หลายวันผ่านไปนับตั้งแต่วันนั้นฉันก็ยังไม่ได้เจอกับเขาอีกเลยเพื่อนๆก็ต่างทำหน้าที่ของตัวเองเพราะว่าอีกแค่สองอาทิตย์กว่าๆก็จะเปิดเทอมแล้ว ฉันที่ตอนนี้ทำงานหนักมากทำงานตั้งแต่เช้าจนมืดทำไมฉันถึงโหมงานหนักมากขนาดนี้นะหรอเพราะว่าถ้าเปิดเทอมมาเมื่อไหร่งานฉันก็จะต้องรับน้อยลงถึงฉันจะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยแต่เรื่องเรียนสำหรับฉันสำคัญมากๆซึ่งข้อนี้พี่ผู้จัดการของฉันก็เข้าใจดี ช่วงเวลาที่เหลืออีกสองอาทิตย์นี้จึงเป็นช่วงเวลาที่ฉันแทบจะไม่ได้พักหายใจกันเลยทีเดียว และระหว่างที่ฉันกำลังถ่ายละครซึ่งเป็นซีนสุดท้ายของเรื่องแล้วพี่พัชชาผู้จัดการของฉันก็เดินเข้ามาหาฉันทันที
พัชชา(ผู้จัดการ) : น้องนิสาคะ วันนี้คิวสุดท้ายแล้วนะคะ หลังจากจบวันนี้น้องก็กลับไปพักได้เลยแล้วพรุ่งนี้มีแคสโฆษณาชิ้นใหม่นะคะ เขาติดต่อให้น้องนิสาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับห้างดังแห่งนึง ซึ่งเขารีเควสมาว่าจะต้องเป็นน้องนิสาเท่านั้น พรุ่งนี้เขานัดเก้าโมงห้ามสายนะคะเดี๋ยวพี่จะไปรับแล้วออกไปพร้อมกันเลย
นิสา : พรีเซ็นเตอร์ห้างหรอคะ ห้างที่ไหนหรอพี่พัชชา
ฉันถามออกไปอย่างสงสัย
พัชชา : ก็ห้างที่หรูที่สุดใจกลางเมืองนั่นแหละ เขาสนใจในตัวของนิสาซึ่งนั่นก็เป็นโอกาสที่ดีของเรานะ พรุ่งนี้ทำให้ดีที่สุดล่ะ ส่วนเรื่องรายได้เขาให้เราเพิ่มจากที่เราเคยได้เป็นสองเท่าพี่ก็เลยปฏิเสธเขาไม่ลงน่ะ แล้วมันก็เป็นสัญญาสั้นๆแค่หนึ่งปีพี่ว่านิสาทำได้อยู่แล้วล่ะ
นิสา : ห้างหรูใจกลางเมืองก็แสดงว่าเป็นห้างของเขาน่ะสิ
พัชชา : น้องนิสาว่าอะไรนะคะห้างของเขาใครหรอ?
นิสา : เปล่าค่ะ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันนะคะพี่พัชชา วันนี้นิสาร่างจะพังแล้วค่ะว่าจะกลับไปนอนเอาแรงซะหน่อย
หลังจากที่ฉันคุยงานกับผู้จัดการเสร็จแล้ว ฉันก็กลับไปถ่ายคิวสุดท้ายให้เสร็จแล้วรีบกลับไปยังคอนโดของฉันเพื่อพักผ่อนทันที เพราะเวลานอนของฉันตอนนี้มีค่ามหาศาลเลยล่ะ
เช้านี้ฉันเดินทางมาที่ห้างหรูของเขาพร้อมกับพี่พัชชาเพื่อที่จะมาคุยรายละเอียดงานกัน พอฉันมาถึงก็ติดต่อที่เคาน์เตอร์ เขาให้ฉันขึ้นไปชั้นบนสุดซึ่งเป็นชั้นของผู้บริหารฉันกับพี่พัชชาได้แต่ยืนงงว่าทำไมจะต้องไปคุยงานกับผู้บริหารทั้งๆที่คุยงานกับลูกน้องของเขาก็ได้ เมื่อมาถึงหน้าห้องของเขาก็ได้พบกับบอดี้การ์ดของเขาและเลขาที่นั่งทำงานอยู่หน้าห้อง
พัชชา : ขอโทษนะคะพอดีว่าฉันมาพบคุณ ปีเตอร์ ชาลี ค่ะ (ชื่อจริงพระเอก)
เลขา : รอสักครู่นะคะเดี๋ยวแจ้งท่านประธานให้ค่ะ
หลังจากที่ฉันและพี่พัชชายืนรอสักพัก แล้วเลขาก็พาฉันกับผู้จัดการเข้าไปยังห้องทำงานของเขา ฉันนั่งมองดูเขาในลุคของผู้บริหารช่างแตกต่างกันกับที่ฉันเคยได้เจอ เขาดูโตเป็นผู้ใหญ่ ดูนิ่ง สุขุม เย็นชาน่ากลัวชะมัด และที่สำคัญเขาทำเหมือนเขาไม่รู้จักฉัน
บอย : เชิญนั่งครับ
พี่พัชชาจูงมือของฉันเข้าไปนั่งเราทั้งสองคนนั่งลงและได้พูดคุยเรื่องเกี่ยวกับสัญญาว่าฉันต้องทำอะไรบ้างภายในระยะเวลาหนึ่งปีนี้และตกลงเรื่องค่าจ้าง
บอย : ผมจะให้คุณนิสาเป็นพรีเซ็นเตอร์ของห้างเราโดยมีระยะเวลาสัญญาหนึ่งปีและได้รับค่าจ้างเป็นจำนวนเงินสิบล้านบาท ภายในระยะเวลาหนึ่งปีนี้คุณนิสาอาจจะมีออกงานอีเว้นท์บ้างและทำงานนอกสถานที่บ้างแล้วแต่กรณีนะครับ
พัชชา : ตกลงค่ะ
ฉันที่ไม่รู้จะเอ่ยอะไรออกมาก็ได้แต่นั่งฟังทั้งสองคนคุยงานกันจนทำการเซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อยพี่พัชชาก็กำลังจะพาฉันกลับ
พัชชา : ถ้าไม่มีอะไรแล้วพวกเราขอตัวกลับก่อนนะคะ
บอย : เชิญคุณพัชชากลับก่อนได้เลยครับ ผมขอตัวนิสาสักครู่ แล้วเดี๋ยวผมจะเป็นคนไปส่งเธอเองครับ
ฉันที่ได้แต่นั่งนิ่งไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดีพี่พัชชามองหน้าฉัน เป็นเชิงถามว่ารู้จักกันด้วยหรอฉันก็พยักหน้ารับ
บอย : เราเป็นเพื่อนกันนะครับ ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับเดี๋ยวผมจะไปส่งเธอเอง
พัชชา : จริงหรอนิสา
นิสา : ค่ะ
พัชชา : ถ้าอย่างนั้นฉันฝากด้วยนะคะ พี่กลับก่อนนะนิสา แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าพี่ไปรับมาถ่ายงานด้วยกัน
นิสา : โอเคค่ะ พี่พัชชากลับดีๆนะคะ
หลังจากที่ผู้จัดการฉันกลับไปแล้วในห้องก็เหลือแต่เขากับฉันสองคน เขาไม่พูดอะไรฉันก็ได้แต่นั่งนิ่งเวลาผ่านไปสักพักฉันรู้สึกอึดอัดฉันตัดสินใจถามเข้าไปตรงๆ
" มึงจะนั่งนิ่งอีกนานไหม? มึงจะให้กูทำอะไรบอกมาสิ "
ฉันถามเขาออกไปเพราะว่าจะให้ฉันมานั่งเฉยๆแบบนี้ฉันก็เบื่อตายพอดีฉันอยากกลับคอนโดแล้วด้วย
" มึงนั่งรอก่อน กูทำงานแป๊บนึง เสร็จแล้วก็จะพามึงไปกินข้าว นี่ก็ใกล้จะบ่ายแล้ว "
ผมตอบเธอไป ปกติแก๊งค์ของพวกเราก็พูดมึงกับกูกันจนติดเป็นนิสัยแล้ว
" แต่กูไม่หิวกูเหนื่อยกูง่วงกูอยากพัก "
" เดินเข้าไปข้างหลังมีห้องนอนอยู่อ่ะ มึงก็เข้าไปนอนรอก็ได้ เดี๋ยวกูทำงานเสร็จแล้วกูไปเรียก "
ผมบอกเธอให้เข้าไปห้องนอนข้างหลังที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้เข้าไปมาก่อน ผมสร้างห้องนอนห้องนี้เอาไว้เผื่อเวลาที่ผมทำงานดึกแล้วไม่อยากกลับคอนโด
" กูไม่นอนห้องใครสุ่มสี่สุ่มห้าหรอกนะ "
" กูเป็นคนอื่นสำหรับมึงหรือไง? "
" เอ่อออ!!! "
ฉันถึงกับไปต่อไม่ถูกกับคำถามของมัน มันถามได้สองแง่สองง่ามมากแล้วฉันจะตอบยังไงล่ะ ฉันเลยตัดสินใจเงียบและไม่พูดอะไร
" ว่าไง!! กูถามมึงทำไมมึงไม่ตอบ "
" เอ่ออ...มึงทำงานไปเถอะเดี๋ยวกูไปนั่งรอมึงที่โซฟาแล้วกัน รีบๆด้วยล่ะกูหิวแล้ว "
ฉันตัดบทด้วยการเดินไปนั่งรอเขาที่โซฟาตรงมุมห้องแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือมาเล่นในระหว่างที่รอเขาทำงานจนตอนนี้ก็ล่วงเลยมาชั่วโมงกว่าแล้วและฉันก็ไม่รู้ว่าฉันหลับไปตอนไหนด้วย
ผมที่นั่งทำงานเพิ่งจะเสร็จเวลาก็ล่วงเลยมาจนจะบ่ายสามแล้ว ผมว่าจะพาเธอไปกินข้าวด้วยกัน เพราะไม่ได้เจอหน้าเธอนานผมแค่อยากอยู่กับเธอนานๆเท่านั้นเอง เลยหาเรื่องให้เธออยู่กับผม เธอนั่งรอผมและหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ผมเลยเดินไปหาเธอที่โซฟาเพื่อจะปลุกเธอไปกินข้าวกัน ผมนั่งลงข้างเธอมองใบหน้าของเธอตอนที่เธอหลับเธอดูไม่มีพิษภัยแล้วก็ดูน่ารักมาก ผมก้มลงไปช้าๆอย่างไม่รู้ตัวเพื่อที่จะไปหอมแก้มเนียนๆนั้น แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อเธอตื่นขึ้นมาพอดี เราสองคนสบตากันโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเพราะกำลังช็อตฟิลกันอยู่ทั้งคู่