3

1359 Words
ร่างกายของอัลลิยาแข็งราวกับถูกสาบ อยากจะวิ่งหนีให้ไกลห่าง หากแต่ขาทั้งสองข้างยืนนิ่งไม่ไหวติง ร่างของเธอแข็งทื่อมากกว่าเดิม เมื่อลำแขนหนารัดร่างเล็กไว้แน่น เขาโน้มใบหน้าก้มลงต่ำ ลมหายใจอุ่นร้อนที่มาพร้อมกับกลิ่นของวิสกี้ปะทะกับพวงแก้มของหญิงสาว อัลลิยาร้อนวาบไปทั้งตัว ใจสั่นไหว หัวใจเต้นระส่ำ ทำอะไรไม่ถูกดูเหมือนว่าเรี่ยวแรงของเธอสูญหายไปในพริบตา แม้ว่าจะพยายามรวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีแล้วก็ตาม “ปล่อย...ปล่อยค่ะคุณกล้า” เธอร้องออกมาในที่สุด หลังจากที่ดึงสติกลับมาและเริ่มดิ้นรนออกจากวงแขนที่รัดรึงเธออยู่ “ไม่ปล่อยมีอะไรไหม” เขาไม่พูดเปล่าหลุบสายตาโลมเลียไปทั่วดวงหน้าหวาน ต่ำลงถึงลำคอระหง เนินอกคู่สวยที่โผล่ล้นออกมากจากคอเสื้อชุดนอน มันเคลื่อนไปมาตามแรงจังหวะการหายใจของหญิงสาวที่เร็วและแรง ความร้อนรุ่มแผ่กระจายพร้อมกับความตื่นตระหนกตกใจ เมื่อปลายจมูกโด่งคลอเคลียแก้มนวลแผ่วเบา ไล้ไปมาโดยไม่ทิ้งน้ำหนัก อัลลิยาหลบปลายจมูกโด่งเป็นพัลวัน มือนุ่มนิ่มเริ่มมีเรี่ยวแรงดันแผงอกแกร่ง หวังจะให้ร่างสูงออกห่างกายตน แต่ดูเหมือนว่าร่างสูงจะไม่ขยับออกห่าง ยิ่งรัดแน่นมากยิ่งขึ้น “คุณกล้า ปล่อยยาเถอะคะ คุณกล้าเมาแล้วนะคะ” เธอพยายามเตือนสติของเขา กลิ่นวิสกี้ที่เธอสูดดมเข้าไป แปลความหมายได้ไม่ยากว่า ตอนนี้เขากำลังเมาไม่ได้สติ หญิงสาวจึงเรียกสติของเขาให้กลับคืนมา “ฉันดื่มวิสกี้ไปแค่สองสามแก้ว ไม่ทำให้ฉันเมาหรอก และที่ทำอยู่นี่สติของฉันครบถ้วนทุกอย่าง” กล้าตะวันพูดถูก สติของเขายังครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่มีอาการเมาอย่างที่เธอพูดเลยแม้แต่น้อย “ถ้าคุณกล้ารู้ตัว ปล่อยยานะคะ ยาจะขึ้นไปนอนแล้ว” เธอพูดเสียงสั่น ตอนนี้เธอเริ่มหวาดกลัวเขาเป็นเท่าตัว เมื่อได้ยินคำพูดของเขา คนขาดสติมักทำอะไรที่ไม่รู้ตัว คนเราไม่อาจถือโทษโกรธได้ แต่นี่เขาทำเพราะความตั้งใจ ความน่ากลัวจึงโอบล้อมอยู่รอบกายเธอ สัญชาตญาณของอัลลิยาบอกว่า ตนเองกำลังได้รับอันตราย “ปล่อยเหรอ ปล่อยแน่แต่หลังจากนี้” มนต์สะกดที่มีอานุภาพมากล้น สะกดให้อัลลิยายืนนิ่ง ดวงตาทั้งสองข้างเบิกกว้างด้วยความตกใจ มือและขาทั้งสองข้างของเธอสั่น หัวใจดวงน้อยนั่นเล่า เต้นแรงและดังโครมครามมากที่สุดที่เธอเคยรู้สึกได้ เมื่อริมฝีปากหยักสวยได้รูปของกล้าตะวันประกบทับเรียวปากบางอย่างจาบจ้วง เอาแต่ใจ อาการสั่นสะท้านราวกับนกน้อยต้องน้ำฝน ทำให้กล้าตะวันลอบยิ้มอย่างสะใจ เขาเพิ่มแรงบดเบียดปากมากขึ้น ใช้ชั้นเชิงที่เหนือกว่า ทำให้ปากเล็กที่อยู่ในอาการตกใจเผยอปากรับเรียวลิ้นใหญ่ที่แทรกเข้าไปในโพรงปากสาวอย่างรวดเร็ว ปลายลิ้นหนาลุกล้ำเข้าไปสัมผัสลิ้นนุ่มที่ระริกสั่นอย่างเร่าร้อน รัดเกี่ยวและดื่มด่ำความหวานจากช่องปากที่อุดมไปด้วยความหอมและหวาน เปรียบประดุจเขาตกลงไปในถังไวน์ ชิมรสชาติอันแสนซาบซ่านล้ำเลิศอย่างที่ไม่เคยได้รับจากหญิงสาวคนใดมาก่อน อัลลิยาตัวสั่นขึ้นทุกขณะ รู้สึกทั้งกลัวและหวามไหวที่วิ่งเข้าควบคู่อยู่ภายใต้อ้อมแขนแข็งแรงรัดแน่นจนเธอดิ้นรนให้หลุดพ้นไม่ได้ อ้อมกอดของเขาอาบไปด้วยความร้อนของเปลวไฟ ยิ่งอยู่ใกล้ร่างกายของเธอแทบจะละลาย ผสมกับจูบของกล้าตะวันที่ร้อนไม่ต่างกับแสงของดวงอาทิตย์ และนั่นยิ่งทำให้ร่างกายทุกสัดส่วนของอัลลิยาร้อนตามไปด้วย ร้อนไม่ต่างกับที่เธอเผชิญในความฝัน ปลายลิ้นใหญ่สากระคายยังคงเพียรหาความฉ่ำหวานไปทั่วช่องปากของเธออย่างต่อเนื่อง กล้าตะวันตระหนักแน่นในจิตใจว่า เขารังเกียจสาวน้อยในอ้อมแขนนี้มากเพียงใด แต่เหตุใดร่างกายของเขาจึงไม่รังเกียจตาม ปรารถนาจะกอดและจูบเธอต่อไป หัวใจของคนที่จูบเบิกบาน ความเคียดแค้นที่สะสมในใจมลายหายไปเมื่อได้จูบลูกสาวของศัตรู มือแข็งแรงเริ่มสำรวจไปตามร่างกายของอัลลิยาไม่เลือกที่ ลากมือตามแผ่นหลัง ข้างลำตัว เอวเล็กที่รับกับสะโพกผาย ก่อนจะวางฝ่ามือลงบนบั้นท้ายงามงอน เขาบีบเบาๆ และใช้ฝ่ามือวนเป็นวงกลมอย่างนุ่มนวล สร้างกระแสความซาบซ่านให้กับหญิงสาวที่อ่อนประสบการณ์ทางด้านนี้ได้เป็นอย่างดี เสียงดังมาจากทางด้านนอก ทำให้สติของอัลลิยาถูกดึงกลับมา หญิงสาวดิ้นรนหนีอ้อมแขนของเขา ส่ายหน้าเพื่อที่จะให้ริมฝีปากของเธอหลุดพ้นจากปากของเขา หากแต่มือแกร่งจับมั่นตรงท้ายทอยบังคับให้เธอรับจูบที่แปรเปลี่ยนเป็นความรุนแรง บดขยี้จนอัลลิยารู้สึกร้าวไปทั้งปาก ความเจ็บปวดทำให้น้ำตาสาวรินไหล ซึ่งเขาเองก็สัมผัสได้ถึงน้ำอุ่นร้อนที่กระทบกับผิวแก้ม แต่ก็ไม่อาจทำให้ชายหนุ่มที่หัวใจเต็มไปด้วยความแค้นหยุดการกระทำอันป่าเถื่อนของตน เขาบดเบียดปากกระแทกกระทั้นเรียวปากสาวต่อไปอีกชั่วครู่ จึงถอนริมฝีปากออกพร้อมกับพูดข่มขู่น้องสาวนอกสายเลือด “ถ้าเธอเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร ครั้งหน้าฉันจะทำมากกว่าจูบ จำใส่หัวเอาไว้” มือแกร่งคลายออกจากท้ายทอยที่ถูกบีบจนเจ็บร้าว และผลักร่างบางไปปะทะกับตู้เย็นอย่างไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บมากน้อยแค่ไหน จากนั้นก็เดินออกไปทางประตูด้านหลังเพื่อเลี่ยงกับเจ้าของเสียงที่อยู่ด้านนอก อัลลิยาใช้ฝ่ามือเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆ เดินตรงไปยังอ่างล้างจาน เปิดก๊อกน้ำใช้น้ำใสสะอาดที่ไหลออกมาชำระล้างใบหน้า เน้นที่ริมฝีปากขัดคราบสัมผัสแสนรัญจวนจากชายใจร้ายให้หลุดออกไป แต่น่าแปลกยิ่งขัดมากเท่าไหร่ ความรู้สึกนี้ก็ยังคงอยู่ไม่สร่างซา “คุณยามาทำอะไรในห้องครัวคะ” นกน้อยสาวใช้ประจำบ้านเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะเวลานี้เกือบตีสองทุกคนที่อยู่ภายในบ้านต่างหลับใหลกันหมด ยกเว้นเธอที่รู้สึกปวดท้องเนื่องจากประจำเดือนมา จึงออกมาจากห้องยามวิกาลเพื่อมาหายาทาน “ยาหิวน้ำค่ะ ก็เลยลงมาหาน้ำดื่ม” เธอตอบตามความเป็นจริงถึงสาเหตุที่ต้องลงมาที่นี่กลางดึก “คุณยาเป็นอะไรคะ ตาแดงๆ เหมือนร้องไห้เลย” เป็นอีกคำถามที่บัวเผื่อนสงสัย “พอดียาคิดถึงพ่อที่เสียไปก็เลยร้องไห้” “อ๋อ! นึกว่าเรื่องอะไร ที่แท้เรื่องนี้เอง อย่าคิดมากเลยค่ะ ท่านไปสบายแล้ว” สาวใช้พูดเมื่อหยิบยาออกมาจากตู้ยาประจำบ้าน ก่อนจะทานยาเพื่อบรรเทาอาการที่เป็นอยู่ เมื่อทานยาเสร็จสาวใช้ร่างเล็กก็เดินออกไปจากห้องครัว โดยมีร่างสวยของเจ้านายคนใหม่เดินตามไป กล้าตะวันไม่ได้เดินไปไหนไกล เขาแอบยืนอยู่ด้านหลังประตู มองอัลลิยาผ่านกระจกของหน้าต่างห้องครัว สายตาของเขาลุกโชนไม่ต่างกับเพลิงไฟที่แทบจะเผาไหม้ร่างสาวให้กลายเป็นจุณ “นี่แค่เริ่มต้น เธอกับแม่เธอต้องเจอหนักกว่านี้อีก” เขาพูดอย่างหมายมั่น มองตามร่างบางไปจนสุดสายตา มารดาเขาเจ็บอย่างไร นารถวลัยต้องเจ็บยิ่งกว่า เจ็บเมื่อเห็นคนที่เลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง ถูกลูกเลี้ยงหนุ่มปู้ยี้ปู้ยำอย่างไม่มีชิ้นดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD