รถยนต์หรูราคาเฉียดสิบล้านของอัปสรสวรรค์แล่นมาจอดที่หน้าคอนโดแห่งหนึ่ง ลักษณะของคอนโดค่อนข้างเก่า และอยู่ในซอยลึกที่ล้อมรอบไปด้วยแหล่งชุมชนแออัด
“นายอยู่ที่นี่หรือ”
หล่อนถามออกไป และก็ยังคงมองออกไปนอกกระจกหน้ารถ
“ครับ”
“แสดงว่าเมื่อก่อนนายได้เงินเดือนไม่เยอะสินะ”
“ก็คงงั้นมั้งครับ”
“แล้วนายเช่าหรือว่าซื้อล่ะ”
คณพัทรปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัว ก่อนจะหันมาสบประสานสายตากับหล่อน
“เงินเดือนน้อยนิดอย่างผม คงซื้อไม่ได้หรอกครับ ห้องที่นี่อย่างต่ำๆ ก็เกือบล้าน”
“แต่มันอยู่ลึกนะ เวลานายกลับบ้าน นายก็นั่งรถเมล์เหรอ”
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หล่อนถึงอยากรู้อยากเห็นเรื่องของผู้ชายที่ปากบอกว่าเกลียดด้วย
“ครับ”
“อย่างนี้ไหม” หล่อนนึกอะไรบางอย่างออก “ฉันจะให้รถประจำตำแหน่งกับนาย แต่นายต้องเลิกทำตัวรุ่มร่ามกับฉัน โอเคไหม”
“ไม่โอเคครับ”
“ทำไมล่ะ!”
คณพัทรขยับหน้าเข้ามาใกล้หญิงสาว ตั้งใจจะจูบปาก แต่อัปสรสวรรค์หันหน้าหนี ทำให้ปากหยักสวยสัมผัสกับแก้มนุ่มแทน
“อื้อ... แล้วก็เลิกสักทีนะ ไอ้เรื่องฉวยโอกาสเนี้ย!”
หล่อนโวยวายด้วยความโมโห แต่กระนั้นก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว
“ก็คุณน่ารักนี่ครับ”
“ไอ้บ้า!”
“เอาล่ะ ผมจะขึ้นห้องแล้ว คุณไปส่งผมหน่อยสิครับ”
“ไม่มีทาง”
อัปสรสวรรค์ส่ายหน้าพรืด หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่นอน
“ถ้าคุณขึ้นไปส่งผมบนห้องพัก ผมก็อาจจะพิจารณาข้อเสนอเงินๆ ทองๆ ของคุณนะครับ”
“จริงเหรอ นายไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม”
คณพัทรเอียงคอเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาเปื้อนรอยยิ้มล้อเลียน
“คนอย่างผมไม่ล้อเล่นหรอกครับ ผมคนจริง ทำจริงทุกอย่าง”
อัปสรสวรรค์อึ้งไป เพราะบางครั้งหล่อนก็รู้สึกว่าคณพัทรคนนี้ไม่ธรรมดา เขามีรังสีอะไรบางอย่างที่ทำให้หล่อนหวั่นเกรง
“โอเค งั้นฉันจะขึ้นไปส่งนายที่ห้องพัก”
“ขอบคุณครับเจ้านาย”
ชายหนุ่มก้าวลงไปจากรถ โดยที่อัปสรสวรรค์ก้าวลงไปเช่นกัน
หล่อนเดินตามเขาเข้ามาภายในตัวคอนโด มองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง
“ที่นี่คนเยอะไหม”
“ก็เต็มทุกห้องครับ”
เขาตอบและเดินนำเข้าไปในลิฟต์ หล่อนรีบเดินตามเข้าไป
“นายอยู่ชั้นสี่เหรอ”
“ครับ”
เขาหันมาส่งยิ้มทรงเสน่ห์ให้ ซึ่งก็เป็นจังหวะที่ประตูลิฟต์เปิดพอดี
หล่อนรีบก้าวตามคนตัวโตไป และไปหยุดที่ประตูห้องหนึ่ง
“ฉันส่งนายถึงห้องแล้ว ฉันกลับล่ะ”
“เข้าไปดื่มกาแฟสักแก้วสิครับ”
“ไม่ยะ”
หล่อนจะเดินหนี แต่ข้อมือถูกคว้าเอาไว้เสียก่อน ไออุ่นจากปลายนิ้วแข็งแรงของคณพัทร ทำให้หล่อนรู้สึกร้อนไปทั้งตัว
“ปล่อยแขนฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ”
“ไปดื่มกาแฟด้วยกันก่อนครับ”
“ดื่มกาแฟตอนนี้ ก็ตาค้างไม่ต้องหลับต้องนอนกันพอดีน่ะสิ ปล่อย ฉันจะกลับไปทำงานแล้ว”
“งั้นก็ไปดื่มน้ำหวาน หรือน้ำเปล่าก็ได้ครับ”
“ไม่”
หล่อนยังยืนยันคำเดิม แต่ก็ไม่สามารถสู้แรงของคนตัวโตได้ เพราะหลังจากที่เขาเปิดประตูห้อง ร่างของหล่อนก็ถูกลากเข้าไปจนได้
“นี่นายจะทำอะไรน่ะ จะข่มขืนฉันหรือไง”
หล่อนจะลุกขึ้นจากโซฟา แต่เขากดบ่าเล็กเอาไว้
“ผมไม่จำเป็นต้องทำอะไรชั่วๆ แบบนั้นหรอกครับ...”
ปลายนิ้วแข็งแรงไล้แก้มนวล หญิงสาวสะบัดหน้าหนี
“แค่ผมจูบ คุณก็ระทวยแล้ว อัปสร”
“นี่อย่ามาเรียกฉันแบบนี้นะ เราไม่ได้สนิทสนมกัน ฉันจะกลับแล้ว”
“ท่านประธานจอมหยิ่ง ที่ไม่เคยเกรงกลัวใครหน้าไหนมาก่อน ตอนนี้กำลังกลัวผมหรือครับ”
คำสบประสาท และเสียงหัวเราะขบขันของคณพัทร ทำให้ต่อมความเย่อหยิ่งของอัปสรสวรรค์ทำงานอย่างบ้าคลั่ง
“ใช่ ฉันไม่กลัวใครทั้งนั้น แม้แต่ผู้ชายเฮงซวยแบบนาย”
“งั้นก็นั่งรอผมตรงนี้นะครับ เดี๋ยวผมไปเอาน้ำหวานมาให้ อ้อ แล้วถ้ากลัวว่าผมจะใส่ยาอะไรลงไปในแก้วน้ำของคุณ ตามมาดูก็ได้นะครับ”
“นายไม่กล้าทำหรอก”
“แน่นอนว่าผมไม่ทำ เพราะกับคุณผมไม่จำเป็นต้องพึ่งตัวช่วย”
แล้วเขาก็เดินหายเข้าไปหลังบานเลื่อนที่เป็นกระจกติดฟิล์มทึบ
“มั่นหน้ามั่นโหนกเหลือเกินนะ ไอ้คนบ้า”
แม้จะโมโห แม้จะรู้สึกขุ่นเคืองใจ แต่ลึกๆ ภายในกลับรู้สึกดีอย่างประหลาด
นี่บ้าจริง ทำไมหล่อนจะต้องรู้สึกอิ่มเอมในใจแบบนี้ด้วยนะ
หลังจากดื่มน้ำหวานหมดไปหนึ่งแก้ว พ่อตัวแสบก็ยื่นขวดโซจูมาตรงหน้า
“ดื่มสักหน่อยสิครับ”
“จะมอมเหล้าฉันอีกหรือไง”
คณพัทรหัวเราะร่วน ดวงตาจับจ้องมองใบหน้าสวยหวานของอัปสรสวรรค์ตลอดเวลา
“ครั้งที่แล้ว คุณมอมเหล้าตัวเองนะครับ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย”
“แหม ไม่ได้ทำอะไรเลย แต่นายก็ลากฉันไปซั่ม”
“ก็ถ้าผมไม่ลากคุณมา ป่านนี้คุณคงมีผัวทั้งร้านเหล้าแล้วล่ะครับ”
คนฟังหน้าแดงระเรื่อเพราะความอับอายและไม่อยากยอมรับผิด
“นายก็ควรจะพาฉันกลับบ้าน”
“ทำไมผมต้องทำอย่างนั้นล่ะครับ ในเมื่อคุณเป็นฝ่ายจู่โจมผมเอง จำไม่ได้เลยหรือครับ”
“นี่นาย... ไม่จำเป็นต้องขยับมาใกล้ฉัน ออกไปนั่งที่เดิมเลย”
หล่อนคว้าโซจูจากมือของเขามาถือเอาไว้ และก็ออกปากไล่
คณพัทรอมยิ้มน้อยๆ และก็ยอมขยับกลับไปนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิมแต่โดยดี
“ทำไมคุณถึงทำงานหนักนักล่ะครับ”
“มันเรื่องของฉันไหม”
“ผมก็แค่อยากเห็นคุณมีความสุข ได้ใช้ชีวิตแบบผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ไม่อยากให้วันๆ ทำแต่หน้าเคร่งเครียด จนรอยตีนกาจะถามหาอยู่แล้วนะครับ”
“จริงเหรอ”
แม้จะหมกมุ่นอยู่กับงาน แต่อัปสรสวรรค์ก็ยังมีความเป็นผู้หญิงที่รักสวยรักงามอยู่ หล่อนยกมือขึ้นจับไปทั่วๆ หน้าของตัวเอง
“ฉันก็หาเวลาเข้าคลินิกอยู่นะ แต่พักหลังๆ งานมันยุ่งมากก็เลยไม่ได้ไปดูแลหน้าเลย”
“คุณแก่แล้วรู้ตัวไหมเนี้ย”