“เฮ้ย! ใจเย็นหนุ่ม เรื่องนี้นายไม่ต้องยุ่ง หวานผิดนะที่เป็น...” ณรงค์เดชกำลังห้ามสักรินทร์ แต่คงช้าไป สักรินทร์ถลาเข้าหากัญญาภรณ์ ทุกคนคิดว่ากัญญาภรณ์อาจถูกทำร้ายจึงพร้อมใจกันช่วยปกป้อง ทว่ายังไม่ทันเข้าช่วย ทุกคนก็ต้องอึ้งเมื่อสักรินทร์ถูกกัญญาภรณ์ถีบเข้าที่ท้อง แล้วปล่อยหมัดใส่กึ่งกลางปากและจมูกสองครั้งติดกัน สักรินทร์หน้าหงายเลยทีเดียว
“มึงรู้จักกูน้อยไป”
กัญญาภรณ์พูดจบก็ออกมวยท่าจระเข้ฟาดหางใส่สักรินทร์ ท่ามกลางความตื่นตะลึงของทุกคนที่เห็นไม่คิดว่ากัญญาภรณ์จะมีฝีไม้ลายมือด้านการต่อสู้เก่งเช่นนี้ จากนั้นก็ตั้งการ์ดมวยเตรียมสู้เต็มที่ ลูกน้องของสักรินทร์เมื่อเห็นว่าเจ้านายโดนทำร้ายจึงก้าวเท้าเข้ามาหากัญญาภรณ์หมายเอาคืน แต่ก็ยังไม่ถึงตัวสาวหมัดหนัก ณรงค์เดชกับกรรชัยและธรรมศักดิ์พร้อมใจกันเข้าข้างกัญญาภรณ์ก็เข้ามาซัดกับลูกน้องทั้งสามคนของสักรินทร์
ส่วนคนต้นเรื่องอย่างธีรยุทธ์มองเห็นทั้งสองฝ่ายตะลุมบอนกันก็คิดหนี แต่ก็ไม่พ้นสายตากัญญาภรณ์ที่มองเห็นพอดี เธอจึงกระโดดถีบสะโพกของสามีเพื่อนจนล้มลง จากนั้นก็กระทืบไปตามลำตัวหลายครั้ง รุ่งทิวาเห็นเพื่อนรักอัดสามีตัวเองก็เข้ามาหา แต่ไม่ได้เข้ามาห้าม เธอใช้เท้ากระทืบไปตามร่างกายสามีอย่างเหลืออดและหมดความอดทน
ส่วนชุติมาไม่ได้ทำร้ายใครทั้งสิ้น เธอยืนมองดูทุกคนที่ต่อสู้กันด้วยความตื่นเต้นและตกใจ ความกลัวทำให้เธอรีบไปยืนหลบมุม และนั่นทำให้ชุติมามองเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังลุกขึ้นยืน เธออ้าปากค้างไม่คิดว่าจะพบสิงหนาทที่นี่
สักรินทร์ที่ปรี่เข้ามากัญญาภรณ์ที่บังอาจทำร้ายตนอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน เขาฉวยขวดเบียร์ที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ ตั้งใจจะใช้มันฟาดลงบนหัวกัญญาภรณ์ทว่าสักรินทร์ยังไม่ทันถึงตัวเป้าหมาย ร่างกายเขาก็กระเด็นตามแรงถีบไปชนกับเก้าอี้ทางด้านหลัง
“มึงอย่ามาหน้าตัวเมียรังแกผู้หญิงแถวนี้” สิงหนาทที่นั่งนิ่งอยู่นานทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาชำระความกับสักรินทร์ ลูกคนใหญ่คนโตที่เขาไม่กลัวเลยสักนิดเดียว “มาทางไหนกลับไปทางนั้น แล้วช่วยพาน้องสาวมึงกลับไปด้วย อ้อ...แล้วอย่าลืมสั่งสอนน้องสาวตัวเองตามที่ผู้หญิงคนนั้นบอกด้วย”
“มึงเสือกอะไรด้วย” สักรินทร์จ้องหน้าคนที่รู้ดีว่าเป็นใคร“เรื่องนี้มึงไม่เกี่ยว”
“ใช่ มันไม่เกี่ยวกับกูเลย แต่กูดันเห็นมึงจะทำร้ายผู้หญิง ต่อมความดีกูเลยกำเริบไง” สิงหนาทกวนใส่ “ถ้ามึงอยากมีเรื่องจริงๆ มีกับกูดีกว่า อย่ามีกับผู้หญิงเลย มันจะเสียชื่อสักรินทร์ลูกชายนายอริยะ นักการเมืองคนดังนะ มีเรื่องกับกูสมศักดิ์ศรีจะตายไป ว่าไง มึงอยากมีเรื่องกับกูไหม ถ้าอยากมีมาเลย กูจัดให้”
ท่าทางนักเลงโตของสิงหนาททำให้คนกร่างกับคนไม่มีทางสู้ถึงกับกล้าๆ กลัวๆ หันมามองลูกน้องของตนที่พากันนอนเจ็บหนักอยู่บนพื้นก็ยิ่งกลัว เพราะไม่มีลูกน้องช่วย แล้วยิ่งตอนนี้เพื่อนของสิงหนาทมายืนขนาบข้าง พร้อมต่อสู้เต็มที่แบบนี้ สักรินทร์ก็ไม่คิดต่อกร เขารีบเผ่นหนีทันที หวานเห็นท่าไม่ดีจึงวิ่งตามลูกพี่ลูกน้องไปอีกคน ลูกน้องของสักรินทร์ต่างพากันลุกวิ่งตามเจ้านายไปพร้อมกัน
เมื่อทุกอย่างจบลง กัญญาภรณ์ยืนมองธีรยุทธ์ที่เวลานี้นอนร้องโอดครวญอยู่บนพื้น รุ่งทิวามองสามีด้วยสายตาเย็นชาว่างเปล่า ไม่ได้รู้สึกสงสารสักนิดเดียว กัญญาภรณ์หันมาทางกลุ่มเพื่อนของธีรยุทธ์ที่เข้ามาช่วยเหลือตน
“ฉันขอโทษพวกคุณด้วยนะคะที่ทำให้หมดสนุก ฉันแค่มาจัดการผัวชั่วๆ ของเพื่อน ไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนี้ค่ะ และขอบคุณคุณทั้งสี่คนค่ะที่ช่วยฉัน”
กัญญาภรณ์ยกมือไหว้ขอบคุณชายทั้งสี่ที่เข้าใจว่าเป็นเพื่อนธีรยุทธ์ แม้จะเคืองว่าพวกเขารู้ทั้งรู้ว่าธีรยุทธ์มีภรรยาแล้ว แต่ก็ยังทำนิ่งเฉยที่ธีรยุทธ์พาเมียน้อยมาร่วมวงสังสรรค์ แต่ในเมื่อพวกเขาช่วยตน เธอก็ต้องกล่าวขอบคุณตามมารยาท
“จริงๆ แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของเพื่อนเธอนะ น่าจะเรียกตัวเต้ไปคุยกันดีๆ มากกว่ามีเรื่องกันตรงนี้ เพราะฉันกับเพื่อนไม่รู้จักเต้ เพิ่งมารู้จักก็วันนี้ตอนที่ตั้มพามา มันทำให้ทุกคนเดือดร้อน ข้าวของเสียหายและหมดสนุก” สิงหนาทพูดความจริง กัญญาภรณ์มองหน้าคนพูดนิ่ง ผู้ชายคนนี้รูปร่างสูงกว่าใครเพื่อนความสูงคงมากกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบห้า ใบหน้าเขาหล่อเข้ม เคราที่ขึ้นเล็กน้อยทำให้เขาดูน่าเกรงขามและมีเสน่ห์ไปในที ดวงตาเขาทำให้กัญญาภรณ์ขนลุกทว่าก็ไม่หลบสายตาที่มองมา จ้องมองกันอย่างไม่มีใครยอมใคร “ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นใครจะรับผิดชอบ”
“ไอ้พี่เต้ไง มันเป็นตัวต้นเหตุก็ต้องรับผิดชอบ” กัญญาภรณ์คิดว่าคนที่สมควรรับผิดชอบคือธีรยุทธ์
“ฉันก็เห็นว่า ไอ้เต้เหมาะสุดที่จะชดใช้เรื่องค่าเสียหาย” นายหัวสิงห์เห็นดีด้วย “แล้วรู้ไหมว่า คนที่เธอมีเรื่องด้วยคือใคร เขาใหญ่แค่ไหนในพื้นที่นี้”
“ใหญ่แค่ไหนก็ไม่กลัว ก็น้องสาวมันทำผิดนี่นา ฉันจะให้เพื่อนฉันฟ้องร้องนางด้วย โทษฐานเป็นเมียน้อยทำให้ครอบครัวคนอื่นแตกแยก”
กัญญาภรณ์พูดอย่างตั้งมั่น สิงหนาทมองเจ้าของใบหน้าสวยหวานที่มีความมั่นใจสูงด้วยความรู้สึกย้อนแย้ง ใจหนึ่งทึ่งในความเก่งความกล้า แต่อีกใจกลับหมั่นไส้
“คิดเหรอว่ากฎหมายจะเล่นงานหวานได้ เธอไม่รู้หรอกว่าเล่นอยู่กับใคร นอกจากจะมีแบล็กดี แบล็กใหญ่กว่าท่านอริยะ นักการเมืองในพื้นที่นี้”
กัญญาภรณ์ตกใจไม่น้อยที่รู้ว่า ชายหนุ่มที่จระเข้ฟาดหางกับหวานเป็นลูกหลานใคร อริยะมีชื่อเสียงไม่น้อย เป็นชื่อเสียงทางด้านเสียซะมากกว่า แล้วเธอก็รู้ว่า เขาคนนี้มีอำนาจในพื้นที่มากแค่ไหน
“ฉันไม่กลัวหรอก ฉันก็มีแบล็กดีเหมือนกัน” กัญญาภรณ์พูดไปโดยไม่คิด ชุติมามายืนข้างพี่สาว กระตุกแขนเสื้อเบาๆ เชิงเตือน ทว่าเธอกลับไม่สนใจ “พวกคุณไม่รู้หรอกว่า ฉันเป็นใคร ถ้ารู้คุณคงไม่ถามฉันแบบนี้”
สิงหนาทมองหน้าสาวสวยผู้มั่นใจ ก่อนพูดออกไป
“แล้วเธอเป็นใครล่ะ บอกฉันเอาบุญได้ไหม”
“ฉันเป็นเมียนายหัวสิงห์” สิงหนาทและผองเพื่อนพากันตกใจ มองหน้ากัญญาภรณ์ก่อนหันมามองหน้าสิงหนาท แล้วหันไปมองหน้าเจ้าของคำตอบอีกครั้ง
ชุติมาอยากจะร้องไห้กับคำตอบของกัญญาภรณ์ เธอรีบกระตุกแขนเสื้อญาติสาวหลายครั้ง แต่เจ้าของเสื้อก็ไม่หันมามองสักนิดเดียว ชุติมากำลังใช้วิธีกระซิบเตือนกัญญาภรณ์ ทว่าเสียงของสิงหนาทดังขัดขึ้นเสียก่อน
“เธอว่า เธอเป็นเมียใครนะ นายหัวสิงห์งั้นเหรอ นายหัวสิงห์ที่ว่านี้เป็นคนที่ไหน”
