EP.3 POISON LOVE พิษรัก ?
ตอน ความจริง
"ไม่มี!" รันเวย์เอ่ยตอบกลับเจ้าสาวของเขาทันทีพร้อมกับคว่ำหน้าจอโทรศัพท์ลง
"พวกเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้มาร่วมงานแต่งงานวันนี้โทรมาแสดงความยินดีกับเราน่ะ" รันเวย์เดินเข้ามากอดเจ้าสาวของเขาอย่างทะนุถนอม
"แต่รันไม่อยากรับโทรศัพท์แล้ว....รันอยากใช้เวลากับหนึ่งมากกว่า" ร่างสูงโอบกอดเธอก่อนจะค่อย ๆ ลูบไล้ใบหน้าสวยหวาน ๆ ดวงตากลมโตของเธอที่มองกี่ทีก็ไม่มีวันเบื่อ
"ขอบคุณนะรัน ที่ยอมทำตามคำสัญญาที่ให้เอาไว้กับแม่ของหนึ่ง" เธอค่อย ๆ นั่งลงบนเตียงที่โรยด้วยดอกกุหลาบมากมายช้า ๆ
แม่บุญธรรมของนับหนึ่งพูดสั่งเสียเอาไว้ ด้วยความรักและเป็นห่วงลูกสาวคนเดียวของเธอก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป ท่านขอให้รันสัญญาว่าจะดูแลและจะให้เกียรติหนึ่งไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลังก็ตาม ขอให้เขาสาบานว่าจะไม่ทำให้ลูกสาวคนเดียวของเธอต้องเสียใจ ซึ่งรันรับปากทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นทั้งคู่เพิ่งจะเริ่มคบหากันไม่นานเท่าไหร่
และก็ด้วยความที่ท่านเองเป็นหญิงบริสุทธิ์มาตลอดชีวิต ท่านจึงค่อนข้างกลัวเรื่องของความรักของหญิงชาย ท่านยังคงเป็นห่วงกลัวว่าในวันใดวันหนึ่งนับหนึ่งจะต้องเสียใจเพราะความรัก
ด้วยความที่ท่านค่อนข้างจะหัวโบราณมาก ๆ ก่อนที่ท่านจะเสียท่านบอกกับนับหนึ่งเอาไว้ว่า ให้คงความสวยและความบริสุทธิ์เอาไว้ จนกว่าวันที่เธอมั่นใจแล้วว่าผู้ชายคนที่คบอยู่ด้วยรักเธอจริง ๆ เธอเข้าใจความหมายของแม่บุญธรรม ความรักที่แท้จริงก็คือการที่เขาต้องให้เกียรติแต่งกับเธออย่างถูกต้องทั้งทางด้านขนบธรรมเนียมประเพณีและทางกฎหมาย
ซึ่งวันนี้รันเวย์ก็ได้ทำทุกอย่าง อย่างถูกต้องในฐานะของสามีคนหนึ่งแล้วจริง ๆ
กลิ่นความรักที่หอมตลบอบอวลฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง ความผูกพันของเขาทั้งคู่ ความรู้สึกดี ๆ ที่บ่มเพาะมายาวนานเกือบ 7 ปีของเธอและเขา มันช่างเป็นความทรงจำที่งดงามมากเหลือเกิน
สำหรับนับหนึ่งแล้ววันแรกที่มีรันเข้ามาในชีวิตจนถึงวันนี้ ไม่มีวันไหนเลยที่เธอไม่รู้สึกขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้เราได้เจอกันและรักกันแบบนี้
"หนึ่งเป็นผู้หญิงโชคดีมาก ๆ เพราะรันเป็นแฟนที่ดีมาโดยตลอด" เธอลูบใบหน้าของชายอันเป็นที่รักและใช้สายตาของเธอบอกผ่านความรู้สึกในใจ
"วันนี้...หนึ่งพร้อมที่จะทำหน้าที่ของภรรยาแล้วจริง ๆ นะ ขอบคุณรันที่อดทนรอจนถึงวันนี้" เธอขยับเข้าไปจูบริมฝีปากนุ่ม ๆ ของเขา
พร้อมกับขยับขึ้นไปจูบเบา ๆ ที่กลางหน้าผากของสามีตัวเอง
"รันก็รอวันนี้มาตลอด...วันที่เราสองคนจะกลายเป็นคนคนเดียวกันสักที" รันเวย์ค่อย ๆ ใช้ปลายนิ้วของเขาไล่ลงมาที่ปลายจมูกเล็กจิ้มลิ้มของสาวหน้าหวาน
"อืม" นับหนึ่งยิ้มหวานตอบเขาไปอย่างเต็มใจและยินยอมที่จะตกเป็นของเขาในค่ำคืนที่แสนโรแมนติกอย่างคืนนี้
"วันนี้รันจะมีสิทธิ์ได้มากกว่ากอด มากกว่าจูบ และมากกว่าแค่นอนข้าง ๆ หนึ่งแล้ว...รันทำตามคำสัญญาของแม่หนึ่งแล้วนะ" เขาพูดย้ำขึ้นอีกครั้ง เพราะเขาจำคำสัญญาที่หนึ่งให้กับแม่บุญธรรมได้เป็นอย่างดี
"...และรันก็ไม่เคยผิดสัญญาสาบานอะไรเลย" รันเวย์พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม เขาค่อย ๆ โน้มตัวเข้ามาจูบเธออย่างดูดดื่ม ฝ่ามือหนาค่อย ๆ โอบกอดตัวของเธอจากด้านหลัง
"ถอดเสื้อให้สามีทีสิครับ..คุณภรรยาคนสวย" รันเวย์เอ่ยขึ้นแบบอ้อน ๆ นับหนึ่งเองก็ปลดกระดุมเสื้อสูทของเขาออกทีละเม็ด ๆ รันรีบจัดการถอดเข็มขัดและกางเกงของเขาออกทันที
จนเหลือแค่เพียงกางเกงในสีขาวเพียงตัวเดียวเท่านั้น
"ให้รันช่วยหนึ่งถอดชุดเจ้าสาวเองนะ.....รันอยากดูแลหนึ่งแบบนี้ไปตลอดเลย" รันเวย์ค่อย ๆ โอบกอดตัวเจ้าสาวแสนสวยของเขาเอาไว้ ก่อนจะจูบลงที่ไหล่ด้านซ้ายและลำคอของเธออย่างอ่อนโยน ในขณะที่ฝ่ามือหนาค่อย ๆ รูดซิปชุดเจ้าสาวของเธอลงไปได้ยังไม่ถึงครึ่งแผ่นหลังที่ขาวเนียนของเธอ
ซิปมันก็ดันไปติดกับผ้าทำให้รูดลงไม่ได้สักที จึงต้องใช้เวลาอยู่พักใหญ่ ๆ ทั้งสองคนก็ยังคงหัวเราะคิกคัก ๆ กันดีตามประสาคู่รัก
แต่ทว่า...
กริ๊ง กริ๊ง จู่ ๆ โทรศัพท์ของทางโรงแรมก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะของเขาสองคน
รันเวย์ยกหูโทรศัพท์ทันทีและกระแทกลงอีกครั้งอย่างแรง และขณะที่เขากำลังพยายามจะเล้าโลมภรรยาสาวต่อ แต่เหมือนว่าเธอจะไม่มีอารมณ์ร่วมเหมือนตอนแรกสักเท่าไหร่ เพราะเธอเริ่มรู้สึกสงสัยเรื่องที่มีคนโทรมาไม่ยอมหยุดนี่มากกว่า
กริ๊ง กริ๊ง~ เสียงโทรศัพท์มันก็ดังขึ้นอีกครั้ง
"เดี๋ยวหนึ่งรับเองรัน!" นับหนึ่งเริ่มรู้สึกว่ามันแปลก ๆ เธอรีบดึงซิปขึ้นตามเดิมและทำท่าจะรับโทรศัพท์
"ไม่ต้องรับหรอกน่า...นี่เวลาส่วนตัวของเราสองคนนะ" รันเวย์แย่งโทรศัพท์ไปทันที
เขาพยายามจะกระชากสายโทรศัพท์ด้านหลังเครื่องออก แต่ความสงสัยของหนึ่งมันห้ามเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว เธอรู้สึกเหมือนว่ารันกำลังกลัวอะไรบางอย่างจากโทรศัพท์นั้น
และยิ่งเขากีดกัน ขัดขวาง เธอก็ยิ่งอยากรู้มากขึ้น ๆ จนทนต่อไปไม่ได้แล้ว
ติ๊ด! เธอตัดสินใจกดเปิดลำโพงของโทรศัพท์ตั้งโต๊ะของโรงแรมทันที ในขณะที่รันพยายามจะดึงสายโทรศัพท์ออกและ
ติ๊ด~
(คงกำลังมีความสุขกันมากใช่ไหม...) เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาจากโทรศัพท์
"คะ?" นับหนึ่งชะงักไปเมื่อปลายสายเพิ่งจะเรียกชื่อของสามีเธออย่างเสียงดังฟังชัดเจน
"มันเป็นพวกโรคจิตอะหนึ่ง วางสายไปเถอะน่า" รันเวย์พุ่งเข้ามาจะดึงโทรศัพท์คืน
(โรคจิตที่ทนเป็นเมียเก็บของคุณมานานเป็นปี ๆ น่ะเหรอ?) หญิงสาวในสายพูดสวนกลับมาเสียงดังลั่น
ผลัก! หนึ่งผลักตัวของรันออกไป
"อะไรนะ?" นับหนึ่งชะงักไปในทันที
ผลัก! นับหนึ่งผลักรันเวย์ออกไปทันทีก่อนที่เขาจะเดินกลับมาแย่งโทรศัพท์ไป
"เธอคือใคร?" เธอเอ่ยถามกลับไปอย่างเสียงสั่น
(เหอะ เราเคยเจอกันแล้วค่ะคุณนับหนึ่ง) ปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหลอน ๆ
"เคยเจอฉัน?" นับหนึ่งทวนคำนั้นเบา ๆ อย่างสับสนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
"วางสายมันไปหนึ่ง รันอธิบายได้ทุกอย่างเลยอย่าไปฟังมัน มันกำลังปั่นประสาทของเรานะ" รันเวย์พยายามจะเดินเข้ามาแย่งโทรศัพท์แต่เธอก็ผลักเขาออกไปอย่างแรง
"เขาจะปั่นประสาทเราเพื่ออะไร ถ้ารันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา?" เจ้าสาวหันไปถามทางเจ้าบ่าวของตัวเองอย่างข้องใจ เพราะปลายสายพูดจาแปลกมากจริง ๆ แปลกจนทำให้เธอรู้สึกไม่ดีเลย
(จะวางสายก็ได้นะ! ถ้าอยากให้ฉันกับลูกของรันตายเป็นของขวัญวันแต่งงานของพวกคุณ) คำของเธอทำให้ทั้งบ่าวและสาวชะงักไปในทันที
"ลูก...ของรัน?" นับหนึ่งชะงักไปกับสิ่งที่เธอพูด แม้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นเรื่องจริงไหม
แต่พอหันไปมองหน้าของเขา เขาเองก็ตกใจและหน้าเสียอย่างชัดเจนมากสุด ๆ
(คิดว่าเงินไม่กี่สิบล้านจะไล่ฉันไปให้พ้นจากชีวิตได้งั้นเหรอ?)
"เธอพูดเรื่องบ้าอะไร?" รันเวย์ตะคอกใส่โทรศัพท์อย่างเสียงดังลั่น
(ตอนเอา เราก็เสพสุขอยู่ด้วยกัน แต่พอฉันท้องก็ทิ้งไปแต่งงานกับแฟนง่าย ๆ แบบนี้มันหน้าตัวเมียไปหน่อยรึเปล่า?) ปลายสายเอ่ยออกมาเสียงสั่น ๆ
(และฝากถึงอีเจ้าสาวหน้าด้านของคุณให้มันรู้ด้วยว่า...กรรมที่มันพรากพ่อพรากลูกไปจากกัน)
(ขอให้ชีวิตมันฉิบหายอย่างไม่มีความสุขความเจริญอีกเลย ขอให้มันสูญเสียทุกอย่างเหมือนที่ฉันกับลูกต้องเสีย!) หญิงสาวคนเดิมตะโกนสาปแช่งเธอออกมาจากโทรศัพท์
โครม! รันเวย์กระชากสายโทรศัพท์จนขาดและสัญญาณก็หายไปในทันที
(ตัดสายโทรศัพท์ไป)
"…" นับหนึ่งพูดอะไรไม่ออกเลย เธอเอามือปิดปากแน่น นิ่งอึ้งอย่างทำอะไรไม่ถูก น้ำตาไหลอาบทั้งสองแก้ม เธอถูกผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนด่าสาปแช่งสารพัด ทั้ง ๆ ที่เธอยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเรื่องอะไรกันแน่
"หนึ่งอย่าไปสนใจเลย อีนั่นมันบ้า..มันสร้างเรื่องมาหลอกเรา" รันเวย์รีบเดินเข้ามากอดเธอเอาไว้ทันที
"ถ้าไม่จริงแล้วรันวิ่งหนีเขาแบบนี้ทำไม?" ผู้หญิงในชุดเจ้าสาวเอ่ยถามกลับไปทั้งน้ำตา
"ตอบมาสิ..ถ้าเขาเป็นแค่คนบ้า ทำไมรันต้องกลัวหนึ่งรู้ความจริงนี่ด้วย?" เธอตะโกนใส่หน้าของเขา
"รันทำผู้หญิงคนอื่นท้อง...จริง ๆ เหรอ?" นับหนึ่งตะโกนใส่หน้าเขาไปสุดเสียงที่มี
ก่อนจะง้างมือขึ้นเตรียมจะตบเข้าที่ใบหน้าของเขา แต่ก็ต้องชะงักเอาไว้ก่อน
รันเวย์หลับตาปี๋อย่างน้อมรับ แต่เธอก็ไม่กล้าจะตบหน้าสามีตรงหน้าจริง ๆ
"วันนี้หนึ่งต้องรู้ความจริงเรื่องนี้ให้ได้ ต้องรู้ให้ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร!" นับหนึ่งพูดขึ้นเพียงเท่านั้นก่อนจะรีบหยิบโทรศัพท์ของเขาและคว้ากุญแจรถของรันที่วางอยู่บนโต๊ะเและรีบเดินออกมาจากห้อง
"หนึ่งหยุด หนึ่งหยุดก่อน" รันเวย์วิ่งตามมาและกระชากแขนของเธอเอาไว้ทันที แต่เขาไม่ได้สวมใส่อะไรเลยทำให้เดินออกมาด้วยไม่ได้
"เข้ามาคุยกันก่อน" รันเวย์พยายามกระชากเธอเต็มแรงจนนับหนึ่งเซ ๆ เธอจึงถอดรองเท้าและปาใส่หน้าของเขาแทน
ปั่ก! รันเอามือบังหน้าเอาไว้
เธอรีบใช้จังหวะนั้นเดินออกมาและปารองเท้าอีกข้างใส่หน้าของเขา ก่อนจะปิดประตูใส่รันเวย์และรีบวิ่งออกไปทันที
ซึ่งลิฟต์ก็เปิดรออยู่พอดี นับหนึ่งวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตไปที่ลิฟต์ก่อนจะกดไปยังลานจอดรถ ลิฟต์ค่อย ๆ ปิดลงช้า ๆ รันเวย์ก็วิ่งออกมาในสภาพที่ยังสวมใส่กางเกงและเสื้อไม่เสร็จดี เขาไม่มีโทรศัพท์ไม่มีกุญแจรถอะไรทั้งนั้น
@ลานจอดรถ
นับหนึ่งเดินตรงมาที่รถคันใหม่ที่ถูกซื้อเอาไว้สำหรับงานแต่งในคืนนี้ ซึ่งยังมีโบว์สีแดงและป้ายตกแต่งต่าง ๆ ผูกที่ท้ายรถอยู่เลย
บรื้นนน~~ เธอกดสตาร์ตรถและล็อกทันที
"หนึ่ง!!!" รันเวย์ตะโกนเรียกเธอสุดเสียง และวิ่งตามเธอมาติด ๆ
นับหนึ่งไม่ใส่ใจ เธอขับรถออกไปจากโรงแรมพร้อมกับเปิดโทรศัพท์ของรันเวย์ทันที เพราะในโทรศัพท์เครื่องนี้มันคงมีหลักฐานและความจริงซ่อนอยู่แน่ ๆ
บรื้น!!! รถยนต์ขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างไร้ซึ่งจุดหมาย ปลายนิ้วของเธอไล่หาความจริงจากโทรศัพท์ของรันเวย์ ซึ่งเขาได้ล้างข้อมูลออกไปจนหมดเกลี้ยง ไม่ต่างจากเครื่องใหม่เลยด้วยซ้ำ นับหนึ่งตัดสินใจกดเข้าไปยังไลน์ก่อนจะไปดูที่บล็อก
ซึ่งสุดท้ายแล้ว เธอก็เจอกับไลน์ของคนที่ชื่อว่า...
บล็อก: พิต้า
บล็อก: พิต้า 2
บล็อก: พิต้า 3