บทที่19) มารคอหอย
อีกฟากหนึ่งในเรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช
หลังจากที่ต้องทนนอนทุกข์ระทมอยู่ในนั้นร่วมสามเดือนด้วยกันในที่สุดวันนี้เจ้าเอยก็หลุดพ้นจากโทษการจำคุกแล้วเป็นที่เรียบร้อย
ร่างเล็กของหญิงวัยสี่สิบปลายๆ คนหนึ่ง ค่อยๆ ก้าวขาออกมาจากที่แห่งนั้นด้วยความรู้สึกที่ไม่คิดหันกลับไปมองสิ่งที่อยู่ด้านหลังของเธออีกเป็นครั้งที่สอง
"นี่คือข้อมูลทั้งหมดที่กระผมได้มาในตอนที่คุณหญิงยังอยู่ด้านในครับ"
'ปกฉัตร' ที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ตามสืบความเป็นไปของนายอินทร์กับน้ำอบในขณะที่เจ้าเอยต้องโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำยื่นเอกสารและรูปถ่ายจำนวนหนึ่งที่บรรจุอยู่ในซองกระดาษสีน้ำตาลให้กับผู้เป็นนาย
"กรี๊ด!" เจ้าเอยที่ยังคงแค้นฝังใจด้วยคิดว่าเดชนั้นเป็นคนของน้ำอบและน้ำอบก็คือคนที่แจ้งความดำเนินคดีจนเป็นเหตุให้ตัวเองติดคุกติดตะรางถึงกับหวีดร้องออกมาอย่างรับไม่ได้กับภาพตรงหน้าที่ดูเหมือนกับว่าลูกชายจะรักผู้หญิงที่จะคว้ามาเป็นเมียมากกว่าแม่บังเกิดเกล้าอย่างเธอ
"อีมารคอหอย! อย่าคิดฝันไปเลยว่าต่อไปนี้มึงจะแย่งความรักจากลูกชายของกูไปได้ เพราะกูไม่ยอม! กูไม่ยอม! กูไม่ยอม! กรี๊ด!" รูปถ่ายจำนวนหลายร้อยใบถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยน้ำมือของผู้ว่าจ้างอย่างเจ้าเอย สองมือที่เริ่มเหี่ยวย่นไปตามกาลเวลากำเข้าหากันอย่างเคียดแค้นเด็กหญิงที่ชื่อว่าน้ำอบ
(สวัสดีครับ ใครครับ)
(นายอินทร์นี่แม่เองนะลูก...)
(แม่! แม่เจ้าเอยนะเหรอครับ?)
(ใช่ครับลูก แม่แค่โทรมาบอกว่าแม่พ้นโทษแล้วนะลูกนายอินทร์พอที่จะมาหาแม่ได้ไหม แม่คิดถึง)
(ได้ครับแม่ ตอนนี้แม่กลับมาถึงบ้านหรือยังครับ หรือจะให้อินทร์ไปรับที่นั่นดี)
(มารับแม่หน่อยนะลูก)
(ครับๆแม่ รออินทร์นะครับ)
"ไอ้ฉัตร"
"ครับคุณหญิง"
"กูจะรอนายอินทร์อยู่ที่นี่ ส่วนมึงไปจัดการเผาบ้านอีนังเด็กคนนั้นให้วอดวาย" ดวงตาคู่นั้นดุกร้าวขึ้นอย่างหมายมาดคาดร้าย ในเมื่อมันคิดจะทำลายชีวิตของเธอเธอก็จะย่ำยีชีวิตของมันเหมือนกัน!
"อย่างมึงกูไม่นับว่าเป็นลูกสะใภ้ของกูหรอกอีเด็กน้ำอบ!"
บ้านน้ำอบ
ปกฉัตรด้อมๆมองๆอยู่ละแวกบ้านหลังเล็กของน้ำอบพร้อมด้วยถังน้ำมันที่อยู่ใกล้ๆกัน รอจนเวลาพลบค่ำและมั่นใจว่าใครจะไม่สัญจรผ่านมาเห็นร่างใหญ่ยักษ์นั้นจึงหอบหิ้วถังน้ำมันเลียบมาตามซอกถนนและสาดเทเข้าตรงบริเวณบ้านหลังเก่านั้นอย่างเร่งรีบ
พรึ่บ!
ชั่วพริบตาที่ไม้ขีดไฟก้านนั้นหล่นลงกระทบกับผนังบ้านไม้เก่าๆที่เปรอะไปด้วยน้ำมันที่คนใจโฉดมันสาดใส่เอาไว้ก่อนหน้า บ้านไม้เก่าก็มีเปลวไฟสีแดงเพลิงลุกโชนขึ้นมาก่อนจะลามเป็นวงกว้างไปจนทั่วทั้งหลังของบ้านไม้เก่าหลังนั้นอย่างรวดเร็ว
และไม่รู้ว่าเพราะความเร่งรีบหรือเวรกรรมที่มันตามสนองจึงทำให้ร่างใหญ่ของปกฉัตรที่กำลังจะวิ่งหนีสะดุดเข้ากับรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งนึงขณะที่เปลวไฟกำลังลุกท่วมเข้าพอดี จนเป็นเหตุให้ไฟจากรถคันนั้นลามมาติดยังตัวของปกฉัตรอย่างรวดเร็ว
"อ๊าก! ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยกูที! ร้อน! กูร้อนเหลือเกิน อ๊ากกกก!"
ร่างใหญ่นั้นกลิ้งไปมาอย่างทุรนทรายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ก่อนจะได้กลิ่นเนื้อไหม้ที่ค่อยๆลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ เพียงครู่เดียวที่ร่างใหญ่ของอมนุษย์จิตใจต่ำทรามนั้นก็กลายเป็นซากดำไหม้เป็นตอตะโกและแน่นิ่งใจไปในที่สุด
"ไอ้น้ำอบเร็วๆเข้า" สามพ่อลูกในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ยเพราะไฟลามเผาพารีบกันวิ่งออกมาจากบ้านของตัวเองเพื่อเอาชีวิตรอด ช่างโชคดีที่โอ่ง พ่อของเด็กสาวทั้งสองนั้นได้กลิ่นไม่ชอบมาพากลและสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างทันเวลาพอดิบพอดี ไม่อย่างนั้นแล้วป่านนี้ก็คงจะเหลือแต่ชื่อกันทั้งสามคนพ่อลูก
ไม่นานนักหลังจากที่นายโอ่งโทรแจ้งหน่วยกู้ภัยในที่สุดรถดับเพลิงก็ตรงเข้ามาจอดเทียบตรงบ้านไม้หลังเก่าที่เปลวไฟกำลังลุกลามจนเกือบจะไปถึงบ้านที่อยู่ข้างๆกันอย่างทันท่วงที
ที่สุดแล้วหลังจากที่ไฟมอดลงจนทุกอย่างเกือบกลับสู่ภาวะปกติทว่า...
"พบผู้เสียชีวิตหนึ่งราย คาดว่าจะเป็นเพศชาย"
"ไม่ต้องไปดูให้เสียเวลาหรอกจ้ะ" น้ำอบรั้งมือพี่สาวและพ่อที่กำลังจะเดินเข้าไปดูอย่างรู้ดีว่าทั้งคู่คิดอะไรอยู่
"มันนั่นแหละคือคนที่วางเพลิงเผาบ้านเราไม่ใช่พี่อินทร์อย่างที่พ่อกับไอ้นางอายเข้าใจ"
ที่เธอมั่นใจหนักหนาว่าไม่ใช่นายอินทร์นั้นก็เป็นเพราะวันนี้แม่ของเขานั้นพ้นโทษจำคุกแล้วในวันนี้ และนายอินทร์ก็บอกกับตนแล้วว่าคงจะอยู่เป็นเพื่อนแม่ไปอีกประมาณสี่ถึงห้าวัน
"แล้วเราจะไปนอนที่ไหนกันดีละลูก" นายโอ่งและลูกมองภาพบ้านที่ในตอนนี้เหลือเพียงเศษไม้ที่ดำเป็นตอตะโก หรือแม้กระทั่งรถโนวาแดชแสนรักของน้ำอบที่นายอินทร์มอบให้ก็มอดไหม้ไม่มีเหลือชิ้นดีด้วยความรู้สึกจุกแน่นข้างในหัวใจ...
ฟ้าช่างใจร้ายกับครอบครัวของเขาเหลือเกิน...
"น้ำอบรถเอ็ง...
"พวกเราไม่เป็นไรก็ดีแล้วจ้ะพ่อ" น้ำอบว่าอย่างไม่คิดเสียดายแม้จะรักรถคันนั้นมากกว่าชีวิตของตัวเองก็ตาม...
"นางอายว่าเราไปขอนอนบ้านไอ้ป้อมันดีกว่า"
นางอายที่ในตอนนี้เริ่มที่จะมีใจให้กับป้อขึ้นมาบ้างแล้วเอ่ยข้อเสนอขึ้นมาอย่างอ้อมแอ้ม
"แกก็อย่าคิดไปไกลละน้ำอบ ฉัน! ฉันแค่คิดว่าบ้านป้อมันอยู่ใกล้ที่สุดก็เท่านั้น!"
"ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย"
กว่าที่จะทำให้พี่สาวที่ใจแข็งเหมือนหินมองเห็นมองเห็นความรักของป้อที่ตามจีบหล่อนมานานหลายปีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย น้ำอบจึงไม่คิดที่จะเหย้าหยอกนางอายให้ป้อนั้นต้องพลาดโอกาสในการได้รับรักตอบจากพี่สาวของตัวเอง...
บ้านป้อ
"รบกวนด้วยนะจ๊ะพี่ป้อ"
"เข้ามาข้างในเถอะจ้ะพ่อ น้องนางอาย" ป้อเมินน้ำอบที่ยืนอยู่หลังใครก่อนจะผายมือให้กับนางอายที่ตัวเองรักจนหมดหัวใจให้เข้าไปด้านในบ้านของตนพร้อมๆกับนายโอ่ง
"พ่อนอนตรงนั้นนะจ๊ะป้อเตรียมเอาไว้ให้แล้ว น้องนางอายนอนตรงนี้นะจ๊ะ พี่ป้อรองเบาะให้สองชั้นด้วยนะเผื่อว่าน้องนางอายจะปวดหลังจ้ะ"
"แล้วน้ำอบ..." น้ำอบว่าอย่างเริ่มรู้สึกประหม่าเมื่อพบว่าไม่มีชื่อตนในประโยคก่อนหน้าของป้อ
"นั่นผ้าห่มนั่นหมอนน้ำอบจะนอนตรงไหนก็ตามสบายจ้ะ แต่...ไม่มีเบาะนะเพราะพี่เอาไปรองให้นางอายหมดแล้ว"
ป้อว่าก่อนจะเดินออกไปเสียบปลั๊กพัดลมให้กับว่าที่พ่อตาและว่าที่แฟนสาวของตัวเอง
"พี่ป้อนะพี่ป้อ! น้ำอบรึก็อุตส่าห์ช่วยจีบไอ้อายให้อยู่ตั้งนานแล้วดูผลตอบแทนที่พี่ให้น้ำอบสิ ชิ!"
ป้อ=ผู้ชายที่รักและเทิดทูลนางอายให้เป็นนางเพียงหนึ่งเดียวในดวงใจ