Chapter 1.1

2763 Words
1 เกมล่าแจ็คพ็อต ดวงตาคู่โตของหญิงสาวหมองลงไป เมื่อรอนานจนเริ่มสับสนหมดหวัง ในแววตานั้นกำลังหาทางออกให้กับตนเองว่าหากปกรณ์ไม่มาตามนัดแล้วตนจะทำอย่างไรต่อไป การถ่ายทำยังไม่เริ่ม เธอจึงเดินกลับออกมานั่งที่ม้านั่งข้างนอกโรงถ่าย แสงแดดยามบ่ายเจิดจ้า ลมร้อนพัดผ่าน ความร้อนอ้าวของด้านนอกทำให้หญิงสาวเริ่มมีเหงื่อซึม “โธ่... เชอร์รี่ ฟังพี่ก่อนนะครับ เราก็เล่นเกมไม่กี่ชั่วโมงเอง” ปภาณพิชญ์หันไปมองตามเสียงสนทนาที่เธอได้ยินแว่วๆ ภาพชายหนุ่มหน้าตาดีเจ้าของร่างสูงสมาร์ทในเสื้อยืดแบรนด์ดังพอกันกับกางเกงยีนส์ในสไตล์หนุ่มมาดเซอร์แต่ดูดีแบบเว่อร์วังในสายตาของครีเอทีฟสาว ดูเหมือนว่าเขากำลังงอนง้อคนรักที่มีอาการงอแง เพราะความคิดบางอย่างไม่ตรงกันฃ ‘อย่างน้อย... แฟนเขาก็มา ไม่เหมือนเรา... พี่หมอไปอยู่เสียที่ไหนแล้วก็ไม่รู้...’ ปภาณพิชญ์คิดอย่างน้อยอกน้อยใจ นัยน์ตาว่างเปล่าทอดมองออกไปอย่างไร้จุดหมาย นาทีนั้นเสียงหญิงสาวคนหนึ่งก็โวยวายเกือบถึงขั้นเหวี่ยงก็ผ่านเข้ามาในโสตประสาทของเธอเข้า จนอดไม่ได้ที่จะปรายตาไปมอง ด้วยความอยากรู้อยากเห็น “พี่แทนจะให้เชอร์รี่ทนฟังคนที่โกหกเชอร์รี่มาตลอดอย่างนี้เหรอคะ เชอร์รี่ไม่ฟัง และเราเลิกกันนับจากนี้!” คนเป็นแฟนกำลังเหวี่ยง ท่าทางเกรี้ยวกราด “โอเค เชอร์รี่ เราจะเลิกกันก็ได้นะ แต่เชอร์รี่ทิ้งพี่ไปตอนนี้ไม่ได้” หนุ่มมาดเซอร์ยื่นคำขาด สีหน้าเขาเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์ สีหน้าแบบนั้นถ้าไม่เพราะว่าเขาเป็นคนใจเย็นละก็ เขาต้องเป็นคนเย็นชาแน่ๆ คนแอบฟังคิด “ทำไมไม่ได้ล่ะ?” หญิงสาวหน้างอตอบออกไปอย่างขัดใจ ปภาณพิชญ์เดาว่าหญิงสาวคงเป็นคุณหนูเอาแต่ใจที่กำลังไม่พอใจแฟนหนุ่มข้างๆไม่เบาเลย “ก็เกมกำลังจะเริ่ม พี่จะแข่งในรายการกับใครล่ะ? ไม่มีใครหาคนมาแทนเชอร์ได้ทันหรอกนะครับ เกมใกล้เริ่มแล้ว” เขาสรุป “งั้นเหรอ?” หญิงสาวมาดคุณหนูจ้องตาชายคนรักอย่างเอาเรื่อง “รั้งเชอร์รี่ไว้ ไม่ใช่เพราะแทนแคร์เชอร์รี่หรอกเหรอคะ แต่รั้งไว้เพราะแทนกลัวจะไม่ได้เล่นเกมโชว์บ้าบอนั่น!” เธอตัดพ้ออย่างน้อยใจ สีหน้าก็ปริ่มจะมีน้ำตา “พูดเบาๆ หน่อยสิเชอร์รี่!” เขาเอ็ดแฟนสาวก่อนหยุดหันมองรอบๆ เพราะไม่อยากให้ทีมงานได้ยินเสียงแฟนสาวที่กำลังพูดถึงรายการในทางที่ไม่ดี ‘เกมโชว์บ้าบอที่ไหนให้เงินรางวัลตั้งห้าแสนล่ะเชอร์รี่!’ เขาคิด “ไม่ใช่อย่างนั้นนะ เข้าใจผิดไปใหญ่แล้วนะเชอร์รี่” ชายหนุ่มพูดตอนนี้หน้าที่นิ่งเริ่มมีคิ้วขมวดเข้าชนกันแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามสถานการณ์ “เชอร์รี่จะกลับ!” หญิงสาวมาดคุณหนูบอกอย่างคนเอาแต่ใจโดยไม่ใยดีสักนิดว่าแฟนหนุ่มจะเสียหน้าและพังพินาศมากแค่ไหนถ้าเธอทิ้งเขาไปกลางคันแบบนี้ แต่เธอก็ทำจริงๆ “เชอร์รี่!” เขาเรียกชื่อคนรักสาวแต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ฟังเขาอีกต่อไปแล้ว “ไม่ต้องตามมานะ เราขาดกัน” สิ้นคำแค่นั้นร่างบอบบางก็สะบัดหน้ากลับหลังหัน กึ่งเดินกึ่งวิ่งจากเขาไปแบบไม่ใยดีเลยสักนิดว่าชายหนุ่มจะตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากอย่างไรนับจากนี้ “ปัดโธ่เว้ย!” ธันยาพัฒน์ชกต้นไม้อย่างหัวเสีย สายตาคมมองเข้าไปในโรงถ่าย มันอาจจะมืดสักหน่อยแต่ก็พอรู้ได้ว่าข้างในกำลังเตรียมการถ่ายทำ ทีมงานต่างกุลีกุจอเตรียมฉากและเริ่มเช็ครายชื่อผู้เข้าร่วมแข่งขันกันแล้ว เขาลงชื่อแฟนสาวในการสมัครมาตั้งแต่แรก แต่ตอนนี้ชายหนุ่มยังลังเลว่าจะเดินเข้าไปดีไหม เพราะสภาพตอนนี้เขาไม่มีคู่แล้วน่ะสิ ทันใดนั้นเอง สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวท่าทางเรียบร้อยติดจะทึนทึกด้วยซ้ำ หล่อนนั่งเงียบๆ หากทว่ามีแววร้อนรน ขณะเดียวกันมือเรียวสวยหยิบโทรศัพท์แนบใบหูเล็กนั่นเอาไว้ หญิงสาวกรอกตามองบนอย่างเหนื่อยใจ เธอมองมาสบประสานเข้าพอดีกับดวงตาของเขานับได้ครั้งสองครั้ง ชายหนุ่มหวังว่าเธอคงจะไม่ได้ยินสิ่งที่เขาเพิ่งจะทะเลาะกับแฟนสาวไปหรอกนะ ธันยาพัฒน์ละสายตาจากหญิงสาว ‘จะสนใจทำไมเรื่องคนอื่นวะเนี่ยไอ้แทน? คิดหาทางรอดให้ตัวเองดีกว่าว่าจะเอายังไงดี ตอนนี้เชอร์รี่โกรธหนีไปแล้ว’ เขาคิด ก็จะไม่ให้แฟนสาวโกรธเขาได้อย่างไรในเมื่อเชอร์รี่เธอเป็นหญิงสาวขี้อายแม้จะมีหน้าตาสะสวยจิ้มลิ้มพริ้มเพราระดับเน็ตไอดอล หรือเป็นดาราได้สบายๆ เลย แต่เธอก็ไม่ชอบแสดงออกเอาเสียเลย อีกอย่างเธอโกรธที่เขาไม่ยอมบอกเธอตรงๆ ว่าจะมาเล่นเกมโชว์เพื่อชิงเงินรางวัล เกมแต่ละอย่างโหดเข้าขั้น รายการที่ว่า‘แจ็คพ็อตรัก เลิฟเวอร์คูเปอร์เกม’ ไม่ใช่ไม่เคยดูทางทีวีดิจิตอลชั้นนำ แต่ถ้าให้เลือกระหว่างเป็นคนดู กับผู้ร่วมเล่นเกมเหล่านั้นแล้วเชอร์รี่เลือกที่จะเป็นคนดูอยู่ทางบ้านดีกว่า อีกอย่างเธอเพิ่งจะรู้ความจริงในวันนี้เองว่าธันยาพัฒน์หรือแทนร้อนเงินถึงขั้นต้องมาเล่นเกมโชว์ล่าเงินรางวัล ‘ก็ไหนยัยปิงเพื่อนสนิทของเจ้าหล่อนโฆษณาสรรพคุณ ‘นายนั่น’ นักหนาว่าเป็นถึงทายาทโรงแรมดังที่ภูเก็ต แถมคุณแม่ยังยุให้ ‘จับ’ เขาให้อยู่หมัด เพราะนามสกุลดัง แม้โม้นักหนาว่าเขาเป็นทายาทเศรษฐี แต่ไหงเป็นอย่างนี้ไปได้ล่ะ รวยจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ หรือไม่ได้รวยแต่กำลังจะล้มละลาย แล้วคราวนี้เป็นไงล่ะ?’ พอเธอรู้ความจริงก็นอกจากจะไม่ได้เล่นเกมแน่ๆแล้ว แฟนยังทิ้งหน้างานแบบนี้ มันซวยยิ่งกว่าซวยซะอีก “น้องแทนใช่ไหมคะ? พร้อมยังคะ แล้วแฟนน้องล่ะ?” ทีมงานเดินเข้ามาถามธันยาพัฒน์ “เอ่อ ขอเวลาสักพักครับ?” ชายหนุ่มตอบขณะแค่นยิ้มเจตนากลบเกลื่อนปัญหาที่ตนเองกำลังเผชิญ “แฟนยังไม่มาเหรอ?” ทีมงานสาวอายุไม่น่าจะเกินสามสิบปีท่าทางทะมัดทะแมงเอ่ยถามขึ้น เพราะดูสีหน้าชายหนุ่มผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะไม่สู้ดีนัก “ครับ... เอ่อเข้าห้องน้ำครับ แฟนผมตื่นเต้น... เธอขี้อายครับผม” อ้อมแอ้มตอบไปแต่รู้อยู่แก่ใจว่าตนนั้นกำลัง ‘มุสา’ คำโต แล้วถ้าทีมงานสาวเดินตามไปดูแฟนที่กำลังอ้างถึงในห้องน้ำแล้วไม่เจอใครล่ะจะว่ายังไง แฟนสาวของเขาป่านนี้ไปถึงไหนต่อไหนแล้วกระมัง “อ๋อ... ทางรายการเราก็กำลังรอดาราที่มาร่วมเกมด้วยน่ะจ้ะเห็นตะกี้โทร.มาบอกว่ากำลังเดินทาง น้องก็บอกแฟนน้องได้เลยว่าไม่ต้องรีบนะคะดาราเค้ารถติดอยู่ ยังไงก็ปลดปล่อยได้ตามสบายเลยจ้ะ” สาวทีมงานรายการบอก เธอคงเข้าใจว่าแฟนสาวของชายหนุ่มผู้เข้าร่วมแข่งขันคงจะตื่นเต้นจนท้องเสียหรือไม่ก็ฉี่ราดกลางกองถ่ายหรืออะไรประมาณนั้น “ครับๆ ขอบคุณครับ” ธันยาพัฒน์ตอบรับอย่างนอบน้อม ทีมงานรายการเกมโชว์ชื่อดัง มองซ้ายทีขวาที ราวประเมินผู้เข้าร่วมเกมมากันครบหรือยัง และกะเกณฑ์จำนวนเอ็กตร้า และคนร่วมชมรายการในห้องส่งด้วยสายตา ว่ากี่คนเพื่อจะได้จัดข้าวกองและเครื่องดื่มให้ ขณะเดียวกันก็ก้มลงเช็ครายชื่อผู้ร่วมสนุกจากทางบ้านจากแฟ้ม “เอ... ยังเหลืออีกคู่นี่นา...” ทีมงานคนหนึ่งพูดพึมพำเขาว่านับไม่ผิดแล้วนะ หายไปไหนหนึ่งคู่ “พี่กรณ์ถึงไหนแล้วค่ะ?” ปภาณพิชญ์ถาม หญิงสาวมีสีหน้าเป็นกังวลมากยิ่งขึ้นเมื่อเวลาเหลือน้อยเต็มทีราวว่ามีการนับถอยหลัง คนเดินวุ่นวายขวักไขว่ตอนนี้ไม่มีใครสนใจใคร “น้องโยเกิร์ต... พี่คงไปไม่ได้แล้วนะครับ” เสียงของนายแพทย์หนุ่มส่งมาตามสายโทรศัพท์ ส่งผลให้ดวงหน้าหวานสลดลงอย่างเห็นได้ชัด “อ้าว! ทำไมล่ะคะ?” ปภาณพิชญ์เอ่ยขึ้นถามขณะแววตาเศร้าลงอย่างชัดเจน ความจริงคำตอบนี้เธอนึกเอาไว้ก่อนแล้ว แต่ไม่คิดว่าคนรักเก่าจะมาบอกกัน ‘หน้างาน’ แบบนี้ แล้วอย่างนี้เธอจะหาใครมาแทนพี่หมอได้ล่ะ เครียดจนปวดหัวตุ้บๆ ไปหมดแล้ว ร้อนผ่าวที่ดวงตาราวว่าน้ำตาจะไหลอย่างนั้นล่ะ ปกติปภาณพิชญ์ไม่ใช่คนอ่อนไหวร้องไห้ง่ายแบบนี้หรอกนะ แต่ในวันนี้เธอมาพร้อมกับความหวัง... ไม่ใช่รางวัลครึ่งล้านนั่นหรอก แต่เธอมีความหวังจะได้คืนดีหรือง้องอนคนรักหนุ่มที่คบหากันมานานต่างหาก แต่ตอนนี้ฝันของเธอสลาย เหลือไว้เพียงคราบน้ำตาที่ร่วงเผาะ ลงมาอาบแก้ม โดยที่เธอก็ไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่า กำลังร้องไห้อยู่คนเดียวเงียบๆ ขณะถือสมาร์ตโฟนแนบใบหูของตนเอง “เอ่อ... พี่คงไม่สะดวกแล้ว” นายแพทย์หนุ่มกระอักกระอ่วนที่จะตอบ ความจริงมันเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจคนรักเก่าได้อย่างไม่ยากเย็น “พี่กรณ์ทำไมเพิ่งบอกละคะ?” ปภาณพิชญ์บอกอย่างรู้สึกผิดหวัง หัวใจเต้นแรงเพราะความโกรธที่กำลังคุกรุ่นแต่ต่อให้โกรธสักแค่ไหนเธอก็คงทำอะไรมากกว่าการยอมรับสภาพไม่ได้ และดูเหมือนว่าเธอกำลังเผชิญกับปัญหาในเวลาไม่ช้านับจากนาทีนี้ “พี่ขอโทษเราก็แล้วกัน คือเอ่อ....” แล้วก็มีเสียงหญิงสาวที่เสียงแหลมเปี๊ยบส่งมาตามสาย “เธอเป็นใครเที่ยวชวนแฟนชาวบ้านไปหาน่ะ?” แรกที่ได้ยินปภาณพิชญ์รู้สึกคุ้นหูกับน้ำเสียงและจังหวะจะโคนการพูดจาแบบนี้ แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าเสียงใครเพราะกำลังอยู่ในความเสียใจ ‘แฟนชาวบ้านงั้นหรือ... จำได้ว่าพี่ปกรณ์เป็นแฟนฉันนะถึงจะงอนกันบ่อยๆ รักๆ เลิกๆ กันก็หลายครั้งก็เถอะ แต่ถึงยังไง พี่หมอปกรณ์ ก็ยังเป็นแฟนฉันอยู่’ ปภาณพิชญ์คิดในใจและเธอแปลกใจไม่น้อยที่จู่ๆ มีผู้หญิงคนอื่นพูดแบบนี้กับตนจากมือถือส่วนตัวของผู้ชายที่เธอเรียกเขาว่า ‘แฟน’ “ขอโทษนะคะ ขอพูดกับพี่ปกรณ์ค่ะ” ปภาณพิชญ์เอ่ยอย่างกลั้นโกรธ หากยังคงรักษาความสุภาพเอาไว้ เธอยินดีไว้หน้าทุกคนนั่นล่ะ เป็นธรรมดามีแฟนหล่อก็ต้องใจกว้าง “เธอจะคุยอะไรกับแฟนฉันเหรอ? แล้วก็ไม่ต้องรออีกต่อไปแล้วนะ แฟนของฉันคงไปพบเธอตามนัดอีกต่อไปแล้วเข้าใจตรงกันนะ” ปลายสายเว้นจังหวะสูดลมหายใจ ก่อนกระแทกคำพูดแบบเน้นๆ กลับมาอีกครั้ง “เลิก-ยุ่ง-กับ-แฟน-ฉัน-สักที!!” เธอวางสายใส่เธออย่างห้วนๆ แต่ทำไมมันถึงเจ็บขนาดนี้นะ ‘เจ็บปวดจังเลย... ปริ่มๆเหมือนใจจะขาด’ หญิงสาวเจ็บจนมิอาจกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้อีกต่อไปมือเรียวเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาความรู้สึกโดดเดี่ยวแห้งเหี่ยวแล้วเหมือนโลกทั้งใบกำลังหันหลังให้เธอ “น้องๆ เป็นอะไรจ๊ะ?” ทีมงานสาวห้าวถามขึ้นมา เธอตามหาคู่รักที่เข้าแข่งขันอีกคู่ที่เหลือก็ไม่เจอใครเลย นอกจากน้องคนนี้ ตอนนี้ดาราที่รอกำลังจะมาถึงโรงถ่ายแล้ว ฉากก็พร้อมทุกอย่างมีทีมงาน มีคนที่มาคอยให้เสียงตบมือก็ประจำที่กันหมดแล้ว “ปละ... เปล่าค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ” ว่าพร้อมก้มหน้าปาดน้ำตาเงียบๆ “แล้วน้องร้องไห้ทำไม?” ทีมงานอีกคนที่มาพร้อมกันถามขึ้นบ้าง “ไม่ได้ร้องค่ะ” อ้อมแอ้มแก้ตัวไปทั้งที่หลักฐานที่เรียกว่า ‘น้ำตา’ มันเห็นอยู่ทนโท่ “น้องใช่คนที่จะเล่นเกมใช่ไหม เหลืออีกคู่ พี่ตามหาแทบแย่ แล้วนี่แฟนไปไหน?” ทีมงานถามขึ้น เพราะในเวลาที่ใกล้แข่งขันแบบนี้ แต่ละคนเขาอยู่กันเป็นคู่ๆ รอทีมงานฝ่ายประสานงานกองถ่ายเรียกตัว เข้าประจำที่แล้ว แต่ที่เห็นมีอยู่สองคนที่ยืนรอแฟน คนหนึ่งก็ชายหนุ่มมาดเซอร์กับน้องสาวคนนี้ หรือสองคนนี้จะเป็นแฟนกัน แต่ทะเลาะแง่งอนกันหน้างานแบบนี้นะ ขอให้รีบเคลียร์ทำความเข้าใจกันซะจะแข่งแล้ว ทีมงานสาวได้แต่คิดไปเรื่อยเพราะตั้งแต่ทำรายการมาเธอเห็นบ่อยที่คนรักมาแข่ง แล้วงอนกันทะเลาะกันกลางกองถ่ายแบบนี้น่ะ เธอชินเสียแล้ว “อยู่นี่ครับ!” ชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงเอ่ยมาแต่ไกล สิ่งนั้นทำเอาปภาณพิชญ์ที่เพิ่งจะเช็ดน้ำตาจนแห้งตกใจเช็ดน้ำตารวดเร็วอีกครั้งเพื่อจะได้เห็นชัดๆว่าเสียงใคร ชีวิตนี้มีแฟนคนเดียวนะ แล้วก็เพิ่งถูกแย่งไปถ้าจะต้องมีแฟนใหม่ทำไมฟ้าส่งมาไวนักล่ะ ยังไม่ได้อธิษฐานเลยด้วยซ้ำ ปภาณพิชญ์คิดขณะสายตาก็เริ่มมองเห็นหน้าหล่อๆ ของหนุ่มมาดเซอร์เจ้าของประโยคบาดใจนั้นชัดเจนขึ้น พระเจ้าช่วย... กล้วยทอดของปภาณพิชญ์! “หนีมานั่งตรงนี้เอง ไปล้างหน้าก่อนไป