ตอนที่ 4

1109 Words
“อูย... หนูจ๋า... ฉันไม่ไหวแล้ว... น้ำอ้อย... อ่า” เควินปลดปล่อยเสียงครางต่ำในลำคอออกมาเพียงเฮือกสั้นๆ จากนั้นก็ฉีดน้ำกามสีขาวข้นราวกะทิก็พวยพุ่งออกมาเป็นสาย “อ๊าค... ” น้ำเชื้อของเขาทะลักล้นอยู่ในอุ้งมือ ปลิ้นออกมาจากซอกนิ้ว ดุ้นเนื้อร้อนผ่าวกระตุกงึ่กงั่ก หัวมนทู่ส่ายพ่นของเหลวออกมามากมาย บางส่วนฉีดพุ่งขึ้นมาเปรอะอยู่ที่กล้ามท้องเป็นลอนน่าลูบไล้ กลิ่นคาวสวาทของหนุ่มใหญ่โชยคลุ้งไปทั้งห้อง เควินพริ้มตามีความสุข นานแล้วที่เขาไม่เคยรู้สึกอ่อนไหวกับผู้หญิงคนไหนรุนแรงเหมือนอย่างที่กำลังรู้สึกกับหญิงสาวคนนี้ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าทุกวันนี้เขาเอาแต่ตั้งหน้าตั้งมาทำงาน คนงานในไร่อ้อยทุกคนต่างก็รู้ว่าเควินเป็นคนบ้างาน อดีตที่เจ็บปวดจากการทำธุรกิจแล้วโดนหุ้นส่วนหักหลังจนเกือบจะกลายเป็นบุคคลล้มละลาย ทำให้เขาตัดสินใจหนีจากความวุ่นวายของเมืองหลวง มาทำไร่อ้อย ใช้ชีวิตสงบ ปลีกตัวจากสังคมที่เคยวุ่นวายมาสู่ความเรียบง่ายอยู่ที่บ้านกลางป่าอ้อยในจังหวัดกาญจนบุรี ‘ยัยเด็กบ้า... เธอทำให้ฉันต้องช่วยตัวเองเชียวหรือนี่?’ เควินพึมพำอยู่ในความคิด ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าในชีวิตนี้ตัวเองจะต้องมานั่งชักว่าวในวัยเฉียดสี่สิบปี ทั้งที่ชีวิตนี้ก็ผ่านผู้หญิงมากมาก เคยตะลุยกามโลกีย์มาอย่างโชกโชน แต่วันนี้กลับแพ้พ่ายเสน่ห์ของหญิงสาวตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่มีชื่อว่า ‘ น้ำอ้อย’ คนนี้ ‘บ้าที่สุด’ เควินโทษว่าเป็นความผิดของหล่อน... พาลโทษความสวยและความสาวของหล่อน ที่ทำให้หนุ่มใหญ่คนหนึ่งเกิดอาการ ‘ใจแตก’ ขึ้นมาอีกครั้ง โดยลืมไปว่าทั้งที่ความจริงนั้นเป็นเพราะว่าเขาหมกตัวอยู่กับงานในไร่อ้อยมานานเกินไป   ทุกวันนี้เควินชอบใช้ชีวิตสมถะ แม้จะกลับมาร่ำรวยได้อีกครั้ง แต่ความเป็นอยู่ของเขาก็เรียบง่าย ผู้ชายคนนี้เป็นประเภทติดดิน อยู่ง่าย กินง่าย คนงานในไร่ทุกคนรักเขา            นี่กระมังที่เป็นข้อเสียของการหมกตัวอยู่แต่ในไร่อ้อย ครั้นเมื่อมีโอกาสได้เจอเนื้อขาวๆ เจอสาวนมใหญ่ตรงตามสเปคที่เควินใฝ่หา จึงเกิดเป็นแรงกระตุ้นรุนแรงถึงขั้นต้องนั่งชักว่าว ปลดปล่อยน้ำกามให้ขับเคลื่อนออกมาอย่างมิอาจควบคุมเอาไว้ได้   “เป็นยังไงบ้างล่ะ... อีตาฝรั่งเจ้าของไร่อ้อยคนนี้โอเคมั้ย” รำเพยรีบถามลูกสาว ในทันทีที่เหลือบไปเห็นน้ำอ้อยจอดรถมอเตอร์ไซค์แล้วเดินเข้ามาในบ้าน “คุณเคนใจดีค่ะแม่... และที่สำคัญหล่อมาก” น้ำอ้อยลากเสียงยาวที่คำว่า ‘มาก’ น้ำเสียงที่กล่าวออกมาแสดงความชื่นชมในตัวของเควิน ทำให้ผู้เป็นมารดาย่นหน้าผาก “แรดนะเอ็ง... แหม ไปทำงานวันเดียว ชมเจ้าของบ้านว่าหล่อซะงั้น... ว่าแต่อย่าไปหลงเสน่ห์เจ้าของบ้านก็แล้วกัน” นางรำเพยรีบเตือนลูกสาวด้วยความหวังดี “แต่มันก็น่าหลงจริงๆ นะแม่... คุณเคนหล่อมากอ่ะ หุ่นแม๊นแมน กล้ามแน่นมาก... ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็เท่ห์สุดๆ ท่าทางยังพวกพระเอกหนังคาวบอยแน่ะแม่” “ได้ข่าวว่าอีตาคนนี้ไม่มีเมีย... จริงหรือเปล่าวะ” นางรำเพยสงสัย เพราะว่าได้ยินแม่ค้าที่ตลาดพากันซุบซิบนินทาเรื่องของเควินกันอย่างสนุกปาก บ้างก็ว่าเขาเป็นพ่อม่าย แต่บางเสียงก็บอกว่าเขาโสด “แหม... หนูเพิ่งไปทำงานแค่วันแรกนะแม่ ยังไม่รู้อะไรมาก ถ้าแม่อยากรู้เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูจะแอบถามให้นะ” “กูก็ไม่ได้อยากเผือกขนาดนั้นหรอกนะ... ว่าแต่อีตาคนนี้เจ้าชู้หัวงูมั้ยวะ... มันเกาะแกะรุ่มร่ามกับเอ็งบ้างหรือเปล่า?” สิ่งที่มารดาถามกระแทกใจลูกสาวอย่างจัง เรื่องแบบนี้ควรเงียบเอาไว้ ถ้าแม่รู้ตายแน่ๆ “มะ... ไม่... ไม่มีอะไร” เสียงตอบตะกุกตะกักจนมีพิรุธ “อะไร... ถามแค่นี้ตอบอึกอัก” นางรำเพยจ้องหน้าลูกสาว “ก็... เลิกคุยเรื่องนี้เถอะแม่ คืนนี้มีงานวัดประจำปีที่หน้าปากซอย หนูขอออกไปเดินเที่ยวนะ” “ตามใจ... แต่อย่ากลับให้มันดึกนะ” “จ้ะ... ไม่ดึกหรอก เพราะว่าพรุ่งนี้หนูต้องไปทำงานบ้านให้คุณเคน” “อ้าว... ก็ไหนมันบอกว่าจะจ้างวันเว้นวัน... แล้วจู่ๆ เกิดติดใจอะไรขึ้นมาวะ” คิ้วโค้งของนางรำเพยชิดเข้าหากันด้วยความสงสัย “ไม่รู้สิแม่... ก็คุณเคนบอกว่าพรุ่งนี้ให้หนูมาอีก” บอกแล้วน้ำอ้อยก็รีบเดินเข้าไปในครัว กินข้าวในสำรับที่มารดาเตรียมเอาไว้ “ว่าแต่แม่มีอะไรจะให้หนูช่วยมั้ย” เสร็จจากกินข้าว ลูกสาวเหลือบมองขนมเทียนและข้าวต้มมัดที่มารดาทำเตรียมเอาไว้ขายพร้อมแกงถุงสำหรับวันพรุ่งนี้ “แม่ทำเสร็จหมดแล้ว... เอ็งจะไปเที่ยวก็ไปเถอะ... แต่อย่ากลับให้มันดึกล่ะ” กำชับด้วยน้ำเสียงห่วงใย ทอดสายตามองลูกสาวด้วยความรู้สึกชื่นชม เพราะว่าตั้งแต่เลี้ยงดูลูกคนนี้มาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย จนตอนนี้หอยใหญ่กว่าฝาตีน ลูกสาวคนนี้ก็ไม่เคยทำตัวเหลวไหลให้เสื่อมเสียเลยสักครั้ง    ในเวลาต่อมา           “คุณเคน” ที่งานวัดประจำปีหน้าปากซอย น้ำอ้อยร้องออกมาด้วยความดีใจ เมื่อเหลือบไปเห็นผู้ชายเค้าโครงร่างสูงใหญ่ไซส์ฝรั่งสุดกำยำ กล้ามแน่นโดดเด่นสะดุดตา ไม่คิดว่าเขาจะมาเดินเที่ยวงานวัด เจ้าของไร่อ้อยหันมาตามเสียงเรียก ตกใจและดีใจในเวลาเดียวกันที่เห็นหล่อน “น้ำอ้อย” “ค่ะ... คุณเคนมาเที่ยวงานหรือคะ” “บังเอิญขับรถผ่านมาน่ะ” “แล้วจะรีบกลับหรือเปล่าคะ... ถ้าไม่รีบ เดินเที่ยวงานด้วยกันสักพักมั้ยคะ” น้ำอ้อยรีบชวน “ดีเหมือนกัน... นานๆ จะได้เห็นบรรยากาศงานวัดที่จัดขึ้นอย่างครึกครื้นแบบนี้” เควินจ้องมองไปที่ร้านปาลูกโป่ง อยู่ติดกับร้านสอยดาวที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คนที่อยากเสี่ยงโชคกับการสอยดาว “เคยปาลูกโป่งมั้ยคะ... สนุกนะคะ... คุณเคนอยากเล่นมั้ย” “ไม่เคย... แต่น่าสนุกนะ” “ค่ะ... ไม่ยาก แค่ปาลูกโป่งให้แตกแลกกับของรางวัล” “ได้... จะลองดู”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD