"อื๊อ ยะ อย่าเพิ่งสิเขื่อน เดี๋ยวมี่ล้ม”
ประตูห้องถูกกระแทกออก เผยให้เห็นร่างชายหญิงที่กำลังนัวเนียกันอยู่หน้าประตู ทำให้หญิงสาวที่นอนสะลึมสะลืออยู่บนเตียง ต้องรีบวิ่งเข้าไปหลบในตู้เสื้อผ้า
อื๊อ จ๊วบ~
เสียงดูดปากอย่างดูดดื่ม เคลื่อนเข้ามาใกล้จนแผ่นหลังของผู้หญิงพิงมาที่ตู้เสื้อผ้า แล้วส่งเสียงครางกระเส่า ทำให้คนในตู้ต้องยกมือปิดหู เพราะไม่อยากได้ยินเสียงนั้น
"อ๊า กระแทกแรง ๆ เลยเขื่อน มี่ชอบ ซี๊ด!”
ตู้เสื้อผ้าสั่นสะเทือนตามแรงกระแทกกระทั้นจากคนด้านนอก ประตูบานที่ปิดอยู่เปิดออก ทำให้เขาเห็นเธอ
สายตาดุดันจ้องมองมาที่คนตัวเล็ก ทั้งที่ชายหนุ่มยังโอบกอดผู้หญิงคนนั้น เขาเอื้อมมือมาบีบแขนบอบบางแน่นขนัด จนเธอรู้สึกเจ็บร้าวไปถึงกระดูก สุดท้ายก็ต้องเอามืออีกข้างขึ้นมาปิดกั้นเสียงสะอื้นไห้ ส่งผลให้อารมณ์สวาทของชายหนุ่มหายวับ แล้วกำหมัดทุบประตูเสียงดัง
ปัง!!
"เป็นอะไรไปคะ ทำจู่ ๆ ถึงอารมณ์เสียแบบนี้!? "
"กลับไปก่อน เขื่อนหมดอารมณ์" พูดกัดฟันกรอด
"มี่ไม่เข้าใจ แต่กลับก็ได้ค่ะ" ผู้หญิงคนนั้นใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกไปจากห้องด้วยความมึนงง ก่อนที่ชายหนุ่มจะมากระชากแขนเรียวเล็ก ให้ออกไปจากตู้เสื้อผ้า
"บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเสนอหน้า เธอรู้ไหมว่าน้ำตาของเธอมันทำให้ฉันหงุดหงิดมากแค่ไหน!?" เขาตวาดใส่
"ฮึก หนูไม่ได้ตั้งใจ หนูพยายามหลบแล้ว" ร่างเล็กปาดน้ำตาทิ้งลวก ๆ แต่หยาดน้ำสีใสก็ยังไหลพรากไม่หยุด
"ถ้าพยายามฉันต้องไม่เห็นหน้าเธอสิ!”
"นะ หนูขอโทษ" ยกมือไหว้
"หึ! กองไว้ตรงนั้นแหละ"
เขาพูดเสียงกระชาก แล้วเดินสับขาไปเข้าห้องน้ำ ก่อนที่ควันบุหรี่สีเทาหม่นจะลอยฟุ้งเข้ามาในห้องนอน จนร่างเล็กไอตัวโก่ง เขาคงลืมไปแล้วสินะ ว่าเธอเป็นภูมิแพ้ อย่างหนัก หรือไม่ก็อาจจะรู้แต่ไม่ได้แคร์ว่าเธอจะเป็นยังไง
แค่ก แค่ก แค่ก!
ร่างสูงเดินออกมาจากห้องน้ำมองมาที่เธอ
"น่ารำคาญฉิบหาย"
เขาสถบคำหยาบคาย ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวมาปิดจมูกจิ้มลิ้มแล้วดันคนตัวเล็กให้ไปยืนอยู่มุมห้อง ส่วนเขาก็ไปเปิดประตูระเบียงเพื่อให้ลมพัดไล่ควันบุหรี่ออกไป สักพักเธอก็ดึงผ้าปิดจมูกลง เพราะกลิ่นบุหรี่หายไปหมดแล้ว
"คืนนี้ฉันจะไปนอนที่อื่น"
เขาพูดพลางหยิบเสื้อผ้าแล้วเดินออกไปจากห้อง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ‘สามีของเธอ' ทำแบบนี้ เพราะตลอดหนึ่งปีที่แต่งงานกันมา เขาจะเป็นแบบนี้ทุกวัน พาผู้หญิงมามีเซ็กซ์ไม่ซ้ำหน้า โดยที่ไม่เห็นหัวภรรยาอย่างเธอ หรือถ้าอะไรไม่ได้ดั่งใจ เธอก็จะเป็นฝ่ายเจ็บตัวเสียเอง
มีครั้งหนึ่งที่ ‘เฮียเขื่อน' พาผู้หญิงมาบ้าน แล้วเธอดันเอารูปคู่แต่งงานมาติดไว้บนหัวเตียง พอผู้หญิงคนนั้นเห็นเข้า หล่อนก็ตบหน้าเขา แล้วหาว่าหลอกลวงต่อว่าสารพัด ก่อนจะวิ่งหนีออกไป แล้วทิ้งความผิดมหันต์เอาไว้ที่อีกคนหนึ่ง
เพล้ง!
ชายหนุ่มไม่รอช้า รีบปีนขึ้นไปบนเตียง แล้วเอารูปมาคว้างใส่คนตัวเล็ก แถมยังซ้ำเติมด้วยการบีบคอเธอจนแทบขาดใจ ดีที่เขาดึงสติตัวเองได้แล้วรีบตามผู้หญิงคนนั้นไป
หญิงสาวรู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่คิดว่าเขาจะรุนแรงกับเธอได้ถึงเพียงนี้ เศษกระจกรูปคู่แต่งงานที่แตกกระจายอยู่บนพื้น บาดตามผิวพรรณขาวนวลจนเลือดซิบ คอยาวระหงมีรอยช้ำแดงก่ำจนน่ากลัว
แต่…เธอก็ไม่สามารถบอกใครได้แม้กระทั่งพ่อแม่ เพราะตั้งแต่แต่งงานพวกท่านก็ไม่ติดต่อมาอีกเลย ราวกับว่ายกลูกสาวให้ตระกูลนี้แล้วจะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่สน
ยังดีที่บ้านหลังนี้มี ‘ป้าสุ’ ป้าเป็นแม่นมของลูกชายทั้งสามของตระกูลนี้ ป้าช่วยทำแผลให้เธอทุกครั้งที่โดนทำร้ายมา ป้ารู้ดีว่าเธอเจออะไรมาบ้าง แต่ป้าก็ช่วยอะไรมากไม่ได้ เพราะเป็นแค่แม่นมไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของเขา
แล้วยังมีน้องชายสามีอีกสองคนชื่อ ‘เฮียเข้ม’ กับ ‘เฮียขุน’ ถึงจะเป็นน้องชาย แต่พวกเขาก็อายุมากกว่าเธอหลายปี เฮียเข้มเป็นคนนิ่งเงียบ ไม่ค่อยพูด ส่วนเฮียขุนต่างจากพี่ชายของเขา ตรงที่พูดเก่ง ใจดี และอ่อนโยนมาก