หญิงสาวในชุดสีขาวกรุยกรายก้าวเดินไปหาชายหนุ่มด้านหน้าบาทหลวงผู้เปี่ยมเมตตาด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขที่ถูกซุกซ่อนไว้ใต้ผ้าคลุมหน้า เธอถือช่อดอกไม้มือหนึ่ง และถูกจับจูงอีกมือด้วยมือเล็กๆ ของเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบ บุตรสาวที่น่ารักของเธอเอง
เด็กหญิงนฤดีส่งมือแสนสวยของมารดาให้กับชายหนุ่มที่คุ้นเคยกันมาเป็นระยะเวลาเกือบหนึ่งเดือน ใครๆ ก็ว่าแม่ตัดสินใจเร็วเกินไปที่จะแต่งงานสายฟ้าแลบกับชายคนนี้ แต่นฤดีไม่เข้าใจเท่าไรหรอก เพราะนั่นเป็นเรื่องของผู้ใหญ่
เด็กหญิงเงยหน้ามองเขา เจ้าบ่าวของแม่เป็นชายหนุ่มวัยราวๆ สามสิบปี ใบหน้าคมคายสะอาดสะอ้าน เขาสูงมากๆ เลยในสายตาของเด็กหญิง และมีรอยยิ้มที่ใจดีมากด้วย
“ขอบคุณมากนะครับ เนื้อนุ่ม”
เขารับมือแม่ไปและก้มลงมาลูบหัวเธอ นฤดีแย้มยิ้มเอียงอาย ก่อนรีบวิ่งไปนั่งตรงม้านั่งหน้าสุดของโบสถ์แสนสวย
วันนี้แม่สวยเหมือนเจ้าหญิงเลย...
พิธีการดำเนินไปตั้งแต่ต้นจนจบราวกับตอนจบในนิทานที่แม่ชอบเล่าให้ฟัง มันงดงาม อ่อนหวาน และนฤดีแอบวาดฝันว่าอยากมีงานแต่งงานแสนสวยแบบนี้บ้าง
ค่ำคืนแรกของการย้ายเข้ามาใช้ชีวิตในบ้านใหม่ นฤดีมีห้องใหม่ใหญ่โตกว่าเดิม การตกแต่งเป็นสีขาวสลับชมพูและมีตุ๊กตาบนเตียงแทบจะล้นจะร่วง เธอหลับฝันหวาน ฝันถึงการแต่งงานของตัวเองเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ และหลับลึกด้วยความเหนื่อยและเยาว์วัย
จึงไม่ได้ยินเสียงใดๆ จากห้องข้างๆ ที่มีประตูเชื่อมกันเลย...
เธอรู้แค่ว่าวันต่อมา แม่ถูกพบเป็นศพหมดลมหายใจอยู่ในห้องนอน!!!
เสียงเพลงดังสนั่นในรถยนตร์คันหรู พานให้นฤดีรู้สึกใจเต้นแรงและรำคาญใจไปพร้อมๆ กัน ยิ่งรู้สึกว่าถูกรัดรึงร่างกายอย่างน่าอึดอัด เธอก็ยิ่งหอบหายใจแรงด้วยความหงุดหงิด และพยายามปัดมือหนาหยาบที่กำลังลูบคลึงเนื้อตัวออกจากร่างพร้อมลืมตาฉับ
ที่เห็นตรงหน้าคือเพื่อนหนุ่มนามว่าเจโรม หรือจะเรียกว่าคนที่ ‘ดูๆ กันอยู่’ ก็ไม่ผิดนัก เพราะเขาเพิ่งขอเดทกับเธอเมื่อวานที่โรงเรียนไฮสกูล และเธอตอบตกลง
เจโรมเป็นหนุ่มเยอรมันที่เดินทางมาเรียนไฮสกูลประเทศเดียวกับ นฤดี วันนี้เขาพาเธอไปกินข้าว ดูหนัง แล้วจบที่การสนุกสุดเหวี่ยงในผับ เธอได้ลิ้มรสแอลกอฮอล์เป็นครั้งแรก มันขมเป็นบ้า แต่ก็แสบซ่าซาบซ่านในคอจนต้องต่ออีกหลายแก้ว
หญิงสาวปัดผมที่ถูกย้อมเป็นสีบลอนด์ทองอย่างเอาแต่ใจ ดวงตาถูกกรีดด้วยอายไลน์เนอร์คมเฉียบมองสบตาเจโรมที่กำลังทำสีหน้าเว้าวอนราวกับหากว่าเธอปฏิเสธ เขาจะขาดใจตายเป็นแน่
“โธ่ เบบี๋” ชายหนุ่มโน้มหน้ามาหา เขาจอดรถที่ข้างทางเปลี่ยว เปิดเพลงดังลั่น ปิดไฟหน้า ตั้งใจเผด็จศึกเต็มที่ แต่สาวน้อยสุดสวยกลับมีท่าทีจะไม่ยอมอ้าขาให้ “ขอผมเถอะนะ ผมจะทำให้คุณสุขสมที่สุดในชีวิตเลย นาเดีย”
กลิ่นแอลกอฮอล์และลมหายใจร้อนๆ เป่ารดซอกคออย่างกระหาย นฤดีลังเล แต่เมื่อเขาเอื้อมมือมาจับหน้าอก บีบเคล้นหยอกเย้า พร้อมจูบดูดซอกคอด้วยความพิศวาส หัวใจสาวก็หัวใจเต้นกระเส่า แหงนเงยใบหน้าอ่อนระทวย
ชายหนุ่มกอบกุมทรวงอกจากนอกร่มผ้าและกำลังดูดดื่มที่เนินอกเปลือยขาวผ่องของวัยสาวแรกแย้ม เพราะเธอสวมเสื้อยืดคอลึก เผยให้เห็นเนินเนื้อเต่งตึงเยาว์วัย มันหวานละมุนลิ้น และนุ่มนิ่มเป็นบ้า อาส์... กลิ่นหอมๆ ของเธอกำลังทำให้เขาคลั่ง!
“โอวส์ เบบี๋” ชายหนุ่มกระซิบ เขากำลังเลื่อนลิ้นลงไปใต้บราเซียสีแดงเพลิง และค้นพบเม็ดบัวรัดตัวแน่นข้างใต้นั้น
จ๊วบ จ๊วบ
“อืมส์ อาส์...” นฤดีเลียริมฝีปาก มันเสียวปราดไปหมด หล่อนแอ่นอกให้เขาอย่างใจถึง “เอามันออกมา ซี๊ดส์ ได้โปรด อมมันทั้งเต้าเลยที่รัก อาส์! เจโรม เจโรม!”
แคว่ก!
ชายหนุ่มกระชากเสื้อขาดวิ่น ก่อนรั้งบราเซียลงจนเต้างามเด้งดึ๋งขึ้นๆ ลงๆ ตรงหน้า เจโรมคำรามราวกับสัตว์! เขาพุ่งเข้าขย้ำ บีบขยำ ดูดดึงดังจ๊วบจ๊วบจ๊วบ จนนฤดีแทบแดดิ้น เธอกรีดร้องเสียงหวาน ขยับสะโพกเข้าหาเขาตามสัญชาตญาณ
“ใจเย็นที่รัก” เจโรมผละออกไปถอดเสื้อออก “ความสนุกเพิ่งเริ่มต้น ราตรีนี้ยังอีกยาว!”
เขากระชากร่างน่าปรารถนาให้นอนลงจนศีรษะชนประตูรถ ส่วนกระโปรงสั้นจู๋ถูกรูดขึ้นไปกองที่เอว ชายหนุ่มก้มลงแลบลิ้นเลียเอวเล็กๆ ที่สองมือกำได้รอบ ก่อนปลดกางเกงในออกโดยที่สาวเจ้าแทบไม่รู้ตัว เขาพบว่ามันมียางเหนียวของความใคร่ติดเป้ากางเกงในไปด้วย
“เตรียมครางเสียวซี๊ดส์ได้เลย ที่รัก”
เขาเปิดเพลงดังขึ้นจนกระจกรถสั่น ก่อนก้มหน้าลงสู่ความเปียกชื้นหอมกรุ่นของสาวพรหมจรรย์ ปากอ้างับเม็ดสวาทอย่างมากประสบการณ์ ก่อนแลบลิ้นเลียรัวๆ แล้วดูดดื่มน้ำหวานที่ล้นพลั่กออกมาด้วยแรงอารมณ์หวามของสาวเจ้า
“อาส์” หญิงสาวแอ่นสะโพก แอ่นเอวบางๆ ด้วยความสยิว “อือ โอว... ซี๊ดดดส์”
แผล่บๆๆๆๆ จ๊วบบ!!
“อ๊า! ต่ำอีก เจโรม ต่ำลงอีก!”
หญิงสาวร่อนเอวอย่างเอาแต่ใจ จนเขาอ้างับตรงร่องสวาท แยงลิ้นเข้าๆ ออกๆ ตรงปากทางแค่ไม่กี่ครั้ง ร่างกายเธอก็ซ่านไปด้วยความสุข ธารน้ำพรั่งพรู ร่างกายกระตุกเร่าอย่างไม่คาดฝัน
“โอ ดีเป็นบ้าเลย”
นฤดีทิ้งตัวลงกับเบาะรถอย่างหมดแรง ตาลอยมองออกไปนอกกระจกรถด้วยความสุขซ่าน ก่อนที่เธอจะสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายพยายามแหย่อะไรบางอย่างที่ใหญ่โตมหึมาเข้ามาทางช่องเล็กๆ กลางตัว
“เจโรม!” หญิงสาวดิ้น ดึงขาตัวเองคืน “จะทำอะไรน่ะ!”
“โธ่ นาเดีย” เจโรมก้มลงมาจูบปิดปาก ก่อนกระซิบ “ถึงขั้นนี้แล้ว มาเอากันเถอะ ผมทนไม่ไหวแล้ว”
หญิงสาวยินยอมให้เขาจูบลงไปยังแอ่งชีพจรที่เต้นเร่า แต่ดวงตา คู่สวยมีแววลังเล ความที่ไม่เคยในเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย ทำให้รู้สึกหวงแหน ‘ครั้งแรก’ อย่างไรชอบกล แต่หากดื้อดึงขัดขืนต่อไปคงต้องถูกเขายัดเยียดความใหญ่โตเข้ามาในร่างอย่างกักขฬะป่าเถื่อนแน่
“ขอลองอมหน่อยได้ไหม” หญิงสาวพูดพลางหอบหายใจกระเส่า ใจคิดว่าถ้าทำให้เขาถึงสวรรค์โดยไม่ต้องสอดเสียบ ความกระเหี้ยนกระหือรืออยากเด้าเธอของเขาอาจน้อยลง “อยากลองชิมดูว่าไส้กรอกเยอรมันรสชาติเป็นยังไง”