บทที่ 5 เจียงเป่าไม่สบาย
สองวันต่อมาเซียวตั๋วก็เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้าน นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงจวินได้พบกับพี่ชายคนโตของเซียวซา เขาเป็นคนที่สนุกสนานร่าเริงไม่ถือตัว อีกทั้งยังรักใคร่น้องชายอย่างเซียวซาเป็นอย่างมาก
อีกทั้งความสัมพันธ์กับเย่ซวงผู้เป็นภรรยาก็ดีไม่น้อยเลย เซียวตั๋วดูจะรักใคร่เย่ซวงไม่น้อย
เซียวตั๋วอยู่ที่บ้านเซียวต่ออีกสามสี่วันเขาก็ต้องเดินทางกลับกองทัพ ครั้งนี้บ้านเซียวต้องไปส่งดอกไม้ในเมืองพอดี จึงถือโอกาสนี้ให้คนงานขับรถไปส่งเซียวตั๋วด้วย ด้านเย่ซวงเมื่อสามีกลับไปเธอก็รู้สึกเงียบเหงาไม่น้อย
บ่ายแก่ๆ ของวันนั้นเจียงเป่าก็มีไข้ขึ้นมาเสียดื้อๆ เจียงจวินพยายามเช็ดตัวให้เท่าไรไข้ก็ไม่ลดละ อีกทั้งเจียงเป่ายังไม่ยอมกินอาหารและดูอ่อนแรงอีกด้วย ตอนนี้คนในบ้านเซียวต่างไปที่สวนกันหมด ส่วนเซียวซาก็คงจะไปที่ร้านสุราอีกตามเคย เจียงจวินจึงเดินมาหาเย่ซวงก่อนจะเอ่ยถาม
“พี่เย่ซวงคะ พอดีว่าน้องสาวฉันมีไข้ ฉันจะไปบอกป้าเซียวเสียหน่อย รบกวนฉันฝากน้องสาวเอาไว้กับพี่สักครู่ได้ไหมคะ”
เย่ซวงปรายตามองเจียงจวินอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะพูดออกมาอย่างไร้น้ำใจ
“น้องสาวเธอ เธอก็ดูเองสิ ไม่ใช่หน้าที่ฉันเสียหน่อย แล้วอีกอย่างนะ เธอเป็นแม่ครัวมาเรียกฉันว่าพี่ได้ยังไงกัน ฉันไม่ใช่ญาติส่วนไหนของเธอเลยด้วยซ้ำ ต่อไปเรียกฉันว่าคุณเย่ซวง อย่ามาทำตัวตีเสมอกับฉัน!!!”
เจียงจวินขมวดคิ้วเล็กน้อย คนเราจะแล้งน้ำใจกันขนาดนี้เลยอย่างนั้นเหรอ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอเจียงจวิน”
ยังไม่ทันที่เจียงจวินจะได้พูดอะไรต่อ ก็พบว่าเซียวซากำลังเดินเข้ามาในบ้าน ในมือของเขาถือของบางอย่างติดมาด้วยคล้ายจะเป็นห่อขนม เขาจ้องมองเธอก่อนจะเอ่ยถาม
“ว่ายังไง เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
“คือว่าเจียงเป่ามีไข้น่ะค่ะ ฉันจะต้องพาไปหาหมอ ไข้ไม่ลดลงเลย”
เซียวซาที่ได้ยินแบบนั้นก็ตกใจไม่น้อย จึงรีบเอ่ยกับเจียงจวิน
“ตอนนี้ที่บ้านไม่มีรถเลย เอาไปส่งของในเมืองแล้ว เหลือเพียงจักรยาน ร้านหมอก็อยู่ไกลออกจากหมู่บ้านไปมาก แต่ไม่เป็นไร ฉันจะปั่นจักรยานพาเธอกับน้องไปหาหมอเอง”
เจียงจวินไม่มีเวลาให้คิดแล้ว เธอเป็นห่วงเจียงเป่ามาก จึงรีบตอบตกลงทันที ก่อนจะไปยังนำเงินติดไปด้วยหนึ่งร้อยหยวน นี่เป็นเงินที่ป้าเซียวจ่ายค่าแรงล่วงหน้าให้ เดิมทีเธอไม่อยากจะรับ แต่ป้าเซียวกลับบอกว่าให้เธอเก็บเอาไว้ใช้
เจียงจวินอุ้มเจียงเป่าเอาไว้ ก่อนจะขึ้นซ้อนท้ายจักรยานของเซียวซาไปในทันที เขาพยายามปั่นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ใช้เวลาจนถึงยามเย็นก็มาถึงร้านหมอ โชคดีที่หมอยังเปิดร้านอยู่
หลังจากตรวจแล้วและได้ยากินทันที เจียงเป่าก็ไข้ลดลงแต่ยังคงนอนหลับอยู่ เจียงจวินโล่งใจไม่น้อย ก่อนจะหันมาพูดกับเซียวซา
“ขอบคุณคุณมากนะคะ ลำบากคุณมาจ่ายค่ายาให้น้องสาวของฉันอีก”
เซียวซามองดูใบหน้างดงามของเจียงจวินที่ยามนี้มีเม็ดเหงื่อผุดซึมขึ้นมาก็รีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาซับเหงื่อให้เจียงจวินอย่างอ่อนโยน เจียงจวินชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะมองผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น นั่นมันคือผ้าเช็ดหน้าของเธอนี่
เซียวซามองตามสายตาของเจียงจวิน ก่อนจะรีบชักมือกลับและเก็บผ้าเช็ดหน้าเอาไว้แล้วจึงพูดขึ้นมา
“ไม่คืนให้หรอก น้องเจียงจวินห้ามทวง”
เจียงจวินหมดคำจะเอ่ย เขาช่างดูเหมือนเด็กหนุ่มขี้เล่นเสียเหลือเกิน แต่ว่าบางเวลาแววตาของเขาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ที่แสนอบอุ่น
บางครั้งนิสัยของเซียวซา เจียงจวินก็คาดเดาไม่ออก
“หิวหรือไม่ กินสิ พี่ไปซื้อมาให้”
เขาแกะห่ออาหารออก ก่อนจะใช้ตะเกียบคีบอาหารและยื่นมาที่ริมฝีปากของเธอ เจียงจวินชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นมา
“ฉันกินเองดีกว่าค่ะ”
“ได้ยังไงกัน เดี๋ยวเจียงเป่าก็ตื่นหรอก ดูสิกำลังนอนหลับสบายอยู่บนตักเธอเลย หากเธอขยับแล้วเจียงเป่าตื่นขึ้นมาร้องไห้จะทำยังไง เธอไม่สงสารน้องสาวเหรอ”
“คือ...”
“กินเถิด พี่จะป้อนเธอเอง”
เจียงจวินไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร จึงอ้าปากกินอาหารที่เขาป้อนให้ด้วยท่าทีประหม่า เซียวซายิ้มออกมาเล็กน้อย เจียงจวินที่เห็นแบบนั้นจึงเอ่ยถามเขา
“คุณไม่กินเหรอ”
“ใช้เงินจ่ายค่ายาไปหมดแล้ว เหลือเพียงไม่กี่หยวน พอซื้ออาหารได้สองห่อ พี่ไม่หิว เธอกินเถอะ”
เจียงจวินรู้สึกผิดเล็กน้อย เขามาส่งเธอแท้ๆ แต่กลับไม่ได้กิน เมื่อคิดเช่นนั้นเธอจึงเอ่ยกับเขา
“ฉันพอมีเงินเหลืออยู่ คุณเอาไปซื้อดีไหม”
“ไม่ต้องหรอก เธอเก็บเงินไว้ใช้เถอะ”
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่ หากยังพูดอีกดอกเบี้ยจากสัญญากู้ยืมเงินจะเพิ่มขึ้นอีกแล้วนะ”
เจียงจวินที่ได้ยินเซียวซาพูดก็ถลึงตาใส่เขาทันที
เหลือเกินจริงๆ ขึ้นดอกเบี้ยตามใจชอบ!!!
เธอกินข้าวต่ออีกสองสามคำก็รู้สึกอิ่มแล้ว
“ฉันอิ่มแล้ว คุณกินด้วยกันสิ”
“อิ่มแล้วหรือ”
“อืม”
“อิ่มจริงๆ นะ”
“จริงค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นพี่ไม่เกรงใจแล้วนะ”
เขายิ้มตาหยี ก่อนจะตักข้าวขึ้นมากินคำใหญ่ พร้อมกับพูดขึ้นมา
“ได้กินช้อนเดียวกับน้องเจียงจวิน อาหารอร่อยขึ้นมากเลย”
เจียงจวินที่ได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มออกมาเล็กน้อย
ตลอดเวลาที่ได้รู้จักกัน เธอเองก็เริ่มรู้ว่าเซียวซาก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด บางครั้งเขาก็เป็นคนที่พึ่งพาได้
แต่การที่เขาเมาหัวทิ่มทุกวันมันเป็นสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกไม่ชอบใจเอาเสียเลย
เมื่อไม่มีสิ่งใดให้ต้องทำแล้ว เซียวซาจึงพาเจียงจวินและเจียงเป่ากลับมาที่บ้านเซียว เมื่อมาถึงก็เลยเวลาอาหารเย็นไปแล้ว เพราะเจียงจวินไม่อยู่ ป้าเซียวจึงทำอาหารกินเองหนึ่งวัน อีกทั้งเมื่อรู้ว่าเจียงเป่าป่วยก็ไม่ได้ตำหนิเธออีกด้วย บอกให้เธอรีบไปดูแลเจียงเป่าให้หายดี ทางนี้ไม่ต้องเป็นกังวล
เย่ซวงเบ้ปากเล็กน้อย เธอคีบอาหารเข้าปากก่อนจะหันมาพูดกับแม่สามี
“เป็นแม่บ้านเแท้ๆ กลับให้เจ้านายไปส่งหาหมอ หน้าที่ตนเองไม่รู้จักรับผิดชอบ แย่จริงๆ คุณแม่ดูสิคะ ไปไหนไม่บอกสักคำ ใช้ได้ที่ไหนกัน”
เซียวซาหันมามองเย่ซวง ก่อนจะยิ้มออกมา แต่ทว่าน้ำเสียงที่เอ่ยออกมาจากปากของเขาไม่ได้มีความอ่อนโยนอยู่เลยแม้แต่น้อย
“ก่อนไป เจียงจวินก็บอกแล้วว่าเจียงเป่าไม่สบายมาก พี่สะใภ้ใหญ่ก็ได้ยินกับหู แต่ไม่บอกแม่ของผมสักคำ กลับมาต่อว่าคนอื่นไปเรื่อย ใครกันแน่ครับที่มีนิสัยแย่น่ะ”
เย่ซวงที่ได้ยินแบบนั้นก็หน้าเสีย รู้สึกอับอายไม่น้อย ยิ่งได้มองดูพ่อแม่สามีที่ไม่คิดจะออกหน้าปกป้องเธอก็ยิ่งโมโห วางตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างแรง ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องทันที ป้าเซียวถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย
เวรกรรมใดกัน เธอจึงมีสะใภ้เช่นนี้มาอยู่ร่วมบ้านด้วย!!!