คุณวีณารีบโทรหาคุณแม่ของริษา เพื่อขอความช่วยเหลือ ตามที่ลูกชายขอมา
"ริษา" ค่ะแม่ คุณวีณาโทรหาแม่บอกว่า ขอความช่วยเหลือจากลูกหน่อย ให้ช่วยเอาสร้อยเส้นที่ลูกเอาไปไว้ที่ท่านให้ลูกช่วยเอาไปให้คุณไคโรที่เกาหลีหน่อย ท่านไม่ไว้ใจใครนอกจากลูก
"ไปเกาหลีเหรอคะ" ริษาถึงกับพูดไม่ออก ไม่นึกว่าเขาจะมาไม้นี้ เขารู้ว่าเธอจะไม่ปฏิเสธถ้าเป็นคุณวีณาขอร้อง
"ริษา ถ้าไม่ได้ก็ปฏิเสธท่านไปก็ได้นะลูก เพราะแม่ก็บอกคุณวีณาไปว่าแม่ต้องถามริษาก่อน" รินาสังเกตเห็นสีหน้าลูกสาวเหมือนจะไม่ค่อยสบายใจก็เลยรีบพูดขึ้นมา
"ไม่มีอะไรค่ะคุณแม่ริษาไปได้ แค่กังวลเรื่องงานว่าถ้าตอนริษาไม่อยู่เขาเรียกสัมภาษณ์ขึ้นมาจะเสียโอกาส" ริษาคิดว่าตัวเองคงปฏิเสธเขาไม่ได้แล้วจริงๆเลยต้องตอบรับไป
"ถ้าเรื่องงานไม่ต้องกังวลหรอกลูกคุณวีณาท่านก็พูดอยู่เหมือนกันว่าจะฝากงานให้หนู รึไม่ก็ให้ไปทำงานกับคุณฟาโรห์"
"ค่ะคุณแม่"
ไคโรถึงกับนั่งอมยิ้มหลังจากวางสายจากคุณแม่ ท่านโทรมาบอกว่าจะให้ริษาเอาสร้อยมาให้เขาพรุ่งนี้ มันทำให้เขาอารมณ์ขึ้นมาทันที
"เจ้านายอารมณ์ดีจังเลยนะครับ" เจสันมองเขาทางกระจกส่องหลังยิ้มๆ ด้วยความที่อยู่กับเขามานานและพอจะรู้ใจเขาหลายๆอย่าง อดที่จะเอ่ยแซวเจ้านายตัวเองไม่ได้
"พูดมากขับรถไป"
"ครับผม"
เช้าวันต่อมา
ริษาเดินทางมาถึงเกาหลีช่วงเย็นๆ เจสันมารับเธอที่สนามบิน เขาขับรถพาเธอมาที่บ้านของไคโร
"คุณริษาเชิญตามสบายนะครับ คุณไคโรใกล้จะกลับมาถึงแล้วล่ะครับ" เจสันช่วยถือกระเป๋าใบเล็กมาให้เธอทั้งที่เธอบอกว่าจะถือเองเขาก็ไม่ยอม
เมี๊ยว! เมี๊ยว!
ริษามองตามเสียงแมว เจ้าตัวสีขาวหูพับหน้าอ้วนกลมเดินเข้ามาใกล้เธอ
"นั้นน้อง มะลิ ลูกสาวคุณไคโรครับ" เจสันแนะนำเจ้าแมวเหมืยวน่ารักให้เธอรู้จัก
ริษาถึงกับยิ้ม อุ้มเจ้าตัวอ้วนขึ้นมาเล่นขนน้องนุ่มน่ากอดมากๆ ริษาเป็นคนรักแมวอยู่แล้ว เจอน้องมะลิน่ารักขนาดนี้ คือเธอโดนตกไปแล้วและดูท่าทางน้องมะลิจะชอบเธอซะด้วย เอาแก้มอ้วนๆมาถูไถที่แก้มเธอไม่หยุด
"น่ารักจังเลยนะน้องมะลิ"
ตึก! ตึก!
เสียงเท้าหนักๆเดินใกล้เข้ามา
เมี๊ยว! เมี๊ยว! น้องมะลิร้องทักคนตัวสูงที่เดินเข้ามาแล้วกระโดดลงจงจากอ้อมแขนของริษา วิ่งไปหาไคโร
"ไงคะคนสวย รอแด๊ดดี้เหรอคะ" เขาอุ้มมะลิขึ้นมา จมูกโด่งแนบจูบไปที่หัวกลมขาวนุ่มๆนั้น อย่างมันเขี้ยว
ริษามองภาพนั้นแล้วอดยิ้มกับคำว่าแด๊ดดี้ของเขาไม่ได้ นึกเอ็นดูคนมีลูกแล้ว พูดเพราะกับลูกสาวจังเลยนะ มีค่ะด้วย เธอได้แต่อมยิ้มคิดในใจ
ไคโรอุ้มลูกสาวเดินมาหาเธอ
"เจอกันแล้วใช่ไหม" ค่ะลูกสาวพี่ไคโรน่ารักมากเลยนะคะ
"หึ! กำลังหาแม่ให้มะลิอยู่ พี่แต่งตัวให้ลูกไม่เป็นลูกเลยไม่มีชุดสวยๆใส่" คนตัวสูงเอ่ยกับเธอเสียงเรียบ และเดินนำเธอไปนั่งที่โซฟา
"พี่ไคโรคะนี่สร้อยค่ะ" เธอส่งกล่องสร้อยให้เขา วางไว้นั่นแหละ เธอวางกล่องลงที่โต๊ะตามที่เขาบอก
"ริษาขอตัวกลับเลยนะคะ"
"กลับเลยงั้นเหรอ ถ้าพี่ไม่อนุญาตเราก็กลับไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นแหละ จะผิดสัญญากันจริงๆงั้นเหรอริษา"
"แต่พี่บอกว่าแค่ให้เอาสร้อยมาให้ไม่ใช่เหรอคะ" ริษารู้สึกหวั่นใจอยู่แล้วว่ามันจะออกมารูปนี้ แต่เขาบอกคุณแม่เขาแล้วก็คุณแม่เธอเองว่า แค่ให้เธอเอาสร้อยมาให้ แล้วเขาจะให้เธออยู่ต่อได้ยังไงเขาจะหาวิธียังไงได้ ยังไงเขาก็ต้องยอมให้เธอกลับอยู่ดี ริษาถึงได้ยอมมา
"อย่ามาทำตัวใสซื่อจนไม่รู้ว่านั้นคือข้ออ้างหน่อยเลยริษา เราเป็นคนผิดคำพูดเองนะ แล้วก็โกหกเอาสร้อยไปฝากไว้ที่คุณแม่เอง ถ้าพี่จะใช่วิธีนี้ก็อย่ามาโทษกัน"
"เราตกลงกันแล้ว จะเบี้ยวงั้นเหรอ คืนนั้นเรารีดน้ำพี่แทบจะหมดตัวเชียวนะ" ริษาได้ยินแบบนั้นถึงกับแก้มแดง คนบ้าก็พูดตรงเกิน เธออายจะแย่แล้วเขาไม่รู้บ้างรึไงนะ
"พี่จะบอกคุณแม่เองว่าเราจะอยู่ทำงานที่นี่กับพี่" คนตัวโตพูดด้วยน้ำเสียงเอาแต่ใจ และส่งสายตาดุมองเธอ
"แต่พี่ไคโรค่ะ" แต่อะไรอีก คนตัวเล็กถึงกับเม้มปาก เพราะเขาทำเสียงเหมือนรำคาญเธอเอามากๆ
"พูดมา"
"ริษาไม่อยากทิ้งให้คุณแม่อยู่คนเดียว" คนตัวเล็กมองสบตาเขาสื่อว่าเธอไม่อยากห่างคุณแม่ของเธอจริงๆ ซึ่งเขาก็เข้าใจได้ เธอกับคุณแม่อยู่กันมาสองคนโดยตลอด ถ้าต้องห่างกันก็คงเศร้า
ไคโรใจอ่อนยวบกับคำพูดของริษา
"พี่จะหาแม่บ้านไปอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่เธอเอง ไม่ต้องเป็นห่วงซึ่งตอนกลางวันคุณแม่เธอก็มาอยู่กับคุณแม่พี่อยู่แล้วไม่น่าห่วงหรอก"
"แล้วริษาจะบอกคุณแม่ยังไงคะ" อยู่ๆพี่จะให้ริษาอยู่กับพี่ที่นี่เลย คุณแม่ก็รู้ว่าริษาแค่เอาสร้อยมาให้พี่
"พี่จัดการให้นั่งฟังเฉยๆ" ไคโรต่อโทรศัพท์ถึงคุณแม่เขา
"ฮัลโหลลูกชายแม่" สร้อยถึงมือผมแล้วนะครับ จ้าลูกแล้วริษาละลูกจัดหาที่พักให้น้องแล้วใช่ไหม ครับริษาอยู่กับผม และผมอยากให้ริษาอยู่ช่วยงานผมที่นี่ครับคุณแม่
"พอดีคนดูแลผมขอลาพักไปหนึ่งคนริษาว่างงานอยู่ด้วย แล้วริษาก็ทำอาหารอร่อยเหมาะที่จะอยู่ดูแลผมที่นี่ครับ เวลาผมอยากกินอาหารไทยจะได้มีคนทำให้กินไงครับคุณแม่"
"ได้ยังกันละไคโร ยังไม่ได้ปรึกษาคุณน้ารินาเลย อยู่ๆจะเอาลูกสาวเขาไว้ แล้วหนูริษาเขาอยากทำงานกับเรารึเปล่า ให้น้องมาทำงานกับพี่ฟาโรห์ไม่ดีกว่าเหรอ"
"ทำไมกับพี่ฟาโรห์ถึงดีกว่ากับผมครับคุณแม่"
ริษาที่นั่งฟังอยู่เงียบๆเริ่มรู้สึกไม่สบายใจทั้งหน้าตาทั้งน้ำเสียงเขาดูไม่ชอบใจเลย
"ก็ดูเหมือนพี่ฟาโรห์เขาจะสนิทกับริษามากกว่าลูกนะสิ ทำงานใกล้ชิดกันแบบนั้นถ้าไม่สนิทกันน้องจะอึดอัดรึเปล่าลูก ไม่ใช่เพราะน้องเกรงใจเราหรอกนะถึงยอมอยู่ด้วย ถามน้องก่อนไหมว่าเต็มใจอยู่แน่ใช่ไหม"
"ไม่รู้ละครับผมจะให้ริษาทำงานกับผมที่นี่" คนตัวโตพูดกับคุณแม่ด้วยความเอาแต่ใจ และท่าทางเขาไม่น่าจะยอมง่ายๆ
ริษารู้สึกไม่สบายใจเลยที่เขาต้องทะเลาะกับคุณแม่ เพราะเรื่องเธอ
"ไคโรงั้นแม่ขอคุยกับริษาหน่อย"
"ได้ครับ"
"คุณแม่พี่อยากคุยกับเธอ" เขาส่งโทรศัพท์ให้คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ไม่ไกลกับเขา ริษารับโทรศัพท์มาแนบหู
"ค่ะคุณวีณา" ริษาหนูอยากอยู่ทำงานกับพี่ไคโรที่นั่นงั้นเหรอลูก ค่ะคุณวีณาหนูอยากทำงานให้พี่ไคโรค่ะ แต่หนูแค่เป็นห่วงคุณแม่
"ถ้าหนูจะทำงานกับพี่ไคโร ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องคุณแม่หนูหรอก ป้าดูแลให้เอง ว่าแต่ไคโรดื้อมากหนูจะทำงานกับเขาได้แน่นะริษา"
"คุณแม่ครับผมฟังอยู่"
"อะไรจ๊ะ เปิดโฟนเหรอ" ใช่ครับ แม่ไม่สนหรอกก็เรื่องจริง คนดูแลเราที่ขอพักไปน่ะ เขาทนเราไม่ไหวรึเปล่า
หึหึ!! ไคโรหัวเราะ
"ริษาถ้าหนูทนไม่ไหว พี่ไคโรดื้อเกินไป ก็กลับมาได้เลยนะจ๊ะไม่ต้องเกรงใจใครละ"
"คุณแม่ครับผมไม่ได้ดื้ออะไรสักหน่อย คุณดูแลผมคุณแม่เขาป่วยครับเขาต้องขอไปดูแลคุณแม่ ไม่เกี่ยวกับผมสักหน่อย"
"งั้นปิดโฟนคุยกับแม่สองคนหน่อยไคโร" เขาทำตามคำสั่งของคุณแม่แล้วเเดินเลี่ยงออกมาคุยอีกห้อง กันสองคน