ตอนที่ 5 โมนามาเตือน

1204 Words
ปรมะปิดเอกสารบนโต๊ะเมื่อเซ็นมันเสร็จ เขาถอดสูทตัวนอกออกพร้อมกับปลดเนกไท ร่างสูงเต็มไปด้วยกล้ามภายใต้เสื้อสีขาวที่ถูกพับขึ้นมาถึงข้อศอก มือชายหนุ่มคว้าร่างภรรยาให้มานั่งบนเก้าอี้ทำงานของตัวเอง โมนากำลังอารมณ์ไม่ดีถ้าขัดใจก็โกรธอีก เถียงกับโมนาไม่ใช่เรื่องสนุก เขาเลือกเธอมาแต่งงานมีเหรอจะไม่รู้ว่านิสัยใจนั้นเป็นอย่างไร โมนาเอาแต่ใจตัวเองเป็นที่หนึ่ง เธอไม่ชอบให้ใครมาบังคับแต่ทำอย่างไรได้ คนอย่างปรมะไม่เคยถูกขัดใจเช่นกัน นอกจากโมนาก็ไม่มีใครเหมาะสมกับเขาอีกแล้ว ผลประโยชน์ลงตัวทุกอย่าง อาจจะน่าตีน่าขังในบ้านไปบ้างแต่เขารับมือไหว “นั่งก่อน” ภรรยาตัวเล็กนั่งหน้างอเมื่อถูกมือเขากดบนไหล่ไม่ให้ลุกหนี โมนาสวมรองเท้าสูงมากยืนนานต้องปวดขาแน่ “รบกวนไม่นานหรอกค่ะ ประชุมเสร็จว่างไหมคะ ไว้เราค่อยคุยกันตอนประชุมเสร็จ” เพราะแบบนี้ชาติก่อนเธอถึงไม่ชอบมาหาเขาที่ทำงาน เลขาคนสนิทเขามันน่าตบไง ปรมะก็เฉยไม่ปรามจารวีสักคำ อวยเมียน้อยไม่เลิก ตอนนี้ว่าน่าหมั่นไส้แล้วหลังจากนี้ไม่นานน่าหมั่นไส้กว่าเพราะปรมะชอบพายัยนี่ไปไหนมาไหนบ่อยครั้ง หนักกว่านั้นคือพาเข้าบ้านจนเธอทนไม่ไหวหนีไป จำได้แม่นว่าปรมะถือหางจารวีมากถึงขนาดจัดห้องในบ้านให้อยู่อย่างสบาย เธอรับไม่ได้เก็บเสื้อผ้าหนีโดยมีเจษฎาช่วย เขายังส่งคนมาตามไล่ล่า การหนีครั้งนั้นคือสิ่งที่ทำให้เธอเกลียดเขามากที่สุดในชีวิต เธอลงทุนศัลยกรรมหน้าใหม่ เปลี่ยนชื่อนามสกุลแค่เพียงสบตากันครั้งเดียวเขาก็จดจำเธอได้ทันที ปรมะขังเธอเหมือนนักโทษไม่ให้ออกไปไหน คนใช้ในบ้านทุกคนล้วนถูกฝึกมาให้เก่งรอบด้าน ทางหนีของเธอจึงไม่เหลืออีกเลย “เลื่อนประชุมแล้ว” ปรมะเห็นภรรยานั่งนิ่งเงียบก็เอ่ยขึ้น เขาเห็นชัดว่าดวงตาคู่สวยฉายความขุ่นเคืองออกมา โมนาดูไม่ชอบเขามากต่างจากวันแรกที่เคยพบกัน โมนาในครั้งแรกยิ้มหวานพร้อมกับไหว้เขาด้วยกิริยาน่าเอ็นดู ทว่าพบกันครั้งที่สองมาจนกระทั่งปัจจุบันไม่เคยมีสายตาแบบครั้งแรกอีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เลือกที่จะแต่งงานกับเธอ “ขอโทษค่ะ” สายตาขุ่นเคืองกลับมาเป็นปกติ เธอขอโทษเพราะการบุกมาหาถึงบริษัทโดยไม่บอกล่วงหน้านั้นเป็นมารยาทที่แย่พอสมควร แม้เป็นสามีภรรยาก็ไม่ควรก้าวก่ายกันเรื่องนี้ เรื่องเหวี่ยงวีนอีกเรื่อง แต่เรื่องงานเธอจะไม่งี่เง่าเรื่องนี้ “มีอะไร” ใบหน้าเหมือนคนตายด้านกำลังถาม ปรมะไม่สนว่าโมนาจะแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายเพียงใด เธอเดินเข้ามาในห้องเองก็ต้องรับสภาพ “ไม่อยากทะเลาะก่อนประชุม ไปทำงานให้เสร็จค่อยกลับมา” หญิงสาวปัดมือเขาออกจากไหล่ เดินมาหยิบกระเป๋าสะพาย เรื่องที่ต้องการคุยถูกพับเก็บไว้ก่อน “ตอนนี้ก็เหมือนทะเลาะ” ไม่เห็นว่าต่างตรงไหน คนพูดเลิกคิ้วกล่าว โมนาค้นกระเป๋าตัวเองครู่หนึ่ง ไม่นานนักกระดาษหลายแผ่นก็ถูกโยนลงบนโต๊ะทำงานของสามี ชาติก่อนเธอเก็บเรื่องนี้เงียบ มาชาตินี้จะเหวี่ยงวีนแบบเต็มรูปแบบ “คุณมีชู้ เหอะ ฉันมีหลักฐานด้วย คงแอบเลี้ยงดูกันตั้งแต่ก่อนแต่งงานสินะ จูบกันก็มีหลายคนด้วย ฉันได้มาตั้งแต่วันแต่งงานแล้ว คุณมันคนหลอกลวง!” เธอได้รับภาพพวกนี้ส่งมาตลอดจนถึงทุกวันนี้ คุยกับบรรดาเมียน้อยของปรมะมากกว่าคนในครอบครัวเสียอีก เธอเอาไปฟ้องปู่ท่านก็บอกแค่ว่าเป็นเรื่องปกติของผู้ชาย ตรรกะวิปลาส “อยากสื่ออะไร” เขาหยิบมันขึ้นมาดูก็เห็นภาพตัวเองกำลังอยู่กับผู้หญิงหลายคน แล้วยังไง? ภาพเขากับผู้หญิงคนอื่นสำคัญกับโมนาด้วยเหรอ… “หย่า ฉันจะหย่ากับคุณ” หลักฐานครบขนาดนี้ปรมะดิ้นไม่หลุดอย่างแน่นอน กล้าถามด้วยว่าอยากสื่ออะไร สื่อถึงความไม่ซื่อสัตย์ไง! “ไม่!” คำตอบเดียว คำตอบเดิม จนวันตายปรมะก็ไม่มีทางยอมหย่าหรือปล่อยโมนาไป กรี๊ด!!!! ถึงขนาดนี้ยังรั้งเธอไว้อีก ปรมะเกินมนุษย์ของจริง “รอเก็บศพเมียน้อยได้เลย อีเลขาหน้าห้องด้วยอย่าหวังจะลอยหน้าลอยตาเป็นสุข!” คนตัวเล็กกระทืบเท้าอย่างขัดใจคว้าเอาที่ทับกระดาษมาปาลงพื้นจนแตก ชายหนุ่มมองขาเรียวเล็กจากนั้นมองสำรวจเศษแก้วที่แตกกระจาย “ตามสบาย” ร่างกายกำยำนั่งบนเก้าอี้เท้าแขนกับโต๊ะทำงานมองภรรยา “กรี๊ด!!! คุณทำฉันโมโหแล้วนะ ไอ้ผัวชั่ว!” เสียงตวาดแว้ดด่าสามีหน้าตาย นอกจากไม่ปฏิเสธยังทำตัวไม่ร้อนรน ปรมะเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติหรืออย่างไร “ผมชอบตอนคุณเป็นแบบนี้จัง” มุมปากข้างหนึ่งยกขึ้น ดวงตาคมกริบเก็บใบหน้าเกรี้ยวกราดนี้บันทึกไว้ในหัวอย่างพอใจ หญิงสาวรู้สึกถูกท้าทายเดินมาวางมือบนโต๊ะทั้งสองข้างจากนั้นโน้มหน้าไปหาสามี “ดี๊!!! จากนี้ไปฉันจะตามเหวี่ยงวีนคุณจนอยู่ไม่สุขแน่คุณหยาง” โมนากล่าวจบก็ค้อนให้ปรมะที่ยังคงแสดงสีหน้าเช่นเดิม เดินไปจนถึงประตูห้องเธอก็ยังหันมาส่งสายตาอาฆาตให้เขา “ไม่รอผมเหรอ” เอนกายพิงเก้าอี้มองชุดของเธอ วันนี้แต่งตัวเรียบร้อยดี ขัดใจแค่กระโปรงมันสั้นไปหน่อยแต่พอรับไหว “ธุระจบแล้ว หงุดหงิด!” เรื่องจะคุยก็มีเพียงเท่านี้ อยู่นานจะอยากทุบทุกอย่างในห้องนี้ “ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้า” ประโยคบอกเล่าติดจะอ้อน “มัวแต่สนใจเมียน้อยจะได้กินอะไร วางอยู่โน่น!” ชี้ไปที่ในถุง เธอเตรียมอาหารมาให้เขาด้วยเพราะรู้ว่าตาแก่โรคจิตนี่ชอบไม่กินข้าว พอกลับบ้านก็เอาเรื่องไปโทษว่าเป็นความผิดของเธอ จากนั้นก็หาเรื่องเอาเปรียบ เขาไม่เข้าบริษัทเกือบสามวันเพื่อทรมาทรกรรมร่างกายนี้ ชาตินี้อย่าหวัง เธอเตรียมแผนป้องกันไว้หมดแล้ว… ปรมะลุกไปหยิบถุงก่อนจะเปิดดูอาหารของภรรยา “วันนี้เมียน่ารัก” เสียงชายหนุ่มไม่ทำให้โมนาดีใจ หญิงสาวสะบัดหน้าหนีปิดประตูใส่อย่างไม่ไยดี พ้นร่างภรรยาชายหนุ่มก็วางอาหารลง เขาหยิบกระดาษขึ้นมาดูอีกรอบ แววตายียวนแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม กระดาษถูกมือใหญ่บดขยี้จนยับย่นก่อนจะถูกโยนลงพื้นตามด้วยเท้าเหยียบซ้ำอีกรอบ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD