EP.9 POISON LOVE พิษรัก ? ตอน ลืมตาตื่นจากฝัน

1799 Words
EP.9 POISON LOVE พิษรัก ? ตอน ลืมตาตื่นจากฝัน "ก็มันคือหนังสือนิทานนี่ไอรีน ฉันไม่ได้แต่งขึ้นมาเองสักหน่อย" วินด์เซอร์หลุดขำออกมาทันที "ที่นี่ไม่มีเจ้าชายน่ะสิ อาจะทำยังไงดีล่ะวิริน?" ไทม์ตอบหลานรักไปอย่างเอ็นดู "อาไทม์ก็เป็นเจ้าชายให้เธอคนนี้สิคะ" เด็กน้อยพูดอย่างไร้เดียงสา "วิรินอยากให้เจ้าหญิงฟื้น....มาหากี่ครั้งก็นอนหลับปุ๋ยทุกทีเลย" เธอกระชากปกเสื้ออาไทม์เบา ๆ ตามประสาเด็ก ๆ "อยากให้ตื่นมาเล่นกัน มาเล่นกัน ๆ หนูจะได้มีเพื่อนเยอะ ๆ" เด็กน้อยงอแงไปตามประสา "เรื่องเล่าก่อนนอนมันก็เป็นเพียงแค่นิทานนะลูก ชีวิตจริงไม่มีง่ายไปซะทุกอย่างหรอกนะ" ไอรีนหลุดขำออกมาทันทีเมื่อเห็นท่าทีจริงจังของลูกสาวตัวเอง แต่เธอก็อธิบายให้เจ้าตัวเล็กฟัง แม้ว่าเธอจะไม่อาจเข้าใจได้ทั้งหมดก็ตาม "ไม่ค่ะ ๆ นิทานคือเรื่องจริง" วิรินเบะปากเล็กน้อย ก่อนจะโน้มตัวเข้ากระซิบข้าง ๆ หูอาไทม์ของเธอเบา ๆ "อาไทม์ต้องจุมพิตเธอนะ เธอจะได้ตื่นไงคะ" เธอกระซิบกระซาบและหัวเราะคิกคัก ๆ อยู่พักใหญ่กับอาไทม์ผู้ใจดีของเธอ "ก็ได้ อาจะลองคิดดูก่อนนะ" เขารับปากหลานรักไปอย่างไม่ได้คิดอะไร และหลังจากที่ครอบครัววินด์เซอร์กลับไปได้สักพัก ไทม์เองก็อยู่รอจนพยาบาลพิเศษเข้ามารับช่วงดูแลนับหนึ่งต่อจากเขา "ขอโทษคุณไทม์ด้วยนะคะ ที่ขอลาแบบกะทันหัน" เธอยกมือไหว้ขอโทษเจ้านายทันทีที่มาถึง "ไม่เป็นไร รถเสียมันเป็นเรื่องสุดวิสัย" ไทม์เอ่ยตอบพยาบาลพิเศษไปอย่างใจดี "เอ่อ..ยังไงผมฝากด้วยนะครับ เห็นหมอบอกว่าร่างกายของเธอเริ่มตอบสนองมากขึ้นแล้ว" ไทม์กอดอกมองตรงไปที่นับหนึ่งอย่างเฝ้ารอแล้วรอเล่าแต่เธอก็ไม่ได้ขยับตัวใด ๆ เหมือนที่หมอเจ้าของไข้บอกเอาไว้เลยสักนิด "ถ้าเธอฟื้นเมื่อไหร่ คุณพยาบาลโทรหาผมได้ตลอดเลยนะ" ไทม์เอ่ยบอกกับพยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแลนับหนึ่งตั้งแต่เธอได้รับอุบัติเหตุจนถึงวันนี้ "ได้ค่ะ ถ้าคุณหนึ่งเธอฟื้นจะโทรหาคุณไทม์ทันทีเลยค่ะ" เธอพยักหน้ารับคำสั่งของไทม์โซนทันที ก่อนจะเดินไปบีบนวดตามเนื้อตัวของนับหนึ่ง และกายภาพบำบัดให้เธออย่างเช่นเคย ๆ "คุณหนึ่งหลับนานแล้วนะคะ รีบฟื้นนะคะดิฉันรอทำกายภาพบำบัดให้อยู่นะ" พยาบาลสาวพูดหยอกกับหญิงสาวผู้หลับใหลเช่นเคยทุก ๆ วัน จะว่าไปจากคนแปลกหน้าก็เป็นเหมือนคนที่สนิทกันไปแล้ว เพราะเธอต้องดูแลนับหนึ่งทุกวันทุกคืนไม่ห่างเลย "เราจะได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการสักที" เธอจับแขนของนับหนึ่งยกขึ้นบริหาร พร้อมกับชวนคุยไปเรื่อย ๆ แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่มีการตอบสนองใด ๆ กลับมาเลยก็ตาม ไทม์โซนมองภาพตรงหน้านิ่ง ๆ อย่างไม่ได้พูดอะไร ภาพเหตุการณ์ในคืนนั้นมันยังคงฝังลึกอยู่ในความทรงจำของเขาไม่อาจจะลบเลือนได้เลย ในคืนวันแต่งงานที่พี่ชายและว่าที่ภรรยาของเขาควรจะมีความสุขมากที่สุด มันกลับจบลงด้วยโศกนาฏกรรมที่ไม่คาดคิด "ขอโทษนะ ที่ไทม์เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้" เขาพูดกับเธอเบา ๆ ด้วยความรู้สึกผิดภายในใจ "หวังว่าพี่นับจะตื่นขึ้นมาให้โอกาสไทม์ได้ชดใช้นะครับ" ไทม์เดินตรงเข้าไปหยุดยืนที่ข้างเตียงผู้ป่วยของนับหนึ่ง เพื่อเอ่ยร่ำลาอีกครั้งก่อนเขาจะไป "ขอโทษสำหรับทุกอย่าง" เขาพูดด้วยเสียงสั่น ๆ ก่อนจะกดรีโมตเปิดผ้าม่านผ่านในห้องพักโรงพยาบาลชั้นบนสุด ที่เห็นวิวสวยงามของพระจันทร์ ไทม์ยืนแน่นิ่งอยู่พักใหญ่ข้างเตียงของนับหนึ่งที่ยังคงนอนหลับสนิทเช่นเดิม "วิวห้องนี้ตอนที่พระอาทิตย์ขึ้น มันสวยมากเลยนะ...หวังว่าพี่จะตื่นขึ้นมาเห็นมันในวันใดวันหนึ่ง" ร่างสูงมองตรงไปยังวิวท้องฟ้ายามค่ำคืนและพูดขึ้นเพียงลำพังคนเดียว "ฝันดี~" ไทม์เอ่ยร่ำลาเพื่อที่จะหันหลังเดินกลับไปยังประตู แต่ทว่า... จู่ ๆ ปลายนิ้วก้อยของไทม์ก็ถูกปลายนิ้วทั้งห้าของใครอีกคนจับเอาไว้แน่น "มีอะไรเหรอครับ?" ไทม์เอ่ยถามอย่างงุนงง ที่จู่ ๆ พยาบาลพิเศษก็จับมือของเขาไว้ ทั้ง ๆ ที่เธอไม่เคยทำมาก่อนเลย มือเย็นเฉียบที่กำปลายนิ้วก้อยเขาเอาไว้แน่นบีบซ้ำอีกครั้ง แต่พอหันกลับไปมองพยาบาลสาวเองก็กำลังเปลี่ยนสายยางให้อาหารของเธออยู่และมือที่สัมผัสกับปลายนิ้วก้อยของไทม์ ไม่ใช่พยาบาล "นับ?" ไทม์โซนเรียกชื่อของเธออย่างเสียงสั่น "ระ รัน..." ร่างบางพยายามเปล่งเสียงที่เธอมีเรียกหาใครอีกคน แต่มันเบาซะจนแทบไม่มีใครได้ยินเลย "รัน~" เสียงที่แหบแห้งและร่างกายที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงพยายามเอ่ยชื่อของบุคคลที่หายสาบสูญไปนานหลายเดือนซ้ำไปซ้ำมา "ตามหมอที ช่วยตามหมอให้ที!" ไทม์เงยหน้าบอกกับพยาบาลพิเศษอย่างตกใจ ซึ่งทางพยาบาลเองเธอก็รีบวิ่งไปตามหมอทันที เธอเองก็ทั้งตกใจและดีใจไม่แพ้กันที่คนไข้ที่ดูแลฟื้นขึ้นมาแล้วจริง ๆ "(นาย) ไม่ (ใช่) รัน" เธอเปล่งเสียงอย่างขาด ๆ หาย ๆ เธอมองหน้าของไทม์และร้องไห้ออกมาทันทีเมื่อสายตาที่พร่ามัวค่อย ๆ ปรับชัดเจนมากขึ้น และชัดมากซะจนเห็นได้ว่าคนที่ยืนตรงหน้า คือไทม์โซน ไม่ใช่รันเวย์ของเธอ "รันอยู่ไหน?" นับหนึ่งเอ่ยถามอย่างอ่อนแรง ในขณะที่มือเย็นเฉียบของเธอยังคงจับปลายนิ้วก้อยของเขาเอาไว้สุดแรงที่เธอมี "ใจเย็น ๆ ก่อนนะ" ไทม์กุมมือของเธอเอาไว้แน่น "ฉันต้องการเจอรัน..ตอนนี้~" นับหนึ่งพยายามพูดทั้ง ๆ ที่เธอไม่มีเสียงใด ๆ เล็ดลอดออกมาเลย ไทม์เม้มปากแน่นอย่างไม่อาจจะตอบคำถามของเธอได้เลย ทั้งสองคนจ้องมองสบตากันและกันอยู่แบบนั้นพักใหญ่ "ขออนุญาตค่ะ" หมอกับพยาบาลอีกสองคนเดินเข้ามาตรวจอาการของเธอในทันที เมื่อหมอเวรในคืนนั้นกับพยาบาลเข้ามาถึง เขาก็เริ่มตรวจร่างกายของเธออย่างละเอียด "ไทม์~" นับหนึ่งพยายามเรียกหาเขา เมื่อเห็นว่าไทม์ค่อย ๆ เดินถอยหลังไปช้า ๆ ก่อนที่เขาจะเดินเลี่ยงหลบออกไปจากห้อง เพื่อให้หมอเดินเข้ามาตรวจอาการของเธอ พยาบาลเลื่อนม่านรอบเตียงปิดเอาไว้ เพื่อความเป็นส่วนตัวของคนไข้ "แล้วผมควรเริ่มอธิบายจากตรงไหนดี?" "ที่จะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจ" ร่างสูงกุมขมับยืนรออยู่ด้านห้องพักฟื้นของเธอ ไทม์นั่งอยู่ร้านกาแฟของโรงพยาบาลทั้งคืนอย่างไม่กล้ากลับเข้าไปในห้องพักฟื้นของนับหนึ่ง เพราะเขายังไม่รู้เลยว่าเขาจะตอบคำถามของเธอยังไง วันต่อมา - ร่างสูงยังคงยืนลังเลที่จะเข้าไปภายในห้อง เขามองดูอาจารย์หมอที่กำลังพูดคุยกับพยาบาลพิเศษอยู่ด้วยท่าทีเคร่งเครียด เมื่อคืนเธอฟื้นขึ้นมากลางดึก คนที่เข้ามาตรวจอาการคร่าว ๆ จึงเป็นคุณหมอที่อยู่เวร แต่พอเช้าตรู่อาจารย์หมอก็รีบมาดูอาการของเธอทันที "อ้าวคุณไม่เข้าไปเหรอครับ เธอถามหาคุณตลอดเลย" หมอเอ่ยขึ้นก่อนที่ไทม์จะเป็นฝ่ายทักซะอีก "แล้วเธอเป็นยังไงบ้างครับ?" ไทม์ถามกลับไปด้วยสีหน้าที่กังวลใจอยู่ไม่น้อย "เท่าที่หมอตรวจดูอาการแล้ว ร่างกายถือว่าตอบสนองได้ดีขึ้นมาก ๆ เลยนะ" "อาจจะต้องใช้เวลาในการกายภาพบำบัดสักระยะหนึ่ง เพื่อที่จะฟื้นฟูร่างกายหลังจากที่ไม่ได้ขยับกล้ามเนื้อมานานหลายเดือน" "เรื่องนี้นักกายภาพบำบัดจะเข้ามารับช่วงต่ออีกที โดยรวมแล้วเรื่องร่างกายหมอว่าไม่มีอะไร น่ากังวลเท่าสภาพจิตใจ" คุณหมออธิบายอย่างละเอียด ซึ่งไทม์โซนก็ตั้งใจฟังอย่างไม่เอ่ยขัดขึ้นแต่อย่างใด "เธอเอาแต่ถามหาคุณนะ...และก็ไม่พูดอะไรอีกเลย เอาแต่เงียบ นิ่ง และค่อนข้างจะเหม่อลอย" หมอพูดอาการของเธอไปตามความจริง ซึ่งร่างสูงตั้งใจฟังทุกสิ่งที่หมอแนะนำและวิธีการช่วยดูแลเธออย่างเต็มที่ "ถ้าไม่มีคำถามอะไรเพิ่มเติมแล้ว หมอขอตัวก่อนนะครับ" หมอพูดขึ้นหลังจากยืนพูดคุยเรื่องอาการของนับหนึ่งกับไทม์อยู่นานจนให้ข้อมูลทุกอย่างไปได้ละเอียดมากพอสมควรแล้ว เขาจึงขอตัวไปดูแลห้องอื่น ๆ ต่อทันที "เชิญครับหมอ" ไทม์พยักหน้ารับก่อนจะหันหน้ากลับไปยังประตูเดิมอีกครั้ง ฝ่ามือหนากำลูกบิดประตูห้องอย่างชั่งใจ ก่อนที่เขาจะรวบรวมความกล้าและเปิดประตูเข้าไปเผชิญหน้ากับเธออีกครั้ง อย่างตั้งใจจะบอกความจริง แต่ทว่า... "ถ้าในคืนนั้นเขาไม่รอด...นายจะมาช่วยชีวิตฉันไว้ทำไม?" นับหนึ่งหันกลับมาถามไทม์โซนทันทีที่เขาก้าวขาเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าเตียงของเธอ "..." ไทม์เม้มริมฝีปากเอาไว้แน่นอย่างไม่รู้ว่าควรจะเริ่มอธิบายที่ตรงไหนดี "ใจเย็น ๆ" ไทม์พูดออกไปอย่างแผ่วเบา "ฉันรอดแล้วยังไง?" นับหนึ่งถามกลับมาที่เขาอย่างเสียงสั่น ๆ "การที่ต้องรอดชีวิตแล้วอยู่ในสภาพนี้ มันดีกว่าการตายตรงไหนไทม์" เธอเปล่งเสียงถามกลับไปทั้งน้ำตา "ถ้าไม่มีเขาแล้ว" นับหนึ่งเหม่อมองออกไปที่นอกหน้าต่างอย่างจุกอกจนแทบพูดอะไรไม่ออกเลยจริง ๆ... "นายช่วยชีวิตฉัน...เพื่อให้ฉันต้องมาตายทั้งเป็น!" เธอพูดออกมาพร้อมกับยกกำปั้นทุบลงอย่างแรงที่หน้าอกด้านซ้ายของตัวเอง แต่ความเจ็บปวดมันไม่ใช่ที่ภายนอก แต่มันกลับเจ็บอยู่ภายใน... ภายในหัวใจของเธอ "ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตาย...ทำไมไทม์?"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD