น้ำมนต์เดินตามสายฟ้าขึ้นไปบนเรือนที่เงียบสงัดเพราะไม่มีใครอยู่เลยนอกจากเธอกับเขาสองคนเท่านั้น เนื่องจากพ่อครูไปรับเมียของเขาที่สนามบินจึงฝากฝังเรื่องทั้งหมดให้ลูกชายช่วยจัดการแทน เมื่อเท้าสองข้างเหยียบพื้นชั้นสองของตัวบ้านคนด้านหน้าก็หันมามองเธอ ก่อนจะเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งสีหน้าไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมาให้เธอได้รับรู้เลยว่าคิดอะไรอยู่
“รอตรงนี้ เดี๋ยวไปเอาพระมาให้”
“ไม่เป็นไรหนูไม่รีบ พี่สายไปใส่เสื้อผ้าก่อนก็ได้” เพราะเกรงใจจึงอยากให้เขาไปทำธุระตัวเองให้เสร็จสรรพก่อนแล้วค่อยเอาพระมาให้เธอก็ได้ อีกอย่างน้ำมนต์ทนมองสายฟ้าในสภาพนี้นานไม่ได้กลัวว่าใบหน้าตัวเองจะเห่อร้อนจนสุกเสียก่อน
“ก็ใส่อยู่ ไม่ใส่ตรงไหน” พูดจบขายาว ๆ ก็เดินเข้าไปในห้องเพื่อหยิบสร้อยพระที่พ่อครูฝากให้เธอเดินออกมาข้างนอก สายฟ้าเดินไปหยุดยืนด้านหน้าน้ำมนต์ก่อนจะยื่นสร้อยให้เธอขณะตาคมกริบมองใบหน้าขาวเนียนของคนที่อยู่ด้านหน้าไม่ละไปไหน
กระทั่งคนตัวเล็กแบมือรับ ร่างสูงเห็นแบบนั้นก็นึกตำหนิเธอไม่น้อยที่ไม่มีมารยาท ให้คนโตกว่าวางของบนมือแบบนั้นแทนที่จะมาจับเอาจากมือเขาแทน แต่ก็เลือกไม่พูดอะไรวางสร้อยพระที่กำไว้แน่นจนอีกคนไม่กล้าเอื้อมมาจับเพราะกลัวจะสัมผัสโดนมือเขา วางลงบนฝ่ามือเล็ก
“ขอบคุณค่ะ” เมื่อรับสร้อยพระมาแล้วน้ำมนต์ก็สวมใส่ทันทีพร้อมกับเอ่ยขอบคุณคนด้านหน้าด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ แต่เขากลับมองเธอนิ่ง ๆ ด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกเหมือนเดิมจนเธอต้องรีบหุบยิ้มลง
เมื่อได้พระแล้วน้ำมนต์ก็เลือกลงไปนั่งรอตาของเธอข้างล่างเพราะไม่กล้าอยู่ข้างบนกับสายฟ้าสองคนกลัวคนอื่นจะมองไม่ดี อีกอย่างหากตาเธอมาเห็นว่าอยู่บนบ้านกับสายฟ้าสองต่อสองคงไม่พอใจแน่ ส่วนสายฟ้าเมื่อเห็นน้ำมนต์ลงไปข้างล่างเขาก็กลับไปยังเรือนหลังเล็กที่อยู่ด้านหลังเรือนใหญ่เพื่อหาเสื้อใส่แล้วออกไปหาซื้อน้ำแข็งไสเย็น ๆ กินเนื่องด้วยอากาศวันนี้ค่อนข้างร้อนมากแม้จะเข้าหน้าหนาวแล้วก็ตาม
ทางด้านน้ำมนต์ยังคงนั่งรอมียศอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ แม้จะนั่งอยู่ตรงนี้คนเดียวแต่ความรู้สึกภายในใจเธอกลับรู้สึกว่าเหมือนไม่ได้มีแค่เธอเท่านั้น แม้บรรยากาศรอบข้างจะดูไม่น่ากลัวแต่ก็ทำเอาขนลุกไม่น้อย ขณะที่กำลังนั่งมองไปรอบ ๆ บ้านเรือนไทยจู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเมื่อเห็นตาเธอโทรเข้ามามือเล็กจึงรีบกดรับ...
ด้านสายฟ้าหลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็เดินออกมาข้างนอก ดวงตามองไปหน้าบ้านแต่ก็ไม่เห็นน้ำมนต์แล้วจึงคร่อมรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจขับไปยังหน้าบ้านทันที แต่พอขับออกมาจากเรือนเล็กได้แป๊บเดียว สายตาก็สะดุดเห็นร่างเล็กนั่งอยู่ใต้ร่มไม้ที่มองไม่เห็นเมื่อสักครู่เพราะเสาบ้านบังจึงทำให้เขาไม่เห็นเธอ
ส่วนน้ำมนต์หลังจากวางสายมียศที่โทรมาบอกว่าอีกนานกว่าจะมารับเพราะยังทำธุระยังไม่เสร็จ เธอจึงจะเดินไปหาสายฟ้าเพื่อรบกวนให้เขาไปส่งที่บ้านหน่อยแต่ถ้าหากเขาไม่สะดวกเธอก็จะเดินกลับแทน เพราะจะนั่งรอตาเธอที่นี่ก็ไม่รู้จะมารับตอนไหน เมื่อคิดได้ดังนั้นน้ำมนต์จึงดันตัวลุกขึ้นจากแคร่แต่เป็นจังหวะที่สายฟ้าขับรถออกมาจากเรือนหลังเล็กพอดีเธอจึงรีบวิ่งไปหาเขา เมื่ออีกคนจอดรถริมฝีปากเล็กที่เม้มกันแน่นก็ขยับพูดบอกคนด้านหน้าด้วยท่าทีกล้า ๆ กลัว ๆ เพราะเห็นใบหน้าเขาที่มองเธอด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แถมคิ้วสองข้างยังขมวดขึ้นเป็นปมเหมือนกำลังไม่พอใจอะไรอยู่
“หนูรบกวนพี่สายไปส่งที่บ้านหน่อยได้ไหม พอดีตาหนูยังทำธุระไม่เสร็จเลย”
“รถนั่งได้คนเดียว” เมื่อได้ยินคำปฏิเสธของสายฟ้าน้ำมนต์ก็หน้าชาไม่น้อย ก่อนจะส่งยิ้มให้เขาด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ แล้วตอบออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวหนูเดินกลับก็ได้” ขณะที่น้ำมนต์กำลังจะหมุนตัวเดินออกไปนอกบ้าน จู่ ๆ รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์สีดำก็ขับเข้ามาในบ้านเรือนไทยพอดี ทั้งสองจึงหันไปมองคนที่พึ่งขับรถเข้ามา
ทางด้านพร้อมขับรถมาบ้านสายฟ้าเพื่อขอน้ำมันเครื่องไปใส่รถเนื่องจากน้ำมันของเขาหมด แต่พอเห็นน้ำมนต์ยืนอยู่ด้วยจึงส่งยิ้มให้แล้วเอ่ยถามออกไปตามประสาคนรู้จักกัน
“จะไปไหนเหรอ?”
“อ๋อหนูกำลังจะกลับบ้าน”
“เดินกลับ?” เพราะเมื่อกี้พร้อมเห็นเธอกำลังจะเดินออกมาจากบ้านพอดี
“ใช่ค่ะ” เมื่อได้ยินคำตอบของน้ำมนต์พร้อมก็เหลือบมองสายฟ้าแล้วส่ายหน้าเบา ๆ
“งั้นรอแป๊บเดี๋ยวพี่ไปส่ง” เพราะยังไงเขาก็ต้องผ่านบ้านน้ำมนต์อยู่แล้ว อีกอย่างรถเขานั่งซ้อนได้สองคนสบาย ๆ ไม่ตระหนี่ที่นั่งแบบรถสายฟ้าหรอก เมื่อเอ่ยบอกน้ำมนต์แล้วพร้อมก็หันไปพูดกับสายฟ้าที่คร่อมรถมองอยู่
“มึงมีน้ำมันเครื่องไหม?”
“มี”
“เอามาขอหน่อยเดี๋ยวกูซื้อคืนให้”
“อือ” หลังจากพร้อมเดินไปเอาน้ำมันเครื่องกับสายฟ้าแล้วทั้งสองก็กลับมาที่รถ พอสายฟ้าเห็นน้ำมนต์ขึ้นไปนั่งบนรถมอเตอร์ไซค์ของพร้อมแล้วเขาก็บิดคันเร่งออกไปนอกบ้านทันที
รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกสีดำแล่นไปตามถนนเล็ก ๆ ของหมู่บ้านไม่นานก็จอดหน้าร้านบัวเพื่อซื้อน้ำแข็งไสเย็น ๆ กิน ทางด้านบัวเมื่อเห็นสายฟ้าจอดรถหน้าร้านเธอก็รีบวิ่งแจ้นออกมาหาเขาทันที
ทางด้านน้ำมนต์ขณะนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ก็ได้ยินพร้อมเอ่ยถามบางอย่างแต่เพราะเสียงลมมันดังทำให้เธอได้ยินคำพูดของเขาไม่ถนัดจึงโน้มใบหน้าขยับเข้าไปใกล้เพื่อให้ได้ยินชัดขึ้น
“พี่พร้อมพูดว่าอะไรนะเมื่อกี้หนูไม่ได้ยิน”
“อยากกินน้ำแข็งไสไหม” เพราะร้านบัวไม่ได้ขายแค่ของทั่วไปเท่านั้นแต่ยังมีน้ำแข็งไสอีกต่างหาก
“อ๋อ ไม่ค่ะ หนูไม่ค่อยชอบของหวาน”
“พี่เหมือนกัน แต่ทำไมไอ้สายมันชอบกินจัง ไม่รู้ชอบของหวานหรืออยากกินของหวานหลานเจ้าของร้านกันแน่” เมื่อพร้อมพูดจบเป็นจังหวะที่รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์กำลังจะขับผ่านสายฟ้าที่จอดอยู่หน้าร้านบัวพอดี น้ำมนต์จึงหันไปเห็นสายฟ้ากำลังยืนคุยกับบัวอยู่ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่พอเขาหันมามองเธอใบหน้าที่เปื้อนยิ้มนั้นก็ค่อย ๆ หุบลงทันทีก่อนจะเบือนหน้าจากเธอไปหาบัว
น้ำมนต์เห็นแบบนั้นก็เจ็บแปลบที่หัวใจขึ้นมาเมื่ออีกคนดูท่าทีมีความสุขในตอนที่คุยกับคนอื่น ซึ่งต่างจากเธอเพียงแค่เขาเห็นหน้าก็ดูเหมือนเบื่อหน่ายโลกทั้งใบยังไงยังงั้น จนเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเธอไปทำอะไรให้เขาเกลียดหรือเปล่าทำไมถึงมีท่าทีเมินเฉยต่อเธอขนาดนี้
แม้จะพยายามเข้าใจว่าสายฟ้าก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแต่ก็ยังไม่ชินอยู่ดี เพราะตอนเด็กถึงแม้เขาจะนิ่งดูไม่สนใจสิ่งรอบข้างแค่ไหน แต่ก็เป็นเขาคนแรกที่วิ่งเข้ามาช่วยเหลือเธอก่อนคนอื่นเสมอ น้ำมนต์นึกย้อนกลับไปยังวันวานใบหน้าก็ยิ้มไม่หุบ เธอจำได้ดีตอนวิ่งเล่นกับพลอยอยู่ จู่ ๆ ก็ล้มหัวเข่าถลอกและเป็นสายฟ้าที่วิ่งมาช่วยเธอเป็นคนแรกแถมยังให้เธอขี่หลังกลับบ้านอีกต่างหาก
...แต่มันก็คงเป็นความทรงจำในวัยเด็กที่ทำให้เธอมีความสุขเมื่อได้นึกถึงเท่านั้น เพราะถ้าหากตอนนี้คนที่เป็นความสุขให้เธอนั้นมีคนที่เขาชอบอยู่แล้วเธอก็จะไม่นึกถึงอีก...