ลูกค้าคนแรก 18+

1916 Words
"สระผม ข้างหลังค่ะ" ไม่ทันจะเอื้อนเอ่ย ถามไถ่ ลูกค้า ที่วิ่งเปียกฝนเข้ามาในเวลานี้ ก็แสดงความต้องการของตัวเองออกมาทันที เธอไม่ใช่ลูกค้าหน้าใหม่ แต่เป็นลูกค้าประจำ ที่หายไปนานหลายปี หากนับแบบจริงจังและแม่นยำ ก็น่าจะห้าปี หล่อนยิ้มให้พนัสสรเพียงนิด ราวกับคนคุ้นเคย แต่สิ่งที่ได้รับกลับไปคือใบหน้าเรียบเฉย แม้ภายในใจจะกระตุกไหว เมื่อเห็นว่าผมเพ้าของหล่อนเปียกโชกก็ตาม พนัสสรเดินผ่านร่างเธอไป เพื่อดับไฟหมุนหน้าร้าน ทำทีไม่สนใจและไม่คิดทักทาย "ยังเหมือนเดิมเลยนะ" หล่อนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว "เชิญข้างใน" หันมาบอกแค่นั้น เพราะต้องจัดการปิดประตูลงกลอน ซึ่งลูกค้าก็ไม่ได้บ่ายเบี่ยงที่จะทำตามอย่างว่าง่าย หล่อนเดินเข้าห้องสระแบบวิไอพีอย่างไม่ขัดเขิน เนตร หรือกมลชนก หญิงสาววัยสามสิบ หล่อนมาในชุดทำงาน เสื้อเชิ้ตสีฟ้า ตัวบาง แขนยาว พร้อมกับกระโปรงทรงเอรัดรูปสีดำ ก้าวขึ้นเตียงสระด้านในอย่างรู้งาน มือประสานกันไว้ที่หน้าท้อง เสียงสวิฟซ์ไฟที่กดปิดค่อยๆ ดังเข้ามาถึงด้านในเรื่อยๆ พาให้คนบนเตียงสระ ถึงกับใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ รู้สึกถึงการมา ไฟในห้องหรี่ลงอย่างเห็นได้ชัด จนเป็นวอร์มไลท์ ส่องสว่างแค่เตียงที่ลูกค้านอน "ครึ่งชั่วโมง ไม่จูบ ไม่เลีย เลือกอุปกรณ์เสริมได้" เป็นคำพูดที่ห้วนที่สุดสำหรับการพูดคุยกับลูกค้า "แต่ถ้าต้องการมากกว่านั้น ต้องจ่ายเพิ่ม" พร้อมจงใจตั้งนาฬิกาจับเวลาไว้ที่โต๊ะตัวสูงข้างศีรษะลูกค้า "ต้องการแบบไหนเป็นพิเศษคะ" เมื่อเห็นว่ากมลชนกส่งรอยยิ้มแห้งๆ มาให้ จึงต้องยอมพูดจาดีด้วย อย่างรู้สึกผิด ก็ไหนๆ หล่อนก็เป็นคนนำเงินมาให้ ก็ควรปฏิบัติให้เท่าเทียมเหมือนกับทุกๆ คน "จูบอย่างเดียว ครึ่งชั่วโมง ได้มั้ย" บอกออกมาด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะร้องไห้เต็มที พร้อมลุกขึ้นนั่งประจันหน้า แต่กฎก็คือกฎ เธอควรทำให้มันเป็นมาตรฐาน แม้จะขัดใจลูกค้าก็เถอะ "ไม่ได้" ตอบออกไปอย่างหนักแน่น เพราะไม่อยากจะเสียเวลา มือเรียวยาว ที่ลูกค้าต่างตั้งยศให้ว่าเป็น มือสวรรค์ จับขาหล่อนแยกออกหนึ่งข้าง วางมือไว้ที่โคนขา ลูบไล้อย่างเบามือ จงใจปัดป่ายนิ้วให้โดนกางเกงในหล่อนแบบโฉบเฉี่ยว จ้องมองใบหน้าลูกค้าที่พยายามอดกลั้นความเสียวอย่างพอใจ อีกนิด อีกนิด ต้องรออีกนิดให้หล่อนแสดงความต้องการออกมาทางสีหน้ามากกว่านี้ 'อึก' แต่การกลืนน้ำลายก็เป็นเครื่องยืนยันเหมือนกัน หล่อนคงจะพร้อมแล้ว เพราะเป็นคนขี้อายจึงไม่ยอมปล่อยเสียงให้เล็ดรอดออกมาง่ายๆ นิ้วที่ไล้วนอยู่โคนขาเปลี่ยนมาวางทาบที่กางเกงชั้นในหล่อนแทน จงใจลูบไล้อย่างเบามือจนทั่ว ก่อนจะรูสึกถึงความเปียกที่นิ้วมือซึมผ่านออกมา นิ้วที่เก่งกาจกำลังเขี่ยหาความโหนกนูน และเมื่อพบและมั่นใจ จึงไม่ลังเลที่จะบดขยี้ติ่งนั้น แขนของกมลชนกพาดไหล่เธออย่างต้องการที่ยึดเหนี่ยว นี่ขนาดเพิ่งเริ่ม ยังไม่ถึงไหน หล่อนยังแทบจะทรงตัวไม่อยู่ เสื้อผ้ายังคงอยู่ครบชิ้นด้วยซ้ำ แผ่นหลังแนบชิดติดเบาะ เสื้อเชิ้ตถูกแกะกระดุมออกทีละเม็ด มืออีกข้างกำลังช่วยขยำหน้าอกผ่านเสื้อชั้นในตัวจิ๋ว จากสายตานั่นคงคัพเอได้ล่ะ มือที่ถนัดล้วงเข้าในกางเกงชั้นในอีกครั้ง ไม่พูดพร่ำทำเพลง จัดการลูบไล้ของสงวนอย่างชำนาญ น้ำล่อลื่นที่ทำให้กางเกงชั้นในเปียกโชกในทีแรก ตอนนี้ก็ทำให้มือพนัสสรชื้นแฉะไปด้วย นิ้วเขี่ยบริเวณโหนกนูนอยู่นาน จนหล่อนเริ่มได้ที่ เด้งตัวขึ้นเพื่อให้ของสงวนของตัวเองเสียดสีนิ้วสวรรค์มากที่สุด และเวลานี้ พนัสสรไม่อาจปล่อยให้หล่อนถึงฝั่งง่ายๆ เลื่อนนิ้วลงไปหยอกล้อกับช่องสวาทแทน จดจ่อ ผลุบเข้าผลุบออก แค่เพียงบริเวณด้านหน้าแบบปริ่มๆ ไม่ได้ลงลึก จากนิ้วชี้ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นนิ้งกลาง นิ้วที่ยาวที่สุด และ 'ผลุบ' มันหายเข้าไปในช่องรักอย่างไม่ทันตั้งตัว และคิดว่าหล่อนอาจจะไม่รู้สึกด้วยซ้ำ เพราะไม่มีการตอดรัดใดๆ ก็แน่ล่ะ หล่อนคงเริ่มจะช่ำชองและรองรับของจริงมาจนไม่รู้สึกอะไรกันนิ้วเล็กๆ แต่ด้วยความเล็ก ก็มีสิ่งหนึ่งที่เก่งไม่แพ้ นั่นคือความยาว และความถี่ จากที่พยายามเก็บเสียงอยู่นาน ก็ต้องยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง "อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ" ร้องออกมาอย่างไม่กลัวอาย น้ำรักสีใสพุ่งออกมาราวกับเป็นน้ำจากสายยาง หล่อนหอบหายใจอยู่เพียงครู่ ก็ตาเบิกโพลงกับสิ่งที่อยู่ในมือพนัสสร นั่นคือดิลโด้แท่งสีใส รอบๆ ดูไม่เรียบเนียน มีความขรุขระด้วยตะปุ่มตะปั่ม แน่นอนว่าพนัสสรคงจะยัดเข้ามาข้างในตัวเธอแน่ "จะเอาหรือเปล่า" ถามออกมาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง เพราะกะขนาดภายในช่องรักของลูกค้าจากนิ้วตัวเองแล้ว มั่นใจว่าหล่อนต้องรับมันไหว แม้จะจงใจเลือกแบบที่ใหญ่กว่าขนาดจริงหนึ่งนิ้วก็ตาม "เอา" ความเขินอายก่อนหน้าได้มลายสูญ พนัสสรยิ้มมุมปาก ก็แบบนี้แหละ พอความอยากครอบคลุมจิตใจ อะไรหล่อนก็ยอม ถึงขนาดวิ่งฝ่าสายฝนมาที่นี่ 'สกปรก' ผู้หญิงคนนี้ช่างสกปรก ห้าปีที่แล้ว "เข้ามาหลบฝนข้างในก่อนได้นะ" พนัสสร เดินออกจากร้านเพื่อเรียกหญิงสาวคนหนึ่ง เธอเห็นผู้หญิงคนนี้แทบทุกวันในตอนเช้าก่อนเปิดร้าน และตอนค่ำเวลาใกล้ปิด ป้ายรถเมล์ที่ถูกสร้างขึ้นแบบลอยๆ โดยคนขับ หรือเรียกว่าการจอดนอกป้าย ป้ายลอยจึงกลายเป็นหน้าร้านทำผม จะขับเลยไปอีกนิดก็ไม่ได้ เพราะความขี้เกียจวนรถของคนขับ ดังนั้น หน้าร้านจึงเป็นจุดกระจายผู้โดยสาร "ขอบคุณค่ะ" หล่อนตอบออกมาด้วยใบหน้าซาบซึ้ง สังเกตเห็นว่าเปียกปอนไปทั้งตัว จึงต้องช่วยหยิบยื่นผ้าขนหนูอย่างมีน้ำใจ "กว่าฝนจะหายคงอีกนาน" แถมยังมีนมอุ่นๆ ส่งมาให้ เป็นการบังคับให้รับมาถือไว้ และยกขึ้นดื่มด้วยความเกรงใจ สาวออฟฟิศนี่เป็นแบบนี้กันทุกคนมั้ยนะ ไอ้ความขี้กลัว และขี้เกรงใจ หล่อนดูไม่มีพิษสงเลยสักนิด ไม่มีเสียงเอื้อนเอ่ยใดๆ เพราะต่างคนต่างประหม่าที่จะชวนคุย จะมีก็แต่เสียงฝนตกหนักและเสียงฟ้าร้องจนพาให้ตกใจจนสะดุ้ง พนัสสรแอบขำกับท่าทางกลัวเกินเหตุ และยิ่งไปกว่านั้น 'พรึ่บ' ไฟทั้งร้านดับลง รวมไปถึงไฟทางด้านนอกก็ด้วย "ว้าย! " และนั่นคงเป็นเสียงที่ดังที่สุด ดังกว่าสายฝน เพราะมันดังกระแทกทุกโสตประสาทของพนัสสร หล่อนร้องกรี้ดใส่หูเธอจนรู้สึกถึงความสั่นสะเทือนข้างใน จนต้องยกมือขึ้นมาลูบหูตัวเองป้อยๆ "เดี๋ยวไปเอาเทียนข้างใน" "ไปด้วยค่ะ" ไม่พูดเปล่า ลุกขึ้นเกาะเกี่ยวแขนเธอ ทั้งคู่จำต้องเดินตัวติดกันเข้าไปในห้องวิไอพี จำได้ว่ามีเทียนหลายเล่มในนั้น "ร้อนจัง" เสียงบ่นพึมพำข้างหู แต่พนัสสรก็หาสนใจไม่ เมื่อเจอของที่ต้องการ จึงจุดทันที แสงสว่างประกายไปทั่วทั้งห้อง "ถอดทำไม" ถามออกมาอย่างไร้ซึ่งความตกใจ เพราะหันไปเห็นผู้หญิงตรงหน้า ที่ท่อนบนปลดกระดุมจนหมด เผยให้เห็นเสื้อชั้นในอยู่รำไร แต่หล่อนยังคงมีความเหนียมอายอยู่บ้าง จากการกอดห่อตัวเองเอาไว้ "ร้อนค่ะ" บอกออกมาด้วยสีหน้าสลด ทั้งที่ผมหล่อนยังคงหมาดอยู่แท้ๆ แต่เนื้อตัวหล่อนนั่นสิที่เปียกโชกไปด้วยเม็ดเหงื่อ ตกลงร้อนจริงใช่มั้ย พาให้พนัสสรเริ่มร้อนตามไปด้วย ร้อนในอก สายตาเอาแต่จ้องมองเนินนมที่เล็กกระทัดรัด ภาพเจ๊หลินที่กำลังร่วมรักกับชายแปลกหน้าวนเข้ามาในสมอง ความผิดชอบชั่วดีก็ด้วย มันหายไป เทียนเล่มเดียวที่เพิ่งจะจุด ดับลงด้วยฝีมือพนัสสรและโยนทิ้งไปไกล จู่โจมคนตรงหน้า ด้วยกันดันไหล่ให้ชิดผนัง หล่อนร้องออกมาด้วยความตกใจกับความมืด และการกระทำของผู้หญิงเบื้องหน้า แม้จะไม่เห็นชัด แต่รู้ในทันทีว่าตัวเองกำลังถูกลวนลาม เสื้อที่แกะกระดุมออกด้วยตนเองแท้ๆ ถูกกระชากออกอย่างไร้ความปรานี กระโปรงทรงเอสีดำถูกดึงขึ้น จนโป๊เพราะกางเกงชั้นในโพล่ออกมา มือทั้งสองข้างของตัวเองถูกขึงพรืด "อย่า..." ร้องออกมาสุดเสียงพร้อมดิ้น แต่เธอเสียเปรียบ ผู้หญิงตรงหน้าแรงเยอะและตัวโตกว่า ริมฝีปากถูกครอบครอง การร้องห้ามเมื่อครู่เป็นการเปิดโอกาสให้คนตรงหน้าได้เข้ามาควานหาความหวานข้างใน เธอถูกบังคับให้ต้องรับมือกับการดูดลิ้น และเมื่อเห็นว่าสัมผัสนี้มันก็ดี ไม่ได้แย่ จึงดูดกลับไปบ้าง แม้จะไม่ประสีประสา แต่ก็สร้างความหฤหรรจนมวลท้อง น้ำลายไหลหลากข้างแก้ม ปล่อยให้คนตัวสูงได้ทำตามใจ "อ๊ะ! " เธอถูกจับพลิกให้หันเข้าหน้ากำแพง พร้อมร่างกายของคนด้านหลังที่จงใจเบียดชิด มือของพนัสสรล้วงเข้าไปในกางเกงชั้นในของหล่อนอย่างไม่ทันได้ให้ระวัง บดขยี้ปุ่มกระสันอย่างสนุกมือ จนคนถูกกระทำแทบจะรับไม่ไหว แข้งขาอ่อนแรง มือพนัสสรเปียกชุ่มไปด้วยน้ำกาม จงใจจะดันนิ้วตัวเองเข้าไปในช่องรัก ตามที่จินตนาการกับเรือนร่างเจ๊หลินกลับต้องชะงัก และผละออกทันที เมื่อไฟทั้งห้องส่องสว่าง พนัสสรหันหลังให้ไม่กล้ามอง ไม่มีคำพูดใดเอื้อนเอ่ย แม้แต่คำขอโทษ ซึ่งคนที่อยู่ในสภาพกระเซะกระเซิงก็ทำตัวไม่ถูกเช่นกัน รีบดึงกระโปรงลง เก็บเสื้อขึ้นมาสวม ติดกระดุมลวกๆ และวิ่งออกจากร้านไป "อ้าว! ทำไมกลับไว" เจ๊หลินเอ่ยทักขณะกำลังนั่งทอดกายอยู่หน้าทีวี "ไม่มีลูกค้า" เธอหมายถึงลูกค้าที่เข้ามาสระผมจริงๆ "วันนี้ ส่งลูกค้าไปให้ ไม่เจอเหรอ" เจ๊บอกขณะสายตากำลังมองเบื้องหน้า นั่นคือจอทีวี "ใคร? " "ก็สาวออฟฟิศไง" "อ๋อ" ตอบออกมาแค่นั้น พลางกำมือแน่น ทำไมต้องทำไร้เดียงสากับเรื่องที่ตัวเองก็ต้องการ ทั้งโกรธ ทั้งโมโห สุดจะบรรยาย ผู้หญิงคนนั้นจัดฉากหลอกชัดๆ ภายใต้ใบหน้าใสซื่อ ที่แท้ก็เสี้ยน จนถึงขั้นมารอหน้าร้าน ให้เธอต้องออกไปเรียก แถมหล่อนยังขโมยจูบเธอไปอีก ทั้งที่ตัวเองต่างหากที่เป็นคนเริ่ม แต่ก็ขอกล่าวโทษผู้หญิงแรดเงียบคนนั้นแทน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD