บทที่15) อินทร์ไปด้วย
"อ้วก!" ยามดึกสงัดในช่วงเที่ยงคืนก็คงจะเป็นช่วงเวลาที่ใครหลายคนกำลังได้นอนหลับพักผ่อนอย่างสบายภายใต้ผ้าห่มผืนอุ่น
"กินไปเยอะขนาดไหนเนี่ยพี่อินทร์" หากแต่ไม่ใช่กับน้ำอบเพราะในตอนนี้เธอต้องคอยเอากระโถนมารองให้กับแฟนหนุ่มที่โก่งคออ้วกออกมาอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดหย่อนนั่นเอง
"อ้วก! น้ำอบ... อ้วก! อย่าทิ้งพี่ไป"
"จ้ะๆน้ำอบไม่ทิ้งพี่อินทร์นะจ๊ะ" น้ำอบว่าอย่างเอาอกเอาใจเพื่อไม่ให้คนเมาอาละวาดอย่างเมื่อก่อนหน้านี้อีก
"นอนนะจ๊ะ นอนนะคนเก่งของน้ำอบ" น้ำอบรั้งหัวหยักโศกสีม่วงหนานุ่มนั้นเข้ามาแนบอก มือเล็กๆยกขึ้นลูบหลังแผ่นแกร่งนั้นอย่างแผ่วเบาเพื่อหวังให้ชายหนุ่มนั้นปิดตาหลับลงไปได้เสียที
"หลับได้สักที"
รุ่งเช้า
เช้าวันต่อมาก็มีเหตุให้น้ำอบลุกขึ้นมาทั้งที่พึ่งจะนอนไปได้ไม่นาน ด้วยว่านึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังไม่ได้ทำความสะอาดคราบอ้วกที่ยังคงกระจัดกระจายอยู่ตามพื้นนั่นเอง
"พี่อินทร์นะพี่อินทร์" ปากเล็กๆขมุบขมิบอย่างนึกติติงใครบางคนที่ยังคงซุกตัวนอนอยู่ในผ้าห่มผืนใหญ่หนานุ่มของเธอ ดูจากการม้วนตัวเข้าหาผ้าห่มเมื่อคืนแล้วเขาคงจะเป็นคนขี้หนาวเหมือนกันกับเธอ...
"ไอ้นางอายช่วยมาดูเพื่อนแกหน่อยฉันจะไปทำงาน"
"แฟนใครคนนั้นก็ดูไปสิไอ้น้ำอบใช่กงการอะไรของฉันที่ไหน! อีกอย่างแกอยู่นี่แหละไม่ต้องไปไหนเกิดมันตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอแกจะได้อาละวาดเหมือนคนบ้าอย่างเมื่อคืนอีก"
นางอายว่าอย่างเริ่มรู้สึกเอือมระอาในความเอาแต่ใจของนายอินทร์และเริ่มที่จะรู้สึกหมั่นไส้น้องสาวที่เอาแต่คอยตามใจมันอยู่ได้
"แต่แปะเซียะ...
"ฉันจะไปทำแทนเอง! เชิญแกอยู่ปรนนิบัติไอ้คุณหนูเอาแต่ใจนี่ไปเถอะ อีกอย่างนะแกช่วยเลิกทำเป็นใสๆเถอะถ้าในใจแกยังอยากที่จะอยู่ดูแลมันต่อไม่ได้คิดที่จะไปทำงานอย่างที่ปากแกพูด"
ไม่รอให้น้ำอบได้พูดอะไรนางอายก็ตรงไปควบมอเตอร์ไซค์ของตัวเองและขับออกไปในทันที
"ไอ้นางอายคนบ้า!"
ช่วงสายของวันเดียวกัน
"นั่นพ่อกำลังจะไปไหนจ๊ะ" น้ำอบที่กำลังง่วนอยู่กับงานในครัวชะเง้อหน้ามาถามนายโอ่งที่อยู่ในชุดเสื้อและกางเกงขายาวพร้อมถังใบกะทัดรัดที่อยู่ในมือสองข้าง
"ไปหาหอยขม พ่อว่าเย็นนี้จะให้ไอ้นางอายมันทำแกงกะทิหอยให้สักหน่อยพ่ออยากกินหลายวันแล้ว"
"น้ำอบไปด้วยนะจ๊ะ"
"น้ำอบจะไปไหนจ๊ะ!" นายอินทร์ที่อยู่ในสภาพไม่จืดตาพรวดพราดออกมาจากห้องทั้งที่สองตายังไม่ทันได้เปิดดี
"ข้าจะบ้าตาย!" นายโอ่งเองก็ถึงกับต้องยกมือขึ้นนวดขมับ
"ไอ้น้ำอบมันไม่ได้จะไปไหนทั้งนั้นแหละเชิญคุณไปพักผ่อนเถอะ"
"อินทร์ไม่ง่วงแล้ว" นายอินทร์ว่าก่อนจะฝืนเปิดเปลือกตาล้าๆขึ้นมาสบตากับนายโอ่ง
"อินทร์จะไปด้วย"
"มันจะไหวไหมนะน้ำอบ" นายโอ่งเอ่ยถามลูกสาวขณะที่พวกเขาสองคนกำลังก้มเงยอยู่ตรงคลองน้ำจืดเพื่องมหาหอยขม ส่วนนายอินทร์ที่ดึงดันจะตามมาด้วยยังคงนั่งสัปงกอยู่ข้างรถมอเตอร์ไซค์ของลูกสาว
"ไหว อุ๊ย! มั้งจ๊ะพ่อ" น้ำอบสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าหัวหยักโศกนั้นโขกเข้ากับกรอบรถจนเต็มแรง
"เอ็งบอกว่าตาคนนี้มันจับแม่ตัวเองเข้าตะรางเพราะแม่มันทำร้ายไอ้เดชจริงรึเปล่าน้ำอบ"
"จริงจ๊ะพ่อ" น้ำอบเอยตอบอย่างไม่คิดปกปิด
"เห็นน้องสาวเขาบอกน้ำอบมาว่าแบบนั้นนะ"
"ก็ถือว่ายังคบได้อยู่" หากเป็นคนอื่นก็คงไม่มีใครกล้าพอที่จะจับแม่ตัวเองขังตะรางหรอก...นายโอ่งเชื่ออย่างนั้น
"พ่อไม่โกรธน้ำอบแล้วเหรอจ๊ะ"
"ไอ้สิ่งที่พ่อกับพี่นางอายกำลังเป็นไม่ใช่ว่าเราสองคนโกรธ แต่เพราะพ่อกับพี่นางอายกลัวว่าประวัติศาสตร์มันจะซ้ำรอยต่างหาก เหมือนตอนที่แม่เอ็งทำกับพ่อ เอ็ง แล้วก็พี่นางอาย"
"พ่ออย่าพูดถึงเขาจะได้ไหม" น้ำอบยกมือขึ้นไหว้พ่อบังเกิดเกล้าอย่างขอร้อง
"น้ำอบกับไอ้นางอายไม่มีแม่ แม่ของพวกเราตายไปนานแล้ว"
"เอ็งดูนี่น้ำอบ! หอยตัวนี้มันอ้วนดีเนอะพ่อจองตัวนี้นะ" นายโอ่งที่เห็นลูกสาวกำลังจะร้องไห้จึงบ่ายเบี่ยงไปยังหอยตัวนึงที่ตนงมขึ้นมาได้ ก่อนจะเห็นว่าน้ำอบนั้นได้เผยรอยยิ้มออกมาแล้ว
"ได้เยอะเลยจ้ะพ่อ" สองพ่อลูกช่วยกันหอบหิ้วถังที่มีหอยอยู่ด้านในกลับมายังรถ หากดูจากไหล่ที่เอียงไปข้างนึงแล้วนั้นหอยที่ได้มันคงจะมีน้ำหนักมากพอสมควรเลยทีเดียว
"นั่นอะไรจ๊ะพ่อ?" นายโอ่งกับน้ำอบถึงกับหันมามองหน้าหันอย่างไม่ได้นัดหมายเมื่อจู่ๆนายอินทร์ก็เอ่ยปากเรียกนายโอ่งว่าพ่อ
"หอยขม" นายโอ่งครางรับหน้านิ่งแม้ว่าในใจจะเต้นโครมครามด้วยความดีใจที่นายอินทร์เรียกตัวเองว่าพ่อก็ตามทีเถอะนะ...
"อินทร์ช่วยถือจ้ะพ่อ" นายอินทร์อาสารับถังในมือของสองพ่อลูกไปถือไว้เองก่อนจะหันไปพยักหน้าเชิงส่งสัญญาณให้น้ำอบสตาร์ทรถ
"นั่งดีๆนะจ๊ะพี่อินทร์"
"จ้ะแฟนจ๋า"
"ทำไมถึงต้องแช่น้ำก่อนละจ๊ะน้ำอบ" นายอินทร์มองหอยตัวอวบอ้วนที่อยู่ในกะละมังสีซีดด้วยความสงสัย
"ต้องให้มันคายโคลนตมออกมาก่อนจ้ะพี่อินทร์ไม่อย่างนั้นก็กินไม่ได้" น้ำอบว่าเสียงหวานและหันไปตำเครื่องแกงที่คาอยู่ในครกต่อ
"พี่อินทร์ช่วยจ้ะ เห็นอย่างนี้พี่อินทร์ก็ตำเครื่องแกงเป็นอยู่นะจ๊ะน้ำอบ" นายอินทร์อาสาตัวเองและจับไหล่มนเบาๆเพื่อให้น้ำอบหลีกทางให้ตน
"ขอบคุณนะจ๊ะพี่อินทร์ แฟนใครนะน่ารักจังเลย" น้ำอบยื่นมือขึ้นหยิกแก้มแฟนหนุ่มอย่างมันเขี้ยวก่อนจะหอมแก้มสากหล่อนั้นไปหนึ่งฟอด
ฟอด
"ผู้ชายที่น่ารักคนนี้เป็นแฟนของน้ำอบนะครับ"
นายอินทร์รั้งเอวคอดเข้าหาก่อนจะพรมจูบลงบนหน้าผากมนเบาๆและส่งสายตาหวานเชื่อมไปยังแฟนสาว
"น้ำอบรักพี่อินทร์มากๆเลยนะจ๊ะ"
"พี่อินทร์เองก็รักน้ำอบตัวเท่าโลกเลยจ้ะ ยาหยีของพี่อินทร์"
มันก็คงจะดีกว่านี้ถ้าแม่ผัวตัวดีถูกขังอยู่ในคุกไปตลอดชีวิต ฮ่าๆ