คราแรกน้ำมนต์ว่าจะกลับบ้านแต่เพราะยังกลัวกับความฝันที่เหมือนจริงเมื่อคืน น้ำมนต์จึงมาหาพลอยที่บ้านกับพร้อมเลย เมื่อบิ๊กไบค์จอดในบ้านน้ำมนต์ก็เห็นพลอยนอนไขว่ห้างอยู่ที่แคร่ใต้ร่มไม้เธอจึงเดินไปหา ทางด้านพลอยขณะนอนไถหน้าจอโทรศัพท์เล่นอยู่เมื่อเห็นน้ำมนต์เดินมาจึงรีบดันตัวลุกขึ้น
“อ้าว! ไม่เห็นบอกว่าจะมา”
“ครั้งแรกเราว่าจะไม่มาหรอก แต่ตาไม่อยู่บ้านก็เลยไม่อยากอยู่คนเดียว” พลอยพยักหน้าตอบพร้อมส่งยิ้มให้ก่อนจะเหลือบมองพี่ชายเธอที่พึ่งจอดรถเสร็จจากนั้นก็มองน้ำมนต์กับพร้อมสลับกันแล้วถามขึ้นด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ
“น้ำมนต์มากับพี่พร้อมเหรอ?”
“ใช่ ทำไมเหรอ?” เพียงแค่ได้ยินคำตอบพลอยก็ยิ้มแป้นเตรียมจะพูดแซวน้ำมนต์กับพี่ชายของเธอที่ซ้อนรถมาด้วยกันแต่ก็โดนน้ำมนต์เบรกความคิดจนหัวทิ่มก่อน
“เราเจอพี่พร้อมที่บ้านพี่สายเลยขอติดรถมาด้วย”
“อ้าวเหรอ!”
“ใช่ที่สุด ไม่มีอะไรมากกว่านั้น” คำตอบของน้ำมนต์ทำเอาพลอยอดที่จะเสียดายไม่ได้เพราะในใจก็อยากได้เพื่อนมาเป็นพี่สะใภ้เหมือนกัน เนื่องจากผู้หญิงที่ชายเธอคุยไม่ผ่านสักคน
จากนั้นทั้งสองก็นั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อยส่วนพร้อมก็นั่งถ่ายน้ำมันเครื่องรถเขา สักพักพลอยก็ชวนน้ำมนต์ไปเก็บมะม่วงที่สวนหลังบ้านเนื่องจากเปรี้ยวปากอยากกินตั้งแต่เมื่อวานเพราะเห็นคนงานของพ่อนั่งจิ้มกินกับพริกเกลือ พลอยพาน้ำมนต์เดินเข้าไปยังสวนผลไม้ของพ่อเธอที่ปลูกไว้ตั้งแต่เธอยังเด็ก ๆ ทำให้ตอนนี้มันโตจนกินไม่ทันแล้ว ก็เลยให้คนงานของพ่อมาเก็บไปกินบ้าง
น้ำมนต์เดินตามพลอยเข้าไปในสวนมะม่วงที่ดูร่มรื่นเพราะทุกต้นใหญ่หมดแล้ว เมื่อเดินเข้ามาสักพักพลอยก็ไปหยิบตะกร้อมาสอยมะม่วงจากนั้นก็ยื่นให้น้ำมนต์ถือไว้
“โอ้โฮ! ลูกใหญ่มากอะ”
“ใช่ มีมะม่วงน้ำดอกไม้แบบสุกด้วยนะน้ำมนต์อยากกินไหม”
“มีด้วยเหรอ กิน ๆ” จากนั้นทั้งสองก็เดินลึกเข้าไปด้านในอีกเพื่อไปเก็บมะม่วงน้ำดอกไม้ที่กำลังสุกงอมเหลืองน่ากิน เดินไม่นานก็ถึงพลอยจึงเดินไปเด็ดเพราะต้นมันไม่ได้สูงมาก จากนั้นก็ส่งให้น้ำมนต์ถือแต่พอหันไปเห็นมือเล็กถือมะม่วงเต็มไม้เต็มมือ จึงจะล้วงถุงในกระเป๋ากางเกงที่คิดว่ายัดใส่มาแล้วทว่าหายังไงก็ไม่เจอจึงหันไปเอ่ยบอกน้ำมนต์
“เดี๋ยวเรามา ไปเอาถุงก่อน” เพราะคิดว่าพลอยคงเดินไปไม่นานน้ำมนต์จึงพยักหน้าตอบกลับไป หลังจากพลอยเดินออกไปแล้วน้ำมนต์ก็เดินดูมะม่วงสีทองซึ่งน่ากินมาก ๆ หากเป็นสวนของตาเธอสงสัยต้องเข้าสวนมาเก็บกินทุกวันแน่ ขณะที่ร่างเล็กกำลังเดินดูมะม่วงอยู่จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงคล้ายคนเดินไปเดินมา ดังมาจากด้านหลังน้ำมนต์จึงเอ่ยถามโดยที่ยังไม่ได้หันหน้าไปมองเพราะคิดว่าเป็นพลอย
แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับน้ำมนต์จึงหันไปมองเห็นคนงานผู้หญิงคนหนึ่งเดินผ่านหน้าเธอไป น้ำมนต์จึงเลือกไม่สนใจเดินดูมะม่วงต่อ ขณะที่เธอกำลังดูมะม่วงอยู่ความรู้สึกก็เหมือนมีสายตาคู่หนึ่งกำลังมองมาที่เธอจึงหันไปมองแต่กลับไม่เห็นใคร รอบข้างมีเพียงเธอคนเดียวที่ยืนอยู่ท่ามกลางต้นมะม่วงทำเอาใจเริ่มหวั่นเกรงแต่พอนึกถึงคนงานอีกคนที่เธอเห็นเมื่อครู่จึงเลือกไม่สนใจเดินดูมะม่วงต่อ
ขณะดวงตากลมโตมองไปด้านข้างจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงกำลังพูดกระซิบคุยกันดังอยู่ไม่ไกลจากเธอ ดวงตาคู่สวยจึงพยายามมองหาว่าต้นเสียงมาจากไหนเผื่อว่าเป็นคนงานเธอจะได้เข้าไปทักทายพูดคุยระหว่างรอพลอยกลับมา
แต่ถึงจะพยายามมองหาแค่ไหนก็ไม่เจอทั้งที่เสียงมันก็ดูเหมือนจะอยู่ใกล้ ๆ น้ำมนต์พยายามเดินหาต้นเสียงที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ มีทั้งเสียงพูดคุยกันและเสียงหัวเราะ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นสะอื้นไห้จวนเจียนจะขาดใจ ทำเอาน้ำมนต์หวนคิดถึงความฝันเมื่อคืนจนเริ่มหวาดกลัวขึ้นมา ดวงตากลมโตพลันกวาดสายตามองไปรอบสวนมะม่วงจู่ ๆ เธอก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างกำลังวิ่งพุ่งมาหาเธอจากทางด้านหลังน้ำมนต์จึงรีบหันไปมอง ก่อนจะเห็นพลอยวิ่งหน้าตั้งมาหยุดด้านหน้าเธอแล้วยืนเหนื่อยหอบ
“เฮ้อ! เหนื่อยมาก”
“แล้ววิ่งมาอะไรขนาดนั้น”
“ก็กลัวเธออยู่คนเดียวไง”
“คนเดียวอะไรมีคนงานคนอื่นด้วย”
“คนงานไหน?”
“ช่างเถอะ” น้ำมนต์เลือกไม่พูดอะไรต่อเพื่อที่จะได้รีบเก็บมะม่วงต่อ ระหว่างที่เก็บมะม่วงน้ำมนต์ก็ยังรู้สึกว่ามีสายตาคู่หนึ่งคอยมองเธออยู่ตลอดเวลาไม่ว่าเธอจะขยับเดินไปไหนสายตาคู่นั้นก็คอยมองไม่ห่าง แต่พอเธอหันกลับไปมองก็พบแต่ความว่างเปล่าซึ่งเธอก็แปลกใจไม่น้อยจนทนกับความสงสัยไม่ไหว หลังจากเดินออกนอกสวนมะม่วงน้ำมนต์ก็เอ่ยถามพลอยทันที
“พลอย ปกติคนงานเข้าไปเก็บมะม่วงบ่อยไหม”
“ก็ไม่นะ ส่วนใหญ่จะมาแค่ช่วงเที่ยงเท่านั้น” เพราะโรงอัดฟางก้อนของพ่อเธออยู่ห่างออกไปพอสมควรซึ่งน้อยมากที่คนงานจะมาเก็บ แถมในตอนนี้ก็เลยเวลาพักเที่ยงมานานแล้วด้วยคนงานคงทำงานกันอยู่ไม่มีใครมาเดินเพ่นพ่านแถวนี้แน่นอน พอน้ำมนต์ได้ยินคำตอบของพลอยหัวใจดวงน้อยก็เต้นสั่นระรัวขึ้นมามือไม้เริ่มสั่นเทาเมื่อนึกย้อนกลับไป
ในหัวได้แต่คิดแล้วเสียงที่เธอได้ยินไหนจะคนงานผู้หญิงที่เดินผ่านเธอไป อีกทั้งความรู้สึกเหมือนมีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองเธออยู่มันคืออะไรกันแน่ น้ำมนต์ยืนตกอยู่ในภวังค์ความคิดกระทั่งได้ยินเสียงพลอยเอ่ยถามจึงได้สติ
“ทำไมเหรอ?”
“อ๋อ เปล่าไม่มีอะไร” น้ำมนต์เลือกที่จะพูดออกไปแบบนั้นเก็บความสงสัยไว้ภายในใจคนเดียว จากนั้นทั้งสองก็ไปนั่งกินมะม่วงที่แคร่ไม้และคุยกันต่อ กระทั่งช่วงเย็นพลอยกำลังจะออกไปส่งน้ำมนต์ที่บ้านก็สวนทางกับสายฟ้าที่ขับรถเข้ามาในบ้านเพื่อชวนพร้อมไปเตะบอลที่โรงเรียนพอดี ขณะรถมอเตอร์ไซค์สองคันกำลังจะสวนทางกันน้ำมนต์ก็หันไปสบตากับร่างสูงที่มองอยู่ก่อนแล้วครู่หนึ่ง จากนั้นเธอก็เลือกเบี่ยงสายตาไปทางอื่นแทน สายฟ้าเห็นแบบนั้นก็ได้แต่เค้นหัวเราะ...
รถมอเตอร์ไซค์ออโต้แล่นไปตามถนนเล็ก ๆ ของหมู่บ้าน ส่วนคนที่นั่งอยู่บนรถก็พูดคุยกันตลอดทาง ขณะที่น้ำมนต์กำลังคุยกับพลอยอยู่ดวงตาเธอก็เหลือบเห็นยายคนหนึ่งกำลังยืนรดน้ำต้นเข็มอยู่หน้าบ้าน พอยายรีเงยหน้าขึ้นมาน้ำมนต์จึงส่งยิ้มให้ แต่ยายรีกลับมองหน้าเธอด้วยสีหน้าตกใจปากที่ไม่มีฟันปลอมอ้าหวอขึ้นดวงตาสองข้างเบิกกว้าง น้ำมนต์เห็นแบบนั้นรู้สึกแปลกใจไม่น้อยแต่ก็เลือกไม่สนใจ ต่างจากยายรีที่เห็นผู้หญิงสวมชุดคลุมท้องยืนอยู่บนถนนมองรถมอเตอร์ไซค์ของน้ำมนต์ที่ขับผ่านหน้าไป ก่อนผีตนนั้นจะหันมาฉีกยิ้มให้ยายรีจนปากฉีกถึงรูหู ยายรีเห็นแบบนั้นก็รีบทิ้งสายยางแล้วร้องกรี๊ดวิ่งเข้าไปในบ้านทันที...
เสียงร้องดังระงมของยายรีทำเอาพลอยกับน้ำมนต์ที่ขับผ่านมาแล้วยังได้ยิน พลอยจึงเหลือบมองกระจกรถเห็นยายรีวิ่งเข้าไปในบ้านจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสงสัย
“ยายรีเป็นอะไรของแก ร้องอย่างกับเห็นผี” คำพูดของพลอยทำเอาน้ำมนต์ใจเต้นสั่นระรัวแล้วรีบหันขวับไปมองทางด้านหลังทันทีแต่ก็ไม่เห็นผีตนไหนอย่างที่พลอยพูดเปรียบเปรยเลย
แล้วยายรีตกใจอะไร...
เมื่อหาคำตอบไม่ได้น้ำมนต์จึงเลือกไม่สนใจ ไม่นานรถมอเตอร์ไซค์ออโต้ก็จอดหน้าบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ ตาคู่สวยเหลือบมองรถกระบะไม่คุ้นตาจอดอยู่หน้าบ้านคิ้วสองข้างจึงขมวดขึ้น ก่อนจะหันไปโบกมือให้พลอยที่กำลังขับรถกลับบ้าน จากนั้นน้ำมนต์ก็เดินเข้าไปในบ้านเห็นตาของเธอกำลังนั่งคุยกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่
“กลับมาแล้วเหรอ?” มียศเอ่ยถามหลานสาวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทำให้ดนัยที่นั่งหันหลังให้น้ำมนต์อยู่พอได้ยินมียศพูดขึ้นก็หันไปมองทางด้านหลังก่อนจะชะงักนิ่งเมื่อเห็นหน้าอีกคน
“ค่ะ” น้ำมนต์ตอบเสียงแผ่วเบาก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้เมื่อตาเธอเรียก จากนั้นมียศก็แนะนำดนัยตำรวจที่ตนสนิทให้เธอรู้จัก
“คนนี้คือดนัยเป็นคนรู้จักของตา” น้ำมนต์ได้ยินแบบนั้นก็รีบยกมือไหว้อย่างนอบน้อมเพราะดูจากหน้าตาก็รู้ว่าเขาอายุมากกว่าเธอแน่นอนแต่ไม่มากเท่าไรเพราะเขายังดูหนุ่มอยู่เลย ทางด้านดนัยเมื่อเห็นน้ำมนต์ตั้งแต่วินาทีแรกก็ถูกอกถูกใจมากไม่คิดว่ามียศจะมีหลานสาวสวยขนาดนี้มาก่อน สวยจนเขาหยุดมองเธอไม่ได้เลยจริง ๆ
มียศเห็นสายตาดนัยมองหลานสาวด้วยความรักใคร่เสน่หาก็ชอบใจไม่น้อย หากได้ดนัยมาเป็นหลานเขยก็คงดีเพราะเขาทั้งเก่ง หน้าที่การงานก็ดี แถมไม่เคยยุ่มย่ามกับผู้หญิงคนไหน วัน ๆ ทำแต่งาน ซึ่งต่างจากอีกคนแค่มียศนึกถึงหน้าก็หงุดหงิดขึ้นมา
ทางด้านน้ำมนต์เมื่อทำความรู้จักดนัยแล้วเธอก็เดินเข้าไปในครัวเพื่อทำกับข้าว พอทำเสร็จเดินออกมานอกครัวก็ยังเห็นดนัยนั่งคุยกับตาของเธออยู่ จึงทราบทีหลังว่าตาของเธอชวนเขากินข้าวเย็นที่บ้านด้วย
...กว่าดนัยจะกลับก็มืดค่ำพอดี เมื่อล้างจานเสร็จมียศก็ชวนน้ำมนต์ออกไปส่งดนัยที่หน้าบ้าน ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้เธอออกไปด้วยแต่ก็เลือกที่จะไม่ถามอะไร
“ขอบใจมากที่ช่วยจัดการเรื่องทั้งหมดให้” มียศเอ่ยขอบคุณดนัยด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ เพราะหากไม่ได้ดนัยช่วยคงไม่รู้ว่าใครไปขุดหลุมศพในป่าช้าจนทำให้วิญญาณนั้นหลุด
“ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ” ดนัยตอบมียศแต่ดวงตาเขากลับมองไปยังร่างเล็กเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มที่ยืนฟังเงียบ ๆ เห็นแล้วก็ยิ่งถูกอกถูกใจ ก่อนจะพูดกับเธอออกไปด้วยน้ำเสียงนุ่ม ๆ ท่าทีสุภาพ
“พี่กลับก่อนนะ” พอมียศเห็นดนัยหันไปคุยกับหลานสาวก็เลือกเดินเข้าไปในบ้านเงียบ ๆ เพื่อปล่อยให้หนุ่มสาวอยู่ด้วยกันสองต่อสอง
“อ๋อ ขับรถดี ๆ นะคะ” น้ำมนต์ส่งยิ้มให้คนที่พึ่งรู้จักได้ไม่นานตามมารยาท ขณะกำลังร่ำลากันอยู่จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์ท่อดังคุ้นหูกำลังขับมุ่งหน้ามาที่บ้านเธอ ดวงตาคู่สวยจึงเหลือบมองออกไปด้านนอกทำให้สบตากับสายฟ้าที่กำลังจะขับรถผ่านหน้าบ้านเธอพอดี...
ทางด้านสายฟ้าเห็นน้ำมนต์กำลังยืนคุยกับดนัยอยู่หน้าบ้านด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเขาก็เลือกไม่สนใจเบือนหน้าไปทางอื่นแล้วบิดคันเร่งจนท่อดังสนั่นทำเอาน้ำมนต์กับดนัยตกใจไม่น้อย ก่อนจะขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้านทันที น้ำมนต์ได้แต่ยืนงงแต่พอเห็นสายฟ้าขับพ้นสายตาแล้วก็หันกลับมาทางดนัยอีกครั้ง
“ขอตัวเข้าบ้านก่อนนะคะ”
“ครับ”
หลังจากน้ำมนต์อาบน้ำเสร็จก็เตรียมเข้านอนแต่วันนี้เธอเลือกสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอนเพราะความฝันเมื่อคืนยังคงตราตรึงใจไม่หาย ทำเอาหวาดกลัวในการหลับตาลงแต่เพราะร่างกายต้องพักผ่อนจึงเลือกสวดมนต์ให้สบายใจ ร่างเล็กทิ้งตัวนอนลงทั้งที่มือเล็กยังจับพระที่สายฟ้าให้ไม่ปล่อยก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะปิดลงช้า ๆ...
next... 21.00 P.M
“มี ต้องให้หลานผู้ใหญ่มาอยู่นี่จักคร่าวก่อน” (มี ต้องให้หลานผู้ใหญ่มาอยู่ที่นี่สักพักก่อน)