผ่านแววตาของอลิซ
"งั้นเราลองไปเผชิญโลกกว้างกันหน่อยดีมั้ย"
เด็กน้อยแสนซนกับแผนการออกไปท่องโลกและการแต่งตัวสุดวาบหวิว ใช่ ด้วยความที่เป็นตุ๊กตายางยั่วเพศ การแต่งตัวของเธอจึงล่อแหลมมากเพราะเสื้อผ้าที่มีก็แค่เครื่องประดับชิ้นหนึ่งที่ต้องถูกถอดออกอยู่ดี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหากเธอจะเลือกชุดตามความรู้สึกแค่ว่ามันสวยดีเท่านั้น ชุดนอนลูกไม้รัดรูปซึ่งเน้นส่วนโค้งเว้าของร่างกายของผู้หญิง ประดับด้วยลูกปัดเพิ่มความสวยงามสีม่วงพาสเทลอ่อนๆ คือตัวเลือกในครั้งนี้และที่สำคัญคือเธอไม่ได้ใส่ชุดชั้นใน!!
เจ้าของร่างในชุดนอนวาบหวิวแสนบางซึ่งดูยังไงก็ไม่เหมาะกับการออกมาเดินเฉิดฉายเช่นตอนนี้ เรียกสายตาทุกคู่ที่เธอเดินผ่านให้เหลียวหลังกลับมามองกันอย่างตกตะลึง เธอเดินกึ่งวิ่งเล่นอย่างสนุกสนานราวกับไม่เคยได้ใช้ชีวิตมานานในตรอกซอยไม่ไกลจากที่พักอาศัยมากนัก ร้านรวงต่างๆ ดึงดูดสายตาของเธอผู้ไม่เคยได้เห็นสิ่งเหล่านี้ราวกับเด็กได้เห็นของเล่นใหม่
บรรยากาศของเมืองที่แสนคึกคักสร้างความตื่นเต้นให้ผีสาวไม่น้อย เมืองนี้คึกคักไปด้วยกิจกรรมและผู้คน (ที่มองเธอจนเหลียวหน้าเหลียวหลัง) รถยนต์และยานพาหนะอื่นๆ ที่สัญจรผ่านไปมาต่างพากันมองคนในชุดวาบหวิวยั่วเพศกันแทบน้ำลายหกรถแทบจะพุ่งชนกันอยู่รอมร่อ
เธอเดินเล่นมาเรื่อยๆ จนถึงตลาดที่คลาคล่ำไปด้วยพ่อค้าแม่ค้า และผู้ซื้อต่อรองราคาและทำข้อตกลง อากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของอาหารและเครื่องเทศต่างๆ และเสียงของพ่อค้าแม่ค้าที่เรียกผู้คนที่เดินผ่านไปมาให้เข้ามาดูสินค้าของพวกเขา
บรรยากาศที่แสนมีชีวิตชีวาและน่าตื่นเต้น โดยให้ความรู้สึกถึงพลังงานและความเร่งรีบในอากาศที่เธอไม่เคยได้สัมผัส
และทันทีที่เห็นสถานที่แห่งหนึ่ง ดวงตาคู่สวยของอลิซก็เบิกโพลงเป็นประกายทันทีสองเท้าเดินย่างสามขุมเข้าไปที่นั่นก่อนที่สมองโปร่งแสงจะทันได้สั่งการด้วยซ้ำ
"ยินดีต้อนรับ นายท่าน!" พนักงานสาวสวยเอ่ยต้อนรับพร้อมกับโค้งให้อลิซอย่างนอบน้อมก่อนจะผายมือเชิญชวนผีสาวให้เข้าไปในร้านอย่างยินดี
สองเท้าก้าวฉับเดินเข้าไปในร้านเล็กๆ บรรยากาศสบายๆ ที่มีผนังสีพาสเทลและแสงไฟวิบวับ อากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมหวานของขนมอบสดใหม่และเสียงเพลงคลอเบาๆ
ที่เคาน์เตอร์ แลเห็นตู้โชว์ที่เต็มไปด้วยพาเฟ่ต์สีสันต่างๆ หลายชั้นตั้งเรียงอย่างสวยงาม พาร์เฟต์แต่ละชิ้นโรยหน้าด้วยผลไม้สด กราโนลากรุบกรอบ และวิปครีมช่างดูยั่วน้ำลายในสายตาของเด็กๆ รวมทั้งผีที่ยังไม่โตเท่าไหร่ตนนี้ด้วย
ร้านตกแต่งด้วยของตกแต่งน่ารักแปลกตา เช่น ขวดโหลวินเทจที่เต็มไปด้วยลูกกวาดหลากสี และตุ๊กตาน่ารักที่วางอยู่บนชั้นวาง บริเวณที่นั่งเล่นอบอุ่นและสบาย มีเบาะนุ่มและผ้าห่มนุ่มๆ ให้เอนกายได้
พนักงานเป็นมิตรและต้อนรับด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าขณะทักทายและรับออเดอร์ เรียกรอยยิ้มกว้างให้กับผีที่สิงในร่างอลิซไม่น้อย
"เอาล่ะฉันจะดื่มด่ำกับขนมหวานและเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศสบายๆ แบบนี้ให้หนำใจไปเลย"
คนโปร่งแสงในร่างซิลิโคนหมายมั่นปั้นมือพลางกวาดสายตามองสิ่งยั่วน้ำลายพวกนี้ จริงอยู่ที่ว่าเธอไม่ต้องกินไม่ต้องขับถ่าย แต่ของพวกนี้มันน่ากินเกินไป แม้จะรู้ว่ากินไปก็ต้องไปจุกอยู่ที่คอหอยของตุ๊กตาแต่เธอก็จะกิน!!
คิดแล้วก็ชี้นิ้วสั่งของหวานสีสันสดใสออกมาวางเรียงรายโดยหารู้ไม่ว่าทั้งโต๊ะนี่มันต้องจ่ายกี่บาท และใช่เมื่อถึงเวลาที่ผีสาวจัดการของบนโต๊ะจนแทบจะจุกล้นคอหอยออกมาแล้วนั้น พนักงานของร้านก็เดินยิ้มหวานมาที่เธอทันที
"ขออนุญาตนะคะ จะเช็กบิลเลยรึเปล่าคะลูกค้า" เธอร้องถามตามหน้าที่ของตัวเองแม้มันจะทำให้ผีที่ตอนนี้ขอบปากเปรอะเปื้อนไปด้วยของหวานจนเหมือนเด็กเล็กก็ตาม
"คุณหมายถึงอะไรคะ"
"ก็เช็กบิลไงคะ สั่งของมาทานเยอะแยะแบบนี้ก็ต้องจ่ายเงินค่ะ คุณลูกค้าอย่ามาตีเนียนแบบนี้สิ" น้ำเสียงหวานหูในตอนแรกเริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นเข้มขึ้นกว่าเดิมจนผีสาวรู้สึกได้ ใบหน้าสวยก้มมองแต่ตักตัวเองพลางบีบมือเข้าหากันอย่างลืมตัว กระนั้นน้ำเสียงแผ่วเบาก็ยังคงถามออกไป
"คืออลิซไม่มีเงินค่ะ"
"เอ๊ะนี่หนู! อย่ามาเล่นลิ้นนะคะ นี่คิดจะชักดาบกันรึไง" เสียงของนางฟ้าใจดีในตอนแรกเริ่มแรงขึ้นทุกขณะจนผีสาวยิ่งรู้สึกราวกับว่าตัวหดเล็กลงไปเรื่อยๆ
"หน้าตาก็ดีนะคะ ทำไมทำแบบนี้ล่ะ คิดจะเป็นมิจฉาชีพตั้งแต่อายุยังน้อยเลยเหรอ หรือว่าแค่เรียกร้องความสนใจกันแน่ ดูแต่งเนื้อแต่งตัวเขาสิ! ถ้าหากยังเล่นแง่แบบนี้จะโทรเรียกตำรวจแล้วนะคะ"
แม้จะไม่เข้าใจอย่างชัดเจนได้ทั้งหมดทว่าความหวาดกลัวจากคำพูดนั้นก็ทำเอาผีสาวยิ่งวิตก จนนึกอยากลอยออกจากร่างพลาสติกนี่เสีย หากแต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะนั่นหมายถึงเธอต้องทิ้งอลิซซาเบธไว้ที่นี่ แล้วถ้าเป็นแบบนั้นแทนคุณก็ต้องโกรธเธอมากแน่ สาวเจ้าได้แต่คิดหาทางออกทั้งที่ช่างมืดมนเสียเหลือเกิน
พนักงานสาวยังคงตำหนิคนตัวเล็กกว่าอยู่แบบนั้นด้วยคิดว่าต้องการจะแสดงอำนาจกดคนที่กำลังตัวสั่นอยู่ ยิ่งวันนี้ลูกค้าในร้านแทบไม่ค่อยมีอยู่ คนที่กำลังติเตือนอยู่ก็ยิ่งแสดงบารมีมากขึ้นเรื่อยๆ ชนิดว่าไม่สนใจคนตัวเล็กที่สั่นเทาเลยสักนิด
หากแต่การกระทำของเธอกับตกอยู่ในสายตาของชายร่างสูงคนหนึ่ง ซึ่งนั่งอยู่มุมในสุดพอดี
"ขอโทษนะครับ มีอะไรกันรึเปล่า" ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างใจเย็นเพราะจากที่เห็นเหตุการณ์มาสักพักใหญ่เริ่มรู้สึกว่า การตำหนิของพนักงานรายนี้จะล่ามไปสู่เรื่องวัยและการแต่งตัวของเด็กสาวมากกว่าความผิดเสียอีก
"ยัยนี่สั่งขนมมากินเยอะแยะเลยค่ะ แต่ไม่มีเงินจ่าย แถมยังทำตีหน้าซื่อบอกไม่มีเงินอีก บ้ารึเปล่า!" คนเพิ่งก้าวเข้ามามองไปยังเด็กสาวที่ก้มหน้าอยู่แล้วถอนหายใจออกมา
"เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมจ่ายให้เองครับ สงสารน้อง" น้ำเสียงนุ่มน่าฟังบอกออกไป นั่นแหละจึงทำให้พนักงานหญิงผู้อวดศักดามากเกินขอบเขตล่าถอยออกไป พร้อมกับเงินอันมากกว่าค่าขนมไปอยู่มาก
หลังจากเคลียร์ทุกอย่างเสร็จสิ้น ชายหนุ่มจึงหันไปหาร่างที่แทบไม่มีอะไรปกปิดของอลิซก่อนจะถอดเสื้อโค๊ทตัวยาวมาคลุมให้ดั่งสุภาพบุรุษ แม้ฝ่ายนั้นจะยังไม่แม้จะเงยหน้ามองเขาก็ตาม
"นี่เธออ่ะ คราวหลังถ้าไม่มีเงินก็อย่ามาสั่งของกินแบบนี้สิ แบบนี้มันเข้าข่ายกินแล้วชักดาบนะ" ชายหนุ่มพูดพลางส่ายหน้าไปมาอย่างระอาก่อนจะกวาดสายตาดูร่างยั่วเย้าที่แต่งตัวยั่วเพศแบบนี้อย่างนึกตกใจ
"ให้ตายเถอะแล้วชุดแบบนี้มันใส่ออกมาข้างนอกได้ด้วยรึ พ่อแม่ไม่ว่ารึไง"
เขาถามคำถามขึ้นกับคนโปร่งแสงที่สิงร่างตุ๊กตาอลิซ แม้จะไม่มีความทรงจำแต่เธอก็รู้จักการใช้ชีวิตตามสัญชาตญาณ
เพียงแค่จำสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่ได้เท่านั้นเวลาที่พยายามคิดก็มักจะปวดหัวและรับรู้ได้ว่ามีความมืดและเย็นอยู่รอบตัวเฉกเช่นตอนนี้ ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ต่อว่าเธอรุนแรงเลยแม้แต่น้อย หากแต่เม็ดน้ำตากลับเอ่อคลอออกมาจากดวงตากลมที่โตเกินใบหน้าไปมากนั่นเพียงแค่มองใบหน้าของอีกฝ่ายเท่านั้น
"ดะ เดี๋ยว ฉันไม่ได้ตั้งใจจะว่าเธอนะ หยุดร้องก่อน"
สาวน้อยพยักหน้ารับแล้วก็รีบปาดน้ำตาของตัวเองทิ้ง เธอเองก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่ตนไม่มีแม้แต่ความเสียใจหรือตื่นกลัวอีกฝ่ายเลยสักนิด ทว่าผีสาวก็ให้คำตอบกับตัวเองได้เหมือนกันว่าเหตุใดสายน้ำตาจึงร่วงหล่นออกมาเช่นนี้
"นี่ เธอชื่ออะไร" ชายหนุ่มที่กำลังเห็นสถานการณ์ไม่ดีเอ่ยถามเธอที่กำลังเช็ดน้ำตาเพื่อดึงความสนใจและเปลี่ยนบรรยากาศ และก็เหมือนจะได้ผลเสียด้วย
"อลิซค่ะ" เธอตอบอย่างฉะฉาน ก็แน่ล่ะ เธอจำชื่อตัวเองไม่ได้นี่ทุกวันนี่ก็เรียกตัวเองว่าอลิซมาตลอด
"งั้นอลิซทำไมถึงมากินขนมแล้วไม่มีตังจ่ายแบบนี้คะ" ดวงตาแสนอ่อนโยนจ้องมองที่ใบหน้าของหญิงสาวอย่างอบอุ่น
"คือ อลิซไม่รู้ค่ะ อลิซลืมตัว เห็นมันสวยแล้วก็น่าอร่อย" เธอพูดแล้วทำหน้าราวกับสำนึกผิดทำเอาคนตัวโตกว่ายกยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน ขับให้ใบหน้าหล่อเหลาดุจพระเอกซีรีส์ของเขาให้น่ามองขึ้นกว่าเดิม
"งั้นอลิซ กลับบ้านมั้ย เดี๋ยวพี่ไปส่ง"
"..."
"อย่าบอกนะว่าจำทางกลับบ้านไม่ได้" น้ำเสียงคล้ายกับว่ากำลังโดนสบประมาทในความรู้สึกของผีสาวทำเอาเจ้าตัวเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยพลางเอ่ยตอบด้วยความฉะฉานมั่นใจ
"จำได้สิคะ ถึงจะลอยไปลอยมามานาน แต่เรื่องจำทางนี้ฉันเก่งมากเลยนะ"
คนฟังถึงกับนิ่งงั้นไปในตอนแรกกับคำว่าลอยไปไหนมาไหนของเธอ ก่อนที่จะหลุดขำออกมาในที่สุดแล้วนำพาเธอออกไปด้วยกันโดยไม่ลืมซื้อของหวานเจ้าปัญหาให้เธอติดมือไปด้วย