สิงหนาทถามเพื่อความแน่ใจ คิดว่าน่าจะมีคนที่ชื่อนายหัวสิงห์อีกคนหรือสองคน แต่ที่รู้ในสามสี่จังหวัดใกล้เคียง มีเขาคนเดียวที่ถูกเรียกว่า นายหัวสิงห์แล้วนายหัวสิงห์คนนี้ก็ยังไม่มีเมียด้วย
“พี่แพร...” ชุติมาพยายามเตือนแต่ก็เตือนไม่ทันเช่นเคย
“นายหัวสิงห์ลูกชายเถ้าแก่สันต์ไงล่ะ เขาอยู่ตรังแต่มีธุรกิจอยู่ที่กระบี่กับภูเก็ตด้วย ฉันเชื่อว่าแบล็กฉันดี สามีกับพ่อสามีของฉันต้องช่วยฉันแน่นอน อริยะก็อริยะเถอะ ฉันไม่กลัว”
กัญญาภรณ์พูดอย่างมั่นใจ สิงหนาทอยากจะหัวเราะให้ลั่นผับกับคำตอบของสาวหมัดหนักผู้มีความมั่นใจเกินร้อย เขาหันมายิ้มกับเพื่อนอีกสามคนที่ไม่ได้พูดอะไร ให้เธอคิดไปว่าเป็นเมียนายหัวสิงห์ต่อไป
“เอ...ฉันก็รู้จักนายหัวสิงห์นะ แต่ทำไมถึงไม่รู้ล่ะว่านายหัวสิงห์มีเมีย ใช่ไหมพวกเรา นายสามคนรู้เรื่องนี้ไหม” สิงหนาททำทีหันไปถามเพื่อนที่พากันตอบพร้อมเพรียง
“ไม่รู้”
“แหมจะรู้ได้ไงก็ฉันแต่งงานกับนายหัวสิงห์เงียบๆ ไม่ได้ป่าวประกาศให้ใครรู้ เอาเป็นว่าเรื่องนี้รับรองว่า เพื่อนฉันชนะแน่” กัญญาภรณ์ตอบกลับฉะฉาน ราวกับว่าเธอเป็นเมียนายหัวสิงห์จริง “ฉันขอตัวกลับก่อนนะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
กัญญาภรณ์เดินลงบันไดทันทีที่พูดจบ โดยมีรุ่งทิวากับชุติมาเดินตามไปติดๆก่อนชุติมาจะก้าวลงบันได เธอหันมายกมือไหว้นายหัวสิงห์ ยิ้มแห้งๆ ให้แล้วเดินตามกัญญาภรณ์ออกไปจากผับ
“ไอ้สิงห์ มึงมีเมียตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” ณรงค์เดชถามเพื่อนรัก
“เออสิ กูยังงว่ามีเมียตอนไหน ไหงไม่รู้จักเมียตัวเองวะ”
สิงหนาทตอบกลับเพื่อน
“แล้วมึงจะปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นเที่ยวอ้างไปทั่วเหรอว่า เป็นเมียมึง” คนถามคือธรรมศักดิ์
“คนที่มากับผู้หญิงคนนั้นกูรู้จัก กูเห็นกระตุกแขนเสื้อผู้หญิงคนนั้นบ่อยๆ คงส่งสัญญาณบอกแต่คงไม่ทัน พรุ่งนี้ฉันจะไปหาคำตอบด้วยตัวเองว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”
สิงหนาทบอกในสิ่งที่เห็นให้เพื่อนรู้ เขาชักสนใจหญิงสาวนิสัยห้าวขึ้นมา ที่ว่าสนใจไม่ใช่เพราะรูปร่างหน้าตา ทว่าเขาสนใจว่า ผู้หญิงคนนี้เหตุใดจึงอ้างว่าเป็นเมียตน แล้วเคยอ้างมาแล้วกี่ครั้งกี่หนเพื่อจุดประสงค์ใด งานนี้สิงหนาทไม่ปล่อยให้เธอลอยนวลแน่นอน