EP.1 POISON LOVE พิษรัก
ตอน หักปีกนางฟ้า
03:00 AM
ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
"ไหนหนึ่งเคยบอกกับรันว่าจะขอบินแค่ปีเดียวไง?" ชายหนุ่มลูกชายคนโตของเจ้าของสายการบินในไทยเอ่ยขึ้นกับแฟนสาวแอร์โฮสเตสตรงหน้า หลังจากที่พวกเขาจอดรถคุยกันมาสักพักใหญ่ ๆ แล้ว
"หนึ่งยังมีความสุขกับการทำงานอยู่เลยน่ะรัน" นับหนึ่งหันไปมองคนรักของตัวเองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดลึก ๆ ในใจ
"แล้วอยู่กับรันหนึ่งไม่มีความสุขเหรอ?" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีน้อยใจ เพราะเขาคบกับเธอมาตั้งแต่สมัยเรียน ซึ่งรวม ๆ แล้วพวกเขาคบกันมานาน 6 ปีกว่าเกือบจะย่างเข้าปีที่ 7 แล้ว
"ไม่ใช่นะรันเวย์" นับหนึ่งจับใบหน้าของแฟนหนุ่มเบา ๆ
"ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ" เธอบีบแก้มของเขาเบา ๆ
"รันอยากสร้างครอบครัว อยากมีลูกกับหนึ่งแล้ว" รันเวย์ถอนหายใจออกมาเบา ๆ เขาจับฝ่ามือของเธอเอาไว้ก่อนจะจูบอย่างทะนุถนอม
"รันอยากมีหนึ่งอยู่ข้าง ๆ ทุกวินาที ไม่ว่าจะตอนที่ตื่นหรือตอนที่นอนหลับ"
"ไม่อยากอยู่เหงาแบบนี้แล้ว นับวันเรายิ่งเจอกันน้อยลงทุกที ๆ" เขาบ่น เพราะตารางบินที่แน่นของนับหนึ่งทำให้เขาและเธอแทบไม่ได้กลับมาเจอกันที่ไทยเลย
"เราหมั้นกันมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่ได้แต่งสักที" เขาหลุบตามองไปที่แหวนหมั้นที่เขาตีตราจองเธอเอาไว้มานานเป็นปีแล้ว แต่ที่ยังไม่ขอแต่งงานก็เพราะนับหนึ่งอยากออกไปทำตามความฝันของเธอก่อน นั่นคือการได้ทำงานบนเครื่องบิน และออกเดินทางท่องเที่ยวไปรอบโลกให้ครบเกือบทุกประเทศ
ครืด ครืด ๆ ๆ เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ดังขึ้นแจ้งเตือนว่าเธอต้องรีบลากกระเป๋าไปประจำที่ และเตรียมขึ้นเครื่องก่อนเวลางานจะเริ่มแล้ว
"หนึ่งต้องไปแล้ว..." เธอพูดพร้อมกับขยับใบหน้าเข้าไปประทับริมฝีปากลงบนกลีบปากของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา
"หนึ่งรักรันนะ" นับหนึ่งพรมจูบที่แก้มทั้งสองข้างของแฟนหนุ่ม
"อืม~" รันเวย์พยักหน้ารับ ก่อนจะยีหัวของเธอเบา ๆ อย่างนึกเอ็นดู
"ถึงแอลเอแล้วโทรมาด้วยนะ" รันเวย์ฝืนยิ้มให้เธอก่อนจะเดินไปยกกระเป๋าลากใบใหญ่ส่งให้กับแฟนสาว
เพราะเขาจอดรถหน้าสนามบิน ทำให้ไม่สามารถเดินเข้าไปส่งเธอด้านในได้
"ขอบใจนะ อุตส่าห์ตื่นเพื่อมาส่งแต่เช้ามืดเลย" นับหนึ่งโบกมือลาแฟนหนุ่มของเธอ
"ก็ฉันรักเธอมากไง ไม่อยากห่างกันอีกแล้ว" รันเวย์คว้ามือของเธอเอาไว้และจูบลงเบา ๆ
"รู้แล้วน่า..ฉันรู้แล้ว" เธอพยักหน้ารับและยิ้มหวานให้กับชายคนรักไปอีกครั้ง
"รันเวย์~" น้ำเสียงที่เรียกชื่อแฟนหนุ่มทำเอาพ่อหนุ่มคลั่งรักยิ้มออกมา แม้ว่านัยน์ตาของเขาจะดูเศร้า ๆ ก็ตาม
"ฉันก็รักนายมาก ๆ เหมือนกัน" เธอพูดทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้น ก่อนจะค่อย ๆ ปล่อยมือและเดินจากเขาไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่ต้องลากไปทำงานด้วยทุกหนทุกแห่งบนโลกนี้
รันเวย์ยืนมองแฟนสาวที่ค่อย ๆ เดินห่างจากเขาไปจนไกลสุดสายตา เขาไม่รู้เลยว่าจะได้เจอเธออีกครั้งเมื่อไหร่
และครั้งนี้ต้องห่างกันอีกกี่วันกี่เดือน
•นับหนึ่ง•
บนเครื่องบิน
คุณเคยมีอาชีพในฝันบ้างไหมคะ ฉันคือเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความฝันมาตลอดว่าสักวันหนึ่งจะได้ออกไปท่องโลกกว้าง เดินไปพบปะเจอผู้คนที่หลากหลายทางเชื้อชาติ วัฒนธรรม และภาษา อาชีพแอร์โฮสเตส คือความฝันสูงสุดของฉันจริง ๆ แต่ไฟลต์นี้มันกำลังจะกลายเป็นไฟลต์บินสุดท้ายของฉัน
«เพราะว่าเครื่องบินทุกลำ สุดท้ายแล้วต้องบินลงจอดที่รันเวย์เสมอ» ฉันมองแหวนหมั้นของคนรักพร้อมกับจดหมายลาออกที่เตรียมเอาไว้ได้สักพักแล้ว
«ขอบคุณนะรัน ที่ให้โอกาสฉันทำตามความฝัน»
«และขอบคุณที่รอ» ฉันมองออกไปนอกหน้าต่างของเครื่องบิน ในขณะที่เครื่องบินไต่อยู่ในระดับความสูงคงที่ เนื่องจากเป็นไฟลต์เช้ามืด เราต้องบินนานถึง 15 ชั่วโมงกว่าจะถึงแอลเอ และไฟลต์บินระหว่างประเทศที่ทำให้รู้สึกเจ็ตแล็ก มากที่สุดก็คือไฟลต์ข้ามทวีปข้ามไทม์โซน เพราะเมื่อเดินทางถึงโรงแรมแล้ว ฉันมักจะนอนไม่ค่อยหลับ เพราะปรับไทม์โซนไม่ทัน
ยอมรับว่าอาชีพนี้มันไม่ง่ายเลย การได้ท่องเที่ยวเปิดโลกใหม่ ๆ เป็นหนึ่งในอาชีพที่โก้หรู แต่ทั้งหมดแลกมากับปัญหาทางสุขภาพจริง ๆ
1 สัปดาห์ต่อมา –
«ใบลาออก?” เสียงของพนักงาน HR สายการบินชื่อดังเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ เมื่อได้รับจดหมายลาออกจากแอร์สาวคนสวยที่ขึ้นแท่นเป็นถึงพรีเซนเตอร์ของสายการบิน
และยังเป็นพนักงานบริการชั้นดีของบริษัทด้วย
«นับหนึ่งจะลาออกแล้วจริง ๆ เหรอคะ?” เธอเอ่ยถามนับหนึ่งอีกครั้งด้วยท่าทีเสียดาย
«ค่ะ หนึ่งตัดสินใจแล้ว» นับหนึ่งพยักหน้ารับ เธอลูบแหวนหมั้นของตัวเองเบา ๆ พลางนึกถึงใบหน้าของใครบางคนที่คงจะกำลังรออยู่
«แอร์สาวสวย ๆ เก่ง ๆ บริการดีทยอยลาออกกันไปทีละคนสองคนเลยช่วงนี้» เธอถอนหายใจออกมาแต่ก็ไม่ได้ตำหนิอะไรคนตรงหน้า
«นี่ก็คงลาออกไปแต่งงานอีกคนใช่ไหมเนี่ย» พนักงาน HR พูดขึ้นพร้อมกับยื่นเอกสารลาออกให้เธอเซ็น ก่อนจะเก็บชุดเครื่องแบบ และบัตรพนักงานต่าง ๆ ของเธอคืนทั้งหมด และเอากองรวมไว้กับพนักงานอีกสองสามคนที่เพิ่งจะมาลาออกไปก่อนหน้า
«ยังไงก็โชคดีนะหนูนับหนึ่ง» เธอกล่าวอวยพรให้หลังจากที่เธอเซ็นเอกสารลาออกครบถ้วนแล้ว
«ขอบคุณค่ะพี่ส้ม» สาวสวยหน้าหวานยกมือไหว้พนักงาน HR รุ่นพี่อย่างนอบน้อม
«แต่งงานเป็นคุณนายสายการบินแล้วอย่าลืมเลื่อนตำแหน่งให้พี่ด้วยนะ» เธอแกล้งพูดแซวกับเด็กสาวรุ่นน้องเล่น ๆ อย่างเป็นกันเอง เพราะพี่คนนี้คือคนที่สัมภาษณ์งานเธอเป็นคนแรก ถึงแม้จะมีแฟนเป็นลูกชายของเจ้าของสายการบิน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอเข้ามาด้วยเส้นสาย เพราะสายการบินนี้เป็นสายการบินที่ร่วมหุ้นกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในอเมริกา แน่นอนว่าไม่มีเรื่องเด็กเส้นหรือลูกท่านหลานเธอแน่นอน ทุกคนต้องทำงานด้วยความสามารถจริง ๆ เท่านั้น
«งั้นหนึ่งลาเลยนะคะ สวัสดีค่ะ» เธอยกมือขึ้นไหว้ทั้งพี่ส้มและพนักงานโต๊ะอื่น ๆ ในแผนก HR ทั้งหมด ก่อนจะเดินกลับออกมาจากห้องนั้นทันทีด้วยชุดไปรเวทที่เปลี่ยนเอาไว้แล้ว
«ไม่ค่อยชินเลยแฮะ» นับหนึ่งมองไปยังกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่เธอส่งคืนให้กับที่ทำงานไปแล้ว เพราะมันถือเป็นทรัพย์สินของทางสายการบิน รวมไปถึงชุดยูนิฟอร์มแอร์โฮสเตสสวย ๆ ด้วยเช่นกัน
-บนแท็กซี่-
«ไปหมู่บ้าน The Rich Bangkok Ville ค่ะ» นับหนึ่งบอกกับแท็กซี่ทันทีที่ก้าวขึ้นรถ และหมู่บ้านที่เธอจะไปก็คือบ้านของคู่หมั้นของแฟนเธอเอง ซึ่งวันนี้เธอตั้งใจที่จะกลับมาเซอร์ไพรส์แฟนหนุ่มของตัวเอง โดยไม่ได้บอกก่อนล่วงหน้าว่าจะกลับไทยในวันนี้ และไม่ได้บอกเขาว่าเธอจะยอมหักปีกนางฟ้าของเธอเพื่อเขาได้แล้วจริง ๆ
@The Rich Bangkok Ville
"จอดตรงนี้ได้เลยค่ะ นี่เงินค่ะไม่ต้องทอน" นับหนึ่งยื่นธนบัตรใบหนึ่งให้กับคนขับ ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถทันทีด้วยท่าทีระมัดระวัง เธอเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูบ้านหรู หมู่บ้านนี้ทุกหลังราคาไม่ต่ำกว่า 50 ล้านขึ้นไป แต่เพราะเธอเข้าออกอยู่บ่อยครั้งเธอจึงจำรหัสผ่านได้เป็นอย่างดี
