สายรหัสรัก 4

1919 Words
Code Line 4 วันที่ไม่มีเรียนเป็นวันที่สบายที่สุด จะสบายยิ่งขึ้นเมื่อไม่มีกิจกรรมรับน้องอย่างเช่นวันนี้ ฉันนอนกลิ้งไปมาบนเตียงนอนอย่างสบายใจเที่ยงก็ลุกไปอาบน้ำแล้วกลับมานอนต่อบนเตียง เล่นโทรศัพท์เพลินๆเพื่อนคุยกันในไลน์จนข้อความพุ่งไปเกือบห้าร้อยแต่ฉันก็แค่เข้าไปอ่านและตอบบ้างเท่านั้น ช่วงบ่ายฉันเผลอหลับไปจนถึงค่ำก็เกือบสี่โมงเย็นนั่นแหละ ฉันสะดุ้งตื่นเพราะเสียงไลน์ทั้งเสียงข้อความเสียงโทร WINTER :: อยู่ไหน WINTER :: พี่เรียนเสร็จแล้วนะ WINTER :: กำลังจะเข้าไปรับ King :: พี่วินนนนนน WINTER ::ครับ? King :: หนูเพิ่งตื่น WINTER :: 555555555 WINTER :: น่ารักจัง WINTER :: เดี๋ยวพี่รอที่ห้องนะเสร็จแล้วมาเคาะห้องนะครับ สิ้นบทสนทนาฉันก็วิ่งลงจากเตียงเข้าห้องน้ำทันทีไม่คิดว่าพี่วินจะพูดจริงที่ชวนไปทานข้าวเลยไม่ได้เตรียมตัวอะไรไว้เลยฉันสวมเพียงเสื้อยืดธรรมดาบวกกับกางเกงยีนขายาวมือหยิบแค่กระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์มาเท่านั้น ผมก็ปล่อยฟูเป็นคนบ้าไปแล้วกัน ฉันกดกริ่งหน้าห้องพี่วินรอไม่ถึงนาทีประตูห้องก็ถูกเปิดแง้มๆพี่วินโผล่หน้ามาดูแต่ฉันไม่ได้สนใจหน้าหล่อๆของพี่วินเลย ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือใจสั่นเพราะพี่ชายฉันเองก็หล่อมากรวมถึงเพื่อนๆในวงพี่ด้วยฉันเจอพวกเขาบ่อยจนลืมเขินคนหล่อไปแล้ว “โอ๊ะ” สิ่งที่ฉันสนใจคือหมาตัวกลมนี่ต่างหาก มันพยายามจะออกมานอกห้องแต่พี่วินก็ยกเท้ากันมันไว้ไม่ให้ออกมา “ชาบู! อย่าซน” พี่วินดุเจ้าตัวเล็ก ไม่มีอะไรน่าขำเท่ากับเจ้าตัวเล็กงอนแล้วทิ้งตัวนั่งงอนอยู่ช่องประตูแคบๆนี่หรอก “หมาพี่เหรอคะ” “ครับ ที่บ้านพ่อกับแม่เลี้ยงเป็นฝูงเลยล่ะตัวนี้ติดพี่ตอนย้ายมาอยู่คอนโดไม่ยอมกินข้าวกินปลาจนพี่ต้องพามาอยู่ด้วยนี่แหละ ชาบูเข้ามาจะออกไปกินข้าวกับพี่ขิงแล้ว” เอ่อ ฉันกลายเป็นพี่หมาน้อยชาบูแล้วเหรอ หงิง หงิง ชาบูครางอย่างขัดใจและไม่ยอมขยับจากประตูเลย จะเปิดก็ไม่ได้จะปิดก็ติด ไหนจะสายตาอ้อนๆของชาบูที่มาทางฉันนี่อีก ฮื่อ น้องน่ารักฉันยอมเป็นพี่ของชาบูก็ได้ “ชาบูพี่วินจะพาพี่ขิงไปกินข้าว หลบก่อนเร็ว” พี่วินย่อตัวคุยกับชาบูแต่ชาบูสะบัดหน้าหนีมองฉันอ้อนๆ “พาไปด้วยได้ไหมคะ พาน้องไปเดินเล่นด้วย” ฉันเสนอ สงสารชาบูที่ต้องทนอยู่ห้องคนเดียว เอ่อ ตัวเดียวก็ได้ นั่นแหละ น้องน่าสงสารนะ “เราโอเคเหรอ น้องซนมากเลยนะ” “ได้ค่ะ ตัวเล็กๆได้แต่ตัวใหญ่ๆหนูกลัว” “งั้นเข้ามาก่อนพี่ต้องแต่งตัวให้น้องด้วย” พี่วินถอยออกห่างจากประตูก่อนจะเอ่ยเรียกชาบูอีกครั้ง “ชาบูเข้ามาจะแต่งตัวให้เดี๋ยวพี่ขิงพาไปเที่ยว” ชาบูส่ายหางดุ๊กดิ๊กไปเข้าไปในห้องพี่วินเปิดประตูให้ฉันได้เข้าไป ฉันเดินเข้าห้องพี่วินอย่างกล้าๆกลัวๆ ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันแต่ฉันไม่ยักจะกลัวเขาเลยหรือเป็นเพราะว่าฉันคิดน้อยกันนะ “พี่วิน” ฉันตัดสินใจเอ่ยเรียกคนที่กำลังใส่สายจูงให้ชาบูอย่างกลัวๆ “ครับ” “หนูลงไปรอข้างล่างได้ไหมคะ คือแบบ หนูอยู่ในห้องพี่มันดูไม่ดี” ฉันบอกเขาไปตรงๆ พี่วินเบิกตากว้างมองฉันอย่างตกใจ “เออจริง พี่ขอโทษนะงั้นเดี๋ยวเราลงไปรอพี่ที่ล็อบบี้นะเดี๋ยวพี่รีบตามลงไป” “ค่ะ” ฉันรับคำโบกมือลาชาบูแต่เจ้าตัวเล็กเห่าตามมาจนมีเสียงดุๆของพี่วินนั่นแหละชาบูถึงได้หยุดเห่า คอนโดนี้แพงมากกฎเลยไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่หนึ่งในนั้นที่จำได้คือสามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้แต่ต้องไม่รบกวนห้องข้างๆหรืออะไรนี่แหละเพราะแบบนี้มั้งพี่วินเลยพาชาบูมาอยู่ด้วยได้ พอลงมาถึงล็อบบี้ฉันก็นั่งรอพี่วินที่โซฟา คอนโดนี้แม้จะราคาสูงแต่ก็ยังมีนิสิตจากมหาลัยฉันเข้ามาพักอยู่มากส่วนมากมักจะเป็นคนรวยกันแต่ว่านะฉันไม่ได้รวยหรอกที่นี่พี่เนทซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดฉันเลยได้มีโอกาสมาอยู่ที่นี่ “ขิงปะ ไปหาไรกินกัน” “ค่ะ” “อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม” พี่วินถามระหว่างที่เราขึ้นรถมาแล้ว ชาบูกำลังนอนตากแอร์ในรถอย่างสบายใจต่างจากฉันที่กำลังคิดไม่ตกว่าจะไปทานข้าวร้านไหน “เอ่อ ไม่มีค่ะเราไปร้านที่ชาบูเข้าด้วยได้ก็ได้ค่ะ” “งั้นก็มีอยู่ร้านหนึ่ง แต่เป็นร้านอาหารตามสั่งธรรมดานะเราโอเคหรือเปล่า” “ได้ค่ะไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ว่าแต่ชาบูอายุเท่าไหร่แล้วคะ” อยากอุ้มชาบูมานอนตักจัง อยากถ่ายรูปอวดพี่เนทมากตอนนี้ รายนั้นเลี้ยงแมวที่บ้านที่เกาหลีแต่พอฉันจะเลี้ยงกลับห้ามฉันเพราะเป็นห่วงนู่นนี่นั่นฉันเลยไม่ได้เลี้ยง ฉันน่ะอยากเลี้ยงกระต่ายมากๆเลยแต่พี่เนทไม่ยอม “ห้าปีแล้ว ตัวผู้น่ะพี่พาไปทำหมันละหล่อเหลือเกินเดี๋ยวไปทำสาวท้องพี่กลัวไม่มีสินสอดไปขอเลยพาไปทำหมัน” พี่วินเล่าขำๆ ระหว่างที่พูดถึงชาบูพี่เขาก็เล่าอย่างอารมณ์ดี “หนูน่ะอยากเลี้ยงกระต่าย แต่พี่ชายไม่ยอม พี่วินหนูอุ้มน้องมานั่งตักได้ไหม” ฉันถามไปแต่ว่าตัวเอี้ยวไปปรบมือเรียกชาบูเรียบร้อย ชาบูชูหน้าขึ้นมองพอเห็นฉันยื่นมือให้ก็เห่าบ๊อกบ๊อกอย่างน่าเอ็นดูพร้อมทั้งกระโดดมาหาอีก “หลานพี่เลี้ยงกระต่ายนะไม่รู้พันธุ์อะไรแต่ตัวเล็กๆอะ” “หือ? บ้านพี่เลี้ยงกระต่ายด้วยเหรอคะ” ชักจะเหมือนสวนสัตว์เข้าไปทุกทีแล้วสิ “ครับ ที่จริงแม่พี่เป็นสัตวแพทย์น่ะ ท่านรักสัตว์มากเลยปลูกฝังทั้งลูกและหลานให้รักสัตว์พี่สาวพี่เปิดคลินิกสัตว์ด้วยนะอยู่แถวชานเมืองว่างๆเดี๋ยวพาไป” อ่า ลืมสนใจพี่วินแล้วสิ เอาเถอะขอเล่นกับน้องก่อนแล้วกันพี่วินเอาไว้ก่อน “ชาบูมองกล้องหน่อย” ฉันเริ่มวอแวกับชาบูเพื่อถ่ายรูป ไม่ได้ตอบตกลงหรือปฏิเสธพี่วินเรื่องไปคลินิกพี่สาวเขา ฉันถ่ายรูปคู่กับชาบูพอมีรูปสวยๆเลยไม่ลังเลที่กดส่งไปให้พี่เนท ส่งไปเกือบห้านาทีรายนั้นก็โทรไลน์กลับมาทันที (หมาใคร?) อิอิ คิดว่าฉันไปแอบซื้อมาเลี้ยงล่ะสิ “ให้ทาย” ฉันแกล้งเย้าพี่เนทไป (น้ำขิงพี่จริงจังนะ) “ฮื่อ ไม่แกล้งแล้วก็ได้ ของรุ่นพี่ค่ะน่ารักไหมขี้อ้อนมากเลย” (ก็น่ารักดี พี่ตกใจหมดนึกว่าเราไปแอบซื้อมา) =pl= “ฮาๆๆๆ แกล้งพี่สนุกดี” ฉันหัวเราะอย่างอารมณ์ดีที่ได้แกล้งพี่ชายตัวเอง (ฮึย ซนใหญ่แล้วนะ พี่มีข่าวดีจะบอก) “คะ? ข่าวดีอะไรพี่จะเปิดตัวแฟนเหรอ” (บ้าละ แฟนเฟินอะไรล่ะพออย่าเพิ่งชวนนอกเรื่อง เสร็จงานจากที่นี่พี่จะว่างและพี่ก็จองตั๋วเครื่องบินไปหาเราแล้วด้วย ฝากเก็บห้องด้วยนะเพื่อนพี่ไปด้วยคนหนึ่ง) “แหม บอกแบบนี้รู้เลยว่าใคร” ฉันแกล้งแซวพี่ชาย แต่รายนั้นออกอาการเขินหน้าแดงแล้วหาเรื่องกลบเกลื่อน (ไม่ต้องทำหน้าเจ้าเล่ห์ มารับด้วยนะพวกพี่ไปแบบเงียบๆน่ะ) “รับทราบพี่โทรมานะจะได้ไปรับถูก” (อือ แล้วนี่จะไปไหนทำไมพี่เห็นเงาผู้ชาย) ตาไวเกินไปแล้วนะพี่เนท! “ก็ ก็จะไปทานข้าวกับรุ่นพี่นี่แหละงั้นแค่นี้ก่อนนะคะเดี๋ยวจะส่งรูปชาบูไปอวด” (เฮ้! เดี๋ยวสิ รุ่นพี่น่ะคือใคร...) “พี่จะไม่โกรธเหรอวางสายไปแบบนั้น” พี่วินถามเป็นจังหวะเดียวกับพี่เขาจอดรถข้างถนนฝั่งตรงข้ามเป็นร้านอาหารตามสั่งที่ร้านติดแอร์ด้วยดีงามมากแต่เสียอย่างเดียวนิสิตจากมหาลัยฉันเยอะมากจนแทบจะล้นออกมาเลยนี่สิ ยิ่งมากับคนดังของมหาลัยแบบนี้ฉันคงไม่โดนคนมองเหรอ เปลี่ยนร้านได้ไหมซื้อผัดไทยกลับไปกินห้องก็ได้ “ปะ เดี๋ยวต้องข้ามไปฝั่งนู้นนะ” “เอ่อ คือ ค่ะ” แง พี่เนทช่วยหนูด้วย! ตั้งใจจะปฏิเสธแต่ปากเจ้ากรรมกลับตอบไปแบบนั้น ฉันอุ้มชาบูก้มหน้าเดินตามพี่วินข้ามถนนเมื่อข้ามไปถึงร้านพี่วินก็พาไปนั่งที่โต๊ะว่างมุมร้านด้านในทันทีฉันก้มหน้าไม่กล้าสบตากับใครเลยเสียงซุบซิบดังตลอดทางที่เราเดินไปที่โต๊ะ พี่วินก็ไม่ได้สนใจอะไรนอกจากจับมือฉันดึงให้เดินตามเขาไป เดี๋ยวนะ! พี่วินจับมือฉันตั้งแต่เมื่อไหร่!! “อึดอัดหรือเปล่า? เปลี่ยนร้านก็ได้นะ” พี่วินถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นฉันก้มหน้าซุกกับชาบู “มะ ไม่เป็นไรค่ะพี่สั่งอาหารเถอะ” “กะเพราหมูสับพิเศษครับ” พี่วินสั่งอาหารกับพนักงานที่ยืนรอรับเมนู “กะเพราหมูสับธรรมดาค่ะ” “เอาต้มยำกุ้งกับแกงจืดเต้าหู้หมูสับด้วยครับ เครื่องดื่มเอาน้ำส้มกับแปบซี่” “ค่ะ รอสักครู่นะคะ” “ขิง” เกือบห้านาทีพี่วินก็เอ่ยเรียกฉันอย่าเป็นห่วง “คะ?” “ชวนเพื่อนมาด้วยก็ได้นะ เหมือนเราจะอึดอัด” แววตาผิดหวังของเขาทำให้ฉันใจแป้วไปเช่นเดียวกัน “หนูไม่ได้อึดอัด แต่มันไม่ชินที่มีคนมองไหนจะมีคนถ่ายรูปพี่อีก” “แค่ไม่ใส่ใจก็พอแล้ว พวกเขาไม่มีพิษมีภัยอะไรหรอกแต่รอดูในเพจเถอะมีคนแท็กมาหาเราแน่แต่พวกเขาไม่อันตรายนะ” “ค่ะ” “จะถ่ายรูปกับชาบูไหมพี่จะถ่ายให้” “อ้อ ค่ะ นี่ค่ะ” ฉันปลดล็อคแล้วยื่นโทรศัพท์ตัวเองให้พี่วินไป จะเอารูปไปอวดพี่เนท อิอิ เอาให้อิจฉาไปยาวๆเลย หลังจากถ่ายรูปเสร็จและรออาหารพี่วินก็บอกให้เอาชาบูวางลงที่เก้าอี้ข้างๆก่อนฉันทำตามอย่างง่าย “อย่าซนนะ นั่งนิ่งๆเข้าใจไหมคะ” เอ่อ ฉันก็อาการน่าเป็นห่วงแล้วล่ะคุยกับชาบูท่าจะเข้าใจหมาน้อยหมอบลงกับเก้าอี้อย่างว่าง่ายส่วนฉันก็ส่งรูปไปให้พี่เนทอยู่ถี่ๆ ฉันสนุกกับการเล่นโทรศัพท์จนลืมคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามหรือแม้กระทั่งอาหารมาเสิร์ฟฉันก็ยังไม่สนใจ “ขิงครับ ข้าวจะเย็นหมดแล้วนะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD