งานแต่งงานของโนรินจบไปแบบสวีทหวานแหววแบบเจ้าหญิงในเทพนิยาย แต่ชีวิตพวกเราสามสาวกำลังจะตายเพราะปาก เพราะหลังจากที่พวกเราปากดีบอกกับยัยพวกนั้นว่า
'โอ๊ะ สบายมากจ้ะ'
เราสามสาวก็พากันยกทัพความสวย มานั่งเท้าคางอยู่ในผับไฮโซชื่อดังย่านทองหล่อ...ได้แต่มองหน้ากันไปมา กับแก้วเหล้าสีชาที่วางอยู่บนโต๊ะ
ไหนใครพูดว่าสบาย...
สบายกับผีสิ
หาผัวนะคะสาว มันไม่ได้ง่ายเหมือนสั่งของผ่านอินเทอร์เน็ต แบบสั่งปุ๊บได้ปั๊บ อะไรประมาณนั้น
เพลงพี่ปั๊บที่เปิดในผับก็ดันดังเหมือนกับล้อพวกเราสามคนยังไงยังงั้น
---ปากดีเหลือเกินนะเรา---
ค่า...รู้แล้วว่าแก๊งเราอะปากดีทุกคน แต่ปากดีไปแล้วให้ทำไง เพราะงั้นนับจากนี้อีกสามเดือน พวกเราจะหาสามีให้ได้ยังไงก่อน ไอ้เรื่องเสียหน้านั่นก็ยอมไม่ได้ ยิ่งไอ้เรื่องจะต้องเสียเงินแสนคนอย่างฉันยิ่งยอมไม่ได้ใหญ่ พูดง่าย ๆ ต่อให้รูดบัตรมายังไม่พอจ่ายเลยเถอะ
“นั่งเป็นหมาหงอยเลยนะพวกแก” ยัยกอหญ้าหรือซอนย่า ตัวแม่ตัวมัมเรื่องความมั่นเปิดประเด็น นางเป็นคนแบบนี้แหละเสียอะไรก็เสียได้ แต่ยอมไม่ได้สุด ๆ ถ้าจะให้ใครมาดูถูก
“ไม่ได้จะหงอยเว้ย แค่สงสัย” สาลี่เอ่ยพลางเอามือเท้าคาง เหมือนคนกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก
จริงจังเบอร์นั้น โดยเฉพาะการคาใจเรื่องความสวย ก็นะพวกเราสามคนฮอตมากนะเว้ยตอนเรียน แต่ตอนนี้ WTF! มันเกิดอะไรถึงได้โสดกันได้ปานชะนี้
อ่อสาลี่คือชื่อนางตอนอยู่ต่างจังหวัด แต่พอเข้ากรุงเทพ นางจะใช้ชื่อว่าเชอร์รี่ จะได้ดูอินเตอร์หน่อย
"สงสัยอะไรของแกสาลี่"
"เอาจริงนะ พวกเราไม่สวยตรงไหนวะ ทำไมไม่เห็นมีสามีเหมือนชาวบ้านเขาสักที” สาลี่พูดพลางถอนหายใจแบบเซ็ง ๆ
ฉันถึงกับกลอกตาบนไปหนึ่งรอบ ก่อนแค่นหัวเราะออกมา แล้วมองหน้าทั้งสองสาว
“ใครบอกไม่สวยยะ พวกเราสวยโฮ่งมากจ๊ะ แต่แค่เรื่องมากนิดหน่อยไง โดยเฉพาะแกยัยกอหญ้าเรื่องมากสุด”
ฉันจ้องหน้ายัยกอหญ้า เพราะนางตัวแม่ตัวมัมเรื่องความเป๊ะ สมมุติความเป๊ะของนางก็เช่น ถ้าพวกเราไปซื้อชุดร้านเดียวกัน ฉันกับยัยสาลี่นี่คือสิบนาทีได้ชุดแล้ว แต่ยัยกอหญ้าจะใช้เวลาประมาณชั่วโมง แล้วเลือกเสื้อผ้ามาประมาณห้าชุด ไม่พอนางยังให้พวกเราชาวยเลือกให้อีกทีว่าชุดไหนที่สวยสุด และแน่นอนว่า ชุดสุดท้ายที่นางเลือก ไม่ใช่ชุดที่ฉันกับสาลี่เลือกให้ แต่เป็นชุดที่นางเลือกเองตลอด ตลอด
“อ้าว ต้องเลือกหน่อยไหมอะ จะหาพ่อของลูกทั้งทีมันก็ต้องดีพรีเมี่ยมหน่อย”
นั่นไง เป็นอย่างที่ฉันพูดไหม ว่านางอะชอบเลือก
“ค่าไม่เถียง แต่ไอ้เพราะความพรีเมี่ยมเนี่ยทำให้เราสามคนต้องมานั่งเป็นมาหงอยอยู่แบบนี้หรือไม่ใช่”
พวกเราสามคนมองหน้ากันอีกครั้ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาแบบประสานเสียง
“โอ๊ย! เครียด”
ว่าแล้วเราสามคนก็กระดกแก้วเหล้าเข้าปาก จนกระทั่งกึ่ม ได้ที่ และค่อย ๆ เพิ่มเลเวลความกึ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้สมองของฉันพลันคิดอะไรดี ๆ ออก
เหตุต้องระงับที่ต้นเหตุสิ...
ในเมื่อพวกเราไม่มีแฟนพวกเราก็ต้องหาแฟน!
และ...ในเมื่อพวกเราต้องการผัว พวกเราก็ต้องหาผัว!
จะมานั่งหงอยแบบนี้ไม่ได้!
ซึ่ง...ถ้าจะให้พวกเราสามคนมัวแต่หาแฟนตอนนี้ ในระยะเวลาแค่สามเดือนเวลามันน้อยไป พวกนางแต่ละคนมัวแต่ลีลาเลือกมากกันแบบนี้ คงไม่ได้กินผู้สักที
เพราะงั้นหาสามีไปเลยละกัน ง่ายกว่า! ^_^
“เอางี้มะ ไหน ๆ วันนี้ก็มาผับละ เรามาหาอะไรสนุก ๆ ทำกัน”
ฉันยิ้มกริ่มทำตาเจ้าเล่ห์ ในขณะที่สองสาวมองหันมามองฉันพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
“อะไรของเจ้?”