บทที่7
อาจารย์เวย์สายเปย์ที่แท้ทรู
ข้าวฟ่างเดินมานั่งรอที่โซฟาในห้องอาจารย์จากนั้นเวย์ก็หยิบหนังสือทบทวนตั้งแต่ปีหนึ่งมาให้เธอ
“ของปีหนึ่ง?” ฉันหรี่ตามองพร้อมกับกระตุกยิ้ม
“งานที่ผมให้ทำคืองานของเด็กปีหนึ่ง”
ข้าวฟ่างถึงกับหน้าเสีย เธอไม่คิดว่าสมองของเธอจะเอ๋อได้ขนาดนี้ เวย์ลากเก้าอี้มานั่งข้างๆเธอจากนั้นก็เริ่มอธิบายเรื่องที่เรียนวันนี้ให้ฟัง
“หนูว่าหนูคงต้องมาติวกับอาจารย์แล้วค่ะ”
“ผมก็ว่างั้นแหละ งั้นเอางี้ไปติวที่คอนโดผมก็แล้วกัน”
“คอนโด?”
“ใช่ คอนโดผมนี่คีย์การ์ดสำรองเผื่อวันไหนผมติดงานด่วนก็ไปรอที่คอนโดเลย”
“ค่ะ ตามนั้น”
“ส่วนวันนี้เอาหนังสือพวกนี้ไปทบทวนก่อนพรุ่งนี้ค่อยเริ่มติว”
“ค่ะ”
ทั้งสองดูเวลาที่ข้อมือตอนนี้เวลาก็เกือบ6โมงเย็นแล้ว เวย์จึงอาสาพาเธอไปเลี้ยงข้าวก่อนจะเดินซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าด้วยกัน
“บ้านคุณทำงานอะไรเหรอ”
“ขายยาจีนค่ะ เตี่ยเป็นแพทย์แผนโบราณ”
“อ๋อ...อยู่แถวไหนเหรอ”
“แถวนี้แหละค่ะ หนูเป็นคนโลกส่วนตัวสูงชอบอยู่คนเดียวเลยขอมาอยู่หอ”
“เหมือนผมเลย ผมก็ชอบอยู่คนเดียวพ่อแม่ผมเป็นทูตอยู่อเมริกาผมเบื่ออะไรที่มันจำเจเลยขอกลับมาทำงานอยู่ที่นี่ดีกว่า”
“ทำไมอาจารย์ถึงเลือกเป็นครูคะ”
“แม่ผมอยากให้เป็น อยากให้มีอาชีพที่มั่นคงผมว่ามันก็ดีนะธุระกิจที่ผมทำมันก็แค่ฉาบฉวย”
“หนูชอบความคิดของอาจารย์นะคะ”
“ชอบแค่ความคิดเหรอ?”
“คะ?..” ฉันถึงกับหันไปมองหน้าอาจารย์ที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงพร้อมกับยิ้มเบาๆ “อาจารย์พูดอะไรคะ...”
“ผมล้อเล่น ว่าแต่คุณกับผู้ชายคนนั้นลงเอยกันแล้วใช่ไหม”
“ยังค่ะ หนูยังไม่ได้คุยกันเลยแค่บังเอิญเจอกันที่ผับพี่แทนเลยอาสามาส่ง”
“เหรอ ผมก็คิดว่าคุณกับเขาคบกันแล้ว”
"ยังค่ะ.."
ทั้งสองเดินคุยกันจนมาถึงช็อปกระเป๋าแบรนด์ดัง ข้าวฟ่างยืนมองด้วยความอยากได้ ใช่ว่าเธอไม่มีเงินซื้อแต่เธอมีนิสัยขี้งกจึงมองว่ามันไม่จำเป็น
“เข้าไปสิผมซื้อให้”
ข้าวฟ่างถึงกับหันมามอง เมื่ออาจารย์เวย์เอ่ยปากว่าจะซื้อให้เธอ แถมยังดันตัวเธอเข้ามาในร้านอีก โอ้ยตายแล้วไม่อยากได้จริงๆน๊าาา
“อาจารย์คะ หนูเกรงใจ”
“อยากได้ใบไหนก็ซื้อเลยผมมีปัญญาจ่ายไม่ต้องกลัวหรอก”
“ไม่ใช่ค่ะ หนูซื้อเองได้ค่ะแต่หนูมองว่ามันยังจำเป็นเท่าไหร่”
“ซื้อ!”
น้ำเสียงดุเบาๆของเวย์ทำให้ข้าวฟ่างยอมหันกลับมาเลือกกระเป๋าที่ชั้น เธอเดินเลือกไปเรื่อยๆโดยมีสายตาของอาจารย์เวย์มองอยู่ด้านหลัง
“ใบบี้สวยมากนะคะเหลือแค่ใบเดียวด้วย”
ข้าวฟ่างรีบพลิกดูป้ายราคาถึงกับใจหายเธอรีบวางกระเป๋าด้วยความเบาก่อนจะยิ้มให้กับพนักงานขาย แม้ในใจเธอจะอยากได้แต่ด้วยราคาที่แพงขนาดนี้ทำเอาเธอเดินถอยหลังทันที
ปึก!
เพียงแค่ก้าวถอยหลังเธอก็ชนเข้ากับแผงอกของชายหนุ่มที่เดินเข้ามาหาเธอ
“อาจารย์...” ฉันเงยหน้ามองอาจารย์ที่ก้มลงมาเดี๋ยวใกล้ไปหนูเขินน อีกนิดจะจุ๊บเหม่งอยู่แล้วนะ
“เอาใบนั้นแหละครับ” ผมส่งบัตรให้พนักงานจากนั้นก็พาเธอมานั่งรอที่โต๊ะ เกือบไปแล้ใจนี่เต้นตึกตักๆไม่อยุดเลย
“อาจารย์ใบนั้นเกือบสองแสนเลยมันแพงไปค่ะหนูเกรงใจ”
“แล้วไง?”
“เฮ้อ..”
ดูท่าเวย์จะหัวดื้อเกินไปข้าวฟ่างจึงยอมปล่อยไปตามเรื่อง เมื่อพนักงานนำกระเป๋าที่ใส่กล่องและใส่ถุงสุดหรูมาส่งทั้งสองก็รีบเดินออกมาจากช็อปทันที
“ทำไมถึงซื้อให้หนูคะ”
“ทำไมล่ะ ซื้อให้ไม่ได้เหรอ”
“ปกติอาจารย์ซื้อให้ผู้หญิงทุกคนเลยไหมคะ”
“ไม่อ่ะ เธอคนแรก” ผมตอบกลับไปจากนั้นก็พาเธอลงมาที่ลานจอดรถ “อยากไปไหนอีกไหม”
“ไม่แล้วค่ะ แค่นี้ก็เกินพอแล้ว”
“ไม่อยากเมาเหรอปกติเห็นเธอสิงอยู่แต่ร้านเหล้า”
“อาจารย์ดูพูดเข้าฮ่าๆๆ”
สุดท้ายเวย์ก็เลือกที่จะมาส่งข้าวฟ่างที่หอพักทั้งสองยังนั่งคุยกันอยู่ในรถจนเวลาล่วงเลยมานานข้าวฟ่างจึงขอตัวขึ้นไปพักผ่อน
“พรุ่งนี้อย่าลืมใช้กระเป๋าที่ผมซื้อให้ล่ะ” ผมมองหน้าเธอพร้อมส่งสายตาเชิงบังคับไม่ใช้นะน่าดู
“ค่ะ.. ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
“ครับ..”
เวย์ยังรอให้เธอเดินเข้าห้องเสียก่อนถึงจะขับรถออกมา วันนี้ตนไม่ได้ออกไปไหนจึงกลับมานอนพักที่คอนโด สายตาที่มองตัวเองผ่านกระจกใบใหญ่ก็เผลอยิ้มออกมาจนต้องรีบสลัดความคิดจากนั้นก็เข้าไปอาบน้ำ
“อาการหนักแล้วกู”
ด้านข้าวฟ่างตอนนี้เอาแต่นอนยิ้มมองถุงกระเป๋าที่วางอยู่ข้างกาย เธอไม่รู้ว่าตอนนี้ความรู้สึกที่แท้จริงมันคืออะไร
ติก!
เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ของเธอดังขึ้นเมื่อหยิบมาดูก็พบว่าเป็นหมอแทนที่ส่งรูปทานข้าวกับเตี่ยและแม่มาให้ดู ทำเอาเธอใจสั่นเล็กน้อย
ข้าวฟ่างรีบลุกขึ้นมานั่งมองหน้าจอโทรศัพท์ในใจก็พลันคิดถึงอาจารย์เวย์ ทำไมจิตใจมันร้อนรุ่มแบบนี้นะ งุ้ยย เขินนะเนี้ยย
“อีข้าวมึงคิดอะไรของมึงฮะ!”
สาวน้อยรีบวางโทรศัพท์ลงจากนั้นก็ทิ้งตัวลงนอนแล้วข่มตาให้หลับไป