Episode-๒๑ คำขอ

1785 Words
“ปวดแผลชะมัดเลย” นี่คือเสียงบ่นของคนเก่งค่ะ “พรรณนาอะไรนักหนาพูดเองนี่ว่านักรบย่อมมีบาดแผล ก็นี่ไง!” ฉันว่าพลางเท้าสะเอวมองคนตรงหน้าด้วยสายตาที่ว่างเปล่า แผลไม่ใหญ่หรอกค่ะแค่คิ้วแตกเย็บสามเข็มเท่านั้นเอง ที่เหลือก็ฟกช้ำนิดหน่อย “คนแรกเลยนะที่ด่าฉอด ๆ แล้วไอ้เก้าไม่สวนกลับ” “ฮ่า ๆ ก็ลองสวนดิ” “โธ่พี่! ดุขนาดนี้ใครจะกล้า” “มึงกล้า! แต่มึงไม่ทำเองแหละไอ้เก้า” “...” พี่เส้นด้ายเป็นคนรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายค่ะ กลับจากโรงพยาบาลก็อยู่คุยกันต่ออีกนิดหน่อยก่อนจะแยกย้ายกัน “พรุ่งนี้ตอนเช้ามารับนะ” “อืม อย่าให้แผลโดนน้ำนะแล้วก็กินยาแก้ปวดด้วย” “ครับ” “...” ฉันเงียบแล้วมองคนตรงหน้านิ่ง ๆ ไอ้ครับ ๆ นี่หลายครั้งแล้วค่ะ ตอนแรกก็คิดว่าพูดเล่นเชิงประชดหรือเปล่าแต่ตอนนี้ชักไม่แน่ใจแล้วสิ “ใช้สายตาแบบนี้มองเราอีกแล้วนะ” “ก็นายทำตัวแปลก ๆ” “ไม่เห็นแปลกเลย แค่กับเธอคนเดียวนั่นแหละ” จบประโยคก็ขับรถออกไปเลยค่ะ ทิ้งฉันงงท่ามกลางความมืดเฉยเลย “ไปไหนกันมากลับซะมืดเชียว เสียงของแม่ทำให้ฉันละความสนใจจากเก้า “ขอโทษ หนูลืมโทรมาบอกพอดีเก้ามีเรื่องนิดหน่อยเลยพาไปทำแผลที่โรงพยาบาลมา” “คราวหลังอย่าลืมอีกนะ” “จ้า” เข้าบ้านอาบน้ำทำธุระส่วนตัวเสร็จเก้าก็โทรมาพอดีค่ะ (แม่ดุหรือเปล่าที่กลับบ้านมืด) “นิดหน่อยแต่ไม่ได้โกรธอะไรหรอก ว่าแต่นายเถอะทำไมถึงกลับมาสภาพนั้น” แน่นอนว่าฉันไม่ลืมที่จะถาม (มีปัญหาเรื่องงานนิดหน่อย) “ไม่หน่อยมั้ง” (เราชินแล้ว) “แต่เราไม่ชิน ... นายอยากลองผิดลองถูกยังไงเราไม่ห้ามเลยนะ แต่อย่าทำให้ตัวเองเจ็บตัวแบบนี้อีกได้ไหม” (อืม... แต่มีข้อแลกเปลี่ยนนะ เธอต้องตอบรับคำขอของเราก่อน) “...” เป็นฉันเองที่เงียบไป คำขอที่เขาว่าก็คือคำตอบที่ฉันบอกปฏิเสธไปก่อนหน้านั่นแหละ “ขอเวลาเราหน่อยนะ เราไม่มั่นใจว่าความรู้สึกตอนนี้คืออะไร” ฉันพูดออกไปตามความรู้สึกของตัวเอง ไม่ได้จะบอกให้เก้ารอหรือให้ความหวังนะคะ ฉันแค่อยากมั่นใจในตัวเองก่อนก็เท่านั้น (เรารอเก่งมากนะเผื่อเธอไม่รู้) “เปลี่ยนจากคำว่ารอเป็นลองคุยกันดีไหม บางทีเราสองคนอาจจะค้นพบความรู้สึกจริง ๆ ก็ได้” คิดแค่เพื่อน สนิทกันให้ตายยังไงก็อยู่แค่เพื่อนค่ะ แต่ถ้าไม่ใช่... มันก็จะมีคำตอบในตัวของมันฉันเชื่อแบบนั้น (เธอพูดเองนะ) “อืม” (ถึงจะเป็นคนคุยแต่เธอก็ต้องคุยทีละคนนะ) “แน่สิ! ถ้าคุยหลายคนอันนั้นเรียกประชุมสาย” (เธอ!!) “คิกคิก” กวนประสาทไปอย่างนั้นแหละค่ะ “ถือว่าตกลงแล้วนะ นายเองก็รักษาคำพูดด้วย” (จะพยายามเลี่ยงให้ได้มากที่สุดแล้วกัน) “อืม” ถึงจะไม่ใช่คำตอบที่น่าพอใจซะทีเดียว แต่ก็ยังดีค่ะที่เขาคิดจะพยายามและไม่ตอบแบบขอไปที เช้าวันใหม่ เก้ามาแต่เช้าตรู่เลยค่ะ เช้ามากตั้งแต่ฉันยังอาบน้ำแต่งตัวไม่เสร็จด้วยซ้ำ “รีบเหรอ?” เอ่ยถามคนตรงหน้าที่กำลังสร้างความกดดันให้ฉันอยู่ตอนนี้ เพราะเขาคนเดียวเลยฉันถึงต้องพลอยรีบตามไปด้วย “นิดหน่อย” มาถึงโรงเรียนตั้งแต่หกโมงเช้านั่นแหละ แถมยังถูกลากให้มากินข้าวเช้าอีกด้วยค่ะ ปกติฉันไม่กินไง “อารมณ์ไหนเนี่ย” “อารมณ์นี้แหละ” คำตอบแสนกวนอารมณ์ถูกเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้ม รู้สึกว่าวันนี้จะอารมณ์ดีเป็นพิเศษนะคะ “หืม... บรรยากาศดีแต่เช้าเลยแฮะ” บุคคลที่มาใหม่คือโบกับแซ็กค่ะ “หรือว่ามีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้น” “มึงสองคนไม่กวนตีนกูสักวันจะตายไหม” น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยพร้อมกับปรายตามองเล็กน้อยแต่สองคนตรงหน้าก็ไม่สะทกสะท้านอะไรนอกจากระเบิดเสียงหัวเราะออกมาแทน ... : ฮ่า ๆ อย่าว่าแต่สองคนนั้นแปลกใจเลยค่ะ ฉันเองก็แปลกใจเหมือนกัน ระหว่างวันก็แยกย้ายกันเข้าเรียนตามปกติค่ะ ทุกครั้งที่เปลี่ยนคาบเรียนและเดินสวนกันเก้าจะฉีกยิ้มให้อยู่เสมอจนภาพจำของใบหน้าเรียบเฉยที่เคยมีแทบจะหายไปจากหัวเลยทีเดียว “เป็นอะไรของมันวะปกติจะหน้านิ่งแค่มองเฉย ๆ” เห็นไหมคะขนาดปูนายังอดสงสัยไม่ได้เลย “เพียงจันทร์เธอไม่ได้ร่ายมนตร์อะไรใส่มันใช่ไหม?” “เปล่าหรอก พอดีเรามีข้อแลกเปลี่ยนกันนิดหน่อย” “อย่างนี้นี่เองมันถึงอารมณ์ดีนัก” โบเสริมขึ้นมาบ้าง “ว่าแต่ข้อแลกเปลี่ยนอะไรทำไมมันถึงมีความสุขขนาดนั้น” “ไม่บอกอย่าหลอกถาม” “เฮ้อ!! ทำให้อยากแล้วก็จากไป พอกันทั้งคู่เลย” ไม่บอกค่ะ จนกว่าจะมั่นใจ ... พักเที่ยงเราก็นั่งเล่นกันในโรงอาหารเพื่อรอเรียนวิชาต่อไปซึ่งอยู่ตึกใกล้ ๆ กัน แต่แล้วความวุ่นวายก็เกิดขึ้น... “เพียงจันทร์” “หืม?” “...” ปูนาเอ่ยเรียกแล้วเงียบไป เห็นแบบนั้นฉันจึงเบือนหน้าไปมองบ้างก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังมีปากเสียงกันอยู่บริเวณสนามฟุตบอล ฉันจะไม่สนใจเลยหากว่าคนที่อยู่ตรงนั้นไม่ใช่เก้า “อย่านะ” “แผลเก่ายังไม่หายเลยนะโว้ย” โบกับแซ็กที่กำลังมองดูเหตุการณ์อยู่พูดขึ้น จากนั้นก็เดินไปรวมกลุ่มด้วยแต่ยังไม่ทันไรทุกคนก็แยกย้ายคนละทิศคนละทางซะก่อนเพราะอาจารย์ฝ่ายปกครองมา เก้าเดินหายไปหลังตึกโดยมีโอมและกายตามไปติด ๆ ที่พูดไว้ก่อนหน้านี้เขาจะทำได้หรือเปล่านะ... ฉันไม่ได้อยากควบคุมหรือจู้จี้จุกจิกอะไร ก็แค่ไม่อยากให้เขาเจ็บตัวเท่านั้นเอง “มันมีเรื่องอะไรกันวะ” ปูนาเอ่ยถามแทบจะทันทีเมื่อสองคนนั้นเดินกลับมา ซึ่งฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันเพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นเก้าบอกอะไร ไม่มีเค้ามูลว่าจะมีเรื่องกันด้วยซ้ำ “ยังไม่ทันรู้เรื่องเลยปกครองมา” “...” หลังจากนั้นเหตุการณ์ทุกอย่างก็กลับมาปกติค่ะจนถึงเวลาเลิกเรียน “สวยมึงกลับยังไง” เอ็กซ์ค่ะปกติไม่เห็นจะถามเลยวันนี้มาแปลกแฮะ “ก็เหมือนเดิม ประตูหลัง” “ออกประตูหน้าดีกว่านะเดี๋ยวกูไปส่ง” “มีอะไรหรือเปล่า” ถ้าบอกว่าไม่มีก็คือโกหกค่ะ สีหน้าเหมือนมีเรื่องหนักใจด้วยซ้ำ “มี” มองหน้ากันนิ่ง ๆ ก่อนที่เอ็กซ์จะพูดต่อ “ไอ้เก้าไม่ได้บอกเหรอ?” “ไม่เห็นบอกอะไรนะ” พลางหยิบมือถือขึ้นมาดูก็ไม่มีอะไรค่ะ ทั้งสายเรียกเข้าและข้อความ “เหรอ... ถ้างั้นคงไม่มีอะไร” คนตรงหน้าพึมพำออกมาเบา ๆ แต่ฉันหูดีไงเลยได้ยิน “อ่อ! มันมาโน่นละ” เบือนหน้าไปมองก็เห็นว่าเก้ากับกายกำลังเดินมาทางนี้ค่ะ สีหน้าโคตรปกติ ไม่รู้ว่าเคลียร์จบแล้วหรือคิดว่าฉันไม่รู้ไม่เห็นกันแน่นะ “สวรรค์โปรดกูกลับด้วย” กายเอ่ยพร้อมกับเดินมากอดคอเอ็กซ์ “รถกูเสียอะไอ้เก้าก็เสือกมีตุ๊กตาท้ายรถอีก” ประโยคหลังนี่เหมือนจะแอบเหน็บแนมเบา ๆ “มึงบังอาจมากนะไอ้กายว่าเพื่อนกูเป็นตุ๊กตายางได้ไง” “เดี๋ยว ๆ อันนี้มึงพูดเอง” “อ้าวเหรอ” ไม่ได้สนใจสองคนตรงหน้าเลยค่ะเพราะมัวแต่จ้องจับผิดใครอีกคนอยู่ “กูไปก่อนนะ” จบประโยคเก้าก็เดินนำฉันออกมาจากตรงนั้นทันทีแถมยังเดินโคตรเร็วจนฉันตามไม่ทัน “...” เขาทิ้งระยะห่างพอสมควร หลังจากพ้นประตูก็หันกลับมามองฉันแวบหนึ่งแล้วไปเอารถมารอ “นาย...” (ตุ้บ!) “โอ๊ย!” ถึงกับเซถลาเมื่อหมวกกันน็อคใบหนึ่งลอยมาโดนฉันแบบไม่ได้ตั้งใจ หันไปมองอีกด้านหนึ่งมีกลุ่มพี่มอปลายอยู่ค่ะ คนที่เขาตั้งใจจะปาใส่คงเป็นเก้าสินะแต่มันดันถูกฉันแทน “เป็นเหี้ยไรไอ้สัส!” เก้าทิ้งรถแล้วเอาตัวมาบังฉันไว้ก่อนจะพูดประโยคหยาบคายออกมาอย่างไม่เกรงกลัว “มึงไม่จบใช่ไหม?” “แล้วทำไมกูต้องจบอะ” น้ำเสียงชวนหาเรื่องเอ่ยพร้อมกับใบหน้าแสนกวนอารมณ์ “พี่ขอโทษนะครับพี่ไม่ได้ตั้งใจ” ประโยคหลังนี้เขาหันมาพูดกับฉันแต่มันคงไม่ได้ออกมาจากความรู้สึกจริง ๆ หรอกค่ะ ปากเขาพูดกับฉันก็จริงแต่กลับเสมอสายตาไปทางเก้าอยู่ตลอดเหมือนกำลังยั่วโมโหเพื่อให้คนตรงหน้าเป็นฝ่ายเริ่มก่อน และแน่นอนว่ามันได้ผล (ผัวะ!) หมัดหนัก ๆ กระแทกเข้าใบหน้าเต็มแรงแต่ก็แค่หมัดเดียวเพราะฉันรั้งเอาไว้ซะก่อน “เก้า!” “ปล่อย” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยบอกฉันก่อนที่เขาจะพุ่งตัวไปซ้ำอีกหลายหมัดแบบไม่เปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้ได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ “ลูกพี่มึงมันเหี้ยเองอย่ามาพาลใส่คนอื่น!” น้ำเสียงเดือดดาลเอ่ยพร้อมกับชี้หน้าอย่างคาดโทษ “ฝากไปบอกมันด้วยว่ากูไม่กลัวหรอก” “พอแล้ว” ฉันพยายามเข้าไปห้ามไม่รู้หรอกว่ามันเรื่องอะไรแค่ไม่อยากให้มันบานปลายไปมากกว่านี้ “นายรับปากแล้วไง” เก้าไม่พูดอะไรแค่เพียงกวาดสายตามองทุกคนแล้วพาฉันออกมาจากตรงนั้น น่าแปลกที่พวกเขามากันเยอะแต่ไม่มีใครช่วยเพื่อนเลยทั้งที่เป็นฝ่ายได้เปรียบเห็น ๆ “เจ็บหรือเปล่า” “ไม่เจ็บแล้ว” “ขอโทษนะ” “ไม่ต้องขอโทษหรอกเราไม่เป็นอะไร” ฉันตอบออกไปตามความจริงก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติและรู้ดีว่าคนตรงหน้ายังโมโหอยู่ ถ้าตรงนี้ไม่มีฉันเขาคงไม่หยุดอยู่แค่นี้หรอกค่ะ “เธอคิดว่ามันไม่ตั้งใจให้โดนเธอเหรอ?” “...” “บางทีเราอาจจะตัดสินใจผิดก็ได้ รู้แบบนี้ปล่อยให้มันเป็นความลับเหมือนเดิมซะก็ดี!” “...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD