ตอนที่ 3

938 Words
ความรู้สึกยามถูกบีบบังคับมันเป็นแบบนี้นี่เอง มันอึดอัด ทรมาน และไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากหงุดหงิดอยู่ภายในใจ อัปสรสวรรค์ปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ลง และก็คว้ากระเป๋าสะพายใบละเกือบหนึ่งล้านบาทของตัวเองมาคล้องไหล่ เดินอ้อมโต๊ะทำงานออกไปที่หน้าประตูห้อง แต่ทันทีที่ประตูห้องทำงานถูกเปิดออก สิ่งที่เห็นก็ทำเอาตกใจแทบช็อก “นี่พวกคุณทำอะไรน่ะ” หญิงสาวจ้องมองชุดโต๊ะทำงานที่มีเก้าอี้พร้อมสรรพตรงหน้าเขม็ง “เอ่อ... ผู้ช่วยฯ ของท่านประธานสั่งให้ยกโต๊ะขึ้นมาครับ” “ยกมาทำไม” หล่อนแทบจะตะโกนถามออกไปเสียให้ได้ “ก็ท่านประธานสั่งให้ผมนั่งทำงานในห้องทำงานเดียวกับท่านประธานไม่ใช่หรือครับ” เสียงทุ้มนุ่มแต่เต็มไปด้วยความยั่วโทสะของคณพัทรดังขึ้นด้านหลังของพนักงานผู้ชายสามคนตรงหน้าหล่อน อัปสรสวรรค์จ้องมองเขาตาเขียวขุ่น “ใครสั่งยะ ฉันไม่ได้สั่งสักหน่อย ขนกลับลงไปเลยนะ ไม่มีวันที่ฉันจะให้คนอย่างนายมาทำงานใกล้หูใกล้ตาฉันหรอก จำเอาไว้!” พนักงานที่ได้ยินตัวสั่นเพราะเกรงกลัวโทสะของอัปสรสวรรค์ แต่ไม่ใช่กับคณพัทร “ท่านประธานขี้ลืมจังนะครับ” เขาเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของหล่อน และหรี่ตาแคบมองอย่างล้อเลียน “ลืมเรื่องนั้นไปได้ยังไงกันนะครับ” “นาย...” สายตาของเขาบอกให้รู้ว่า หากหล่อนไม่ยอมทำตามความต้องการของเขา ความลับในค่ำคืนนั้นจะเป็นที่โจษจันไปทั่วบริษัทเป็นแน่แท้ อัปสรสวรรค์กำมือแน่น จนเล็บจิกลงบนฝ่ามือจนเจ็บ “นายไม่ตายดีแน่ นายคณพัทร!” หล่อนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่เขาอย่างไม่มีทางเลือก “พวกคุณยกโต๊ะเข้าไปเลยครับ เดี๋ยวผมเปิดประตูให้ครับ” แล้วคณพัทรก็จัดแจงเปิดประตูอำนวยความสะดวกให้กับพนักงานชายยกโต๊ะและเก้าอี้ทำงานเข้าไปภายในห้องทำงานของหล่อนอย่างกระตือรือร้น “ไอ้บ้า!” หล่อนมองตามไปด้วยสายตากรุ่นโกรธ “ฉันจะต้องเอาคืนนายให้ได้ ไอ้ผู้ชายเฮงซวย” ในเมื่อไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้แล้ว หญิงสาวจึงทำได้แค่เพียงเดินหน้าบูดเข้าไปในลิฟต์เท่านั้น “ตายแล้วแม่อัปสร ทำไมกลับบ้านเร็วนักล่ะ นี่ยังไม่สองทุ่มเลยนะ” คุณแม่ของหล่อนร้องอุทานด้วยความตกใจ เหมือนกับโลกกำลังจะถล่มไม่มีผิด เมื่อเห็นหล่อนเดินหน้าเหวี่ยงเข้ามาในบ้าน “ทำไมคุณแม่จะต้องร้องตกใจด้วยคะ อัปสรกลับเร็ว ก็น่าจะดีใจไม่ใช่เหรอคะ” “ก็จะไม่ให้แม่ตกใจได้ยังไงล่ะ ในเมื่อร้อยวันพันปี แกกลับบ้านหลังสองทุ่มตลอด” หญิงสาวกระแทกตัวลงนั่งบนโซฟา ใบหน้าเคร่งเครียดจนมารดาต้องเอ่ยถาม “แล้วนี่ไปโมโหใครมาอีกล่ะ หรือว่าพนักงานทำงานไม่ถูกใจ” “หนูอยากฆ่าคนค่ะ” “เฮ้ย ไม่ได้นะแม่อัปสร ฆ่าคนติดคุกหลายสิบปีนะรู้เอาไว้ด้วย” คนเป็นแม่ร้องเตือนด้วยความตกใจแกมประชด “หนูรู้ค่ะ หนูก็แค่พูดเท่านั้นแหละค่ะ จะไปฆ่าใครจริงๆ ได้ที่ไหนกัน” หล่อนผ่อนลมหายใจออกมาอย่างเคร่งเครียด “นี่อย่าบอกนะว่ายังโกรธพ่อนนท์ไม่หาย” ชานนท์... เขาคือคู่หมั้นของหล่อน ที่บังอาจนอกใจไปคบหากับผู้หญิงอีกหลายคน “แกรักพ่อนนท์มากใช่ไหม แต่ไม่ต้องกังวลนะ แม่กับพ่อปรึกษากันแล้ว ว่าจะคัดเลือกผู้ชายดีๆ มาให้แกใหม่ ไม่ต้องไปเสียดายพ่อนนท์หรอก” หล่อนถอนใจแรงๆ และมองหน้ามารดา “หนูไม่ได้รักพี่นนท์ค่ะ ไม่เคยรัก แต่ที่หนูต้องยอมรับหมั้นพี่นนท์ก็เพราะตามใจคุณพ่อคุณแม่เท่านั้นเองค่ะ” “ถ้าแกไม่รักพ่อนนท์ แล้วมาทำหน้าเบื่อโลกอยู่ทำไม ปากแข็งล่ะสิ” “หนูไม่ได้ปากแข็งค่ะ หนูไม่ได้รักพี่นนท์จริงๆ แต่หนูเสียหน้าค่ะที่ถูกสวมเขา” แล้วเรื่องนี้ก็ยังทำให้หล่อนต้อง... กลายเป็นเบี้ยล่างของไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นอีกด้วย “อย่าไปคิดมากน่ะ แกก็แค่เชิดๆ สวยๆ ต่อไป แล้วก็หมั้นกับผู้ชายคนใหม่ที่พ่อกับแม่กำลังเลือกมาให้ก็พอแล้ว” “หนูไม่หมั้นกับใครทั้งนั้นแหละค่ะ” “งั้นก็แต่งงานเลย” หล่อนหันขวับมองหน้ามารดาตัวเอง “นี่แม่จะบังคับอะไรหนูนักหนาคะ หนูไม่อยากแต่งงาน ไม่อยากมีผัว ในหัวของหนูมีแต่งานและก็งานค่ะ” “อีกสองปีแกก็จะสามสิบแล้วนะ ถ้าไม่รีบแต่ง ก็ขึ้นคานพอดีแหละ” “ขึ้นคานก็ช่างสิคะ หนูไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว หนูอยู่ของหนูได้โดยที่ไม่ต้องมีผัวค่ะ” หล่อนลุกขึ้นยืน เบื่อที่จะคุยกับมารดาแล้ว “ถ้าแกไม่แต่งงาน แล้วฉันกับพ่อของแกจะมีหลานได้ยังไงกันล่ะ ยังไงก็ต้องแต่ง” “หนูไม่แต่งค่ะ ไม่มีวันแต่งงานกับผู้ชายที่หนูไม่ได้รักเด็ดขาด” หล่อนเดินหนีมารดามาที่บันไดบ้าน “ถ้ารอให้แกรักผู้ชาย ก็คงเป็นผู้ชายที่เดินออกมาจากแฟ้มงานของแกล่ะมั้ง” ผู้เป็นแม่ตะโกนตามหลังมา แต่อัปสรสวรรค์ไม่สนใจ หล่อนก้าวเร็วๆ หนีเข้าห้องนอนมาทันที หล่อนจะไม่ยอมให้บิดากับมารดาบังคับได้อีกแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD