ก๊อก ก๊อก ก๊อก~
เสียงเคาะประตูปลุกหญิงสาวให้ตื่นจากความฝันอันเลวร้าย ร่างบอบบางพยุงตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนคิงไซส์แล้วเดินไปยังประตูบานใหญ่ ก่อนจะเปิดรับ ‘ป้าสุ'
"วันนี้คุณหนูจะรับประทานอะไรดีคะ?”
ป้าสุเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"หนูยังไม่หิวเลยค่ะป้า"
"ยังไม่หิวก็ต้องทานนะคะ อาหารเช้าสำคัญมาก"
"งั้น...หนูขอเป็นข้าวต้มเหมือนเดิมแล้วกันค่ะ"
"ได้เลยค่ะ คุณหนูอาบน้ำแล้วตามลงมานะคะ"
ลูกหมีคลี่ยิ้มจืดเจื่อน ก่อนที่ป้าสุจะลงไปทำอาหาร ส่วนตัวเธอเองก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วเดินตามลงไป
บนโต๊ะอาหารไม่ได้มีเธอเพียงคนเดียว
แต่มีเฮียเข้มกับเฮียขุนนั่งร่วมโต๊ะด้วย
"สวัสดีค่ะเฮีย" ลูกหมียกมือไหว้เฮียทั้งสอง
"สวัสดีครับ ตื่นเช้าจังนะแก้มป่อง"
เฮียขุนรับไหว้พลางฉีกยิ้มใจดีให้คนตัวเล็ก
ส่วนเฮียเข้มแค่ปรายตาคู่คม แต่ไม่ตอบกลับ
"หนูตื่นปกตินะคะ เฮียมากกว่าที่ตื่นเช้า"
"นั่นสิเนอะ วันนี้มีงานด่วน เฮียเลยต้องตื่นเช้า"
"เหรอคะ คงเหนื่อยแย่เลยนะคะ"
"ไม่เหนื่อยขนาดนั้นหรอก"
"อ๋อค่ะ" ตอบรับแล้วส่งยิ้ม
"เย็นนี้แก้มป่องว่างไหม?"
"ว่างค่ะ เฮียมีอะไรเหรอคะ?"
"เฮียว่าจะให้แก้มป่องไปช่วยเลือกต้นไม้มาปลูกในสวนหน่อย พวกต้นเก่ามันตายหมดแล้ว ดูโล่ง ๆ ยังไงไม่รู้"
"ได้ค่ะ หนูก็อยากไปดูต้นไม้เหมือนกัน"
"งั้นดีเลย เจอกันเย็นนี้นะแก้มป่อง"
เฮียขุนพูดจบก็ลุกขึ้นมาลูบหัวคนตัวเล็ก แล้วรีบวิ่งตามเฮียเข้มที่ปลีกตัวเดินออกไป ตั้งแต่คุยเรื่องตื่นเช้าแล้ว
"ไม่รอเลยนะเฮีย!"
เฮียขุนคว้ามอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ แล้วรีบขับตามรถสปอร์ตสีเทาหม่น ส่วนคนที่ยังอยู่ก็ลุกขึ้นเก็บชามข้าวต้ม
"เดี๋ยวป้าเก็บให้เองค่ะคุณหนู"
"ให้หนูช่วยนะคะ"
"แต่คุณหนูแพ้น้ำยาล้างจาน อย่าเสี่ยงเลยดีกว่า"
เห้อ…เป็นโรคภูมิแพ้ไม่พอ ยังผิวบอบบางต่อสารเคมีอีกต่างหาก เธอโตมาโดยที่มีคนใช้ทำให้ทุกอย่าง ถึงจะสุขสบายแต่ก็ไม่ชอบเลย ดูเหมือนตัวเองไร้ค่า
ตืดดดด! (สายเรียกเข้า)
พอเห็นว่าใครเป็นคนโทรมา เธอก็รีบกดรับสาย
หมูแดง : หมูแดงเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนไฮสคูล
[เป็นไงบ้างลูกหมี?]
"เหงาอ่ะ เราอยากเจอหมูแดง"
"อยากเจอเหมือนกัน เอาไว้ว่าง ๆ เดี๋ยวเราจะแวะไปหานะ ตอนนี้ติดสอบติดเรียนหนักมาก การบ้านตึมเลย"
"อิจฉาคนได้เรียนจัง"
ลูกหมีพูดด้วยโทนเสียงแผ่วเบา
"โอ๋ ๆ อย่าเศร้าไปเลยนะ”
"อื้ม เราจะไม่เศร้า"
"อดทนไว้นะ สักวันต้องผ่านเรื่องนี้ไปได้แน่นอน"
"ขอบใจนะหมูแดง เรารักเธอจัง"
"รักเหมือนกัน แต่เดี๋ยวเราต้องไปแล้ว เอาไว้คุยกันอีกทีนะลูกหมี” เสียงอีกฝ่ายดูร้อนรน น่าจะติดงานจริง ๆ
"จ้ะ…”
ถึงเธอจะอยากคุยแต่หมูแดงวางสายไปแล้ว
บรืนนน!!
รถเก๋งสีดำทมิฬขับมาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ เธอรู้ว่าเป็นเฮียเขื่อน เลยรีบวิ่งกลับขึ้นไปบนห้องนอน เพราะเขาไม่ชอบให้เธออยู่ข้างล่างถ้าไม่จำเป็น
ลูกหมีหยิบนิตติ้งมานั่งถักบนเตียง ก่อนที่ชายหนุ่มจะเปิดประตูเข้ามา กลิ่นแอลกอฮอล์ฟุ้งกระจายทั่วห้อง พอมองไปที่เขาก็เห็นรอยดูดเป็นจ้ำ ๆ บนลำคอแกร่งกร้าน
พรึบ~
ร่างสูงถอดเสื้อวางเอาไว้บนหัวคนตัวเล็ก แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงข้างกาย เธอค่อย ๆ หยิบเสื้อเชิ้ตสีขาว ที่มีเหล้าเหม็นหึ่งออกจากหัว แล้วลุกไปใส่ในตะกร้า พอเขาเห็น ก็ถอดรองเท้าหนังที่ใส่อยู่ ปาใส่เธออย่างขัดใจ
ปัก!
"โอ้ย!”
"น่ารำคาญ"
เขาสถบเสียงเบา ซึ่งเธอได้ยินแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินเข้าไปถอดรองเท้าอีกข้าง ออกมาเก็บให้เรียบร้อย ก่อนจะหยิบนิตติ้งมานั่งถักบนพื้น เพื่อที่จะให้เขานอนบนเตียงได้อย่างสบายใจ ไม่ขัดหูขัดตาที่เห็นเธอ
เวลาผ่านไปจนถึงช่วงเย็น…
เสียงรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ของเฮียขุน ทำให้ร่างบอบบางลุกขึ้นเก็บของ แล้วออกยืนมองเฮียขุนตรงบันได
"ลงมาสิแก้มป่อง"
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลากวักมือเรียก เธอส่งยิ้มตอบกลับแล้วรีบสับขาเรียวลงไปด้านล่าง เฮียขุนเอาผ้าปิดปากสีชมพูผืนใหม่มาสวมใส่ให้ ตามด้วยหมวกกันน็อก
"พร้อมหรือยัง?"
"เฮียบอกเขาให้หนูหรือยังคะ?"
"เฮียเขื่อนไม่ด่าหรอก ป่ะ"
เฮียขุนอุ้มร่างเล็กขึ้นไปคร่อมบนรถคันใหญ่ ส่วนเฮียก็นั่งโอบด้านหลัง เหตุผลที่นั่งแบบนี้ เพราะเธอตัวเล็กแถมยังกลัวความเร็ว ให้นั่งแบบนี้ถือว่าปลอดภัยที่สุดแล้ว
บรืนนน~
เฮียขุนพยายามขับรถไม่เร็วจนเกินไป
เพราะร่างเล็กจะเกิดอาการกลัวจนตัวสั่น
ใช้เวลาไม่นานนัก เฮียก็ขับมาถึงร้านขายของแต่งสวน มีทั้งต้นไม้ ดอกไม้เต็มไปหมด ดีที่โรคภูมิแพ้ของเธอไม่มีผลกับเกสรดอกไม้พวกนี้ เธอเลยชอบมาที่นี่เป็นพิเศษ
"สวยไหมแก้มป่อง?"
เฮียขุนชูต้นไม้อันจิ๋วให้ดู
"สวยมากเลยค่ะเฮีย"
"ต้นไหนสวยกว่ากัน"
เขาเอาสองต้นมาให้เธอเลือก
"ต้นนี้ค่ะ"
นิ้วเรียวชี้ที่ต้นแรกเพราะไม่มีหนาม
"มันคือต้นกระบองเพชร ถ้าไม่มีหนามก็ไม่สวยสิ"
"สวยแต่เสี่ยงบาดเจ็บ ก็ไม่คุ้มนะคะ"
"คุ้มสิ ต้นกระบองเพชรก็เหมือนผู้หญิง ถ้าไร้พิษภัยไม่มีหนามป้องกันตัวก็จะอ่อนแอ แต่ถ้ามีหนามก็จะเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง ทนต่อสิ่งไม่ดีที่จะเข้ามาทำร้าย แก้มป่องอยากเป็นแบบไหนล่ะ" คำถามเชิงจิตวิทยามาอีกแล้ว
"หนูยังอยากเป็นต้นแรก ไร้หนาม"
"หว้า~ แต่คงเป็นไม่ได้หรอก เพราะยังไงเดี๋ยวต้นนี้ก็ต้องมีหนามขึ้นอยู่ดี อยู่ที่ว่าจะเร็วหรือจะช้าแค่นั้นเอง”
เฮียขุนพูดเป็นนัย ก่อนจะเดินไปจ่ายเงินค่าต้นไม้ที่เลือกเอาไว้ จากนั้นเฮียก็ให้รถส่งของมาส่งต้นไม้ที่บ้าน
“สวยจัง~”
ลูกหมีคลี่ยิ้มหวาน หลังจากจัดสวนเสร็จ
“สวยเหมือนคนจัดเลยเนอะ”
“ไม่หรอกค่ะ สวนสวยกว่าหนูตั้งเยอะ”
“ตามนั้นก็ได้ ป่ะ ไปล้างตัวกัน” ใบหน้าจิ้มลิ้มผงกหัวรับ ก่อนที่เราสองคนจะแยกย้ายกันไปอาบน้ำเพราะตัวมีแต่ดินเต็มไปหมด พอเปิดประตูเข้าไปในห้อง เธอก็เจอสามีนั่งคุยโทรศัพท์ พอเขาเห็นสภาพเธอก็กดวางสายทันที
"ไปไหนมา"
ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยโทนเสียงเยียบเย็น
"ไปช่วยเฮียขุนจัดสวนมาค่ะ"
"มันใช่หน้าที่เธอเหรอ?”
"คือว่าหนู...."
"มีเวลาว่างนักใช่ไหม ได้!"
เขาลุกขึ้นจากเตียง ไปหยิบนิตติ้งของเธอมาแล้วใช้กรรไกรตัดผ้าพันคอจนขาดครึ่ง ของพวกนั้นเธออุตส่าห์ตั้งใจถักไม่คิดว่าเขาจะใจร้ายทำลายมันได้ง่ายดายเช่นนี้
"ถ้าอยู่แต่ในห้องไม่ได้ก็ไม่ต้องถัก ทิ้งมันไปซะ!"
พูดจบเขาก็เอาผ้าพันคอโยนออกไปนอกระเบียง ไม่แคร์คนตัวเล็กที่ยืนน้ำตาไหลพรากด้วยความเสียใจ
สิ่งที่เขาทำ ราวกับว่าเธอเป็นเพียงก้อนหินไร้ความรู้สึก คิดจะทำอะไรก็ได้ตามใจตัวเอง เขาไม่เคยขอโทษเธอเลยสักครั้ง แล้วดูเหมือนว่าจะไม่มีทางขอโทษด้วย
ค่ำคืนนั้น
เขาเอาผู้หญิงมามีเซ็กซ์ที่ห้องอีกแล้ว…
ลูกหมีต้องไปแอบที่ระเบียงตั้งแต่ได้ยินเสียงรถขับกลับมา และมีเพียงผ้าห่มผืนเดียวที่เธอสามารถใช้ปกป้องตัวเองจากยุงลายจนกว่าคนข้างในจะทำภารกิจเสร็จสรรพ
"คืนนี้ดาวสวยนะ ว่าไหม?"
เสียงนั้นทำให้ลูกหมีชะเง้อหน้าไปมอง พอเห็นเฮียขุนปีนระเบียงจากระเบียงห้องตัวเองมานั่งข้าง ๆ แล้วเอายากันยุงมาทาให้ ก็แอบรู้สึกดีใจที่มีคนใจดีคอยช่วยเหลือ
"ยังไม่ตอบเลยนะ" เฮียขุนทวนคำถามซ้ำอีกครั้ง ในขณะที่เขากำลังทาครีมสีขาวขุ่นบนเรียวแขนเนียนนุ่ม
"สวยค่ะ”
"ไหนลองยิ้มสิ"
เธอยกยิ้มหวานให้คนตรงหน้า
"น่ารักมาก”
ฝ่ามือใหญ่ลูบหัวด้วยความรู้สึกเอ็นดู
"เฮียไม่ไปนอนหรอคะ?"
"ไม่อ่ะ ขออยู่เป็นเพื่อนแก้มป่องดีกว่า"
"อ๊ะ อ๊ะ อร๊างง!” เสียงร้องครวญครางดังลั่นมาจากในห้อง เฮียขุนเลยเอาหูฟังสีน้ำเงินที่สวมอยู่ตรงคอ มาใส่ให้เธอแล้วเปิดเพลงเสียงดังจนกลบเสียงนั้น
" (เสียงของเฮียเอง) "
เหมือนเฮียขุนรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เลยพูดให้อ่านปากตาม ใบหน้าหวานคลี่ยิ้มกว้างแล้วหลับตาพริ้ม ฟังเสียงเพลงรักที่กำลังขับกล่อมคนตัวเล็กให้เคลิบเคลิ้ม
บางที การออกมานั่งริมระเบียงตอนกลางคืน
ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย ถ้าเกิดมีเฮียขุนอยู่เคียงข้าง
กึก!! (เสียงเปิดประตูระเบียง)
เฮียขุนไหวตัวทัน เขารีบดึงหูฟังคืนแล้วปีนข้ามกลับห้องตัวเองไปทันที เธอหันหน้าไปมองที่ประตูระเบียง ซึ่งเขาไม่ได้เดินออกมาดู แต่เรียกให้เธอกลับเข้าไปได้แล้ว
ลูกหมีหันไปมองเฮียขุนที่โบกมือให้แทนประโยคฝันดี เธอเองโบกมือตอบรับ ก่อนจะกลับเข้าไปในห้องนอน
เตียงคิงไซส์อยู่ในสภาพยับเยิน แถมยังมีถุงยางวางเกลื้อนอยู่บนพื้น ผู้หญิงคนนั้นคงกลับไปแล้ว เธอเลยเก็บของพวกนั้นไปทิ้งขยะในห้องน้ำ แล้วล้างมือให้สะอาด
"นอนข้างล่างไป"
เสียงทุ้มเข้มพูดขึ้นพลางกอดผู้หญิงใต้ผ้าห่ม
นะ นี่เขายอมให้ผู้หญิงนอนค้างที่นี่เลยเหรอ…