6. ข่าวลือ

1843 Words
พอใกล้เที่ยง ที่หน้าจวนแม่ทัพก็มีเสียงโหวกเหวกโวยวาย คนจากเหลาเทียนฝูจะเอาอาหารเข้ามาส่งข้างใน แต่คนเฝ้าประตูขวางไว้ "ที่จวนไม่มีงานเลี้ยง เจ้ามาส่งผิดที่แล้ว" "จะเป็นไปได้อย่างไร สาวใช้จากจวนแม่ทัพเป็นคนไปสั่ง ไม่ใช่มีแค่นี้ ยังจะมีมื้อเย็นและมื้ออื่นๆ อีกเจ็ดวันต่อจากนี้" คนเฝ้าประตูไม่เชื่อ ทั้งสองฝ่ายจึงโต้เถียงกันยกใหญ่ เป็นเหตุให้คนผ่านไปผ่านมาคอยชมอย่างสนใจ "จวนแม่ทัพสั่งอาหารแล้วไม่รับผิดชอบได้อย่างไร ที่ข้านำมาส่งวันนี้โต๊ะนึงก็ร่วมร้อยตำลึง สั่งแล้วไม่คิดจะจ่ายเงินใช่หรือไม่" ผู้คนเห็นคนส่งอาหารเป็นเสี่ยวเอ้อร์ร้านเทียนฝูที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีจึงพากันช่วยออกหน้า "จริงด้วย เสี่ยวเอ้อร์บอกว่าฮูหยินน้อยเป็นคนสั่ง จวนเจ้าเพิ่งแต่งฮูหยินน้อยเข้าจวนมิใช่หรือ หรือว่าคนเฝ้าประตูอย่างเจ้าก็มีอำนาจเหนือฮูหยินท่านแม่ทัพ" เหตุการณ์ชักจะลุกลาม ร้อนไปถึงพ่อบ้านต้องเป็นฝ่ายออกมาไกล่เกลี่ย "เหตุใดไม่ตามฮูหยินน้อยของพวกเจ้าออกมายืนยันกันเล่า อาหารเลิศรสเหล่านี้ราคาร่วมร้อยตำลึง จะให้เสี่ยวเอ้อร์ยกกลับไปเฉยๆ ได้ยังไง" ตอนที่เสี่ยวซานออกไปที่หน้าประตูใหญ่ นางก็ทำตามที่เนี่ยซวงสั่งทุกประการ นางก้มศีรษะให้พ่อบ้าน กล่าวขอโทษซ้ำๆ พูดแต่ว่าฮูหยินน้อยยังไม่ชินกับอาหารที่จวน ต้องเดือดร้อนทำให้วุ่นวายกันไปหมด แต่พ่อบ้านไม่ต้องเป็นห่วง ค่าอาหารเหล่านี้ฮูหยินน้อยจะรับผิดชอบเอง เสี่ยวซานเป็นเด็กสาวแก้มยุ้ยขี้แยท่าทางน่าสงสาร ยิ่งออกมาก้มศีรษะขอโทษขอโพยพ่อบ้านที่ยืนตาพองด้วยความกราดเกรี้ยวก็ยิ่งทำให้คนดูรู้สึกว่านางถูกรังแก ในไม่ช้าก็เล่าลือกันไปทั่วว่าฮูหยินน้อยแม้แต่งเข้าจวนมาอย่างไม่สง่างามนัก แต่ก็เป็นภรรยาเอกถูกต้องตามธรรมเนียม เข้ามาในจวนได้เพียงสองวันถึงกับต้องสั่งอาหารจากข้างนอกเข้ามารับประทานเอง มิหนำซ้ำไม่ใช่แค่มื้อเดียว แต่ทุกมื้อนางต้องควักเงินจ่ายเองเพื่อให้ได้กินอาหารดีๆ ฝ่ายพ่อบ้านไม่รู้ว่าภายนอกจะมีข่าวลือเช่นนี้ เห็นมีคนรับผิดชอบค่าอาหารจึงค่อยโล่งใจ ปล่อยให้คนจากเหลาเทียนฝูตามเสี่ยวซานเข้าไปส่งอาหาร เนี่ยซวงให้ค่าเหนื่อยเสี่ยวเอ้อร์ไปไม่น้อยจนอีกฝ่ายคำนับไม่หยุด ในใจนึกชื่นชมฮูหยินน้อยผู้นี้ ดูเอาเถิดถึงแม้นางจะเป็นลูกอนุแต่ก็ใจดีมีเมตตา ซ้ำยังงดงามขนาดนี้ ท่านแม่ทัพช่างตาบอดเหลือเกินจึงได้ใจร้ายใจดำกับหญิงงามได้ลงคอ เหลาเทียนฝูเป็นสถานที่เช่นไรกัน เป็นภัตตาคารที่ชนชั้นสูงต่างแวะเวียนไปใช้บริการไม่ขาดสาย เมื่อข่าวลือนี้เกี่ยวพันกับหอเทียนฝูโดยตรง เวลามีคนถาม ทั้งหลงจู๊และเสี่ยวเอ้อร์ต่างก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวว่ามีเรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้นจริง ฮูหยินน้อยผู้นั้นสั่งอาหารจากเหลาให้ไปส่งที่เรือนทุกมื้อ เรือนของนางนั้นหรือก็สุดแสนจะห่างไกล เดินเข้าไปครึ่งค่อนวันกว่าจะถึง เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างดีสักเท่าใด อันที่จริงเนี่ยซวงไม่คิดจะตอบโต้เช่นนี้ แต่คำพูดเมื่อคืนของซ่งฉีหลินทำให้นางโมโห เขามีสิทธิ์อะไรมาหยามหมิ่นนางแบบนี้ ถึงนางจะเป็นลูกพ่อค้า เขาเป็นขุนนาง แต่ก็ใช่ว่าศักดิ์ศรีความเป็นคนจะต่างกัน แค่ต้องลดตัวมาแต่งงานกับนาง คิดว่านางจะยอมให้เขารังแกยังไงก็ได้หรือไงกัน ก็ดี ในเมื่อเป็นชนชั้นสูงรักหน้าตา ก็ให้ได้ลิ้มรสการถูกชนชั้นค้าขายตบหน้าหน่อยก็แล้วกัน นางไม่กลัวเขาหรอก... ตอนเย็นวันเดียวกันนั้น ซ่งฉีหลินบังเอิญแวะไปสังสรรค์กับมิตรสหายที่หอเทียนฝู เขาอดแปลกใจไม่ได้ที่บรรดาคนในร้านต่างลอบมองเขา คราแรกนึกว่าเป็นเพราะเขานานๆ จะกลับเมืองหลวงสักที คนในร้านจึงไม่คุ้นหน้า แต่แล้วหลู่เจาสหายคนหนึ่งที่ไม่ค่อยถูกกันก็เป็นฝ่ายถามขึ้น "ได้ข่าวว่าฮูหยินที่เพิ่งแต่งเข้าจวนหมาดๆ ของแม่ทัพซ่งถึงกับต้องควักเงินซื้ออาหารเอง ไม่ทราบมีเรื่องราวเช่นนี้จริงหรือไม่" ซ่งฉีหลินย่นหัวคิ้วเล็กน้อย ตอบกลับน้ำเสียงเรียบเฉย "จะมีเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร จวนแม่ทัพมีหรือจะไม่มีปัญญาเลี้ยงดูสตรีผู้หนึ่งได้" "ท่านไม่ลองถามคนในเหลาเทียนฝูดูเล่า ได้ข่าวว่าฮูหยินน้อยจวนแม่ทัพสั่งอาหารจากที่นี่ทุกวัน เกรงว่าอาหารในจวนคงจะไม่ถูกปากนางกระมัง" น้ำเสียงของคนผู้นี้แฝงไปด้วยนัยเย้ยหยัน ไม่เพียงดูถูกที่เขาแต่งภรรยาต่ำศักดิ์ที่มีแต่เงิน แต่ยังแฝงแววติเตียนว่าเขาปฏิบัติต่อนางอย่างไม่เป็นธรรม "ไม่รบกวนน้องหลู่เจาต้องเป็นห่วง" ซ่งฉีหลินตัดบท เขายกสุราขึ้นดื่ม นั่งสนทนาอยู่ครู่หนึ่งจึงขอตัวกลับ มื้อกลางวันและมื้อเย็นวันนี้ เนี่ยซวงและสาวใช้ทั้งสองต่างกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยอิ่มหมีพีมัน ชดเชยกับมื้อก่อนๆ ที่โรงครัวจัดมาให้อย่างเสียมิได้ เนี่ยซวงไม่เพียงเรียกพวกนางให้นั่งกินด้วยกัน แต่ยังคีบอาหารให้อย่างอารมณ์ดี ในสายตาของนางเด็กสองคนนี้ก็คือทีมเวิร์ค ในภายภาคหน้าพวกนางต้องร่วมมือกันอีกนาน อาหารที่กินเหลือ เนี่ยซวงให้เสี่ยวซานและเสี่ยวถงช่วยกันยกไปห้องครัว บ่าวใครครัวแม้จะเคยชินกับอาหารดีๆ แต่ก็ไม่เคยมีโอกาสได้กินอาหารเหลาเช่นนี้มาก่อน ที่เคยพูดไม่ดีกับเสี่ยวถงก็หันมาประจบเอาใจ ได้ยินว่าฮูหยินน้อยร่ำรวยมาก หอเทียนฝูเป็นสถานที่ที่แพงขนาดไหน นางยังสั่งอาหารมากินทุกมื้อติดต่อกันถึงเจ็ดวันได้ หากเอาใจให้ดี มิใช่ว่าจะได้มีลาภปากหรอกหรือ เนี่ยซวงอาบน้ำสระผมแล้วจึงเตรียมตัวเข้านอน แม้ย้อนมาในยุคโบราณจะอยู่ในเรือนเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรแต่นางก็ติดนิสัยอาบน้ำทุกวัน วันนี้นางถามเสี่ยวซานถึงราคาสินค้าในชีวิตประจำวันเพื่อจะคำนวณว่าค่าใช้จ่ายต่อเดือนของนางตกเท่าไร ดูไปแล้วนอกจากค่ากินนางก็ไม่มีรายจ่ายอะไร หากจะหารายได้เลี้ยงตัวและสาวน้อยสองคนนี้ก็คงไม่ยากนัก นางก้าวขึ้นเตียงพลางหาวหวอด เสี่ยวซานตามมาห่มผ้าให้แล้วเหน็บเข้ากับใต้ฟูก ยังไม่ทันจะได้ดับตะเกียง หน้าเรือนก็มีเสียงเปิดประตู เสี่ยวซานกำลังจะตะโกนถามเสี่ยวถง เสียงฝีเท้าหนักๆ ก็ย่ำเข้ามาด้านใน "ออกไป!" ซ่งฉีหลินสีหน้ามืดครึ้ม ทำเอาเสี่ยวซานตกใจกลัว นางรีบย่อเข่าแล้วออกไปจากห้อง เหลือเพียงเนี่ยซวงที่เอนกายกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงคอยรับหน้าเขาเพียงลำพัง เนี่ยซวงเลิกคิ้วน้อยๆ ใคร่ครวญอยู่ในใจว่าเขามาด้วยเรื่องใด เรื่องเหลาฝูเทียนอย่างนั้นหรือ? ไม่หรอกมั้ง เพิ่งเมื่อกลางวันเองนะ เขาจะได้ข่าวเร็วขนาดนี้เชียวหรือ "ท่านแม่ทัพ มาถึงที่นี่มีอะไรให้เนี่ยซวงรับใช้หรือเจ้าคะ" นางเอ่ยถามอย่างใจเย็น ยิ้มให้เขาน้อยๆ ว่ากันว่าใบหน้ายิ้มไม่ถูกตบมิใช่หรือ ซ่งฉีหลิงมองหญิงสาวที่เอนกายอยู่บนเตียงอย่างผ่อนคลาย นางกำลังจะเข้านอน เส้นผมดกดำหนานุ่มแผ่สยายเต็มหมอน ดวงตากลมโตใสแจ๋ว ขนตายาวเป็นแพเหมือนปีกผีเสื้อ ปากรูปกระจับแดงระเรื่อขยับเล็กน้อยยามที่นางพูด ท่าทางของนางราวกับว่าเขาอยู่ผิดที่ผิดทาง ไม่ได้มีท่าทางเกรงกลัวแม้แต่น้อย เขาจ้องนางด้วยสายตาคมกริบ ต่อให้เป็นบุรุษอกสามศอกต่างก็ต้องหวาดกลัวจนตัวสั่น แต่นางกลับเบิกตากว้างจ้องกลับมา "รู้ความผิดหรือไม่" เขากดเสียงต่ำถามนาง เนี่ยซวงเลิกคิ้วด้วยท่าทางไร้เดียงสา "ข้าทำอะไรผิดไปหรือเจ้าคะ" ซ่งฉีหลินยกมุมปาก ก่อนจะแค่นหัวเราะเบาๆ "เจ้าจงใจทำลายชื่อเสียงของจวน! ยังกล้านับตัวเองเป็นฮูหยินน้อยจวนแม่ทัพอีกหรือ! " หญิงสาวย่นหัวคิ้วเล็กน้อย ท่าทางไม่เข้าใจ "ข้าทำลายชื่อเสียงจวนอย่างไร" "เจ้าจงใจทำให้คนเข้าใจว่าจวนนี้ดูแลเจ้าไม่ดี สั่งอาหารจากหอเทียนฝู มิใช่ตั้งใจจะให้คนรู้กันทั่วหรืออย่างไร!" น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขากระหึ่มไปทั้งห้อง เนี่ยซวงสะดุ้งจนเกือบยกมือขึ้นอุดหู "ก็ข้าหิว! ตั้งแต่เมื่อวาน โรงครัวไม่มีอาหารดีๆ ให้กิน ข้าใช้เงินของตัวเองซื้อข้าวกินก็ไม่ได้หรืออย่างไร หรือต้องรอให้อดตายอยู่ในจวนนี้! " เนี่ยซวงถลึงตาเถียงเขา นางขยับตัวนั่งหลังตรง ปล่อยให้ผ้าห่มกองอยู่ที่หน้าตัก ชายหนุ่มเห็นนางเถียงกลับก็ไม่ได้มีท่าทางหัวเสีย กลับก้าวเข้ามาใกล้ "ข้าเข้าใจ ค่าอาหารทั้งเจ็ดวันของเจ้า ข้าก็ชำระให้แล้ว ได้ยินว่าเจ้าชำระเองแล้วบางส่วน วันพรุ่งนี้ข้าจะให้พ่อบ้านเอามาคืนให้ ต่อจากนี้หากโรงครัวทำอาหารไม่ถูกใจ เจ้าส่งคนไปบอกเสียก็สิ้นเรื่อง" อยู่ดีๆ เขาก็มีท่าทางใจดีอย่างไม่น่าไว้ใจ "ขอบคุณท่านแม่ทัพ เนี่ยซวงจะจำไว้" นางตอบรับอย่างว่าง่ายแล้วแสร้งทำเป็นปิดปากหาว แอบเหลือบตามองก็เห็นเขายังไม่ออกไป จึงกระแอมเล็กน้อยแล้วออกปาก "นี่ก็ดึกแล้ว..." "มาช่วยข้าผลัดเสื้อผ้า" เขาเอ่ยขัดขึ้น เนี่ยซวงเงยหน้ามองเขา อ้าปากค้างอย่างตกตะลึง เขาตัวสูงเกินไป นางจึงไม่ทันเห็นแววขบขันวูบหนึ่งในดวงตาดำลึก "เอ่อ..." "ทำไมรึ" เนี่ยซวงยังไม่ยอมขยับ เขาจึงเอ่ย "ข้าจ่ายเงินให้เจ้าไปหลายร้อยตำลึง เจ้าจะไม่ตอบแทนนายท่านอย่างข้าหน่อยหรือ" หญิงสาวตื่นตระหนกเล็กน้อยแต่ยังทำใจดีสู้เสือ "ข้าไม่ได้ให้ท่านออกให้เสียหน่อย บอกคนที่ร้านแล้วให้มาเก็บเงินที่ข้า เงินที่ท่านออกให้ข้า เดี๋ยวข้าคืนให้ก็ได้" "เงินแค่นั้นเจ้าเก็บไปเถอะ ข้าไม่ต้องการให้คนเอาไปพูดว่าฮูหยินคนเดียวก็เลี้ยงดูไม่ได้ มาเถอะ ดึกแล้ว เจ้าจะนอนแล้วมิใช่หรือ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD