ใครบอกว่านรกคือกระทะทองแดง นรกเธอคืองานแต่งงานตรงหน้านี้ต่างหาก ปรมะ พรหมนาถ
อยู่ด้วยกันจนแก่ตายเกิดใหม่ก็วนมาจุดเดิม
โมนาถอนหายใจแรงปล่อยให้ช่างคอยซับเหงื่อหลังจากแกล้งเป็นลมแต่ถูกปรมะลากออกมาจากออกแต่งตัว
ตระกูลพรหมนาถของปรมะกับตระกูลเธอสัญญาสาบานกันตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ว่าจะให้ลูกแต่งงานกัน สาเหตุไม่ใช่แค่รักใคร่กลมเกลียวแต่เพราะกลัวสมบัติลดน้อยลง ขนาดพ่อแม่ตายจากไปนานแล้ว คุณปู่ก็ไม่ลืมสัญญาทำตามโดยไม่ถามความคิดเห็นจากเธอ ปรมะยิ่งแล้วใหญ่
เขาบีบให้เธอแต่งงานทุกทาง ทั้งทำร้ายเพื่อนผู้ชายของเธอจนเข้าโรงพยาบาล ติดสินบนทุกคนรอบข้าง ชาติที่แล้วเธอจำได้ดีว่าตลอดงานแต่งไม่มีใครได้เห็นรอยยิ้มจากเธอเลยแม้แต่คนเดียว ปรมะอยู่ตรงไหนเธอถอยห่างเขาทุกครั้ง ภาพคู่จึงออกมาแย่และในงานแต่ง ภาพจารวีเลขาเจ้ามารยาอยู่ใกล้ปรมะมากกว่าเธอด้วยซ้ำ
“แกล้งเป็นลมอีกทีผมเข้าหอเลยนะ” ชายหนุ่มในชุดเจ้าบ่าวสีขาวยื่นมือไปหยิบกระดาษทิชชูมาซับเหงื่อให้บนกรอบหน้าสวยที่บรรจงแต่งมาหลายชั่วโมง
“สมองคิดแค่เรื่องนี้ ตั้งแต่หนุ่มจนแก่!” เจ้าสาวยืนเท้าเอวพร้อมใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าอกเจ้าบ่าวอย่างเคยชิน เวลาเถียงกันเธอก็มักจะทำแบบนี้กับเขา
“ดีใจที่คุณอยากอยู่กันจนแก่” ปรมะกระตุกยิ้มกับเสียงเง้างอนเหมือนลูกแมว
“โรคจิต” กี่ภพกี่ชาติก็เหมือนเดิม ตายด้านโดนด่าไม่รู้สึกรู้สา
เหตุการณ์เหมือนในอดีตกลับมาอีกครั้ง จารวีเลขาเกินหน้าที่เข้ามาเสนอหน้าในงานแต่งงานจนออกนอกหน้า อีกไม่นานจิตราก็ต้องตามมา โมนาในอดีตทำเพียงนิ่งเงียบไม่สนใจเพราะไม่แคร์ปรมะ เรื่องฉาวของเขาเธอรู้มาตั้งแต่ก่อนแต่งงาน
เธอใช้ชีวิตไม่ต่างจากหุ่นยนต์ ผู้หญิงของเขามาระรานก็นิ่งเฉยไม่ตอบโต้เก็บหลักฐานไว้ฟ้องหย่า ทว่าไม่มีทนายคนไหนยอมทำคดีให้เธอเลยแม้แต่คนเดียว หนักกว่านั้นหลักฐานถูกปรมะขโมยไปทำลายจนหมด เมียน้อยมีรอบเอวแต่ไม่ยอมหย่า คนอะไรเห็นแก่ตัวที่สุด
เหอะ ชาตินี้จะเหวี่ยงวีนจนปรมะขอหย่าแทบไม่ทัน
“รักกันนาน ๆ นะคะท่านประธาน” จารวีเลขาที่เป็นผู้หญิงของปรมะเข้ามาอวยพรคนแรก
“ยินดีด้วยค่ะ ไม่เห็นบอกเลยว่าจะแต่งงานเร็วขนาดนี้”
จิตรานางแบบสาวคนสวยตรงเข้ามาชนไหล่จารวีแล้วเอ่ยแทรกขึ้น จารวีตวัดสายตามองอย่างไม่พอใจแต่ไม่กล้าโวยวาย
นิสัยเลขาคนนี้แอ๊บชอบทำตัวอวดรู้สอนเธอทุกเรื่อง น่ารำคาญที่หนึ่ง
“รองเท้ากัดส้น ฉันขอไปนั่งพักก่อนนะคะ” เจ้าสาวที่ถูกเมินเอ่ยแทรกเพราะทนไม่ไหว ขัดหูขัดตา
ตาแก่ปรมะปากเป็นใบ้หรือไงถึงไม่คิดจะปรามคนของตัวเองบ้าง!
“ถ่ายรูปก่อนสิ” ไม่ห้ามปรามแถมยังยื่นมือมาหมายจะโอบเอวแต่จิตราเอาตัวเองแทรกเข้ามาแทน ตอนนี้กลายเป็นเจ้าบ่าวยืนขนาบด้วยจิตราและอีกฝั่งมีจารวี
“คุณหยางจะไปรั้งทำไมคะ จีถ่ายกับคุณคนเดียวก็ได้”
นางแบบสาวในชุดราตรีเกาะอกสีแดงเพลิงเบียดหน้าอกเข้าหาชายหนุ่ม
“มาถ่ายรูปเดี๋ยวนี้โมนา” เสียงทุ้มต่ำกดดันเจ้าสาวจนเธอเดินกลับมาจุดที่เจ้าสาวควรอยู่ โมนาแทรกตัวอย่างยากลำบากและสามารถดันจิตราออกไปได้
“อยากมีรูปกับเมียน้อยนักไม่แต่งกันเองล่ะ ผู้หญิงพวกนี้ก็หน้าด้านไม่เชิญก็กล้ามา” เสียงหวานกระซิบพร้อมกับแอบกัดหูเขาอย่างเหลืออด โมนาเอามือบังไว้พร้อมกับฝังเขี้ยวเล็ก ๆ ลงสุดแรง
ปรมะไม่สะดุ้งสะเทือนแต่เลื่อนมือลงบีบสะโพกงอนของเจ้าสาวแทน โมนารีบถอยเพราะกลัวเขาทำตัวโรคจิตในงานให้อายคน
โดนกัดหูยังปั้นหน้ายิ้มให้กล้องได้ ร้ายกาจ!
“คุณหยางเมียคุณพูดเกินไปแล้วนะคะ” คนโดนด่าตรง ๆ ทนไม่ไหว
“รักษามารยาทหน่อยนะคะ ในงานมีแขกท่านประธานอยู่มาก” จารวีปรามประหนึ่งเป็นเจ้าสาวเอง นอกจากเลือกสวมชุดเดรสสีขาวเหมือนชาติก่อน ตอนนี้ก็ชอบสอดเหมือนเดิม
“ไล่สองคนนี้ออกไปก่อนที่ฉันจะอาละวาดจนงานพัง ไล่ตอนนี้เลยนะคะ” เธอเขย่าแขนเจ้าบ่าวที่มองมือเธออย่างประหลาดใจ
“อย่าโกรธเดี๋ยวหน้าไม่สวย ผมจ้างคนถ่ายภาพทุกมุมเลยนะ” เขาไม่เพียงบอกแต่ยังเกลี่ยผมให้ด้วย
“วันแต่งงานเรานะคะ คุณทำให้โมนาไม่ได้เหรอคะ โมนาไม่ชอบหน้าสองคนนี้” จารวีกับจิตรามองปรมะที่ถูกเจ้าสาวอ้อนอย่างหมั่นไส้ จารวีถึงกับเผลอส่งสายตาไม่พอใจใส่โมนาอย่างลืมตัว
“จูบผมก่อน” เสียงราบเรียบออกคำสั่ง
“ปรมะ!” ไอ้ผัวบ้านี่หวังประชดให้เธออายสินะ เหอะ อย่าฝันเลย
“เลือกอะ…” เจ้าสาวรั้งต้นคอเจ้าบ่าวลงมาจูบ ปลายลิ้นเล็กสอดกระหวัดแกล้งเขาก่อนจะถอนริมฝีปากออก
โมนาแอบลอบยิ้มเพราะมั่นใจว่าเขาต้องโมโหที่เธอจูบเขาต่อหน้าบรรดาเมียน้อย เธอเชิดหน้ารอเถียงแต่สิ่งที่ได้รับกลับไม่เป็นอย่างที่คิด
เขาอมยิ้มเล็ก ๆ ก่อนจะพยักหน้าให้ธันวาคนสนิทมาพาสองคนออกจากงาน โมนาได้แต่แอบกรีดร้องในใจ
ตาแก่นี่แสดงละครเก่งตั้งแต่ยังหนุ่มเลยสินะ!