เพราะรหัสทุกอย่างที่รันเวย์ตั้งเอาไว้ ไม่ว่าจะประตูรั้วบ้าน รหัสหน้าจอโทรศัพท์ รหัสคอมพิวเตอร์ เรียกได้ว่าทุก ๆ อย่างคือวันเดือนปีเกิดของนับหนึ่งทั้งสิ้น
แก๊ก~ หลังจากที่ใส่รหัสผ่านเสร็จ
ประตูรั้วก็เปิดออกทันทีอย่างรู้หน้าที่ตัวเอง
นับหนึ่งมองซ้ายขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีใคร เธอจึงแอบย่องเข้าไปในบ้านทันที ในมือถือจดหมายลาออกพร้อมตราประทับเอาไว้แน่น
แอ๊ด! แต่ในวินาทีที่นับหนึ่งกำลังจะเปิดประตูเข้าไปในบ้าน จู่ ๆ ก็มีสาวสวยคนหนึ่งเดินออกมาซะก่อน แต่ยังไม่ทันที่เธอจะเห็นคนที่เพิ่งเดินเข้ามา ก็มีเสียงของใครอีกคนดังตามหลังมาติด ๆ
"เหมือนเธอลืมกระเป๋าไว้นะ" เสียงของชายอีกคนดังขึ้นมาจากทางด้านในของบ้าน
"อ๋อ ใช่ค่ะ" เธอหันกลับไปตอบเขาด้วยน้ำเสียงหวาน ๆ
"วันหลังอย่าลืมอะไรไว้ที่นี่อีก เพราะมันไม่ใช่บ้านของเธอ!" ชายหนุ่มพูดก่อนเปิดประตูออกมากว้างพอที่จะเจอกับนับหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหน้าบ้านของเขา
ไทม์โซนชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเจอหน้าของเธอ
"ทำไมถึงมาที่นี่ได้?" คนตัวสูงถามขึ้นทันทีที่เจอหน้าของคนที่เป็นคู่หมั้นของพี่ชายตัวเอง และใช่ เขาคือน้องชายแท้ ๆ รันเวย์
จริง ๆ ไทม์อ่อนกว่านับหนึ่งแค่ไม่กี่เดือน ทั้งสองคนไม่ค่อยสนิทกันสักเท่าไหร่ แต่ก็เจอหน้าคร่าตากันอยู่บ่อยครั้ง
"พอดีกะว่าจะมาเซอร์ไพรส์รันเวย์น่ะสิ" นับหนึ่งเกาหัวเล็กน้อย
"อ๋อ" ไทม์ยิ้ม ๆ รับอย่างไม่ได้ถามอะไรต่อ
"ว่าแต่คนนี้ใครกัน แฟนไทม์เหรอ?" หญิงสาวจ้องมองไปที่ผู้หญิงคนที่ยืนอยู่ด้วย ก่อนจะส่งยิ้มให้เธอ เพราะคิดว่าผู้หญิงคนนั้นคงอาจจะเป็นแฟนของไทม์แน่ ๆ
"เธอไปได้แล้ว" ไทม์กระซิบบอกกับอีกคนเบา ๆ ซึ่งนับหนึ่งก็เลือกที่จะไม่ถามอะไรต่อ เธอคิดว่าตัวเองคงสับสนอะไรไป เพราะดูทรงแล้วผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนั้นเหมือนเป็นแค่คู่ขาของไทม์มากกว่าจะเป็นแฟนของเขา
"เข้ามาก่อนสิ" ไทม์โซนเปิดประตูบ้านรับคู่หมั้นของพี่ชายตัวเองทันที
แต่ไม่ได้ตอบคำถามเรื่องผู้หญิงอีกคนแต่อย่างใด
"พี่รันน่าจะอยู่ห้อง" ไทม์มองไปที่ชั้นสอง
นับหนึ่งพยักหน้ารับไปอย่างยิ้ม ๆ
"งั้นฉันไปหารันเวย์ก่อนนะ" เธอโบกมือลาไทม์โซนน้องชายของคู่หมั้นตัวเองไปพลาง ๆ ก่อนจะเดินขึ้นบันไดบ้านหลังใหญ่ แล้วมาหยุดตรงหน้าห้องของรันเวย์
ก๊อก ๆ มือเล็กตัดสินใจเคาะประตูดูแต่รอสักพักก็ยังไม่มีใครเปิดเลย
"ไหนไทม์บอกว่าอยู่ในห้องไง" นับหนึ่งออกแรงเคาะอีกครั้ง
แต่ก็ไร้เสียงตอบรับใด ๆ จากด้านใน
แอ๊ด~ หญิงสาวตัดสินใจค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไปในห้องของแฟนตัวเอง แต่ทว่าห้องทั้งห้องกลับมืดสนิทราวกับไม่มีใครอยู่เลย
นับหนึ่งเดินเข้ามาในห้องที่เงียบสงัด ก่อนจะหยุดยืนที่กลางห้องและกวาดสายตามองไปรอบ ๆ
"คิดว่าเซอร์ไพรส์เป็นคนเดียวเหรอหนึ่ง" เสียงของรันเวย์ดังขึ้นจากทางด้านหลังของเธอ
"รัน?" ทันทีที่หันหลังกลับไป เธอก็เจอกับรันเวย์ที่คุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ
"นับหนึ่งครับ" รันเวย์เรียกคู่หมั้นของตัวเองอย่างเป็นทางการมากขึ้น
"เราสองคนคบกันมาเกือบ 7 ปีแล้วนะ" ทันทีที่รันเวย์เริ่มพูด น้ำตาหยดใส ๆ ก็เอ่อคลอขึ้นมาที่หน่วยตาทันที
"ผ่านทุกข์ ผ่านสุขมาด้วยกัน"
"รันเวย์ดีใจนะที่ได้เป็นแฟนกับคนที่ทั้งสวยและแสนดีแบบหนึ่ง"
"หนึ่งเป็นของล้ำค่าที่รันไม่มีทางจะปล่อยไป~" เขาพูดขึ้นพร้อมกับเปิดกล่องแหวนประจำตระกูลของตัวเอง
ซึ่งมันคือเพชรน้ำดีที่มีขนาดเกือบ ๆ 10 กะรัตได้
"ขอบคุณฟ้าที่สร้างนับหนึ่งมาเพื่อให้รันรัก" รันเวย์ประคองฝ่ามือบางไปจูบและหอมเบา ๆ ที่หลังมือ
"แต่งงานกันนะ..นับหนึ่ง" รันเวย์เงยหน้ามองใบหน้าสะสวยอย่างรอฟังคำตอบ
"แต่งสิ" นับหนึ่งตอบไปเสียงสั่นเพราะเอาแต่ร้องไห้กับคำพูดของแฟนหนุ่มจนพูดอะไรไม่ออกเลย
รันเวย์ค่อย ๆ สวมแหวนทับลงไปบนแหวนหมั้นที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธอ ซึ่งแหวนประจำตระกูลของเขามันก็เข้าได้กับนิ้วนางด้านซ้ายของเธอพอดีราวกับถูกวัดไซซ์มาแล้ว
"แม่เคยบอกรันว่าแหวนวงนี้มันจะเลือกสะใภ้ดี ๆ เข้าบ้านของเรา" รันเวย์พยายามอธิบายถึงเรื่องราวของแหวนวงที่เขามอบให้มา
ฟุ่บ!! แต่เพราะความซาบซึ้ง และเพราะความคิดถึงที่ไม่ได้เจอกันนานเธอจึงคว้าร่างสูงมากอดเอาไว้แน่น
"หนึ่งจะเป็นเจ้าสาวของรันเวย์คนนี้คนเดียว เพียงคนเดียวเท่านั้น" เธอกอดเขาเอาไว้แน่นและร้องไห้ออกมาอย่างซาบซึ้งใจ
"รันเวย์รักหนึ่งมาก ๆ นะ" รันเวย์โอบกอดและลูบหลังของเธอเบา ๆ อย่างนึกเอ็นดู