งามเด่นหอบหิ้วเอางานมาทำที่บ้านในกรุงเทพฯด้วย เป็นงานแปลหนังสือที่ทางบรรณาธิการมอบหมายให้เธอจัดการให้ทันก่อนถึงสิ้นเดือน ถือเป็นงานง่ายเพราะเธอถนัดทางด้านแปลตัวอักษรอยู่แล้วจึงใช้เวลาลงมือทำจริงจังไม่นาน หากก็อยากสะสางให้เสร็จโดยไว ตามประสาคนมีนิสัยความรับผิดชอบสูง อาการตอนเช้าเย็นสบาย ลมพัดเอื่อยๆไม่ร้อนอบอ้าว แสงแดดก็ไม่แรงมาก เหมาะอย่างยิ่งที่จะลงมือทำงาน งามเด่นจึงหอบหนังสือเล่มหนาพร้อมด้วยอุปกรณ์ทำงานออกมานั่งด้านนอกบ้าน โต๊ะไม้รูปทรงกลมรายล้อมด้วยเก้าอี้ไม้อีกสามตัว เป็นมุมโปรดที่ทั้งเธอกับพ่อมักมานั่งเล่นอยู่บ่อยๆ ตอนใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ “หนูเด่น...” งามเด่นซึ่งนั่งทำงานได้สักพักหูเหมือนได้ยินเสียงใครเรียก สายตาจึงผละจากงานที่ทำเงยขึ้นมองหา ตรงเธอนั่งสามารถมองเห็นถึงรั้วหน้าบ้าน เธอจึงเห็นชายวัยกลางคนที่คุ้นเคยกันมานาน นานพอกับอายุของเธอกับพี่งามละเมียดนั่นแหละ “ทางนี้หนูเด่น..