เกมใกล้จะเริ่มแล้ว” เขาบอกด้วยท่าทีสนิทสนม พร้อมเผยรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้าที่เคยได้รับฉายาว่า ‘บุรุษหน้าเดียว’ หรือ ‘ช่างภาพหน้าเดียว’ อันเป็นฉายาจากบรรดานางแบบและสไตลิสต์หลายๆ คนในวงการนิตยสารแฟชั่น หากรอยยิ้มของเขานั้นสดใสอย่างยากอธิบาย ปกติธันยาพัฒน์เป็นผู้ชายยิ้มยากอยู่เป็นทุนแล้ว จนเป็นสาเหตุให้เขาได้รับฉายาว่า ‘ผู้ชายหน้าเดียว’ มาตั้งแต่เด็ก พอโตเป็นหนุ่มหล่อเลี้ยงตัวเองโดยไม่พึ่งเงินทางบ้านด้วยอาชีพช่างภาพอิสระ เขาก็ได้รับฉายาจากบรรดานางแบบนายแบบและสไตล์ลิ้สต์ทั้งหลายว่าเขาน่ะ เป็น ‘ช่างภาพหน้าเดียว’ จะดีใจเสียใจมีความสุขหรือทุกข์ ใบหน้าเขาก็เรียบนิ่ง หน้าเดียว นานทีจึงจะเผยรอยยิ้มสักครั้ง แต่ก็เป็นเพียงรอยยิ้มบางๆ เหมือนคนขี้เกียจจะยิ้ม คนที่มีโอกาสได้เห็นรอยยิ้มของเขานับว่าเป็นคนโชคดีคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ “อ้าว! เมื่อกี้น้องบอกแฟนเข้าห้องน้ำ?” ทีมงานท้วงขึ้น มองมาด้วยดวงตาเจือแววสงสัย “ครับ แฟนผมขี้อาย เรางอนกันนิดหน่อยครับเลยแอบมานั่งร้องไห้ตรงนี้ มาถึงแล้วไม่อยากเล่นเกมจะหนีกลับบ้านท่าเดียว” เขาบอกเหตุผล มันคือมุสาคำโตเลยนะนั่น! “อ๋อๆ เออรีบๆ ทำความเข้าใจกันซะ แล้วรีบตามพี่เข้าไปข้างในล่ะ” ทีมงานสาวว่า คิดไว้แล้ว... ‘หนุ่มสาวฮอร์โมนพลุ่งพล่านก็งี้ เอะอะทะเลาะเอะอะงอนง้อ... แหมเห็นใจคนโสดบ้างสิวะพวกแกเอ๊ย...’ ทีมงานคิดในใจก่อนเดินส่ายศีรษะเข้าไปในฮอลล์จัดการถ่ายทำ “นี่คุณ?” ปภาณพิชญ์กำลังคิดว่าชายหนุ่มตรงหน้าช่างเสียมารยาท เธอยอมรับว่าเขาหน้าตาดีรูปร่างพอๆนายแบบเลยล่ะแต่ไม่น่าเลยเสียมารยาทขนาดนี้ เธอนึกตำหนิเขาในใจ “ครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังนะครับ แต่ที่คุณทะเลาะกับแฟนในโทรศัพท์ดังขนาดนั้น... ดีแค่ไหนแล้วที่ทีมงานไม่ได้ยินเข้า” “คุณมายุ่งทำไมเล่า!” เธอบอกอย่างเซ็งๆ พร้อมก้มหน้าหลบสายตาเขาที่กำลังจับจ้องสังเกตเธอ “ตอนนี้เราตกอยู่ในเรือลำเดียวกันน่ะ จะไม่ได้ยังไง?” “คุณหมายความว่าไง?” ปภาณพิชญ์เงยหน้าถามอย่างนึกสงสัยขณะสายตาสบประสาน นาทีนั้นเองหญิงสาวจึงได้พบว่าดวงตาของผู้ชายหน้าเดียวมีสีเทาอมฟ้า... มันน่าหลงใหลพอๆกับพระเอกภาพยนตร์ฮอลลิวูดชื่อดังหลายๆ คนเลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD