บทที่4) พี่อินทร์ชอบน้ำอบ
ร้านกาแฟแปะเซียะ
"สวัสดีจ้ะแปะ" น้ำอบยกมือไหว้อาแปะวัยหกสิบกลายๆ อย่างนอบน้อม
"สวัสดีอาน้ำอบ อานางอายหายอีดีเลี้ยวเน้อ" อาแปะเซียะมองเด็กสาวแสนขยันตรงหน้าอย่างเอ็นดู
"จ้ะแปะ ก็เลยต้องหยุดไปหลายวันเลยขอโทษนะจ๊ะ"
"อือๆ ลื้อพูดอะไรอย่างนั้นอาน้ำอบ อานางอายอีไม่เป็นอะไรมากก็ดีเลี้ยว"
อาแปะว่าอย่างไม่นึกถือโกรธโทษน้ำอบ ก็พนักงานที่จะเก่งทั้งเรื่องชงกาแฟ,ส่งออเดอร์และสวยปานนางฟ้าแบบน้ำอบใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆ เสียทีไหน
อะไรที่อลุ่มอล่วยกันได้ก็อลุ่มอล่วยกันบ้าง ช่วยๆ กันไป...
"งั้นแปะเข้าบ้านไปพักผ่อนเถอะจ๊ะที่เหลือน้ำอบจัดการเอง"
"อื้อๆ"
เมื่อหันไปมองยังนายอินทร์และพบว่าเขากำลังจ้องมองมายังเธอเช่นเดียวกันก็ทำเอาแก้มนวลแดงเรื่ออย่างเคอะเขิน
"พี่อินทร์จะดื่มอะไรหน่อยไหมจ๊ะ"
"น้องน้ำอบกลับมาแล้วเว้ยพวกเรา" ไม่ทันที่นายอินทร์ได้เอ่ยตอบก็มีเสียงของกลุ่มเด็กหนุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านที่คุ้นเคยกับน้ำอบเป็นอย่างดีเอ่ยแทรกขึ้นมาเสียก่อน
"จ้ะพี่ป้อ" น้ำอบกล่าวรับเสียงหวานตามสไตล์ของเธอและนั่นก็ทำให้นายอินทร์ถึงกับต้องหันไปทำตาขวางใส่ป้อและกลุ่มเพื่อนชายอีกสี่คน
"วันนี้พี่ป้อ พี่โป้ง พี่ปื้ด พี่สาม ละก็พี่เดชจะเอาอะไรดีละจ๊ะ"
"พี่รับออเดอร์ให้เองจ้ะ น้ำอบไปเตรียมพวกน้ำร้อนกับผงชาเถอะ" นายอินทร์รั้งข้อมือเล็กที่กำลังจะไปรับออเดอร์อย่างที่เคยทำก่อนจะอาสาตัวเองว่าจะช่วยเธอ
"จ้ะ อย่างนั้นน้ำอบฝากพี่อินทร์ด้วยนะจ๊ะ"
ปึง!
"มึงจะเอาอะไร" นายอินทร์ตบสองมือลงบนโต๊ะอย่างตั้งใจและจ้องเขม็งไปยังป้อด้วยท่าทีเอาเรื่อง
"พูดหยาบจังวะ" ป้อที่แม้จะเป็นเพียงเด็กแว้นที่แต่งรถซิ่งไปวันๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยใช้คำว่ามึงกับใครก็ตามที่ไม่ได้สนิทด้วยเอ่ยอย่างรู้สึกไม่พอใจร่างใหญ่ปริศนาที่ยืนขนาบหลังพนักเก้าอี้ของเขาอยู่
"คุณนายอินทร์! พะ...พวก...พวกเราไปกันเถอะข้านึกได้ว่าข้ามีธุระ!" เมื่อหันมาเห็นว่าเป็นใครที่ยืนอยู่ทั้งโต๊ะก็ตกอยู่ในสภาวะตกตะลึงสุดขีดก่อนจะรีบพากันใส่เกียร์หมาขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ซิ่งและบิดออกไปในทันที
"หึ! คิดมายุ่งกับคนของกูเร็วไปร้อยชาติไอ้ลูกหมา"
"ใครเอาลูกหมามาปล่อยหรือจ๊ะพี่อินทร์"
คำถามใสซื่อนั้นเรียกรอยยิ้มจากใบหน้าหล่อคมที่เคยถมึงทึงด้วยพิษรักแรงหึงเมื่อก่อนหน้าได้อย่างไม่ต้องสัย
"เปล่านี่จ๊ะ" เสียงทุ้มเอ่ยตอบยอดยาหยีอย่างนุ่มนวล "พอดีเด็กพวกนั้นมันจะพากันไปดูลูกหมาที่กุฏิหลวงตานะจ้ะ"
"อ๋อจ้ะ" น้ำอบขานรับอย่างนึกเสียดายที่ต้องพลาดโอกาสในการกล่าวบอกความเป็นไปของนางอายให้ป้อได้รับรู้
ใช่แล้ว... จริงๆ แล้วนั้นป้อนั้นหมายจะขายขนมจีบให้กับนางอายหากแต่ว่าเพราะความแก่นและเซี้ยวของนางอายจึงทำให้ป้อไม่กล้าที่จะสารภาพรักกับเธอตรงๆ ด้วยกลัวว่าโดนหล่อนจะต่อยเข้าให้ตรงเบ้าตานั่นเอง
"ชอบมันมากหรือไง" นายอินทร์เอ่ยเสียงแข็งอย่างปิดความหึงหวงเอาไว้แทบจะไม่มิด
"พูดอะไรอย่างนั้นจ๊ะ อย่างน้ำอบนะหรือจะชอบพี่ป้อเขา ก็ในเมื่อพี่เขากำลังตามจีบไอ้นางอายมันอยู่"
เธอเองก็ช่วยป้อมาหลายวิธีแม้กระทั่งแกล้งบอกว่าสนใจป้อเพื่อดูอาการว่าพี่สาวจะหึงหวงบ้างไหมหากแต่สุดท้ายนางอายก็ยังปากแข็งไม่เลิก จนเธอเองก็เริ่มที่จะจนปัญญาแล้วเหมือนกัน...
"พี่อินทร์ก็ไม่ชอบมัน ไอ้หน้าอ่อนคนนั้น"
"เพราะอะไรหรือจ๊ะพี่อินทร์ เห็นอย่างนั้นพี่ป้อกับเพื่อนๆ เขาเป็นคนดีมากนะจ๊ะ"
"พี่อินทร์ไม่ชอบมัน เพราะพี่อินทร์ชอบน้ำอบ"
คำพูดง่ายๆ ที่ออกมาจากปากผู้ชายที่พึ่งเจอกันได้เพียงสองครั้งทำเอาหัวอกหัวใจของน้ำอบถึงกับสั่นไหวอย่างไปต่อไม่เป็นกันเลยทีเดียวเชียว
"อย่าพูดแบบนี้อีกเลยนะจ๊ะ" อย่างไรเสียเขาก็เป็นถึงลูกชายเพียงคนเดียวของเจ้าขุนมูลนาย จะให้มาเทียวรักชอบกับเธอที่เป็นเพียงเด็กชงกาแฟในร้านเล็กๆ แถวชานเมืองมันก็คงจะดูแตกต่างกันเกินไป...
อีกอย่าง...แม่ของเขาและพี่สาวของเธอก็เคยมีปัญหากันจนพี่สาวของเธอต้องย้ายที่เรียนหนีเพียงเพราะนางอายกับนายอินทร์เป็นเพื่อนกัน
แล้วนี่เธอถึงขั้นที่เขาจะมาขอสานสัมพันธ์ฉันท์คนรัก แม่ของเขาจะไม่อกแตกตายเอาเลยหรอกหรือ...
"แต่พี่อินทร์ชอบน้ำอบจริงๆ นะจ๊ะ" คนช่างตื้อยังคงเดินตามบั้นท้ายงอนนั้นไปอย่างไม่มีท่าทีว่าจะยอมแพ้
"น้ำอบรับคำสารภาพของพี่อินทร์ไม่ได้จริงๆ จ้ะ เราต่างกันเกินไป ปล่อยให้น้ำอบได้มีชีวิตที่สงบสุขของน้ำอบต่อไปเถอะนะจ๊ะ"
"หรือน้ำอบมีใครในใจแล้วอย่างนั้นหรือจ๊ะ"
ประโยคที่เริ่มห้วนขึ้นทำให้หญิงสาวถึงกับลอบถอนใจออกมาอย่างหนักใจ น่ากลัวว่าถ้าหากเขายังคงตามตื้อไม่ยอมเลิกอยู่อย่างนี้ก็คงไม่พ้นที่เธอจะเผลอคายความลับที่นางอายพยายามปกปิดคนตรงหน้ามานานหลายปีอย่างแน่นอน...
ความลับเกี่ยวกับการกระทำที่ไม่ค่อยน่ารักของแม่บังเกิดเกล้าของเขาเอง...
"ลูกค้ามาแล้วน้ำอบขอตัวก่อนนะจ๊ะพี่อินทร์"
แป่ว จะสงสารหรือสมหน้าคุณชินสีห์ดีนะทุกคน